ยั่วให้รัก
ห่าฝนตกลงมาพร้อมความหนาวเหน็บยะเยือกเข้าไปในหัวใจ กระจกใส ๆ บนหน้าต่างมีไอน้ำจับเกาะเป็นฝ้าหนา ความรู้สึกหม่นเศร้าเข้ามาจับจิตใจของอินทุภาอีกหน
สายฝนที่สาดเทลงมาเหมือนหยาดน้ำตาที่เคยหลั่งริน เฉกเช่นดั่งความเจ็บช้ำในใจของเธอ มือน้อย ๆ ของหญิงสาวกวาดลูบไปทั่วเตียงกว้างใหญ่กว่าเจ็ดฟุต มันช่างอ้างว้างและเงียบเหงาในหัวใจเสียนี่กระไร
อินทุภาเจ็บปวดกับความเฉยชาจากธีรุตม์ สามีที่เธอแต่งงานด้วย เธอเป็นคนน่ารังเกียจมากหรืออย่างไร จนธีรุตม์ไม่คิดที่จะแตะต้องเธอซ้ำอีก ไม่ใช่อะไร เธออยากมีตัวตนอยู่ในสายตาของเขาเท่านั้น ใครไม่อยู่ในที่นั่งของเธอตอนนี้ ก็คงจะไม่เข้าใจหัวอกของหญิงสาวได้
ธีรุตม์ทำเหมือนไม่มีความต้องการ และขยะแขยงเธอ เขาไม่เคยคิดจะมาเฉียดใกล้อินทุภา หรือต้องการตัวเธออีกเลย
เขาทำตัวเป็นแค่เพียงสามีในนามที่จดทะเบียนสมรสกับเธออย่างถูกต้องตามกฎหมายก็เท่านั้น และยังได้จัดการตบแต่งจัดงานแต่งงานเสียใหญ่โต
ใครไม่มาอยู่ ณ จุดนี้จะไม่เข้าใจเลย แล้วถ้าเขาเกลียดเธอ ธีรุตม์จะตอบตกลงมาแต่งงานกับเธอทำไม คนเกลียดชังกันก็ควรจะอยู่ห่างไกลกันสิ หญิงสาวได้แต่ทดท้อในหัวใจ
อินทุภาได้คำตอบ เธอคือผลผลิตจากความชิงชัง
มารดาของเขาไม่ได้ต้องการให้ธีรุตม์แต่งกับผู้หญิงที่ท่านไม่ยอมรับ มายาวี ผู้หญิงทะเยอทะยาน และอยากจะเกาะลูกชายของท่านเท่านั้น
ส่วนอินทุภา เธอเป็นเพียงลูกสาวบริษัทยาเล็ก ๆ และไม่ได้เป็นเมียเดิมของบิดาด้วยซ้ำ คุณนิราชผู้เป็นบิดาได้เป็นหนี้คุณหญิงทับทิมจำนวนไม่น้อย
คุณหญิงทับทิมจึงตัดสินใจเอ่ยปากขออินทุภาให้มาแต่งงานกับลูกชายของท่านเพื่อชดใช้หนี้สินที่มีอยู่ หนี้ก้อนนั้นถือว่าเป็นสินสอด โดยที่คุณพ่อของเธอไม่ต้องชดใช้หนี้ก้อนนี้ให้กับคุณหญิงอีก เธอเองก็ไม่คาดคิดว่าพ่อจะตอบตกลง ทั้งที่เธอก็ได้ปฏิเสธไปแล้วว่า เธอไม่อยากแต่งงานกับเขา
ทั้งพ่อนิราชและคุณรักษณีแม่เลี้ยงของเธอ ต่างก็ยืนกระต่ายขาเดียวว่า นี่เป็นการตอบแทนบุญคุณ เพราะพ่อกับแม่แยกทางกันตั้งแต่อินทุภาอายุห้าขวบ
แต่ในตอนที่แม่อรุณีของเธอป่วยหนัก พ่อนิราชกับแม่เลี้ยงก็ออกค่ารักษาให้ทั้งหมด ซึ่งนับเป็นบุญคุณใหญ่หลวง เธอรู้ว่าการรักษาแม่หมดเงินไปเยอะมากพอสมควร แต่ก็ไม่สามารถยื้อชีวิตของแม่เอาไว้ได้
ข้อกล่าวอ้างนี้ทำให้อินทุภาปฏิเสธไม่ได้ นอกจากต้องกลายมาเป็นตัวกลางคั่นความสัมพันธ์ระหว่างแม่กับลูกชายที่บาดหมางลึก แล้วอินทุภายังมีค่าเป็นเพียงแค่ตัวกลางเพื่อสะสางหนี้สินก็เท่านั้น
แสงจากไฟหน้ารถสาดเข้ามาผ่านสายฝนที่เริ่มซาเม็ดแล้วกระทบกับกระจกห้อง
หกเดือนที่ผ่านมา อินทุภาได้ยินเสียงรถคันนี้ทุกวัน ธีรุตม์เขากลับมาแล้ว หัวใจของอินทุภาเต้นแรง เธออยากจะทำหน้าที่ของภรรยานะ แต่ในเมื่อเขาไม่ต้องการ หญิงสาวก็แค่อยู่ห่าง ๆ ห่างเท่าที่จะทำได้ ยิ่งไม่ต้องให้เขาเห็นหน้าก็คือดีที่สุด
ด้านล่าง วิภาคนรับใช้ของคุณหญิงวิ่งเปิดประตูออกไปต้อนรับธีรุตม์ หลังจากที่เฝ้ารอการกลับมาของธีรุตม์จนกระทั่งล่วงเลยเข้าเที่ยงคืนกว่า ๆ
“วิเป็นห่วงอยู่เลยค่ะ ฝนฟ้าก็ตกหนักเสียจนไม่ลืมหูลืมตา” วิภาก้มลงไปถอดรองเท้าให้กับธีรุตม์
ใบหน้าชายหนุ่มดูมีความสุขอิ่มเอม เขายิ้มแย้มให้กับวิภา นานครั้งจะได้เห็นเจ้านายอารมณ์ดี หลังจากที่แต่งงานออกเรือนไปแล้ว เขาก็แทบจะไม่ยิ้ม
“ทำไมไม่นอนอีกล่ะ จะอยู่รอทำไม”
“ต้องรอสิคะ เป็นหน้าที่ของวิค่ะ แต่เอ๊ะ! ทำไมวันนี้กลับช้าจังคะคุณรุต งานยุ่งมากหรือคะ”
“ยุ่งไม่ยุ่ง ก็ไม่ควรมานั่งรอ แล้วใครบอกให้มานั่งรอ ผมเคยสั่งหรืออย่างไร” เขาพูดเย้าทีเล่นทีจริง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปบนห้องนอนชั้นสอง
‘ผู้หญิงคนนั้นน่าจะมาทำหน้าที่นี้มากกว่า’ ธีรุตม์คิด
“เปล่าค่ะ เพียงแต่วิแค่จะบอกว่า วันนี้มีกับข้าวอร่อย ๆ ที่คุณรุตชอบค่ะ” คนที่ช่างเอาใจพูดให้ฟัง
“คุณแม่ลงครัวเองสินะ” ธีรุตม์นึกถึงมารดา
ท่านชอบทำอาหาร จนบางทีเขาต้องแขวนท้องกลับมากินข้าวที่บ้าน แม่ก็คือแม่ แม่เคยทำแบบไหนก็จะทำแบบนั้นตลอด นี่คือสาเหตุที่เขาไม่อยากทำให้แม่เสียใจ
“ใช่ค่ะ คุณหญิงท่านลงครัวเองเลยค่ะ มีปูผัดผงกะหรี่ที่คุณรุตชอบด้วยนะคะ”
“เวลานี้อะนะ มันกี่โมงกี่ยามแล้ว คงจะเย็นชืดหมดแล้วมั้ง” เขาชี้ให้วิภาดูที่นาฬิกา นางทำสีหน้าผิดหวัง
“ก็นั่นนะสิ วิก็ไม่คิดว่าคุณรุตจะกลับมาเสียดึกนี่คะ เอาไว้กินพรุ่งนี้ก็แล้วกัน” วิภาตั้งใจจะเข้าไปเก็บตามที่บอก
ธีรุตม์นั้น… ก่อนหน้านี้ เขาก็มีนัดกับมายาวีเพื่อกินข้าว แต่เพราะงานรัดตัว เขาจึงได้ปฏิเสธไป
อีกทั้งเขาเพิ่งเซ็นสัญญากับบริษัทยักษ์ใหญ่ของฮ่องกง ซึ่งถือเป็นผลงานชิ้นใหญ่ที่อดทนเฝ้ารอมานานหลายปี หลังเซ็นสัญญา ก็มีปาร์ตี้ฉลองความสำเร็จจนคู่ค้าธุรกิจเมาปลิ้น เขาถึงได้กลับมาบ้าน
+++++++++++
ฝากเรื่องใหม่ด้วยนะคะ รักขม ๆ ปนความเศร้า พระเอกสายหื่น รักแต่ปากแข็ง