บทที่ 8 วันคู่หรือคี่ 1
เผียะ!
มือเล็กที่ถึงจะถูกมัดก็สามรถบรรจงฟาดไปยังใบหน้าขาวเนียนของซันอย่างตั้งใจแบบสุดๆ จนเสียงกระทบกันของฝ่ามือและใบหน้าดังสนั่นขึ้นท่ามกลางความเงียบงันในห้องที่มีแต่เสียงของเครื่องปรับอากาศเท่านั้นที่ยังทำงานเป็นปกติอยู่
ทุกอย่างมันเหมือนหยุดชะงักไปโดยปริยายแม้แต่ฝ่ามือของฉันเองที่ยังคงค้างไว้กลางอากาศแบบมือไม้สั่นเทา ความกลัวเริ่มเข้ามาเกาะกุมภายในใจของฉันแล้วยิ่งเมื่อเจอกับสายตาสีรัตติกาลที่ค่อยๆ หันใบหน้าได้รูปที่ถูกตบไปก่อนหน้าเข้ามามองฉันด้วยแววตาลุกโชนด้วยแรงโกรธ ไม่คิดเลยว่าคนอย่างฉันจะกล้าทำอะไรแบบนี้ออกไปโดยชั่วขณะ มันไม่รู้ตัวเลยสักนิดเดียวพอรู้อีกทีก็...
ตบลงไปยังใบหน้าของซันเรียบร้อยแล้ว
มันเหมือนกับว่าความอดทนของฉันถูกตัดสะบั้นลงอย่างไม่ใยดีเมื่อได้ยินคำดูถูกที่ออกมาจากปากร้ายๆ ของเขา ใช่! ฉันรู้ดีว่าความคิดของคนเราไม่ตรงกันแต่ก็ใช่ว่าซันจะมีสิทธิพูดวาจาที่สุดแสนร้ายกาจแบบนั้นออกไปได้ มันเหมือนกับว่าเขาไม่ให้ความเคารพผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าเป็นเพศแม่ของตัวเองเช่นกัน
ผมยังมองแบบไม่กระพริบสายตาไปยังผู้หญิงตรงหน้าก่อนที่จะใช้ลิ้นกระทุงเข้าไปที่ริมฝีปากที่แตกด้วยฝีมือของเธอ อาการที่ลนลานปิดไม่มิดยังคงแสดงออกมาเรื่อยๆ จากนั้นประโยคแรกก็ถูกพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นเครือติดๆ ขัด
“ฉะ ฉัน….”
“…”
กลิ่นคาวพร้อมรสเค็มๆ โชยออกมาจากปากตัวเองจนต้องเอาลิ้นสัมผัสครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่ออยากให้มันหายไปแต่ก็ว่าเถอะมันคงไม่หายได้ง่ายๆ ยอมรับว่าฝีมือการตบยาหยีค่อนข้างแรงทีเดียว ครั้งเดียงถึงกับจอดเพราะเลือด
“ชั้นไม่ต้องการคำขอโทษหรือแก้ตัว” ผมมองหน้ายาหยีแล้วพูดขึ้นอย่างเฉยชา การให้โอกาสของผมมันก็ได้หมดลงพร้อมกันแล้วด้วย “ไม่มีตัวขัดดอกคนไหนที่กล้าทำแบบนี้กับเจ้าหนี้เสียด้วยแต่ในเมื่อเธอเป็นคนเลือกฉันก็จะสนองให้เอง!”
โอ้ย!
มือของฉันที่ค้างกลางอากาศก็ถูกมือใหญ่บิดด้วยความแรงเหมือนกับกระดูกกำลังจะหักความเจ็บปวดโลดแล่นเข้ามาจนน้ำตาที่กลั้นไว้จู่ๆ ก็ไหลออกมา
“มาดูผลของความกล้าของเธอก็แล้วกัน”
พอประโยคพูดของซันจบเขาก็ใช้มือใหญ่อีกข้างที่เหลืออยู่ล้วงไปในกระเป๋ากางเกงจนสักพักมือออกมาพร้อมเครื่องมือสื่อสารที่ทันสมัย
“จะทำอะไร?”
ความกลัวมันเล่นงานฉันจนตอนนี้สมองมันก็คิดเรื่องร้ายๆ ตีรวนกันไปหมดอีกอย่างสมัยนี้มันก็ไว้ใจเชื่อใจคนที่ไม่รู้จักกันได้ยาก ข่าวการข่มขืน ถ่ายคลิปประจานมีเต็มไปหมด
“ไม่ต้องกลัวคนอย่างชั้นไม่ถ่ายคลิปข่มขืนหรอกแต่มันก็ทำให้เธอกระอักได้ไม่แพ้กัน!”
ว่าแล้วเขาก็จัดการโทรศัพท์ไปยังปลายทางไม่นานนักก็จัดการพูดอยู่สองสามประโยคด้วยความเย็นชาที่มีความเลือดเย็นผสมอยู่ไม่น้อย ประโยคคำสั่งแบบไม่ใส่ใจไม่ได้ทำให้ฉันสนใจแม้แต่น้อย ตอนนี้ฉันต้องการเพียงแค่ให้แขนหลุดออกจากมือใหญ่เท่านั้นแต่ทว่าสายตาของฉันต้องเบิกกว้างม่านตาที่ขยายเป็นร้อยเท่าเมื่อได้เห็นหน้าจอโทรศัพท์หรูของซันที่ตอนนี้โชว์ให้เห็นถึงใบหน้าของคนคุ้นเคย
“พี่ยิว..”
เสียงแหบแห้งแผ่วเบาเปล่งชื่อพี่ชายสุดที่รักของตัวเองขึ้นมาทำให้ผมสะใจไม่น้อยเมื่อได้เห็นสีหน้าสลดท่าทางที่ขัดแย้งหยุดชะงักไปโดยอัตโนมัติ
“หึ! เมื่อกี้เธอทำยังไงกับชั้นนะ ตบใช่ไหม?”
“…”
รอยยิ้มเหยียดอย่างชั่วร้ายเผยให้ฉันทั้งหมด สายตาสีรัตติกาลของซันมันดูน่ากลัวมากเหลือเกิน มากเกินกว่าที่ฉันจะคาดเดาความคิดของเขาได้เลยในตอนนี้
“อย่าห่วงเลยชั้นไม่ตบเธอหรอกยาหยีแต่ว่าไอ้ยิวมันจะถูกทำเอง”
สีหน้าของผมที่จริงจังมองไปยังผู้หญิงตัวเล็กที่ยังคงมองหน้าจอโทรศัพท์ที่ปรากฏภาพเคลื่อนไหวของพี่ชายตัวเอง
“จะทำอะไรซัน?”
ผมแปลกใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินยาหยีเรียกชื่อของตัวเองเป็นครั้งแรก แต่มันก็แค่นั้นเพราะในสถานการณ์แบบนี้ความใจอ่อนมันไม่มีอยู่แล้ว
“ตบมัน”
ร่างใหญ่ของพี่ยิวที่ปรากฏอยู่ในโทรศัพท์ของซันถูกชายสูงผอมใช้ฝ่ามือใหญ่ตบเข้าไปที่หน้าจนหันไปอีกข้างหนึ่งด้วยความแรงไม่นานนักเลือดสดๆ ก็ไหลออกมาตรงมุมปาก
“ตบจนกว่ากูจะสั่งหยุด”
เมื่อเสียงของคนเลือดเย็นสั่งจบพี่ยิวก็ถูกตบไปมาทั้งซ้ายขวาอยู่แบบนั้น ทำไม ทำไมซันถึงต้องทำขนาดนี้ด้วย
“พอแล้ว พอ.....”
“…”
“บอกให้พอไงพอแล้ว” พูดไปน้ำตาก็ไหลอาบแก้มเมื่อชายรูปร่างสูงไม่ฟังฉันบางเลยเขาตบพี่ยิววนอยู่อย่างนั้นซ้ำๆ “พอ ..ซันพอแล้ว”
“…”
เมื่อเห็นว่าคนในโทรศัพท์ไม่ทำตามฉันก็หันใบหน้าที่แทบดูไม่ได้ของตัวเองไปพูดกับซันบ้าง เผื่อว่าความใจดีจะเกิดขึ้น
“พอแล้วนะ สั่งให้ลูกน้องหยุดเถอะนะ”
“หึ”
“พี่ยิวต้องตายแน่ๆ หยุดเถอะนะขอร้อง หยีขอร้อง..”
ใบหน้าที่เปื้อนด้วยคราบน้ำตาทั้งเก่าและใหม่เต็มไปหมดบอกเลยว่ามันไม่ได้ทำให้ผมสงสารแต่มันสมเพชมากกว่าด้วยซ้ำ ครั้งนี้เธอคงคิดได้ว่าอย่าคิดจะทำอะไรกับคนอย่างผมเพราะยังไงไอ้ยิวผมก็ไม่ปล่อยเอาไว้อย่างแน่นอน
“แลกกับการถอดกางเกงชั้นจะสั่งให้พอ”
ทางเลือกของฉันถูกปิดตายด้วยคำว่าตัน ทุกอย่างที่ซันพูดออกมานั้นมันเป็นสิ่งที่ฉันปฏิเสธตั้งแต่ทีแรก ปฏิเสธแบบไม่คิดเมื่อได้ยินแต่ในนาทีนี้กับต้องทำ
“…”
“เลือกเอาระหว่างแค่ถอดกางเกงกับลมหายใจไอ้ยิวพี่ชายสุดที่รักของเธอ!”
“กะ ก็ได้”
ผมปล่อยมือเธอเมื่อได้ยินว่าเธอยอมรับข้อเสนอที่แลกกับการสั่งหยุดการตบให้พี่ชาย หัวอ่อนแบบนี้สิถึงได้โดนเอาเปรียบง่ายๆ
“น่าประทับใจแทนพี่ชายเธอเสียจริง ความรักของพี่น้องแห่งปี”
“…”
ฉันไม่สนใจอะไรเพียงแต่ตอนนี้มือไม้สั่นไหวไปหมดเมื่อเอามาจับที่ขอบของกางเกง ค่อยๆ ปลดกระดุมออกอย่างช้าๆ ใบหน้าที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตาพร้อมกับเหงื่อไหลราวกับไปเดินในทะเลทรายที่ร้อนระอุ ดีหน่อยที่ซันยังใจดีเบี่ยงโทรศัพท์ไปยังทางของเขาเพื่อไม่ให้ใครเห็น
รอยยิ้มของผมผุดขึ้นทันทีที่เห็นว่ายาหยีถอดกางเกงออกเรียบร้อย ขาขาวเรียวสวยเนียนเรียบปรากฏต่อใบหน้าของผมทันที่ ตอนนี้ที่หลงเหลือในร่างกายเธอก็มีเพียงแค่ซับในตัวบางและบราเซียก็เท่านั้น
“เฮ้ย! ไอ้โจเนสหยุดวะ”
ฉันถอนหายใจทันทีเมื่อได้ยินเสียงอันเลือดเย็นของซันสั่งให้คนปลายสายหยุดการตบพี่ยิวเอาไว้แค่นั้นและฉันก็พอเดาออกว่าตอนนี้สภาพของพี่ยิวก็คงไม่ต่างอะไรกับการโดนซ้อมปางตาย อยากเห็นแทบบ้าแต่ซันก็กดโทรศัพท์วางทันที
“ทีนี้ก็มาเริ่มขัดดอกเสียที”