" จริงนะคะ คงเพราะรู้ว่าวันนี้เป็นวันเกิดคุณพริบเลยกลับบ้านไว ตอนเช้ายังสั่งให้ป้าทำอาหารพิเศษไว้หลายอย่าง ที่แท้จะฉลองวันเกิดกับคุณพริบนี่เอง อ้อจริงสิ เมื่อตอนทุ่มนึงร้านเค้กให้คนมาส่งเค้ก ป้าเก็บไว้ในตู้เย็นเป็นเค้กไอศรีมด้วยนะคะ คุณพริบขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน แล้วลงมากินเถอะค่ะ "
พริบพันดาวพยักหน้าเดินขึ้นไปข้างบน พอเข้าห้องเธอมองเห็นตุ๊กตากระต่ายสีฟ้านั่งอยู่บนเตียง เธออุ้มมันขึ้นมาขนนุ่มมากน่ารักจัง เอ๊ะนั่นมีอีกตัวเป็นพวงกุญแจ เธอเอามันมาคล้องใส่กระเป๋าน่ารักสุดๆ เขาให้เธอเป็นของขวัญวันเกิดใช่ไหม
ก็อก ก็อก ก็อก
เธอเดินไปเปิดประตู ทักขินัยยืนหน้าตึง จ้องมองเธอจะพูดอะไรก็ไม่พูด จนเธอต้องทำไม้ทำมือถามเขาว่ามีอะไร
" รีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วลงไปข้างล่างทุกคนรอฉลองวันเกิดให้เธออยู่ ดึกแล้วป้าเจียมแก่แล้วอย่าให้ต้องรอนาน "
ป้าเจียม ลุงอำนวย วารี อัปสร มาร่วมกันร้องเพลงอวยพรวันเกิดให้เธอ ปีนี้เป็นปีแรกที่เธอได้มีงานวันเกิดของตัวเอง คงเป็นเพราะทุกปีมีศจีอยู่ด้วย แต่ปีนี้ศจีไปเที่ยวต่างประเทศยังไม่กลับ ทักขินัยเลยซื้อเค้กให้เธอเป็นเค้กไอศครีม แล้วยังมีของขวัญเป็นตุ๊กตากระต่ายที่เธอชอบอีก พริบพันดาวตัดเค้กแบ่งให้ทุกคน วารีกับอัปสรที่ไม่ชอบเธอก็มาร่วมด้วย คงอยากจะมากินนั่นแหละ นอกจากเค้กแล้วยังมีอาหารอร่อยหลายอย่างบนโต๊ะ เธอมองไปเห็นเขายืนมองอยู่ที่บันได เธอหยิบเค้กขึ้นมาตั้งใจจะเอาไปให้เขา พอมองดูอีกทีเขาก็หายไปแล้ว
ก็อก ก็อก ก็อก
พอเขาเปิดประตูออกมา เธอก็ยื่นเค้กไปให้เขา
" ฉันไม่ชอบกินของหวาน "
พริบพันดาวหุบยิ้มกำลังจะหันหลังกลับออกไป เขาก็คว้าแขนเธอไว้แล้วหยิบเค้กไป
" ไหนๆเธอก็อุตส่าห์เอามาแล้ว งั้นฉันก็จะรับเอาไว้แล้วกัน "
เธอทำไม้ทำมือบอกขอบคุณเขา ทั้งเรื่องเค้กและตุ๊กตา
" พอดีเมื่อคืนก่อนฉันฝันเห็นคุณย่าหน่ะ ท่านคงเป็นห่วงเธอ ฉันนึกขึ้นได้ว่าวันนี้เป็นวันเกิดเธอ ท่านคงอยากให้ฉันจัดงานให้เธอฉันก็เลยสั่งเค้กมาให้ ส่วนกระต่ายฉันเห็นว่าตัวเก่าเธอมันขาดแล้วสีก็ซีด เลยซื้อให้ใหม่ เธอชอบหรือเปล่า พริบพันดาวพยักหน้าหงึกๆ
" อือชอบก็ดีแล้ว ลงไปกินอาหารข้างล่างกับทุกคนเถอะ "
" อ้อ เดี๋ยวก่อน พรุ่งนี้วันหยุด ฉันจะพาไปวัดไปทำบุญให้คุณย่า เตรียมตัวไว้ด้วย "
รุ่งเช้าเธอใส่ชุดเดรสสีชมพูที่แก้วกัญญาให้ สะพายกะเป๋าห้อยพวงกุญแจกระต่ายขนปุยสีฟ้าที่ทักขินัยให้เป็นของขวัญ ส่วนกระต่ายสีขาวของเธอกับที่ภูมินทร์ให้ เธอถอดเก็บไว้ ทักขินัยปรายตาดูกระต่ายที่ห้อยกระเป๋าเธอ ก็กระตุกยิ้มมุมปาก
" ไปเถอะ "
เมื่อขึ้นมาบนรถก็แปลกใจว่าเขาจะขับรถไปเองเหรอ เขากล้าไปไหนกับเธอสองต่อสองด้วย นี่คือครั้งแรกนับตั้งแต่แต่งงานกับเขามาได้หลายปี
" ทำไม ฉันอยากไปกับเธอแค่สองคนไม่ได้เหรอ "
พริบพันดาวหันหน้าไปมองนอกหน้าต่าง ในใจก็คิดว่าเขาไม่อายเหรอที่ไปไหนมาไหนกับเธอ ถ้าเจอคนรู้จักแล้วเขาจะบอกว่าเธอเป็นใคร หรือจะบอกว่าเธอเป็นแค่คนรับใช้ในบ้านของเขา เธอเองก็อยากรู้เหมือนกัน
หลังทำบุญให้คุณย่าเสร็จ เขาก็พาเธอไปเลี้ยงอาหารปลาหลังวัด ซึ่งอยู่ติดกับแม่น้ำ ขณะที่กำลังง่วนกับการให้อาหารปลา เธอก็ได้ยินเสียงผู้หญิงคนหนึ่งร้องเรียกทักขินัยมาแต่ไกล
" ทัก ทักคะ ทัก มาทำอะไรที่นี่คะ บุษโทรหาคุณตั้งหลายสายก็ไม่รับ ที่แท้ก็พาเมียใบ้มาอยู่ที่นี่นี่เอง "
บุษบงเข้าไปเกาะแขนทักขินัยแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ พริบพันดาวโยนขนมปังก้อนสุดท้ายให้ปลาแล้วหันไปมองหน้าบุษบง
" อุ้ย ทำไมไม่พอใจเหรอที่ฉันเรียกเธอแบบนั้น โทษทีฉันจำชื่อเธอไม่ได้ เลยเรียกใบ้นี่แหละง่ายดี "
ทักขินัยตวัดสายตาแข็งกร้าวมองบุษบง สะบัดแขนออกจากเธอ
" คุณมาทำอะไรที่นี่ "
" แหมมาวัดก็ต้องมาทำบุญสิคะ ใครจะคิดว่าจะบังเอิญมาเจอคุณที่นี่ ทำไมจะมาไม่ชวนบุษสักคำ "
ที่จริงไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรอก เธอให้อัปสรเด็กรับใช้ในบ้านของเขา คอยรายงานเรื่องของเขาให้เธอ แลกกับเงินพิเศษนิดหน่อย พอเธอรู้ถึงได้รีบตามมาที่นี่
" ผมพาพริบมาทำบุญวันเกิด แล้วก็ทำบุญให้คุณย่าด้วย "
บุษบงไม่สนใจ ยกกะเป๋าสะพายมาลูบพวงกุญแจกระต่ายแบบเดียวกับของเธอเป๊ะ เธอจ้องมองใหญ่
" อุ้ย จ้องขนาดนี้อยากได้เหรอจ๊ะ ฉันคงให้ไม่ได้หรอกนะ พอดีกระต่ายตัวนี้ทักเขาซื้อให้ฉันหน่ะ อ้อยังมีตุ๊กตากระต่ายตัวใหญ่อีกนะ ฉันกอดนอนทั้งคืนขนนุ่มมาก ขอบคุณนะคะทัก บุษชอบมากคุณรู้ใจบุษสุดๆ รู้ว่าบุษชอบกระต่ายก็ซื้อให้"
ทักขินัยครุ่นคิดว่าเขาไปซื้อให้บุษบงตอนไหนแต่ก็คิดไม่ออก ที่เขารู้เธอเกลียดกระต่ายและไม่ชอบของหยุมหยิมแบบนี้ พริบพันดาวน้ำตาคลอ เธอคิดว่าเขาใส่ใจเธอ ถึงได้รู้ว่าเธอชอบกระต่ายเลยซื้อมาให้เป็นของขวัญ แต่เธอคงเข้าข้างตัวเองมากไป เขาจะสนใจเธอทำไม มันก็แค่เรื่องบังเอิญ เขาซื้อให้คนรักของเขาแล้วก็เผื่อแผ่มาให้เธอด้วยมันก็แค่นั้น แต่เธอไม่เข้าใจว่าทำไม ต้องซื้อแบบเดียวกันสีเดียวกันด้วย
พริบพันดาวเดินออกไป บุษบงเบะปากสะใจเรื่องตุ๊กตาเรื่องพวงกุญแจอะไรนั่น ทักขินัยไม่ได้ซื้อให้เธอหรอก เธอบังเอิญเห็นเขาแวะร้านตุ๊กตาแถวๆหน้าคอนโดเธอ พอเขาออกจากร้านเธอก็เข้าไป แล้วถามพนักงานว่าเขาซื้ออะไรไปบ้าง เธอเลยซื้อแบบเดียวกับที่เขาซื้อ
" ทักคะตรงนี้ร้อน ไปกันเถอะค่ะ บุษอยากกินอาหารญี่ปุ่นพาบุษไปหน่อยนะ นะคะ พาบุษไปหน่อย "
" ไว้วันหลังละกันวันนี้ผมมากับพริบ "
ทักขินัยเดินออกไปไม่สนใจเธอ บุษบงรีบเดินตาม เธอเดินเบียดพริบพันดาว รีบเปิดประตูขึ้นไปนั่งบนรถ
" พี่บีหน่ะสิคะ คิดว่าบุษคงกลับกับคุณก็เลยชิ่งกลับไปก่อน "
" งั้นคุณก็โทรตามให้เธอกลับมา "
" ไม่ได้ค่ะ เอ่อ บุษหมายถึงพี่บีมีงานด่วนต้องไปคุยงานที่บุษเป็นพรีเซนเตอร์อาทิตย์หน้าหน่ะค่ะ คงจะกลับมารับไม่ได้แล้ว บุษกลับกับคุณนะคะ นะคะ ทัก"
" ขึ้นรถสิ หรือต้องให้ฉันเปิดประตูให้ "
ทักขินัยหันไปมองพริบพันดาวที่ยังยืนอยู่กับที่
" หรือว่าเธอคิดว่าบุษมาแย่งที่นั่งเธอหรือเปล่าคะ ถ้าอย่างงั้นบุษไปนั่งข้างหลังก็ได้ "
บุษบงทำหน้าเศร้า ปลดเข็มขัดนิรภัยออกทำท่าจะเปิดประตู
" ไม่ต้อง นั่งตรงไหนก็เหมือนกัน รีบขึ้นรถจะได้รีบกลับ "
ทักขินัยเข้าไปนั่งในรถปิดประตูสตาร์ทรถโดยไม่รอเธอ พริบพันดาวยิ้มขมขื่นคงอยากจะรีบไปส่งเธอแล้วไปพรอดรักกันที่คอนโดของเขาสินะ เธอกำลังจะเปิดประตูก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงเรียก
" พริบ มาทำอะไรที่นี่ มาทำบุญเหรอ "
ภูมินทร์ส่งยิ้มมาแต่ไกลเดินเข้ามาทัก
บรืนนน ทักขินัยขับรถออกไปอย่างไวโดยไม่รอเธอเลย เธอจึงต้องขอให้ภูมินทร์มาส่งที่บ้าน ระหว่างทางฝนตก ทีแรกตกไม่แรงแต่พอสักพักก็แรงขึ้น จนภูมินทร์ต้องพาเธอแวะหลบฝนตรงเพิงร้านค้าริมทาง เขาถอดเสื้อคลุมให้เธอกันหนาว เธอโบกมือปฏิเสธแต่เขาก็ถือวิสาสะสวมเสื้อให้เธอ แล้วส่งยิ้มอบอุ่นให้
ทักขินัยยืนมองสายฝนอยู่ที่ระเบียง ฝนตกแรงขนาดนี้เธอไปอยู่ไหน ทำไมยังไม่กลับหรือว่าไปพรอดรักกับไอ้หมอนั่นจนลืมเวลาลืมว่าต้องกลับบ้าน คิดแล้วเขาก็ตาแข็งกร้าวกัดฟันกรอดๆ บุหรี่มวนแล้วมวนเล่าถูกจุดสูบ ท้องฟ้ามืดมิดฝนยังกระหน่ำตกลงมาไม่ขาดสาย ทักขินัยเดินลงไปชั้นล่าง
" ล็อคประตู ใครมาเคาะก็ไม่ต้องเปิด อยากไม่รู้จักเวลาดีนัก "
ป้าเจียงกำลังจะบอก ว่าพริบพันดาวยังไม่กลับมา แต่ทักขินัยก็เดินขึ้นไปข้างบนแล้ว