ความบริสุทธิ์เป็นเช่นนี้
สองมือหยาบกร้านของเขาเล้าโลมลู่ซินเหม่ยไม่หยุด นางไม่เคยถูกชายใดปลุกเร้าอารมณ์เช่นนี้ กระนั้นพอรู้ว่าชายหญิงมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งเช่นไร ตัวนางอายุเลยวัยปักปิ่นมาเกือบปี ฝ่ายในของวังหลวงจึงสอนหลายสิ่งให้ รวมถึงสิ่งที่เกี่ยวพันถึงการเข้าหอกับบุรุษ ทว่าสถานการณ์ยามนี้ มันโลดโผนเกินว่าที่ลู่ซินเหว่ยจะคาดคิด
อีกทั้งคนสัปดนยังบ้าตัณหา เขามิหยุดพ่นถ้อยคำน่ารังเกียจออกมา “เด็กโง่ เมื่อได้เป็นเมียโจร ชีวิตนี้ย่อมประเสริฐ โดยเฉพาะโจรสลัดนามว่า ซานเกอ”
อึดใจต่อมา หญิงสาวอยากจะเม้มริมฝีปากอดกลั้นเสียงตน เพื่อหักห้ามความรัญจวนใจ แต่เขาก็ทำเรื่องน่าเกลียดอีกจนได้ ด้วยการส่งกลัวซาที่เพิ่งเย้าหยอกกับเนื้อนิ่มฉ่ำชื้นเข้าปากนาง
“เลียสิ... อมมันด้วยยิ่งดี เจ้าจะได้ไม่ร้องโหยหวนให้ผู้อื่นอิจฉา รู้หรือไม่ บนเรือนี้เก็บเสียงไม่ค่อยได้ และถึงคลื่นจะแรง สายลมพัดผ่านตลอด แต่เสียงครวญคราง ยามเนื้อกระทบเนื้อ มันมักไม่อาจรอดพ้นหูผู้อื่น”
เขาบอกนางแล้วก็ใช้มือมือยกเอวคอดขึ้นสูง จากนั้นความอึดอัดจึงถูไถร่องสวาท
“ถิงถิง...”
ซานเกอเรียกนางเสียงทุ้มเป็นครั้งแรกกระมั้ง ซึ่งน่าฟังและชวนให้ใจหวั่นไหว แม้ชื่อดังกล่าว จะเป็นนางที่สวมรอยผู้อื่น กระนั้นเขาก็ทำให้ลู่ซินเหม่ย ตกอยู่ในห้วงความหวานล้ำ ราวกับถูกบุรุษที่รักเอาอกเอาใจ
“ไหน เรียกพี่ปู้หยาง สิ...”
เขาอยากให้นางเรียก และครางชื่อจริงตนเฉิงปู้หยาง ด้วยซานเกอ เป็นบุตรบุญธรรมของอดีตราชาโจรสลัด และนามเดิมของชายหนุ่ม คือ เฉิงปู้หยาง
ฝ่ายลู่ซินเหว่ยหัวหมุนไปหมด พอเขาสั่ง นางก็ไม่ได้อิดออด ด้วยยอมรับว่ากำลังหลงใหลต่อบุรุษที่คลั่งตัณหาผู้นี้
ซึ่งอีกฝ่ายนั้น เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย และเขาก็แสดงออกว่า พึงใจต่อการตอบรับจากนาง
หน้าอกอวบสวยเด้งสู้มือใหญ่ กลีบหวานฉ่ำแฉะก็เหมือนจะดูดความใหญ่โตของเขาหายไปตลอดลำ
“อื้ม... ความบริสุทธิ์เป็นเช่นนี้”
ลู่ซินเหว่ยอับอาย แต่ซ่านสยิวใจ “อย่าได้กังวล ไม่ว่าเจ้าจะมีสมองแค่เด็กสามขวบ หรือเป็นยายแก่ร้อยกว่าปี หากข้าต้องการให้เป็นภรรยา เจ้าย่อมต้องรับหน้าที่นั้นโดยไร้การขัดขืน”
ลู่ซินเหว่ยขนลุกซู่ๆ ซึ่งนางไม่กล้าขยับบั้นท้าย และเป็นมือใหญ่ๆ ที่ช่วยจับเพื่อให้ทุกอย่างเข้าที่ กระนั้นนางก็ครางไม่เป็นภาษา ทั้งจุก คับแน่น เจือความเสียวจับใจ
“แค่หัว... เจ้าก็ทำให้ข้าแทบหลั่ง!”
ชายหนุ่มกล่าวเช่นนั้น เพราะนางบีบรัดแน่น พร้อมส่งเสียงน่ารักออดอ้อน
“พะ พะ พี่ปู้.. ถะ ถิง ถะ ถิงปวดฉี่!”
“ชู่ว์... เหลวไหล เจ้าไม่ได้อยากถ่ายเบา เชื่อข้าสิเด็กโง่”
เขาบอกนางแล้ว จึงพยายามแทรกความใหญ่โตเข้าไปลึกกว่าเดิม ยามนั้นชายหนุ่มรับรู้ได้ว่า ร่างที่นั่งทับเขา โดยหันหลังให้เกร็งจนเกินไป
“ผ่อนคลาย เจ้าต้องไม่ทำตัวแข็งเป็นหิน”
ยิ่งเขาพูดอย่างนั้น ลู่ซินเหม่ยก็ตระหนก นางไม่กล้าขยับตัวแล้ว และเรื่องนี้ไกลเกินที่นางคาดคิดไว้
ซานเกอ คือบุรุษที่ได้เชยชมนาง เขาจะเป็นสามีของลู่ซินเหว่ย องค์หญิงแห่งแคว้นอี้ !
“อี้ๆ ๆ พี่ปู้... ถิงถิงกลัว” เอ่ยจบร่างของนางจึงสั่นน้อยๆ ฝ่ายซานเกอแม้ใจร้าย และหื่นโหดเช่นไร ก็อดสงสารไม่ได้ดังนั้น จึงไม่เร่งเร้าแทรกแก่นกายเข้าไปลึกว่านั้น เขาปล่อยให้นางนั่งในท่าเดิม แล้วช่วยนวดเนื้อตัว
“เด็กโง่... เจ้ารู้จักการเสร็จสม ภายนอกหรือไม่...”
ซานเกอถาม ให้ตายเถิด เขาประเมินความสามารถสตรีผู้นี้น้อยเกินไป
สิ่งที่เขาถามไม่รอให้นางตอบ จากนั้นร่างของลู่ซินเหม่ยถูกจับให้ไปนอนบนตั่งไม้ และเขาช่วยจัดท่าทางให้นางกอบกุมสองเต้าให้แนบชิดกัน อึดใจต่อมา สิ่งที่ชวนให้ตื่นตะลึงพลันประจักษ์ต่อดวงตากลมโต
แก่นกายอวบและมีเส้นเลือดขึ้นตลอดลำ เสือกเข้าไปอยู่ตรงกลางร่องหน้าอกอวบอัด
“จงบีบรัดข้า ให้เหมือนกับที่เจ้าใช้น้องสาวกระทำเมื่อครู่สิ”
ลู่ซินเหว่ย อยากปฏิเสธ ทว่านางเกิดความคิดใหม่ หากรีบช่วยให้บุรุษผู้นี้ ปล่อยความสุขออกมาให้ไว เขาคงหมดแรง จากนั้นนางจะได้ตัดตัวเดียวอันเดียวของเขาทิ้งเสีย แล้วตามด้วยการควักหัวใจสีดำเน่าๆ ออกมาเหยียบให้แหลกเละคาฝ่าเท้า
หลายชั่วยามต่อมา ลู่ซินเหว่ยไม่มีโอกาสหนีไปไหน ทุกอย่างคล้ายเป็นแผนการของคนหื่นโหด นามว่าซานเกอ นางถูกพาตัวลงจากเรือ โดยชายอำมหิตได้ใช้ผ้าปิดตานาง สองมือก็ถูกมัดไพล่หลังแม้จะบีบน้ำตา และร้องบอกเขาว่าเจ็บ ทว่าเขาก็ทำเป็นหูหนวก ตาบอด มองไม่เห็นความทุกข์ของนาง
ผู้ชาย อำมหิต ป่าเถื่อน ทั้งยังจงใจทำให้นางขายหน้าผู้อื่น คนดีๆ ที่ไหนจะกระทำต่อผู้หญิงเช่นนี้ อีกทั้งนางสติเลอะเลือน ไม่ต่างจากเด็กสามขวบอย่างที่เขาบอก มิหนำซ้ำ ระหว่างเขากับนางก็มีเรื่องลึกซึ้งด้วยกันแล้ว
หลายเสียงซุบซิบกัน ในขณะที่นางก้าวลงเรือ
“ผู้หญิงจากเมืองไป๋จู้... ไฉนถึงตัวเล็ก และเอวคอดกิ่วเพียงนั้น”
“นางผู้นี้หรือที่จะมาแขวนป้ายห้อยคอ รับแขกในซ่องท้ายเกาะ!”
สิ่งที่คนเหล่านั้นคุยกัน ทำให้หัวใจลู่ซินเหว่ยหดเกร็ง นางตกสวรรค์โดยแท้ เป็นองค์หญิงอยู่ดีๆ กลับต้องมาอยู่ในเกาะนรก โดยมีซานเกอ เป็นพญายมคอยชี้ชะตาชีวิตให้แก่นาง
บัดซบ!
มารดาท่านเถอะซานเกอ ทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจข้าเช่นนี้ อย่าหวังว่าชาตินี้ข้าจะให้อภัย!
ขณะที่ด่าทอเขาอยู่ในใจ ลู่ซินเหว่ยก็คิดถึงตราเคลื่อนทัพ ซึ่งนางนำติดตัวมาด้วย มันซ่อนอยู่ในปิ่นปักผม นับว่าโชคดีที่คนตาถั่วอย่างซานเกอไม่ทันสังเกต ส่วนเรื่องนางจะหาแม่ทัพโฮ่วพบอย่างไรนั้น ยามนี้หญิงสาวยังคิดไม่ออก แต่อย่างน้อยอีกฝ่ายคงกำลังทำการต่อเรืออยู่ และมีคนส่งข่าวว่า พบโฮ่วหรงเข่อที่เกาะหนานเผิงเมื่อหลายเดือนก่อน
นี่คือสาเหตุที่ลู่ซินเหว่ยใจกล้าบ้าบิ่นออกมาตามหาเขาเพื่อให้ช่วยเหลือการยกทัพไปจัดการรัชทายาท และฮองไทเฮาที่ตั้งใจยึดอำนาจจากอี้อ๋อง ทั้งที่ความประสงค์อี้อ๋อง อยากเปลี่ยนตัวรัชทายาทคนใหม่ โดยให้พระสนมโจวหนี่หนี่ขึ้นมาเป็นฮองเฮา แทนตำแหน่งที่ว่างอยู่ และองค์ชายห้าหวังกวงทำหน้าที่รัชทายาท ส่วนองค์ชายรอง หวังเทาผู้เป็นรัชทายาทในยามนี้ ให้ไปดูแลหัวเมืองทางใต้แทน เนื่องจากเขาส่องสุ่มกำลังคนมากมาย อีกทั้งคบค้ากับขุนนางกังฉิน ดังนั้นอี้อ๋องจึงไม่อาจให้ก้าวขึ้นเป็นมังกรแคว้นอี้ได้
กระทั่งลู่ซินเหว่ยถูกเปิดผ้าปิดตา และแก้เชือกมัดมือ นางจึงแสดงสีหน้าไม่พอใจ ทั้งยังทำตาขวางใส่ผู้อื่น อาการของนางดูราวเด็กสามขวบอย่างสมจริง
“เฮ้อ ทั้งที่นางปัญญาอ่อน ไฉนนายน้อย ถึงต้องให้คุ้มกันด้วย”
“โถ เพราะปัญญาอ่อน นายน้อยเลยกลัวนางจะกระโดดลงทะเล แล้วถูกฉลามคาบไปกิน ยามนี้หมดหน้าที่พวกเราแล้ว ส่งนางที่เรือนก็พอ”
อู๋ซีหลุนเอ่ย และเขามักกระเซ้าเย้าแหย่เหลียงฮั่นที่เป็นเพื่อนในวัยเดียวกันเสมอ ทั้งคู่เป็นลูกน้องซานเกอ มีฝีมือไม่ต่ำทราม ติดเพียงแต่ไม่ค่อยฉลาดเท่าที่ควร แต่ไว้ใจได้ซานเกอจึงให้มาส่ง ลู่ซินเหว่ยที่เรือนพัก
“แม่นางถิงถิง พวกข้าส่งได้เพียงเท่านี้ ขาดเหลือสิ่งใด เดี๋ยวจะมีเด็กมารับใช้เจ้า”
ยามนั้นลู่ซินเหว่ยหันหน้าหันหลัง นางยอมรับว่ารู้สึกแปลกใจกับสถานที่แห่งนี้ และเนื้อตัวเหนียวเหนอะ อยากอาบน้ำ
“อย่าได้กังวล ที่นี่มีน้ำจืด อาหารครบทุกมื้อ มิต่างจากเมืองอื่น เพียงแต่ไม่มีกฎหมายแคว้นอี้ควบคุม ไม่มีทหารบ้าอำนาจ พวกเราดูแลกันเอง และขึ้นตรงกับนายน้อยซานเกอ!” คนที่ตอบคือเหลียงฮั่น เขาผิวเข้มอยู่สักหน่อย พูดจาฉะฉานไร้แววรักสนุกอย่างอู๋ซีหลุน
ฝ่ายหญิงสาวยังหวาดหวั่นทุกอย่างรอบกาย แปลกที่ไม่พอ ดูเหมือนเรือนหลังนี้จะไม่มีรั้วรอบขอบชิด ใครไปมาก็คงบุกถึงตัวนางได้ทันที
“ถิง...ถิง... นะ นายท่าน” ลู่ซินเหว่ยเอ่ย และอันที่จริงใจอยากพบซานเกอ อยู่ใกล้คนเผด็จการ และหื่นโหดคงดีกว่า เผชิญหน้ากับคนอื่นที่นางไม่อาจรู้หน้ารู้ใจ
“อย่ากังวล พวกเรารู้ แม่นางถิงถิง เป็นสตรีที่นายท่านใช้เวลาที่ดีด้วยตลอดสามวันสามคืนบนเรือ!”
ปากของอู๋ซีหลุนช่างไม่มีหูรูด เขากล่าวตรงเกินไป นางจึงอายหน้าแดง ส่วนเหลียงฮั่นเหมือนจะเป็นผู้ใหญ่กว่า เลยตบศีรษะรุ่นน้องไปเต็มแรง
“เจ้าควรให้เกียรตินายน้อย และแม่นางถิงถิง”
“อ้าว... คนที่เอาหูแนบกับแผ่นกระดาน เป็นเจ้าหรอกนะพี่เหลียง ส่วนข้าคอยเฝ้าต้นทางให้!”
อู๋ซีหลุนท้วงเสียงดัง และเหลียงฮั่นแยกเขี้ยว จากนั้นทั้งคู่จึงไล่ต่อยไล่เตะกันราวกับเป็นเด็กๆ ร่างสองหนุ่มห่างออกไปจนลับสายตาหญิงสาว ฝ่ายลู่ซินเหว่ยเตรียมสืบเท้าเข้าไปหาที่นั่งพัก และหาดื่มน้ำ แต่เป็นยามนั้นที่มีร่างสตรีใบหน้าขาวจัด และทาชาดสีแดงแผดเสียงแหลมๆ ขึ้น
“อร๊าย... นี่คือนังโสเภณี จากเมืองไป๋จู้ หน้าตาจืดสนิทเยี่ยงนี้ ท่าทางก็ไม่ต่างจากสตรีปัญญาทึบ ข้าได้ยินว่า ในหัวเจ้าไม่มีสมองหลงเหลืออยู่แล้วใช่หรือไม่”
คนที่ส่งเสียงเอ็ดตะโรคือรั่วเฟิง โฉมงามแห่งเกาะเผิงหนาน ตัวนางปรารถนาจะเป็นฮูหยินซานเกอตลอดมา ผิดแต่พยายามจะปีนขึ้นเตียงเขาครั้งใด มักถูกอู๋ซีหลุน กับเหลียงฮั่น หาทางผลักไสตลอด
ลู่ซินเหว่ยเกลียดคนที่มาชี้หน้า และว่าร้ายตนที่สุด ซึ่งสตรีคนนี้หยาบคายมาก
“เจ้าอยู่ที่เรือนหลังนี้ไม่ได้ ไป... ท้ายเกาะนู้น อยู่กับพวกคนงานเถื่อน เหมาะสมที่สุด”
รั่วเฟิงว่า และเตรียมสั่งให้คนที่ติดตามลากลู่ซินเหว่ยไป ทว่าหญิงสาวทั้งถ่มน้ำลาย และยื่นมือไปคว้าท่อนไม้ หวังใช้ป้องกันตัว
แต่นางคนเดียวไฉนจะสู่ผู้อื่นได้ อีกทั้งยามนี้ กำลังแสร้งเล่นละครเป็นคนปัญญาอ่อน แม้ไม้ในมือจะกำมันแน่น แต่ก็ยั้งใจเอาไว้ ไม่ฟาดใส่ผู้ใด ดังนั้นจึงสบโอกาสให้คนของรั่วเฟิง ประกบเข้าด้านหลังลู่ซินเหว่ย แล้วจับร่างนางไว้แน่น
“ฮิๆ ๆ อยากรู้นัก เด็กสามขวบ จะกล้าฟ้องเจ้าเกาะ หรือไม่ว่าตัวข้าได้สั่งสอนเจ้าให้รู้จักธรรมเนียมการต้อนรับของชาวเผิงหนาน” กล่าวจบรั่วเฟิงก็รับไข่เน่า และผักที่มีหนอนไต่ยั้วเยี้ยมา จากนั้นก็ราดใส่ศีรษะลู่ซินเหว่ย!