EP.4 คืนหวามชวนเสียตัว
เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วเดินกลับไปนั่งยังบริเวณที่กองไฟเพิ่งดับไป หยิบเบียร์ที่วางไว้บริเวณนั้นขึ้นมาดื่ม ตั้งใจว่าจะดื่มให้เมาแล้วค่อยไปขอนอนในเต็นท์ของอีริค ทว่ายิ่งแอลกอฮอล์ในเลือดสูงมากขึ้นเท่าไหร่ ขาที่ควรก้าวไปยังเต็นท์นอนของอีริคกลับวกมาอีกทาง
กว่าจะรู้สึกตัวเขาก็ยืนอยู่หน้าเต็นท์ของขวัญข้าวเสียแล้ว
“อ้าว! พี่เหนือ”
ขวัญข้าวตกใจเมื่อจู่ๆ นาเหนือก็ก้าวเข้ามาในเต็นท์แล้วทิ้งตัวลงนอนแผ่หลา ไม่พูดไม่จาหลับไปเสียดื้อๆ เธอพยายามปลุก พยายามลากให้เขากลับไปนอนที่เต็นท์ตัวเอง ทว่าเขาเป็นผู้ชายที่ตัวสูงใหญ่ราวกับยักษ์ เธอจึงทำได้แค่ยกขาเขาเพียงข้างเดียวเท่านั้น
“นี่พี่เหนือไปดื่มเพิ่มมาอีกเหรอเนี่ย”
หญิงสาวบ่นอุบทั้งที่ตนก็เมาจนมองเห็นนาเหนือแยกออกเป็นสองร่าง เมื่อปลุกอย่างไรก็ไม่สำเร็จในที่สุดเธอก็ฟุบตัวลงนอนข้างๆ เขาแล้วผล็อยหลับไป...
อากาศยิ่งดึกยิ่งหนาว แต่มีเพียงผ้าห่มผืนเล็กสำหรับห่มคนเดียว ทั้งสองจึงซุกเข้าหาไออุ่นของกันและกัน กอดก่ายแนบชิดจนกระทั่งบางสิ่งบางอย่างของนาเหนือ ‘ตื่น’ ขึ้นกลางดึก นวลเนื้อหอมกรุ่นแนบกาย เส้นผมสีดำละเอียดหอมติดปลายจมูกทำให้มือของเขาเลื่อนเคลื่อนไหวไปตามส่วนเว้าส่วนโค้งอย่างไม่อาจหักห้ามใจ
มือหนาสากเลื่อนลงไปยังเอวคอดกิ่ว เลื่อนต่ำลงอีกนิดกอบกุมสะโพกผายเอาไว้ ก่อนที่ลมหายใจจะเริ่มหอบกระชั้นด้วยความต้องการจนขึ้นคร่อมทับร่างบางที่ยังคงหลับใหล
“พะ...พี่เหนือ”
ขวัญข้าวลืมตาตื่นด้วยความตกใจเมื่อคนตัวโตคร่อมทับบดเบียดเรือนร่างของเขาลงมา ยังไม่ทันได้ทักท้วงริมฝีปากหนาหยักได้รูปก็ปิดริมฝีปากเธอเอาไว้อย่างรวดเร็ว จูบร้อนรุกเร้าอย่างเอาแต่ใจทำให้หญิงสาวอ่อนระทวยจนไม่อาจขัดขืน
สัมผัสจากชายที่รักทำให้สมองของเธอขาวโพลน หัวใจเต้นแรงระรัวราวกับเสียงกลอง สองแขนเล็กโอบรัดรอบลำคอของเขาเอาไว้ แล้วแหงนเงยใบหน้ารับจูบหวามด้วยความเต็มใจ เธอจูบตอบเขาครั้งแล้วครั้งเล่า เป็นฝ่ายดุนดันลิ้นเล็กเข้าไปควานหารสชาติเบียร์ในริมฝีปากอุ่นอย่างเอร็ดอร่อย
“น้องข้าวครับ”
คนตัวโตค่อยๆ ผละจากริมฝีปากนุ่มแล้วกระซิบขานชื่อด้วยน้ำเสียงแหบพร่าข้างหู ยังผลให้คนตัวเล็กถึงกับสะท้านไหวไปทั่วทั้งสรรพางค์กาย
“ขะ...ขา”
“ขอพี่กอดน้องข้าวทั้งคืนได้มั้ย”
ไม่พูดเปล่าคนตัวโตเลื่อนมือไปจัดการปลดกระดุมเสื้อของหญิงสาวออกทีละเม็ด...ทีละเม็ด จนเผยให้เห็นอกอวบอิ่มที่ปราศจากบราเซียร์ ดวงตาคมเข้มพราวระยับเมื่อได้เห็นหน้าอกคู่งามทรงสล้าง เขาเลื่อนมือร้อนลงไปสัมผัสครอบครองเอาไว้เต็มมือ ก่อนจะใช้ปลายนิ้วโป้งสัมผัสแผ่วที่ยอดอกอิ่มอย่างหยอกเย้า
“ถะ...ถ้าเกินเลยจนถึงขั้นนั้น ขะ...ข้าวยังไม่พร้อมค่ะ”
ถึงจะเมามายจากฤทธิ์แอลกอฮอล์แต่กลับปฏิเสธออกไปด้วยน้ำเสียงแผ่วหวิว แม้เธอจะโตเป็นผู้ใหญ่เรียนจบปริญญาตรีแล้ว แต่เรื่องความสัมพันธ์ชายหญิงเธอยังอ่อนหัดนัก ถึงจะมอบหัวใจให้เขาไปหมดแล้วทั้งดวง เธอก็ยังไม่อาจมอบพรหมจรรย์ให้เขาครอบครอง ด้วยคิดถึงความรู้สึกของบิดามารดา หากพลาดพลั้งตั้งท้องขึ้นมาคงทำให้ท่านทั้งสองต้องเป็นทุกข์ใจ
“ถ้าอย่างนั้นพี่จะกอด จะหอม จะจูบข้าวทั้งตัว แต่จะไม่ทำถึงขั้นนั้นได้มั้ยครับ” เขาพูดพลางเคล้นคลึงทรวงอกอิ่มหนักเบาจนเธอถึงกับห่อไหล่สะท้านไปกับสัมผัสหวามจากฝ่ามือร้อน
“อะ...อือ”
ขวัญข้าวส่งเสียงครางแผ่วเบาราวกับคำขานรับ เผลอแอ่นหน้าอกคู่สวยบดเบียดไปยังใบหน้าของเขา ยังผลให้ปลายจมูกโด่งซุกซบลงไประหว่างร่องอก เขาสูดกลิ่นหอมของหน้าอกที่ยังมีกลิ่นไวโอเลตจากครีมบำรุงผิว สองมือบีบเคล้นสองเต้าแล้วตวัดดูดกลืนอกอิ่มเต็มคำ
“พะ...พี่เหนือ ขะ...ขา”
หญิงสาวครวญเสียงกระเส่าแยกไม่ออกว่าเธอกำลังมึนเมาจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ หรือมึนเมาไปกับสัมผัสหวามที่เขากำลังปรนเปรอเธออยู่ในขณะนี้
“ขา”
เสียงทุ้มแหบพร่าของคนตัวโตทวนขานตามเธออย่างหยอกเย้า หัวใจของหญิงสาวถึงกับเต้นกระตุกเมื่อได้ยินเสียงขานรับแสนเซ็กซี่จากชายตัวโต
นาเหนือเงยหน้าขึ้นจากทรวงอกแล้วจุ๊บเบาๆ ที่หน้าผากมน ไล่เรื่อยมายังปลายจมูกเชิดรั้นน้อยๆ จากนั้นจึงอ้อยอิ่งอยู่ที่ริมฝีปาก จูบแล้วจูบเล่าจนขวัญข้าวรู้สึกว่าริมฝีปากของเธอกำลังเห่อร้อน และอาจจะบวมเจ่อจากรสจูบดุดันเอาแต่ใจของเขา
“พี่ชอบจูบข้าวจัง ขอจูบอีกนะครับคนดี” เป็นการเอ่ยขอที่ไม่รอให้เจ้าของริมฝีปากอนุญาต เขาจูบเธออีกครั้งและอีกครั้งก่อนจะเลื่อนริมฝีปากลงพรมจูบลงไปยังทรวงอก ประทับรอยจูบลงไปแผ่วเบาแล้วค่อยๆ เลื่อนลงต่ำ
ต่ำลง...ต่ำลง จนหัวใจของคนตัวเล็กตกลงไปอยู่ที่ปลายเท้า เพราะเวลานี้กางเกงนอนของเธอหลุดหายไปตั้งแต่ตอนไหนไม่อาจรู้ได้ รู้เพียงแต่ว่าเวลานี้เธอเปลือยเปล่าไร้อาภรณ์ปกปิดเรือนกาย
“พะ...พี่เหนืออย่าค่ะ ขะ...ข้าวกลัว”
มือเล็กจิกลงบนเส้นผมหนาหยักได้รูปเมื่อเขาทำท่าจะเลื่อนต่ำลงไปครอบครองกลางกายสาวที่เธอแสนหวงแหน เขาจึงหยุดใบหน้าไว้ที่หน้าท้องแบนราบ แล้วเลื่อนมือหนาลงไปครอบครองความหวานฉ่ำของดอกไม้แรกแย้มด้วยสัมผัสอ่อนโยน
“อื้อ...”
มือที่จิกรั้งเส้นผมแปรเปลี่ยนเป็นขยี้ขยำแล้วหอบหายใจแรงด้วยความซ่านสะท้าน อ่อนระทวยไร้เรี่ยวแรงที่จะขัดขืน ปล่อยให้เขาเคลื่อนลงต่ำครอบครองกลีบดอกไม้แรกแย้มด้วยริมฝีปาก ลิ้มรสน้ำหวานฉ่ำด้วยความเอร็ดอร่อย ส่งผลให้คนตัวเล็กถึงกับหายใจสะดุดผวาเฮือกราวกับถูกปล้นปลิดสติให้ขาดกระเจิง
“พะ...พี่เหนือ ข้าวจะทนไม่ไหวแล้วค่ะ”
สัมผัสแสนเร่งเร้าทำให้ร่างบางถึงกับขดเกร็งกระตุกจนตัวงอ ราวกับโลกทั้งใบหยุดหมุน ความรู้สึกซ่านสุขแล่นปราดไปทั่วทั้งสรรพางค์กาย หัวใจเจ้าเอยล่องลอยอยู่ท่ามกลางดวงดาวที่พร่างพราวกระจายเต็มผืนฟ้า ก่อนที่หัวใจจะกระตุกแรงร่วงตกลงบนผืนพรมดอกไม้อ่อนนุ่ม
ขวัญข้าวรู้สึกเช่นนั้นครั้งแล้วครั้งเล่าจนแทบสำลักความสุขสม เล็บยาวจิกลงบนไหล่หนาของชายหนุ่มแน่น ทั้งสองต่างกอดก่ายสอดประสานให้ความอบอุ่นกันและกัน จนเมื่อรุ่งสางนาเหนือตื่นขึ้นมาพบว่าตนเองแก้ผ้าเปลือยเปล่ากอดนางฟ้าตัวน้อยเอาไว้แนบอก