บทที่1.เรื่องมันเริ่มต้นที่นี่แหละ...

1584 คำ
“เอะ!! ยังไงยัยชล การที่ฉันจะนัดเรืองฤทธิ์มาที่ร้านหมอนี่ ฉันทำไม่ได้เหรอ?”          หวานตาถามเสียงขุ่น ทำไมเธอจะนัดแฟนให้มาที่ร้านของภูมิไม่ได้ล่ะ?          “ได้ แกจะนัดแฟนแกไปที่ไหนก็ได้ แต่ขอล่ะ อย่าไปที่นั่นเลย”          ชลดาพยายามเตือน ความสัมพันธ์แสนคลุมเครือนี้มันดูแล้วอิหลักอิเหลื่อ สงสารแต่ผู้ชายอย่างภูมินั่นแหละ เขาไม่เคยบอกความรู้สึก และไม่เคยแสดงออกให้เพื่อนของเธอรู้ตัว ชลดาเชื่อว่าคนรอบตัวหวานตารู้ โดยเฉพาะบิดาของเธอ          “แกท่าจะบ้านะยัยชล หมอนั่นยังไม่เคยบ่นเลย และฉันจ่ายสตางค์นะยะ ฉันไม่ได้มากินฟรี” “เออ ฉันรู้แล้ว แหม...” ชลดาจิปาก เธออยากสะกิดให้เพื่อนมองเห็นสิ่งที่ภูมิปกปิดไว้เหลือเกิน แต่นั่น... อาจจะทำให้ความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนขาดสะบั้นลงก็ได้ ชลดาปรามตัวเอง...งานนี้เธอควรงดเผือก ห้ามเสือกโดยไม่จำเป็น เพราะหากสิ่งที่เธอเดาไว้ ไม่ใช่อย่างที่คาด มันจะพานให้คนสองคน มองหน้ากันไม่ติดเสียเปล่าๆ          “พอเลย...ฉันจะมา ฉันจะนั่งให้รากงอกเลย แกห้ามฉันไม่ได้หรอก”          หวานตาพูดเย้ยๆ เธอชอบนั่งทำงานที่ร้านกาแฟของภูมิ บรรยากาศรอบตัวทำให้สมองเธอแล่น มันเป็นเพราะความร่มรื่น และกลิ่นหอมๆ ของดอกไม้ ภูมิน่าจะจำได้ สิ่งเดียวที่เธอชอบแต่ไม่เคยทำได้ คือการอยู่ท่ามกลางต้นไม้เยอะๆ หวานตาชอบธรรมชาติ แต่คนเบื่อง่ายแบบเธอ ทำให้สิ่งที่ตั้งใจไว้ไม่เคยสัมฤทธิ์ผล บรรดาต้นไม้ที่เธอปลูกไว้ ได้รับการดูแลแค่ช่วงแรกๆ พอความเบื่อเข้าครอบงำ ต้นไม้เหล่านั้นก็เหี่ยว และแห้งตายไปในที่สุด          บ้านของภูมิมีแต่ความร่มรื่น แต่มันน่าเกลียดเกินไปที่เธอจะแวะไปนั่งทำงานที่นั่น          ต่อให้สนิทกับบุตรชายเจ้าของบ้าน แต่สถานะของเธอก็แค่เพื่อน มันไม่เหมาะขนาดเดินเข้านอกออกในบ้านหลังนั้น...จนกระทั่ง...ภูมิเนรมิตร้านนี้ขึ้นมา มันจึงเป็นสถานที่สิงสู่ของเธอ หวานตานั่งทำงานที่นี่ได้เป็นวันๆ กลิ่นดอกไม้ที่ลอยตลบอบอวล ช่วยให้เธอผ่อนคลาย และคิดงานดีๆ ออกมาได้          ใช่เลย...เธอเป็นฟรีแลนซ์ รับออกแบบตกแต่งบ้าน          งานเธอมีให้ทำตลอด นายจ้างของเธอส่วนใหญ่ ก็มาจาก...พิสิทธิโยทินพร็อพเพอร์ตี้นั่นแหละ          หวานตาไม่ได้อัตคัด เธอมีทุนสำรองจากบิดา ท่านแบ่งทรัพย์สินให้เธอตั้งแต่อายุครบ20ปี ทวีทรัพย์ให้หวานตาบริหารจัดการกับสินทรัพย์ที่ท่านมอบให้เอง และคนสนิทๆ กันเกือบทุกคนก็รู้ รวมถึงเรืองฤทธิ์ด้วย          หวานตาคิดเพลินๆ จนกระทั่งเสียงแหวของชลดาดังกรอกหู เธอจึงหลุดออกมาจากความคิดของตัวเอง          “แกฟังที่ฉันพูดมั้ยหะ?”          “แก้วหูฉันจะแตก แกจะตะคอกฉันทำไมยัยชล?”          หวานตาถามเสียงแข็งกลับไป          “ฉันถามแกเป็นรอบที่ร้อยแล้วยะ แกก็ยังนิ่ง... แกใจลอยคิดถึงใครอยู่ล่ะยะ!!”          ชลดาพูดประชด เธอถามเพื่อนนับสิบครั้ง ไม่มีคำตอบจากปลายสาย เหมือนกับว่าหวานตาไม่ได้นั่งฟังเธอพูดอยู่เลย          “บ้าสิ แกถามมาใหม่ เดี๋ยวฉันจะตอบ”          หากตอบไปว่าเธอกำลังคิดถึงภูมิ เพื่อนของเธอคงกระแหนะกระแหนไม่หยุดแน่นอน          “สรุป แกไม่ได้ฟังฉันพูดเลย” เสียงของชลดาขุ่นหน่อยๆ          “ฟัง ฟังแล้ว ว่ามาเลย”          หวานตารีบตอบ ก่อนที่เพื่อนคนสุดท้ายจะนอยด์ เธอขี้เกียจหาเพื่อนใหม่ และคงไม่มีเพื่อนใหม่คนไหนทนนิสัยแย่ๆ ของเธอได้          “มีคนมาเมาส์มอยให้ฉันฟัง” ชลดาเกริ่นนำ เธอกำลังเรียบเรียงคำพูด          เพราะเรื่องที่จะเล่าให้ฟังต่อจากนี้ หวานตาอาจจะเลิกคบเธอไปเลยก็ได้          “วันๆ ไม่ทำอะไรกัน จับกลุ่มนินทาชาวบ้าน” หวานตาเปรยลอยๆ          “ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก มันก็มีบ้าง แกอย่ามาชวนฉันนอกเรื่องสิ เรื่องนี้มันเกี่ยวกับแกโดยตรง” ชลดารีบพูดดัก หวานตากำลังทำให้เธอไขว้เขว          “เดี๋ยวนี้พวกแกว่างจัด ถึงขนาดเอาฉันไปนินทาเชียวเหรอ?”          หวานตาถามกลับเสียงขุ่น เธอใช้ช้อนหั่นเครปเค้กและยกใส่ปาก ของหวานจะช่วยให้ความหงุดหงิดของเธอลดลง          “เปล่า...แกฟังฉันก่อนหวาน!!” ชลดาถอนใจแรงๆ เธอกำลังจะพูด แต่หวานตาพูดขัดขึ้นมาก่อน          “เดี๋ยวค่อยคุย แฟนฉันมาแล้ว ให้ฉันเสร็จธุระกับเขาก่อน ฉันจะโทร. ไปให้แกฟุ้งได้เต็มที่”          “เดี๋ยว!! โธ่ยัยหวาน” ชลดาพยายามเรียกเพื่อน แต่สัญญาณโทรศัพท์ถูกตัดไปเสียแล้ว หญิงสาวถอนใจแรงๆ เธอยังไม่ทันบอกเพื่อน ป่านนี้หวานตาจะเป็นเช่นไร หากครั้งนี้เรืองฤทธิ์ กำลังเดินทางมาบอกเลิกกับเพื่อนของเธอ          ข่าวซุบซิบลอยมาเข้าหู ชลดาพยายามหาข้อมูลประกอบเท่าที่ควานหามาได้...ถูกข่าวลือมีมูลความจริง ผู้ชายคนนั้นไม่ได้ซื่อสัตย์เหมือนที่เขาพยายามแสดงออก มีหลายอย่างที่เขาปิดบังหวานตาไว้ อย่างเช่นเรื่อง ผู้หญิง...ไอ้หมอนั่นซุกกิ๊กไว้หลายคน แต่คนล่าสุดนี่ ทำให้ชลดาหวั่นๆ ผู้หญิงคนนั้นทุ่มเทมาก บางทีสิ่งที่หล่อนทำอาจจะทำให้เรืองฤทธิ์เปลี่ยนใจ ชลดาได้แต่ภาวนา เธอไม่ได้กลัวหวานตาผิดหวัง สิ่งที่เธอกลัวคือ...ผู้ชายคนนั้น จะมีลมหายใจกลับไปหรือไม่ เพราะหวานตาไม่ได้หวานสมชื่อ เธอค่อนข้างไปทางห้าว...และแรงมากด้วย          หวานตากดวางสาย เธอเงยหน้ายิ้มให้เรืองฤทธิ์ เขาเดินผ่านประตูเข้ามา สีหน้าดูไม่ดีเลย หญิงสาวพยายามคิดในแง่ดี เรืองฤทธิ์กำลังปรับตัวกับที่ทำงานใหม่ เขาอาจจะมีเรื่องวุ่นวายใจ ดังนั้นเขาเลยหายหน้าหายตาไปเกือบ2อาทิตย์          “สีหน้าดูไม่ดีเลยนะ มีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่าคะ?”          ทันทีที่แฟนหนุ่มทรุดนั่งฝั่งตรงข้าม หวานตาก็รีบถามทันที          ชายหนุ่มไม่ได้ตอบทันที เขาใช้ปลายนิ้วดันกรอบแว่น พร้อมกับเสียงถอนใจที่แรงจนหวานตาได้ยิน          “งานยุ่งหน่ะ”          สีหน้าของเขาไม่ได้หมายความเช่นนั้น คนตรงหน้าเธอกำลังมีปัญหา          “ดื่มอะไรดีคะหวานจะได้สั่งให้” หวานตาไม่อยากกดดันให้เขาตอบ เธอเลยเปลี่ยนเรื่องพูด พยามยิ้มให้มากขึ้น เขาจะได้รู้สึกผ่อนคลาย          “ขอเบียร์ได้ไหม?” เป็นคำถามที่เรืองฤทธิ์ใช้ทดสอบหวานตา เขากำลังตัดสินใจบางอย่างอยู่          “ทำไมวันนี้อยากดื่มแต่หัววันเลยล่ะคะ?” หญิงสาวไม่ได้ห้าม เธอแค่สงสัยว่าอะไรทำให้เขานึกอยากดื่มเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นตรงศีรษะพอดี          “ผมมีเรื่องให้คิดนิดหน่อย” เรืองฤทธิ์ตอบเสียงแผ่ว          หากเลือกได้เขาไม่อยากทำแบบนี้เลย หวานตาเป็นผู้หญิงที่เขารู้สึกพิเศษด้วย แต่ข้อเสียของเธอคือหวานตามั่นใจในตัวเองเกินไป เป็นไปได้ยากที่เขาจะควบคุมเธอไว้ได้ ผู้หญิงหัวอ่อนคือผู้หญิงในอุดมคติของเรืองฤทธิ์ สำหรับหวานตาแล้ว เธอห่างไกลคำนั้นมาก แต่...นั่นแหละ ความรักกินไม่ได้          หากอยากให้ท้องอิ่ม เขาต้องเลือกผู้หญิงที่มีคุณสมบัติอย่างที่เขาต้องการ          และหวานตาไม่มีทางเป็นได้...เสียดายข้อเดียว เขากับเธอยังไม่ได้เกินเลยกันเลย ภายนอกหวานตาคล้ายๆ สาวเปรี้ยว เธอเป็นคนมีความมั่นใจสูง และค่อนข้างไม่ถือตัว...แต่นั่นไม่ร่วมเรื่องความสัมพันธ์ฉันท์ชาย-หญิงด้วยนะ เรื่องนี้เป็นเรื่องเดียวที่เรืองฤทธิ์ทำอะไรไม่ได้เลย หวานตาไม่เคยยอม ทุกครั้งที่เขาพยายามเข้าถึงเนื้อถึงตัวเธอ          ผู้หญิงตรงหน้าเขา หวงพรหมจรรย์ของหล่อนยิ่งชีพ          “อืม เรื่องงานเหรอ?”          “เปล่า!!” ชายหนุ่มตอบ เขารับแก้วกาแฟจากมือของสาวเสิร์ฟ มองเลยหัวไหล่ของหล่อนไป ใต้ต้นไม้ใหญ่เลยหน้าร้านกาแฟของภูมิไม่ถึง300เมตร มีรถยนต์สีดำ ยี่ห้อ Hyundai  Grand Starex เป็นรถยนต์อเนกประสงค์มีเครื่องอำนวยความสะดวกแบบจัดเต็ม เจ้าของคือสาวใหญ่วัย40อัฟ เธอยังคงความสวยไว้ด้วยฝีมือแพทย์ ที่สำคัญเรืองฤทธิ์กำลังคั่วเธออยู่ หากตกลงกับหวานตาได้ เขาจะมีทั้งหวานตาและม่านแก้วพร้อมกัน          หม้ายสาวไม่ได้ต้องการมีเขาออกหน้าออกตา สังคมของหล่อนคงไม่ยินดีกับการที่เธอจะมีสามีคราวลูก เธอต้องการเขาไว้เพื่อสนองตันหา ข้อเสนอของเธอทำให้เขาหนักใจ เพราะหวานตาคงไม่ยอม ครั้นจะปิดเธอไว้ สังคมเมืองกรุงก็ไม่ได้กว้างนัก บางทีเรื่องที่เขากำลังทำอาจจะเข้าหูหวานตาบ้างแล้วก็ได้ เมื่อเพื่อนสนิทของหวานตาเป็นคนกว้างขวางพอตัว          สิ่งที่เขาต้องทำคือการทำความเข้าใจกับหวานตา          แต่หากไม่ได้ เขาก็จำใจต้องเลิกกับเธอ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม