น้ำแกงสลายการตั้งครรภ์
ลู่ซินเหว่ยไม่ได้อยากแสดงความอ่อนแอออกมาสักนิด แต่นางอดทนไม่ไหวแล้ว ยามนั้นน้ำตาไหลออกมาไม่หยุด และนางก็ร้องไห้เสียงดังราวกับเด็กๆ
หญิงสาวพยายามกลั้นก้อนสะอื้นแล้ว แต่ไม่อาจกระทำได้ง่ายๆ และยามนั้น ไม้ในมือฟาดออกไป มันถูกคนที่รังแกนาง ถึงอย่างนั้นท่าทางนางก็ไม่ต่างจากหมาบ้า ที่ไม่อาจเอาชนะผู้อื่นได้ในยามนี้
ฝ่ายรั่วเฟิงตกใจในตอนแรก ก่อนจะหัวเราะตัวงอหงาย นางสมเพชสตรีที่เป็นของกำนัลจากเมืองไป๋จู้ คนพวกนั้นกล้าดีอย่างไร ส่งสตรีเช่นนี้มารับใช้ซานเกอ
“ฮิๆ ๆ มันปัญญาอ่อนจริงๆ ด้วย เช่นนี้ ใครจะเอาไปทำเมีย เห็นที นายท่านคงสมเพช เลยให้มาอยู่เรือนเก่าของอดีตฮูหยินน้อย!”
สิ่งที่รั่วเฟิงกล่าวทำให้ ลู่ซินเหว่ยตั้งใจฟังอีกฝ่าย และไม่รู้เหตุใด หญิงสาวรู้สึกหึงหวงขึ้นมาซึ่งไม่ใช่กับรั่วเฟิง หากเป็นฮูหยินน้อย... เช่นนี้หมายความว่า ซานเกอเคยมีภรรยาเป็นตัวเป็นตนมาแล้ว มิหนำซ้ำเขายัง ให้คนส่งนางมาอยู่ที่นี่
คนชั่ว ใจคอเขาช่างโหดร้าย
“เอาล่ะ เห็นว่าโง่เขลา และเป็นสตรีตัวคนเดียว ข้าจะปล่อยให้เจ้าอยู่ที่นี่สักพัก นอนกับผี ก็คงดีแหละ และรู้ไว้ด้วยฮูหยินน้อยนั่น นางตายโหงที่เรือนหลังนี้ !”
เอ่ยจบรั่วเฟิงกับคนของตนก็จากไป ปล่อยให้ลู่ซินเฟิงที่เนื้อตัวสกปรก และมีกลิ่นเหม็นยืนเหม่อลอยอยู่เช่นนั้น
หญิงสาวเช็ดน้ำตาบนหน้าตนเอง และรู้สึกว่าฟ้าช่างโหดร้ายนัก ให้นางมาอยู่ในเงื้อมือของซานเกอไม่พอ ยังกักขังนางไว้บนเกาะ ทั้งปล่อยให้ผู้อื่นมาทำร้ายด้วย นางคือองค์หญิงเก้า ลู่ซินเหว่ยเชียวนะ และยังเป็นผู้ถือตราเคลื่อนทัพอันสำคัญอีกด้วย!
ลู่ซินเหว่ยนึกท้อต่อโชคชะตาตนอยู่นานพักใหญ่ๆ ก่อนรวบรวมแรงกายอย่างยากลำบาก แล้วก้าวไปในเรือนหลังเล็ก นางกวาดตามองหาที่ชำระคราบสกปรกกับกลิ่นเหม็น
ในยามนั้น นางพบว่า มีใครคนหนึ่งกำลังเทน้ำร้อนใส่อ่างไม้ พร้อมผสมบางอย่างลงไป กลิ่นแปลกๆ ทั้งยังชวนให้มึนศีรษะ
“เจ้าเป็นเมีย ของนายท่าน”
คนที่ถามลู่ซินเหว่ย ท่าทางเป็นมิตร นางมีดอกไม้ประดับบนผม และแก้มก็ทาสีชมพูน่ารัก ผิวออกขาวเหลือง ทั้งเจ้าเนื้ออยู่ด้วย
“จะ เจ้าเป็น ฮะ ฮู หยิน นะ น้อย”
อันที่จริงลู่ซินเหว่ยสมควรเลิกเล่นละครเป็นสตรีเบาปัญญาได้แล้ว ด้วยอีกฝ่ายอายุคงเฉียดสามสิบปี จะเป็นฮูหยินน้อยได้เยี่ยงไร แต่ก็นั่นแหละ นางอยากให้ตนปลอดภัย พร้อมปกปิดฐานะที่แท้จริงเอาไว้
“โอ๊ย...ไม่ใช่ ใครอยากเป็นผีกันเล่า ข้าคือ อาฉุน เรียกพี่ฉุนก็ได้ ต่อไปจะอยู่ที่เรือนหลังนี้ เป็นเพื่อนเจ้า”
คนที่เอ่ยคืออาฉุน นางเป็นสตรีทึนทึก และยังไม่ออกเรือน เนื่องจากเคยถูกผู้ชายถอดหมั้น และทำให้นางเป็นม่ายทั้งที่ยังไม่เข้าหอ
“ถิงถิง...”
ลู่ซินเหม่ยชี้ที่ตัวเอง
“เอ่อๆ ๆ แม่นางถิงถิง เมื่อครู่ ข้าเห็นใจเจ้านะ แต่ให้ออกไปเจ็บตัวด้วย ข้าก็ไม่เอาหรอก รั่วเฟิง เป็นนางปีศาจของเกาะเผิงหนาน และใครจะรู้ วันข้างหน้าหากนางอาจปีนขึ้นเตียงกับนายท่านสำเร็จ และเมื่อนางได้เป็นฮูหยินใหญ่ ก็คงไล่คิดบัญชีกับคนที่บังอาจทำเรื่องขวางหู ขวางตานางแน่นอน”
ได้ฟังเสิ่นฉุนเอ่ยเช่นนั้น ลู่ซินเหว่ยก็ไม่อยากโทษอีกฝ่าย และนางจำเป็นต้องอยู่รอดบนเกาะนี้
“เจ็บ... ถิงถิง เจ็บ มะ เหม็นด้วย”
นางฟ้องเสิ่นฉุน และทำท่าจะโผเข้าไปกอดอีกฝ่าย
“โถ อดทนหน่อยเถิด ใครใช้ให้เจ้างดงาม มีผิวขาว และร่างบอบบางเพียงนี้ รั่วเฟิงย่อมอิจฉา และข้ายังได้ยินว่า นายท่านอยู่กับเจ้าตั้งสามคืนสามวัน อูย... เรื่องนี้ ไม่ธรรมดาเลย”
ลู่ซินเหย่ามองหน้าเสิ่นฉุน และแก้เรื่องนี้ให้ถูกต้อง ด้วยความจริง หญิงสาวพบซานเกอที่เมืองไป๋จู้ก่อนขึ้นเรือ
ซึ่งในหอมวลผกา ก็เป็นนางที่เข้าห้องเขาผิด ซ้ำร้ายยังใจกล้าช่วยถูเนื้อตัวเขา ซึ่งหวิดจะเป็นฝ่ายนวดขาที่สามให้ชายหนุ่มผ่อนคลายด้วยซ้ำ และนับว่านางยังมีสติอยู่บ้างจึงรอดพ้นคืนพิศวาสนั้น โดยไม่ต้องเสียตัวให้ซานเกอ แต่พอขึ้นเรือ ฝ่ายเขาก็จัดการนางอย่างหื่นกระหาย
“สี่... สะ สี่คืน สะ สามวัน!”
เมื่อลู่ซินเหว่ยเอ่ยอย่างนั้น เสิ่นฉุนก็หัวเราะดังลั่น
“เจ้ามันแน่จริงๆ ปัญญาอาจไม่ทัดเทียมผู้อื่น พูดจาก็ไม่ลื่นไหล แต่เรื่องอุ่นเตียงเจ้าคงถูกสอนมาดีสินะ เอ ว่าแต่...เจ้าไม่ถูกป้อนน้ำแกงสลายการตั้งครรภ์ หรือ ยาลูกกลอนโลหิตเงิน(ลูกอมปรอท) สินะ มิเช่นนั้น คงเดินเหินไม่คล่อง และมีแรงเยอะเช่นนี้”
สิ่งที่เสิ่นฉุนถาม ทำให้ลู่ซินเหว่ยหนาวจับขั้วหัวใจ ใช่...นางยังไม่ได้ดื่มน้ำแกงสลายการตั้งครรภ์ แต่การอาบน้ำขี้เถากับหญ้าฝรั่นนั้น ดูเหมือนว่ากำลังจะเกิดขึ้น ด้วยน้ำอุ่นในอ่างไม้นั้น ถูกผสมบางอย่างลงไป
“เอาล่ะ เปลื้องผ้าออกให้หมด แล้วไปล้างตัว จากนั้นก็มาลงที่อ่าง ข้าจะช่วยถูตัว และแต่งชุดใหม่ให้เจ้า”
ลู่ซินเหว่ยก้าวขาไม่ออกในตอนนั้น แม้ท่าทางเสิ่นฉุนจะมากด้วยไมตรี แต่นางกลัวว่า ตนจะได้รับอันตราย จากการอาบน้ำอุ่นนั้น
“เอ้า อย่ามัวโอเอ้ สักพัก นายท่านก็กลับมาแล้ว ขืนเจ้ายังสกปรกเช่นนี้ คงได้รับโทษเป็นแน่!” เสิ่นฉุนไม่เพียงแค่ออกคำสั่ง นางยังเข้าไปช่วยถอดเสื้อผ้าของลู่ซินเหว่ย ที่ยามนี้แสดงความกลัวออกมาอย่างน่าสงสาร