บทที่ 3/2

787 คำ
“ช่วงนี้หนูงานยุ่ง คอนโดฯ สร้างใกล้เสร็จแล้ว ต้องทำการตลาดกันยกใหญ่เลยค่ะคุณแม่ เลยไม่ค่อยได้โทร. ได้มาหาคุณแม่เลย ขอโทษด้วยนะคะ” จริงอยู่ที่ไม่ได้มาหาบ่อยครั้ง ทว่าดอกหญ้าไม่เคยละเลยมารดาของตนและโสภิต หญิงสาวมักโทร. หา ส่งข้อความแชตพูดคุยกับผู้มากกว่าด้วยวัยทั้งสองอย่างสม่ำเสมอ ทว่าพักหลังมางานรัดตัวนัก อย่างที่บอกโสภิตไป คอนโดมิเนียมในเครือเจคอนสทรัคชันก่อสร้างใกล้แล้วเสร็จ จริงอยู่ที่ห้องขายไปได้เกินแปดสิบเปอร์เซ็นต์ กระนั้นลูกค้าที่ทำสัญญาจองห้องชุดไว้บางคนยังไม่ได้รับการอนุมัติสินเชื่อจากธนาคาร บ้างต้องการเปลี่ยนสัญญาโดยการขายใบจองให้คนอื่น ต้องทำเอกสารกันใหม่วุ่นวายไปหมด และอีกสารพัดปัญหาที่มีมาให้แก้ไขทุกวัน ทีมงานที่ยังมีอยู่เพียงหยิบมือจึงหัวหมุนไปตามกัน เด็กสาววัยเพียงยี่สิบสี่ แต่ภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบหนักหนานัก กระนั้นดอกหญ้าก็สามารถทำทุกอย่างได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าเรื่องงานหรือการเป็นหลังบ้านให้นายแพทย์น่านฟ้า “อย่ากังวลไปเลยลูกสาวแม่ แม่เข้าใจหนู แล้วนี่ที่เราคุยกันคราวก่อนว่าแม่จะซื้อคอนโดฯ ไว้ปล่อยเช่าสักสิบห้อง หนูดอกหญ้าอย่าลืมนะ” คอนโดมิเนียมห้องที่โสภิตจองไว้ราคาห้องละห้าล้านเก้าแสนเก้าหมื่นบาท สิบห้องเกือบหกสิบล้านได้ ลูกค้ากระเป๋าหนักของเธอจ่ายเงินสด งดกู้ธนาคาร เห็นไหมล่ะว่าท่านร่ำรวยแค่ไหน “ขอบคุณมากนะคะคุณแม่” “ไม่ต้องขอบคุณแม่หรอกจ้ะ ขอบคุณคนนู้นดีกว่า” โสภิตพยักพเยิดไปยังคนที่เดินตรงมา เจ้าสัวนเรศ วัฒนบวร.. ในแวดวงธุรกิจของครอบครัวเธอ น้อยคนนักที่ไม่รู้จักเจ้าพ่ออสังหา เจ้าพ่อธุรกิจอาหาร เครื่องดื่ม ธุรกิจสื่อสารและโทรคมนาคม และยังอีกหลายกิจการ มากมายเสียจนนึกไม่หมด วัฒนกรุปซึ่งปัจจุบันมีเจ้าสัวนเรศเป็นประธานกรรมการบริหารมีการลงทุนอยู่ในสามสิบประเทศและเขตเศรษฐกิจ แบ่งประเภทธุรกิจออกเป็นสิบสายธุรกิจหลัก ครอบคลุมสิบแปดกลุ่มธุรกิจย่อย เจ้าสัวนเรศเป็นมหาเศรษฐีลำดับต้นของเมืองไทย รวยติดหนึ่งในห้าเลยกระมัง แต่น่าแปลกอยู่อย่างคือเจ้าสัวนเรศไม่มีบุตรกับคุณหญิงน้ำค้างภรรยาที่พึ่งจากไปด้วยโรคร้ายเมื่อสามเดือนก่อนนี่เอง สงสัยนักว่าทรัพย์สมบัติมหาศาลใครกันจะเป็นผู้สืบทอด และอีกเรื่อง.. เจ้าสัวนเรศมาอยู่ที่ได้อย่างไร แขกของโสภิตงั้นหรือ? ว่าแต่ทำไมแขกถึงแต่งตัวสบายเหมือนอยู่บ้านตัวเอง แล้วไม่ใช่แค่การแต่งตัวนะ การวางตัวก็เช่นเดียวกัน “หนูใช่ไหม แฟนเจ้าน่านมัน” หลายครั้งที่แม่ของลูกเล่าเรื่องสาวน้อยนามว่าดอกหญ้าให้ฟัง มีโอกาสได้พบหน้ากันเสียที “สวัสดีค่ะ ใช่ค่ะ หนูเป็นแฟนพี่น่าน” เธอยกมือไหว้มหาเศรษฐีเมืองไทยที่ตนเคยเห็นรูปถ่ายผ่านตาบนหน้าสื่อสังคมออนไลน์อยู่หลายครั้ง ไม่นึกเลยว่าจะได้มีโอกาสพูดคุยกับท่านในบ้านโสภิตอย่างที่กำลังเป็น “คุณโสภิตเล่าเรื่องหนูให้พ่อฟังอยู่หลายครั้ง ดีใจจังที่ได้เจอตัวจริงสักที” พ่องั้นหรือ? ทำไมเจ้าสัวนเรศแทนตัวเองว่าพ่อกัน หรือว่า.. “ท่านเจ้าสัวเป็นพ่อของพี่น่านอย่างนั้นเหรอคะ ขอโทษนะคะที่ต้องเสียมารยาทถามออกไป” เจ้าสัวนเรศหัวเราะ ใบหน้าผู้มากด้วยวัยและประสบการณ์เปื้อนรอยยิ้ม ทว่าแววตาขมขื่นอยู่ไม่ใช่น้อย ด้วยเจ็บปวดที่ตลอดหลายสิบปีตั้งแต่ที่น่านฟ้ารู้เรื่องนั้น ลูกก็ไม่เคยเรียกเขาว่าพ่ออีกเลย ไม่แปลกหรอกที่สาวน้อยตรงหน้าไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร น่านฟ้าคงไม่เคยเล่าเรื่องพ่อให้เธอฟัง เหมือนอย่างที่ไม่เคยบอกอดีตภรรยานั่นแหละว่าตนเป็นลูกชายเจ้าสัว หากน่านฟ้าบอกไป ชีวิตคู่ชายหนุ่มคงไม่จบลงด้วยการหย่าร้าง พ่อแม่แพทย์หญิงอดีตลูกสะใภ้รังเกียจลูกชายเขาเพราะคิดว่าจน เฮอะ! ต่างกับผู้ชายอีกคนที่แม้แพทย์หญิงรวินท์วิภาจะได้ชื่อว่าแต่งงานแล้ว แต่พ่อแม่หล่อนยังพยายามเหลือเกินที่จะให้ลูกสาวได้ลงเอ่ยกับตะวันฉาย สุดท้ายก็สมหวังดังใจปรารถนา ส่วนน่านฟ้าเจ็บปวดเจียนตาย กว่าจะผ่านวันคืนอันเลวร้ายไปได้ ไม่รู้เลยว่าชายหนุ่มต้องทุรนทุรายแค่ไหน “หืม รู้จักพ่อด้วยเหรอหนูดอกหญ้า”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม