“ฉันไม่ชอบใส่ชุดแบบนี้ ฉันอยากได้เสื้อเชิ้ตมากกว่าชุดกระโปรง”
“แต่ผมอยากให้คุณแต่งตัวแบบเฟมินีนนี่นา”
“แต่ฉันชอบเสื้อเชิ้ตกับเลคกิ้งมากกว่าค่ะ”
“ถือว่าผมอยากซื้อให้ ทำไมต้องคิดมากล่ะ”
“แต่ว่าฉัน..” บาลิกาพูดไม่ทันขาดคำเสียงของเธอก็หลุดหายไปในปากของรามิลที่ก้มหน้าลงมาหาอย่างรวดเร็ว เขาจูบเธอต่อหน้าพนักงานขายที่ยืนอยู่ไม่ห่างจากที่นั้น พนักงานสาวซึ่งยืนมองอยู่ห่างออกไปไม่ถึงห้าก้าว ได้แต่อมยิ้มและมองการแสดงความรักของหนุ่มสาวเหมือนจะเขินอายตามไปด้วย กระทั่งรามิลถอนริมฝีปากออกทำให้บาลิกาหน้าแดงซ่านถึงใบหู เธอหันไปมองพนักงานที่ยืนยิ้มให้แล้วก็ยิ่งหน้าแดง หญิงสาวกัดปากแน่นพลางกระซิบกับเขาเบา ๆ ว่า
“นี่คุณมาทำอะไรในร้านแบบนี้...ดูสิ...ฉันอายพนักงานนะ”
“จะอายอะไร เขาคิดว่าเราเป็นผัวเมียกันไม่เห็นมีอะไรต้องอายเลย”
“แต่เราไม่ได้เป็นอะไรกัน คุณจะทำรุ่มร่ามกับฉันในที่สาธารณะแบบนี้ไม่ได้นี่มันไม่ใช่ห้องของคุณนะ”
“ผมอยากทำอะไรที่ไหนผมก็ทำก็ผมมีสิทธิ์ในตัวคุณอยู่แล้วนี่ จำไม่ได้แล้วเหรอว่าเคยสัญญาอะไรกับผมไว้นะ”
“อย่ามาอ้างสิทธิ์อะไรตรงนี้นะคะ ที่ฉันตกลงกับคุณน่ะฉันยอมให้คุณกอดจูบในห้องก็เท่านั้น”
“แต่ผมก็บอกคุณเหมือนกันว่าผมอยากจะทำอะไรกับคุณตามใจที่ไหนก็ได้นั่นก็หมายความว่ามันไม่ได้จำกัดพื้นที่เฉพาะในห้องของผม”
“ฉันไม่อยากคุยกับคุณแล้ว ยิ่งคุยฉันก็ยิ่งเสียเปรียบ”
“ถ้าอย่างนั้นก็เป็นอันตกลงว่าผมจะเหมาชุดนี้ทั้งคอลเลคชั่นให้คุณ”
“เอ้อ...คุณรามินทร์คะ”
“มีอะไรเหรอ...หรือว่าอยากได้ collection อื่นด้วยผมจะได้ให้พนักงานจัดให้คุณทีเดียว”
“ขอบคุณนะคะที่มีน้ำใจแต่ฉันอยากจะไปห้องน้ำนะคะ”
“โอเคก็ได้ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวผมจะรอคุณที่นี่”
“ขอบคุณนะคะ เดี๋ยวฉันกลับมาค่ะ”
บาลิการู้สึกโล่งใจอย่างประหลาด ตอนแรกเธอนึกว่ารามิลจะจับสังเกตความผิดปกติของเธอได้แต่เขาทำเหมือนไม่ได้ใส่ใจ แค่เธอไม่ขัดใจเขาก็ทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้น หลังจากหญิงสาวเดินออกมาจากร้านเสื้อผ้าแล้วเธอก็ตรงไปยังห้องน้ำแต่ก็พยายามมองหาว่ามีที่ไหนที่มีตู้โทรศัพท์สาธารณะ บางทีมันอาจอยู่ใกล้ห้องน้ำก็เป็นได้ ขณะที่กำลังมุ่งหน้าไปอย่างเร่งรีบหญิงสาวต้องตกใจที่จู่ ๆ มีใครคนหนึ่งจับแขนของเธอไว้และดึงตัวเธอเข้าไปในร้านกาแฟที่อยู่ใกล้ ๆ พอบาลิกาตั้งสติได้และหันไปมองก็ถึงกับร้องออกมา
“พี่ภาส!...นี่พี่ภาสมาได้ยังไง”
“พี่มากับเพื่อนน่ะ พี่พาเพื่อนมาเที่ยวห้าง พอดีเพื่อนมาจากต่างประเทศ โชคดีมากเลยที่ได้เจอบุ๋มที่นี่ มานั่งนี่ก่อนพี่มีเรื่องจะคุยกับบุ๋มเยอะเลย”
ภาสกรดึงแขนน้องสาวให้เข้าไปนั่งในร้านกาแฟด้านในสุดซึ่งเป็นมุมที่ไม่ค่อยมีลูกค้านั่งขณะนั้นบาลิกาก็มองซ้ายมองขวาด้วยความรู้สึกเป็นกังวล แต่ก็ดีใจที่ได้พบกับพี่ชายหลังไม่ได้ติดต่อกับเขามานานนับเดือน เมื่อนั่งลงภาสกรก็เอ่ยขึ้น
“บุ๋มเป็นไงบ้างแล้วทำไมพี่ติดต่อบุ๋มทางโทรศัพท์ไม่ได้เลยอย่าบอกนะว่าทำโทรศัพท์หายตอนที่ไปอยู่กับนายรามิล”
“โทรศัพท์ไม่ได้หายหรอกค่ะ แต่ว่ามันตกน้ำแล้วก็ใช้ไม่ได้”
เธอหลีกเลี่ยงที่จะบอกความจริงว่ารามิลขว้างโทรศัพท์ของเธอจนแตกกระจาย เธอไม่อยากให้ภาสกรรู้ว่าผู้ชายคนนั้นร้ายกาจมากแค่ไหนแต่ก็มีสิ่งหนึ่งที่เธอต้องบอกพี่ชายและรู้สึกดีใจที่ได้เจอเขา
“พี่ภาส....แล้วพี่เป็นยังไงบ้าง พี่หาเงินไปคืนคุณรามิลได้แล้วใช่ไหม?”
“ก็ได้แล้วล่ะ พี่ต้องหาเงินไปคืนเขาให้ได้ครบตามจำนวนที่ตกลงไว้กันอยู่แล้วแต่มันก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่หรอกนะ”
“นี่แสดงว่าพี่ก็มีเงินที่จะคืนเขาได้ครบตามสัญญาที่ได้ตกลงกันไว้ใช่ไหม พี่จะค*****นให้คุณรามิลครบเมื่อไหร่บุ๋มจะได้กลับบ้านซะทีไง”
“อย่าเพิ่งสิบุ๋ม...จะรีบกลับไปไหนล่ะ อยู่กับคุณรามิลก็สบายนี่ไม่ใช่เหรอ”
“พี่ภาสรู้ได้ยังไงว่าบุ๋มสบาย ก็เขาน่ะ..”
“เขาชอบแกยังไงเล่าบุ๋ม”
ภาสกรพูดขัดน้องสาวที่กำลังจะบอกเล่าความร้ายกาจของรามิลให้ฟังเมื่อได้ยินดังนั้นบาลิกาก็นิ่งอึ้งเมื่อภาสกรพูดต่อไปว่า
“นี่แกอย่าปิดบังฉันดีกว่านะบุ๋มว่าตอนที่แกไปอยู่กับคุณรามิลมันมีอะไรเกิดขึ้น ฉันรู้นะว่านายรามินเขาชอบแกถึงแม้ว่าแกจะเคยเป็นแฟนกับน้องชายของเขามาก่อน”
“พี่ภาสรู้ได้ยังไง พี่ภาสน่ะไม่รู้อะไรหรอกความจริงก็คือ...”
“ความจริงก็คือเขาชอบแกยังไงบุ๋ม นี่แกยังจะมาปฏิเสธพี่อีกเหรอ จนถึงขนาดนี้แล้วน่ะ พี่เห็นนะว่าแกกับเขาสนิทสนมกันมากแค่ไหน เมื่อกี้เขากอดแล้วก็จูบแกในร้านเสื้อแบรนด์เนม พี่เดินไปเห็นพอดี”
“พี่ภาส...มันไม่ได้เป็นอย่างที่พี่คิดนะ”
“มันจะไม่เป็นเหมือนที่ฉันคิดได้ยังไง เขากอดเขาจูบกับแกถึงขนาดนั้นยังจะมาปฏิเสธฉันอีกเหรอว่าเขากับแกไม่ได้มีใจต่อกัน”
ภาสกรกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มหากแต่ก็ทำให้บาลิกาตกใจเป็นอย่างมาก เธอไม่คิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ภาสกรจะมาเห็นและเข้าใจว่าเธอกับรามิลชอบพอกันจริง ๆ แต่ถึงยังไงเธอก็ต้องอธิบายความเป็นจริงอันโหดร้ายให้พี่ชายฟัง
“เขาบังคับบุ๋มต่างหาก...รู้ไหมว่าคุณรามิลเขาร้ายกาจมากขนาดไหน แล้วเงินที่พี่กู้เขาไปเขาคิดดอกเบี้ยพี่น่ะมหาโหดเลยนะ พี่กู้เขา 150 ล้านบาทแต่ต้องคืนเขาตั้ง 500 ล้านแล้วพี่ยังจะคิดว่าเขาดีกับบุ๋มอย่างนั้นเหรอ”