บทที่ 8 พังพินาศ
แสงสว่างสาดส่องเข้ามาภายในห้องนอนทำให้ร่างเพรียวที่กำลังนอนอุตุอยู่อย่างมีความสุขค่อย ๆ ขยับตัวอย่างรำคาญก่อนจะลืมตาขึ้น ชุดนอนหลุดลุ่ยเผยให้เห็นลำคอระหงและไหล่มน เผยผิวเนียนสวยไร้รอยตำหนิ
หลังจากใช้เวลาทั้งคืนคิดว่าจะเอาคืนทั้งคู่แบบไหนถึงจะสาสม ในที่สุดเขาก็คิดวิธีเหมาะๆ ได้
ไส้เทียนเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะลุกออกจากเตียงด้วยท่าทีมีความสุข ขยับตัวบิดขี้เกียจคลายความเมื่อยล้าแล้วเดินตรงไปทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำ น้ำเย็นในช่วงเช้าชำระล้างความมึนงงได้เป็นอย่างดี เมื่อแต่งตัวเสร็จเขาก็เดินมาหยิบโทรศัพท์เพื่อเช็กข่าวสาร
"โห เล่นแรงจังนะ"
หัวข้อข่าวที่พาดเด่นเป็นสง่าของวันนี้คือภาพหลุดของไส้เทียน และด้านหลังของผู้ชายร่างอ้วนคนหนึ่ง พร้อมกับแคปชันที่ส่อไปในทางไม่ดี ดูยังไงก็รู้ว่าคนถ่ายจงใจให้ภาพมันออกมาเป็นแนวนั้น
ภาพนี้เป็นภาพตอนที่ไส้เทียนยังทำงานเป็นนายแบบอยู่ วันนั้นพอถ่ายงานเสร็จเรียบร้อยทุกคนในสตูดิโอก็พากันไปเลี้ยงฉลองที่ร้านปิ้งย่างในห้าง ซึ่งผู้ชายในรูปก็คือผู้จัดการของร้านนั้น
อีกประเด็นก็คือ ไส้เทียนเป็นเพียงผู้ชายที่ต้องการเกาะดินแดนเพื่อรวยทางลัด แถมชาวเน็ตยังเดากันไปต่าง ๆ นานาว่าความจริงแล้วบางทีไส้เทียนคงเป็นแค่เมียน้อย พอดินแดนขอเลิกก็ไม่ยอมเลิก แต่คงเสนอตัวเป็นเมียน้อย เพราะไม่อยากเสียแหล่งรายได้ไป
ดูเหมือนข้อสันนิษฐานนี้จะถูกพูดถึงมาก เพราะมีคนกดถูกใจหลักพัน
ระหว่างที่กำลังอ่อนใจกับบรรดาชาวเน็ต โทรศัพท์ในมือก็สั่นพร้อมขึ้นเบอร์ที่ไม่ได้ถูกเมมไว้ ไส้เทียนกดรับ
"ครับ"
(นายควรเลิกยุ่งกับดินแดนได้แล้ว)
ไส้เทียนเลิกคิ้ว
"เข้าใจอะไรผิดไหมครับคุณเอก ผมอยู่ของผมดี ๆ พวกคุณต่างหากที่เข้ามายุ่ง ผมเลิกกับดินแดนแล้ว และก็ไม่ได้ติดต่อด้วย"
ไส้เทียนเดินไปนั่งที่เตียงด้วยท่าทีผ่อนคลาย เอกเหมือนหมาบ้าที่กำลังหวงกระดูกเน่า ราวกับกลัวใครมาแย่งมันไป
กระดูกเน่าก็สมควรคู่กับหมาเน่า
(นายอย่ามาโกหก ถ้านายไม่ได้ติดต่อแล้วทำไมดินแดนถึงได้เหม่อลอยตลอด!)
เอกกระแทกเสียงด้วยความไม่พอใจ ขนาดเห็นไส้เทียนควงคู่กับผู้ชายไม่ซ้ำหน้าแทนที่ดินแดนจะเลิกรา แต่กลับแสดงท่าทีหวงออกมา ทั้งที่ตอนนี้ไม่ได้เป็นอะไรกับไส้เทียนแล้ว เอกกำมือด้วยความคับแค้น อยากให้ไส้เทียนหายไปจากโลกใบนี้
"คุณมั่นใจไม่ใช่เหรอว่าดินแดนรักคุณ แล้วคุณจะกังวลอะไร"
(แก!!! ฉันจะทำให้แกไม่มีที่ยืนในสังคม!)
"ก็ลองดูสิ หึ" พูดจบไส้เทียนก็กดตัดสายพร้อมกับกระตุกยิ้ม ดูเหมือนเอกจะคิดผิดถนัดที่โทรมาหาเรื่องเขาในจังหวะแบบนี้
ภายในห้องทำงาน สิบกำลังรายงานเกี่ยวกับภารกิจที่ตนเองได้รับมอบหมายให้ไปจัดการ
"ตอนนี้เครืออีซี่กรุ๊ปจัดการแบนตระกูลอาร์เคทั้งหมดแล้วครับ ตอนนี้หุ้นของทางนั้นเลยดิ่งลงอย่างรวดเร็ว เป็นช่วงระส่ำระสายครับ คาดว่าจะเสียหายถึงหลักร้อยล้านครับ ทางท่านอาร์ชินผู้นำตระกูลคนปัจจุบันต้องการเข้าพบกับท่านเพื่อสอบถามถึงสาเหตุครับ"
ข่าวเครืออีซี่กรุ๊ปถอนหุ้น และแบนบริษัทของตระกูลอาร์เคทุกช่องทางเป็นข่าวโด่งดังในวงธุรกิจในชั่วข้ามคืน เพราะไม่มีทางที่บริษัทใหญ่จะทำแบบนี้โดยไม่มีสาเหตุ นั่นยิ่งทำให้นักลงทุนอื่น ๆ ไม่กล้าเคลื่อนไหวมั่วซั่ว เพราะกลัวจะทำให้บริษัทใหญ่ของกองทัพไม่พอใจจนโดนหางเลขตามไปด้วย
"ทำได้ดีมาก" กองทัพเอ่ยชมอย่างพอใจ
เอกเป็นลูกชายคนเดียวของตระกูล และยังหันไปเอาดีด้านวงการบันเทิง ทำให้ผู้นำตระกูลคนปัจจุบันไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยมือจากตำแหน่ง เพราะยังคัดเลือกคนที่เหมาะสมไม่ได้ หลังจากที่เอกแต่งงานกับดินแดน ผู้นำตระกูลก็ต้องการให้ดินแดนมาบริหารงานตรงนี้ต่อ แต่ก็ยังอยู่ในช่วงเรียนรู้ และเป็นเพียงรองผู้บริหารที่ยังไม่ได้รับตำแหน่งเต็มที่เท่านั้น
"แล้วก็มีอีกเรื่องครับ แต่ข่าวนี้ยังไม่กระจายออกไป เพราะทางอาร์เคยังปิดข่าวแบบเต็มกำลัง"
การถูกถอนหุ้น และแบนพร้อมกันถึงสองตระกูลทำให้เกิดความเสียหายรวมมูลค่าหลักพันล้าน หากทางอาร์เคไม่ปิดข่าวแบบเต็มกำลังคงจะไม่สามารถหยุดความเสียหายที่บานปลายได้
"ตระกูลของคุณไส้เทียนก็ถอนหุ้น และแบนตระกูลอาร์เคเหมือนกันครับ แต่ดูเหมือนเรื่องนี้จะไม่ใช่ฝีมือของคุณไส้เทียน บางทีอาจจะเป็นฝีมือของพี่หรือไม่ก็พ่อครับ"
กองทัพพยักหน้า ทางฝั่งพี่ชายก็มือหนักไม่ใช่น้อย ดูเหมือนคราวนี้จะเป็นวิกฤตของอาร์เคของจริง
"แล้วทางดินแดนว่ายังไง"
"ทางตระกูลของคุณดินแดนทำอะไรไม่ได้ครับ เพราะก่อนหน้านี้ตระกูลเกิดวิกฤตจนเกือบล้มละลาย แต่ได้ตระกูลของคุณเอกช่วยไว้ ถ้าหากตระกูลอาร์เคล้มละลาย ตระกูลของคุณดินแดนก็ต้องล้มละลายตามครับ”
"ดี!"
กองทัพเหยียดยิ้มด้วยท่าทีพอใจ หากจะตีงูต้องตีให้ตาย ถ้าผู้นำตระกูลอาร์เครู้ว่าใครเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ ทางนั้นก็มีทางเลือกแค่ 2 ทาง นั่นคือปล่อยให้มันเป็นแบบนี้ต่อไปแล้วล้มละลาย กับตัดหางปล่อยวัดดินแดน
แน่นอนว่าหากฉลาดสักนิดก็สามารถเลือกได้โดยไม่ต้องคิดมาก
"ท่านต้องการรับนัดไหมครับ ทางนั้นพร้อมทุกเวลา"
สิบเอ่ยด้วยท่าทีนิ่งสงบ เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นผู้เป็นนายโหดเหี้ยมขนาดนี้ แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีศัตรูทางธุรกิจ แต่เจ้านายก็ไม่เคยทำอะไรรุนแรงนอกจากทำให้อีกฝ่ายสูญเสียกำไรและความน่าเชื่อถือ แต่ครั้งนี้กองทัพกะเอาให้จมแบบโงหัวไม่ขึ้น
"รับ นายดูตารางงาน ถ้าวันไหนว่างก็เอาวันนั้นแหละ"
"เป็นอะไรครับพี่ วันนี้ดูมีความสุขเป็นพิเศษนะครับ"
พอลงมาด้านล่างไส้เทียนก็พบกับน้องชายสุดหล่ออย่างน่านฟ้า วันนี้เป็นวันหยุดเสาร์อาทิตย์น่านฟ้าเลยกลับมานอนที่บ้าน
"ไม่มีอะไรหรอก ว่าแต่น่านฟ้าเถอะ เรียนเป็นยังไงบ้าง ใกล้จะจบแล้วนี่"
ตอนนี้น่านฟ้าเรียนบริหารปี 4 แล้ว หลังจากจบคงจะมาช่วยที่บ้านบริหารงาน
"ชิว ๆ ครับ"
น่านฟ้ายักไหล่ ไม่รู้ว่าวันนี้พี่ ๆ ของเขาเป็นอะไรกัน เมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนเขาเจอกับพี่ชายคนโต อีกฝ่ายก็ดูมีความสุขเป็นพิเศษ พอเจอกับพี่ชายคนรอง อีกฝ่ายก็ดูมีความสุขเหมือนกัน ไม่รู้ว่าเขาพลาดเรื่องสำคัญอะไรไปหรือเปล่า
"ดีแล้ว" ไส้เทียนขยี้หัวน้องชายด้วยความมันเขี้ยวจนอีกฝ่ายผมฟูเป็นรังนก น่านฟ้าหน้ามุ่ยขยับออกห่าง "ว่าแต่วันหยุดแบบนี้ไม่คิดจะไปเที่ยวเล่นกับแฟนหน่อยเหรอ"
ไส้เทียนเอ่ยแซวน้องชาย หล่อขนาดนี้จะไม่มีแฟนได้ยังไง ผู้หญิงทั้งมหาลัยคงวิ่งเข้ามาเสนอตัว คงไม่ใช่แค่ผู้หญิง ผู้ชายเองก็คงมาไม่ต่างกัน
"แฟนเฟินอะไรครับ ไม่มีหรอก"
ไส้เทียนหัวเราะเมื่อเห็นน้องชายพูดด้วยท่าทีเย็นชา หลังจากพูดคุยกันไม่นาน น่านฟ้าก็ขอตัวขึ้นไปบนห้อง
ไส้เทียนกดส่งอีเมลอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่ใช่การหยอกล้อเหมือนครั้งก่อน ๆ หลักฐานทุกอย่างมีความชัดเจนทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพ แชต สถานที่ วันเวลา และข้อความเสียง ต่อให้เหล่าแฟนคลับหน้ามืดตามัวหลงเชื่อยังไงก็ต้องตาสว่างอย่างแน่นอน หลังจากกดส่งไปแล้วเขาก็ค่อนข้างอารมณ์ดีเป็นพิเศษ เลยกดเข้าไปดูข้อมูลของหุ้น
ในอนาคตบริษัทเฮอร์มีสซึ่งเป็นบริษัทเอนเตอร์เทนเมนต์จะเป็นบริษัทที่เติบโตรวดเร็วที่สุด ใช้เวลาเพียง 3 ปีก็สามารถเลื่อนขึ้นเป็นอันดับ 1 ของประเทศได้แถมยังเป็นอันดับต้น ๆ ของทวีป ต่อให้เป็นคนไม่ค่อยสนใจธุรกิจอย่างน้อยก็ต้องคุ้นหน้าคุ้นตาอย่างแน่นอน ตอนนี้บริษัทพึ่งเปิดได้เพียง 6 เดือนเท่านั้น เรียกได้ว่าเขามาถูกช่วงสุด ๆ หลังจากที่อ่านข้อมูลของบริษัทอย่างละเอียดเขาก็ต้องแปลกใจ เพราะว่าคนที่เป็นประธานคือกองทัพ ไม่ใช่ใครที่ไหนเลย
เขาไม่คิดมาก่อนว่าฝ่ายนั้นจะมีธุรกิจแนวบันเทิงด้วย หรือบางทีนี่อาจจะเป็นธุรกิจใหม่ก็ได้
"แหม สมกับเป็นตัวร้ายจริงเชียว ไม่ว่าจะหยิบจับอะไรก็มีแต่ประสบความสำเร็จ ร่ำรวย"
ไส้เทียนตัดสินใจแบ่งเงินเป็น 3 ส่วน สำหรับซื้อหุ้น 50% ซื้อที่ดิน 30% และทอง 20% ก่อนหน้านี้ไส้เทียนถือทิฐิกับผู้เป็นพ่อ เงินในบัญชีทั้งหมดที่ได้จากครอบครัวจึงถูกเก็บไว้ในบัญชีอย่างดีไม่หายไปแม้แต่บาทเดียว แถมตอนนี้ยังมีเพิ่มจากดอกเบี้ยเสียอีก
หลังจากจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เขาก็กลับมาสนใจเรื่องของเอกต่อ ตอนนี้เป็นช่วงเช้า เขาคิดว่าน่าจะประมาณบ่าย ๆ หรือช่วงเย็นที่ในอินเทอร์เน็ตจะต้องเต็มไปด้วยข่าวฉาวแน่นอน
เพจดังที่ได้รับข้อความปริศนาเพจนี้มีชื่อว่าแฉแหลก มีผู้ติดตามเพจถึง 5 ล้านคน หลังจากที่ได้รับข้อมูลสุดตกตะลึง แอดมินก็ไม่รีรอเรียบเรียงเนื้อหาพร้อมกับโพสต์ลงหน้าเพจ แถมยังปักหมุดให้อยู่บนสุด
แฉแหลกครั้งนี้แม้แต่แอดเองก็ตกใจจนกระอักน้ำ! โอ้!? หลังจากที่ดาราหน้าใหม่คนดังมีข่าวเมื่อไม่นานมานี้ ผ่านไปไม่นานกลับมีข่าวที่น่าตกตะลึงยิ่งกว่าเดิม ไม่ใช่แค่รูปภาพและแชต แต่ครั้งนี้มาเป็นคลิปเสียง!! แอดไม่อยากพูดเยอะถ้าลูก ๆ เพจมีสมองคงจะตัดสินใจได้ว่าอะไรเป็นอะไร
สุดท้าย แอดรู้สึกผิดจริง ๆ ที่ไปเข้าข้างคนผิด!!
[ภาพ] [คลิป]
ใช้เวลาไม่นานนัก ชาวเน็ตขาจรต่างก็เข้ามาวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างสนุกปาก แต่แฟนคลับที่ก่อนหน้านี้เคยด่าด้วยถ้อยคำหยาบคายก็กลับเงียบสนิท แทบไม่มีใครมาคอมเมนต์
: อะอ้าว ที่แท้ก็แย่งแฟนชาวบ้านนี่เอง
: ไหน ไหน ไม่สตรอตรงไหนเอาปากกามาวง! คิกคิก
: ผิดหวังมากเลย เราอุตส่าห์ติดตามมาตั้งนาน คอยซัพพอร์ตเต็มที่ T...T
: เห็นติ๋ม ๆ ร้ายไม่ใช่น้อย
: ข่าวมั่ว ก็แค่พวกขี้อิจฉา พวกแกอยากได้ดีเหมือนเอกใช่ไหมล่ะ!!
ตอบกลับ 1 : แหม มั่วอ่อ แนะนำว่ากินวิตามินบีเยอะ ๆ
ตอบกลับ 2 : ออกมาจากทุ่งลาเวนเดอร์ได้แล้ว สู่โลกแห่งความจริงและมองคนตอแหล 555555
ตอบกลับ...99+
"ทะ ทำยังไงดีน้องเอก ถ้าเป็นแบบนี้เราจบกันทั้งคู่แน่"
ผู้จัดการเอ่ยด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ตอนนี้ดูจะไม่ได้จัดการง่าย ๆ แล้ว
"โอ๊ย! พี่จะเดินไปเดินมาทำไม น่าปวดหัวจะตาย"
เอกตวาดเสียงดังด้วยความหงุดหงิด ทำให้ผู้จัดการหน้าเหวอ ก่อนจะขมวดคิ้วอย่างไม่ชอบใจ
"เอก! เรื่องนี้นายเป็นคนก่อนายก็ควรคิดหน่อยสิว่าจะแก้ไขยังไง ไม่ใช่ปล่อยให้พี่เป็นคนจัดการ ตอนนี้ต้นสังกัดแทบจะกินหัวพี่อยู่แล้ว แถมครั้งนี้ดูเหมือนมันจะร้ายแรงด้วย ยังไงต้นสังกัดก็ไม่ยอมปล่อยผ่านไปเหมือนทุกครั้งอย่างแน่นอน!"
ผู้จัดการพูดอย่างพยายามอดกลั้น เขาอดทนมานานแล้ว แม้ว่าเอกจะนิสัยไม่ดี แต่เขาก็พยายามมองข้าม
"โอ๊ย ผมก็เครียดเหมือนกัน!! ถ้าพี่ไม่อยากเครียดเรื่องผมก็ไปไกล ๆ เรื่องแค่นี้ผมจัดการเองได้!"
"เออดี! พี่ก็อยากรู้เหมือนกันว่าถ้าเราไม่มีพี่จะอยู่ยังไง!!!"
กล่าวจบผู้จัดการก็เดินออกไปพร้อมกับปิดประตูเสียงดัง
"เหอะ!" เอกหยิบโทรศัพท์มาด้วยท่าทีหงุดหงิด ก่อนจะต่อสายไปหาผู้เป็นพ่อ ไม่นานนักอีกฝ่ายก็รับสาย
"พ่อครับ พ่อช่วยจัดการเรื่องข่าวหน่อยได้ไหมครับ"
(ตอนนี้บริษัทตกอยู่ในวิกฤตใกล้จะล้มละลาย ลูกยังมีหน้าไปสนใจเรื่องพวกนั้นอีกเหรอ กลับมาบ้านเดี๋ยวนี้!)
ปลายสายพูดด้วยน้ำเสียงเครียด ๆ ช่วงเวลาวิกฤตแบบนี้เขาไม่มีเวลาสนใจข่าวไร้สาระบนอินเทอร์เน็ตหรอก
"พ่อ!!" เอกตะโกนเสียงดัง แต่ปลายสายก็ตัดไปแล้ว "ไม่ว่าจะหน้าไหนก็ไม่ได้เรื่อง!!!"
เอกตวาดใส่โทรศัพท์ในมือที่สั่นระรัวจากการแจ้งเตือนต่าง ๆ นานา มันมาทุกช่องทาง ทั้งเพื่อนร่วมงาน ทั้งแฟนคลับ ต่างก็ทักมาเพราะอยากรู้ความจริง
เอกขว้างโทรศัพท์ใส่ผนังจนแตกกระจาย ก่อนจะทำลายข้าวของระบายความหงุดหงิดจนห้องเละเทะไม่เหลือชิ้นดี
"ไอ้ไส้เทียน แก!!!!"
--------------------
เมื่อวิญญาณร้ายกลายร่าง...ไม่มีใครยับยั้งเธอได้...ใครขว้างเธอฆ่าทำลาย~~
55555