วันต่อมา
“ทำไมวันนี้ถึงมาเรียนสายขนาดนี้” หมั่นโถวเอ่ยถามเบลินดาที่วิ่งหอบเข้ามาในห้องเรียนในเวลาสิบโมงเช้า
“ที่บ้านมีปัญหานิดหน่อยน่ะ” เธอตอบพร้อมวางกระเป๋าลงโต๊ะเรียนแล้วหย่อนตัวนั่งลงข้างกายหมั่นโถว แอบยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาที่กลิ้งลงมาบนแก้มออกโดยไม่ให้เพื่อนสนิทเห็น
“แกร้องไห้เหรอ?” แม้เบลินดาจะแอบนั่งปาดน้ำตาโดยไม่ให้เห็น แต่ใช่เธอจะไม่รู้ว่าเพื่อนสนิทกำลังร้องไห้
“เปล่า…”
“เรื่องที่บ้านใช่ไหม?” หมั่นโถวถาม ก่อนหน้านั้นเบลินดาเคยระบายเรื่องในครอบครัวให้ตนฟัง และได้เห็นอีกมุมของเพื่อนสนิทที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
เด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ร่าเริงและมีความสดใสฉายออกมาจากแววตาตลอดเวลา ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่านั่นเป็นเพียงฉากหน้าที่เบลินดาแสดงออกมาเพื่อกลบเกลื่อนตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง
“ช่างมันเถอะ” เธอไม่อยากคิดถึงเรื่องที่บ้านเพราะยิ่งคิด ยิ่งทำให้เธอรู้สึกแย่
ตอนนี้ทางบ้านเธอประสบปัญหาหนี้สิน เพราะพ่อเธอติดการพนันแถมยังเอาบ้านไปประกันเจ้าหนี้ จำนวนเงินที่พ่อเธอเป็นหนี้ไม่ใช่น้อยๆ ทำให้แม่เธออยากหย่ากับพ่อเพื่อที่จะหลุดพ้นจากเรื่องนี้แต่ติดตรงมีเธอและน้องชาย นี่เลยทำให้แม่ไม่สามารถไปไหนได้
“แกรู้เรื่องนี้รึยัง”
“เรื่องอะไรเหรอ?”
“ตอนนี้คนในโรงเรียนลือกัน ว่าพี่อลันบินไปเรียนต่อที่ต่างประเทศเมื่อเช้านี้”
“อะ…อะไรนะ?” หัวใจเธอกระตุกวูบ เมื่อรู้ว่าคนที่ตัวเองรักได้บินไปเรียนต่อต่างประเทศแล้ว
“ฉันก็ได้ยินเรื่องนี้มาอีกที ไม่รู้ว่าจริงรึเปล่า แต่วันนี้ฉันยังไม่เห็นพี่อลันเลยนะ”
“….” เธอพูดอะไรไม่ออก รีบหยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อเช็กอินสตาแกรมของพี่อลันด้วยความลนลาน มือสั่นระริกสะเทือนมาถึงโทรศัพท์จนสังเกตได้
เธอกดเข้าไปดูสตอรี่อินสตาแกรมของอลัน เขาเพิ่งโพสต์ลงเมื่อสามนาทีที่แล้ว ภาพปีกเครื่องบินและก้อนเมฆบนท้องฟ้าทำให้หัวใจเธอพลันปวดหนึบขึ้นมา น้ำตาที่เพิ่งหายไปก่อนหน้านี้กลับมาคลอรอบดวงตาอีกครั้ง
“เขาไปแล้วจริงเหรอ…” เธอพึมพำคนเดียวเสียงสั่น “ยังไม่ได้บอกเขาเลยว่า…รัก”
“….” หมั่นโถวเลื่อนมือขึ้นไปลูบแผ่นหลังของเพื่อนสนิทเป็นการปลอบใจ เบลินดารักอลันมาก ไม่แปลกที่จะเสียใจมากขนาดนี้
“ฉันอุตส่าห์นั่งทำของไว้ให้เขาทั้งคืน อย่างน้อยๆ ก็ขอได้ให้และสารภาพรักต่อหน้าก่อนที่เขาจะบินไปเรียนต่อ ทำไมฮึก…”
“ไม่ร้อง” หมั่นโถวรั้งเบลินดามากอดปลอบด้วยความเห็นใจ เธอเข้าใจความรู้สึกของเพื่อนสนิทตอนนี้ เพราะตัวเองก็เคยผ่านเรื่องราวเหล่านี้มาแล้วเหมือนกัน เพียงแต่คนที่ตัวเองแอบรักไม่ได้บินไปเรียนต่อต่างประเทศเท่านั้น
เลิกเรียน
เบลินดาเดินเหม่อลอยออกจากประตูรั้วโรงเรียนไปยังป้ายรถเมล์เพื่อเตรียมกลับบ้าน ระหว่างเดินอยู่นั้นก็พลอยคิดถึงอลัน และช่วงเวลาที่เกิดความประทับใจในตัวผู้ชายคนนั้น
‘รังแกผู้หญิง มันไม่เท่หรอกนะ’
‘แล้วมึงมาเสือกไรด้วยวะ’
‘ก็แค่เห็นแล้วมันขัดตา’
‘อยากทำตัวเป็นพระเอกรึไงถึงได้เข้ามาแส่!’
‘กูไม่ใช่พระเอก แต่กูแค่ไม่ชอบเวลาเห็นผู้หญิงโดนรังแกและเอาเปรียบ’
เธอจดจำทุกคำพูดและแววตาที่เย็นชาของเขาในวันนั้นได้ดี…ไม่เคยลืม
‘ใส่ซะ ถ้าไม่อยากเดินกลับบ้านสภาพนี้’
‘ขอบคุณนะคะ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะ…’
‘ฉันมีเสื้อแบบนี้หลายตัว เอาไปเถอะหรือไม่อย่างนั้นก็เอาทิ้งไปเลยก็ได้’
‘….’
‘เป็นผู้หญิงตัวคนเดียวแต่กล้ามาเดินซอยเปลี่ยวในตอนกลางคืน ถ้าฉันไม่ผ่านมาเห็น ป่านนี้เธอคงกลายเป็นของเล่นพวกมันไปแล้ว’
‘ขอบคุณนะคะที่ผ่านมา…’
‘บ้านอยู่ไหน’
‘อยู่…อ๊ะ! จะทำอะไรคะ’
‘ฉันไม่ปล้ำเธอหรอกหน่า แค่จะไปส่ง’
เธอยกมือปาดน้ำตาตลอดทางเดินไปยังป้ายรถเมล์ หัวใจยังคงรู้สึกปวดหนึบตลอดเวลา ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้เจอพี่อลันอีกไหม หรือถ้ามีโอกาส วันนั้นคงนานมากแน่ๆ ถ้าในอนาคตได้เจอกันอีก ขอให้ความรู้สึกเธอที่มีต่อเขาเป็นแบบนี้ไม่เปลี่ยนแปลง
เธอจะรอวันที่เขากลับมา…