ช่วงสายของวันที่มีข่าวของวณาวรรณ อาคมก็เดินถือโทรศัพท์สมาร์โฟนที่มีข่าวของวณาวรรณกับอภิวัตรเข้ามาถาม
"คุณหลินนี่มันอะไรกัน คุณทำแบบนี้หมายความว่ายังไง คุณจะคบกับไอ้ลูกชายเศรษฐีคนนี้เหรอตอบผมมานะคุณหลิน" อาคมถามวณาวรรณด้วยความโกรธ และหึงหวง
"อาคม! ไปกันใหญ่แล้วนะนักข่าวมันก็เขียนสร้างเรื่องเพื่อขายข่าวเท่านั้นแหละไม่ได้มีอะไรหรอกอย่าคิดมากสิ ฉันก็แค่เจอกับคุณธรรพ์เขาที่งานเปิดตัวคอนโดเท่านั้นวันนี้ฉันอยากนวดสปาเธอขับรถพาฉันไปหน่อยสิไม่ต้องไปสนใจข่าวหรอก" วณาวรรณบอกอาคมแสดงออกให้เห็นว่าไม่ได้มีอะไร แต่แท้ที่จริงแล้ววณาวรรณอยากได้อภิวัตรจนตัวสั่น
"ให้มันจริงเถอะครับ"
อาคมขับรถพาหลินไปนวดสปาตัวอาคมเองก็นวดด้วยหลังจากนวดสปาเสร็จหลินก็ไปเดินซื้อข้าวของเครื่องใช้โดยมีอาคมคอยเดินตามถือของให้ เมื่อได้ข้าวของครบวณาวรรณก็บอกอาคมว่าจะกลับบ้านแล้ว อาคมขับรถพาหลินกลับมาถึงบ้านช่วงหัวค่ำ เมื่อจอดรถเสร็จเรียบร้อยอาคมก็เดินลงไปเปิดประตูให้หลิน
"คม เดี๋ยวตามไปอาบน้ำให้ฉันที่ห้องนะ"
"ไหนคุณหลินบอกว่าอยากลองที่ห้องของผมบ้างยังไงละครับ วันนี้เปลี่ยนบรรยากาศกันหน่อยดีไหม" อาคมพูดชักชวน
"ไม่เอาห้องเธอมันแคบร้อนด้วย" หลินพูดแสดงท่าทางรังเกียจห้องของอาคม
"แต่บางทีถ้าเราแบบว่า ได้ทำกันในที่แคบๆ อากาศร้อนๆเหงื่อโซกๆ บางทีมันอาจจะตื่นเต้นมากก็ได้นะคุณหลิน" อาคมชักนำในแววตาครุ่นคิดเชิญชวนหลินอย่างเต็มที่
"เอาอย่างนั้นเหรอ อือก็ได้แต่ฉันเอาของไปเก็บและขอไปหยิบของที่ต้องใช้ข้างบนก่อนนะ คมรอฉันแป๊บเดียวเดี๋ยวฉันจะรีบลงมา อย่าเพิ่งอาบน้ำนะฉันอยากอาบกับคม" หลินพูดและแสดงท่าทางยั่วยวนเชิญชวนอาคม
ค่ำคืนนี้หลินคงอิ่มเอมในรสรักที่อาคมมอบให้ รสราคะเร่าร้อนดิบเถื่อนที่อาคมปรนเปรอให้ หลินไม่เคยได้รับจากผู้ชายคนไหนทั้งที่เป็นดารานายแบบก็ไม่เคยทำให้วณาวรรณติดใจได้เท่ากับอาคม แม้ว่าบางครั้งอยากเปลี่ยนรสชาติบ้างแต่สุดท้ายหลินก็ต้องกลับมาหาอาคมอยู่ดี แม้แต่สามีเก่าอย่างดร.กฤษณะ ที่อ่อนโยนเอาอกเอาใจ หลินกลับมองว่ามันจืดชืดไม่มีรสชาติ จึงได้แอบเล่นชู้กับอาคมคนขับรถของพ่อมานานปี จนสามีอย่างกฤษณะจับได้และฟ้องหย่าไปแต่งงานใหม่ เรื่องราวที่เกิดขึ้นถ้าไม่ใช่พ่อของหลินขอร้องกฤษณะไว้ เรื่องความคาวของหลินก็คงคาวกระฉ่อนไปทั้งวงสังคมชั้นสูง
มีหลายต่อหลายครั้งที่พออิ่มเอมในรสรักที่อาคมมอบให้ หลินก็อยากจะเลิกยุ่งเกี่ยวกับอาคม เพราะอาคมเป็นเพียงคนขับรถไม่มีการศึกษาซ้ำร้ายยังมีลูกมีเมียแล้ว แต่หลินก็ไม่สามารถตัดใจจากรสรักของอาคมได้ยังคงวนเวียนมาเสพสุขจากเรือนร่างของอาคม หลินรู้สึกผิดในใจอยู่บ้างจึงคิดอยากให้เมียและลูกของอาคมมีชีวิตใหม่ที่ดีขึ้นจึงให้เงินเมียของอาคมก้อนใหญ่เพื่อเป็นการซื้อสามีของผู้หญิงคนนั้นมาบำรุงบำเรอตนเองเพียงแค่คนเดียว และช่วยลบล้างความรู้สึกผิดบาปที่ไปแย่งผัวเขามาลงไปได้บ้าง
ฝั่งอภิวัตรไม่ได้สนใจข่าวไร้สาระที่เกิดขึ้น พักหลังอภิวัตรกลับบ้านบ่อยขึ้นจนคุณหญิงมารตีและเจ้าสัวถึงกับเอ่ยปากถามว่าทำไมพักหลังอภิวัตรถึงกลับมาบ้านบ่อยๆ
"อ้าวเจ้าธรรพ์ ทำไมเสาร์นี้ถึงอยู่ติดบ้านละลูก เช้านี้แม่ทำข้าวต้มปลาจะกินเลยไหมลูกแม่จะได้ให้เด็กตั้งโต๊ะให้" คุณหญิงมารตีถามลูกชายเมื่อเห็นว่าลูกชายเดินลงมาจากห้องนอนด้านบน
"ผมยังไม่ค่อยหิวเลยครับแม่ขอกาแฟดำสักแก้วก็พอครับ ว่าแต่ลูกสาวแม่เขายังไม่ตื่นหรือครับยังไม่เห็นหน้าเห็นตาเลยวันนี้" ธรรพ์ถามหาบุษบาวรรณ
"อ๋อ หนูบุษหรือลูกเพื่อนเขามารับไปทำproject งานกลุ่มอะไรของเขาตั้งแต่เช้าแล้วละ" คุณหญิงบอกลูกชาย
"อะไรกันออกไปอีกแล้ว เพื่อนที่ไหนไปทำงานที่ไหนแล้วจะกลับกี่โมงครับแม่" ธรรพ์ถามแม่อย่างหัวเสียเพราะวันนี้เขาเป็นคนสั่งไม่ให้ลูกน้องตามบุษบาวรรณเขาตั้งใจจะมาเฝ้าที่บ้านด้วยตัวเองแต่ดันผิดแผนเสียได้
"แล้วธรรพ์จะอารมณ์เสียทำไมเนี่ยแม่ไม่เข้าใจ ธรรพ์จะไปยุ่งอะไรกับน้องนักหนาละลูกน้องจะไปเรียนไปทำงานกลุ่มไปเที่ยวบ้าง มันก็ตามประสาของนักศึกษาไหมล่ะธรรพ์" คุณหญิงมารตีถามลูกชายด้วยความไม่เข้าใจทำให้ธรรพ์ได้สติและพูดเสียงเบาลง
"แล้วเขาไปกับใครกัน แม่เคยเห็นเพื่อนเขาหรือเปล่าครับ" ธรรพ์ถามคุณหญิงมารตี
"ที่มาที่บ้านบ่อยๆ ก็ยายหนูปุยนุ่นนะเป็นเพื่อนสนิทหนูบุษเขาตั้งแต่มัธยมแล้ว แต่วันนี้ที่มารับเป็นผู้ชายมาด้วยกันกับหนูปุยนุ่นนั่นแหละแต่แม่จำชื่อไม่ได้นะแต่งตัวดี ผิวเข้มๆเหมือนคนทางใต้ แต่ดูจากข้าวของเครื่องใช้แม่ว่าน่าจะเป็นลูกคนมีฐานะดีเชี่ยวแหละธรรพ์" คุณหญิงเล่าให้ลูกชายฟังยิ่งเป็นการเพิ่มอุณหภูมิของความเดือดให้กับธรรพ์เข้าไปอีกเพราะรู้ดีว่าไอ้ผู้ชายคนนั้นชื่อ ตะวันเป็นลูกชายเจ้าของรีสอร์ตทางใต้
"ครับ ถ้าอย่างนั้นผมจะออกไปหากาแฟดื่มข้างนอกนะครับ" ธรรพ์บอกกับแม่แต่ในใจนั้นคิดจะไปตามตัวบุษบาวรรณต่างหาก เมื่ออาบน้ำแต่งตัวเสร็จธรรพ์ก็ขับรถคันหรูของตัวออกจากบ้านและได้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาบุษบาวรรณด้วย
"สวัสดีค่ะ เอ่อ! ไม่ทราบว่าจากไหนคะ" บุษบาวรรณรับสายและถามไปว่าใครโทรมา เมื่อธรรพ์ได้ยินดังนั้นก็อยากบอกออกไปมากกว่า "ว่าที่ผัวของบุษเอง" แต่ก็ยั้งปากยั้งใจไว้ได้เลือกที่จะไม่พูดและตอบไปว่า
"พี่เอง เห็นแม่บอกว่าบุษมาทำproject กับเพื่อนที่คณะพี่ตื่นมาตอนเช้าก็ไม่เห็นแล้ว" ธรรพ์พูดกับบุษบาวรรณพยายามทำเสียงให้เป็นปกติ
"ค่ะ ใช่ค่ะมาทำงานที่คณะค่ะ คุณธรรพ์มีอะไรกับบุษหรือเปล่าคะ"บุษบาวรรณถามอภิวัตร
"เปล่า พอดีพี่มาเจอเพื่อนแถวมหาวิทยาลัยน้องบุษพอดี เสร็จธุระแล้วเดี๋ยวพี่จะแวะเอาขนมไปให้อยู่กับหลายคนหรือเปล่า แล้วอยู่ถึงเย็นไหมครับ"ธรรพ์ถามบุษบาเสียยืดยาว
"น่าจะถึงบ่ายสามโมงเพราะมะนาวมีงานอีเว้นแถวสยามต่อ เลยว่าจะไปให้กำลังใจเพื่อนต่อค่ะ คุณธรรพ์ไม่ต้องมาหรอกค่ะบุษเกรงใจอีกอย่างบุษต้องรีบทำงานด้วย" บุษบาวรรณบอกธรรพ์
"ครับ งั้นเอาอย่างนี้เดี๋ยวตอนเที่ยงพี่สั่งอาหารไปจะได้ทานข้าวช่วงพักเที่ยงไม่ถือเป็นการกวนใจบุษด้วย เพราะยังไงก็ต้องพักกินข้าวตกลงไหมครับ" ธรรพ์พูดเสนอความเห็น
"ไม่เป็นไรค่ะ คือตะวันเขาสั่งร้านอาหารมาส่งแล้วค่ะ ไม่รบกวนคุณธรรพ์ค่ะ บุษต้องวางสายแล้วนะคะบุษต้องรีบทำงานค่ะสวัสดีค่ะคุณธรรพ์" บุษบาวรรณบอกธรรพ์เรื่องอาหารแล้วตัดบทและวางสายไปยิ่งเป็นการทำให้ธรรพ์โกรธบุษบาวรรณมากขึ้น อภิวัตรกำโทรศัพท์แน่นด้วยความไม่พอใจ คนอย่างอภิวัตรไม่เคยต้องตามจีบตามง้อผู้หญิงคนไหนนานๆ แต่คนอย่างอภิวัตรไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆหรอก
พอถึงเวลาเที่ยงอภิวัตรก็ปรากฏตัวที่คณะของบุษบาวรรณในมือถือถุงกาแฟแบรนด์ดังมาหลายถุงเดินเข้ามาทักทายบุษบา
"เป็นไงบ้างครับน้องบุษงานคืบหน้าถึงไหนแล้วครับ พี่เป็นห่วงเลยแวะมาดู"ธรรพ์เข้ามาทักบุษบาวรรณ ทำให้เพื่อนๆของบุษบาวรรณทุกคนหันมองมาที่บุษบาวรรณด้วยสายตามีคำถามว่า ผู้ชายคนนี้เป็นใครหรือ
"อ้าวคุณธรรพ์มาได้ไงคะเนี่ย" บุษบาวรรณถามด้วยความตกใจ
"จะไม่แนะนำเพื่อนๆให้พี่รู้จักหน่อยเหรอ" ธรรพ์ถามและส่งยิ้มให้กับเพื่อนๆของบุษ
"เอ่อ ทุกคนจ๊ะนี่คุณธรรพ์เป็นลูกชายเจ้าสัวกับคุณหญิง เจ้าของบ้านและผู้มีพระคุณของบุษเองจ้ะ" บุษบาวรรณแนะนำธรรพ์ให้กับเพื่อนๆรู้จัก บรรดาเพื่อนๆของบุษบาวรรณจึงยกมือไหว้สวัสดีธรรพ์
"ยินดีที่ได้รู้จักนะครับทุกคน จริงๆแล้วผมเป็นว่าที่คู่หมายของน้องบุษเขาครับ พอดีพ่อกับแม่ผมเขาเห็นว่าบุษบาวรรณยังเรียนไม่จบเลยยังไม่ได้จัดการเรื่องของเราให้เป็นเรื่องเป็นราวครับ นี่ที่มาเรียนออกแบบก็เพราะต้องเรียนเพื่อไปช่วยงานว่าที่สามีนั่นแหละครับ" ธรรพ์ประกาศชัดเจนต่อหน้าเพื่อนๆของบุษบาวรรณ ตอนพูดก็ชำเลืองมองไปยังตะวันเพื่อสังเกตดูอาการถึงได้ทราบว่าไอ้หมอนี่มันหน้าสลดลงเลย แสดงว่ามันต้องมีใจให้แม่บุษบาวรรณของเขาไม่เป็นไรเดี๋ยววันนี้พ่อจะเล่นเสียให้หนักเลยอภิวัตรคิดในใจ
"คุณธรรพ์พูดอะไรคะมานี่เลยนะคะ" บุษบาวรรณว่าธรรพ์แล้วฉุดแขนธรรพ์เดินออกมาคุยให้พ้นจากกลุ่มเพื่อนก่อนจนเดินมาถึงรถของธรรพ์ที่จอดอยู่หน้าตึก
"คุณธรรพ์พูดอะไรรู้ตัวหรือเปล่า บุษไม่ได้เป็นอะไรกับคุณทั้งนั้นพูดแบบนี้บุษเสียหายนะคุณธรรพ์" บุษบาวรรณต่อว่าอภิวัตร
"เสียหายยังไงพี่ก็แค่บอกเพื่อนบุษว่าพี่กับบุษเราเป็นคู่หมายกัน หรือบุษกลัวไอ้หน้าจืดลูกชายนายหัวทางใต้คนนั้นมันจะเข้าใจผิด กลัวมันจะไม่ให้ความสนใจบุษหรือเปล่า" อภิวัตรถามบุษบาวรรณด้วยอารมณ์หึงหวง
"บุษจะคิดยังไงมันก็เรื่องของบุษ แต่คุณธรรพ์ไม่มีสิทธิ์มาทำให้บุษต้องอับอายเพื่อนๆ" บุษบาวรรณว่าอภิวัตร
"อับอายเหรอ อับอายมากเลยใช่ไหมเดี๋ยวพี่จะเข้าไปบอกเลยว่าเป็นผัวของบุษ" อภิวัตรพูดขึ้นเสียงและทำท่าจะเดินเข้าไปด้านในอีกรอบ
"คุณธรรพ์! หยุดก่อนคุณธรรพ์! โอเคๆคุณธรรพ์บุษขอร้องคุณกลับไปก่อนได้ไหมคะ บุษจะรีบทำงานงานเสร็จแล้วบุษจะได้รีบกลับบ้าน" บุษบาดึงแขนอภิวัตรไว้และยอมผ่อนหนักผ่อนเบายอมขอร้องอภิวัตร
"ก็ได้ เห็นแก่ที่บุษขอร้องบุษเข้าไปทำงานต่อให้เสร็จพี่จะไปนั่งทำงานรอที่ร้านกาแฟแถวๆ นี้ก่อน บุษเสร็จแล้วพี่จะแวะมารับ" อภิวัตรพูดอย่างเป็นต่อ
"ไม่ต้องรอหรอกค่ะ บุษกลับกับปุยนุ่นและตะวันได้กลับทางเดียวกันอยู่แล้ว"บุษบาพูดแต่คำพูดที่บอกว่าจะกลับกับตะวันยิ่งเพิ่มแรงหึงหวงให้ธรรพ์เข้าไปอีก
"พี่จะรอ ตามนี้แหละไม่ต้องเถียงพี่จะมารับ" ธรรพ์พูดน้ำเสียงหงุดหงิด
เมื่อธรรพ์กลับไปแล้ว บุษบาวรรณก็กลับมายังกลุ่มเพื่อนที่กำลังนั่งทำงานอยู่ เพื่อนๆมองมาที่บุษบาวรรณอย่างมีคำถามปุยนุ่นเป็นคนแรกที่เปิดปากถามขึ้น
"ไงจ๊ะยายบุษ มีคู่หมายตั้งแต่เมื่อไหร่ทำไมถึงไม่บอกฉัน เล่ามาเลย"ปุยนุ่นถามบุษบาวรรณสีหน้าคาดคั้นเอาจริง
"ไม่มีอะไรไม่มีคู่หมายอะไรทั้งนั้น อย่าไปฟังคุณธรรพ์เขาเลยเขาแค่อยากเอาชนะฉันแค่นั้นรีบทำงานเถอะอย่าไปสนใจเขาเลย" บุษบาวรรณพูดแก้ตัวและตัดบทไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้อีก
"ไม่มีได้ไงวะ เขาบอกว่าแกมาเรียนออกแบบเพื่อไปช่วยงานว่าที่สามีนี่อะนะไม่มีอะไร" ปุยนุ่นถามเอาจริงเอาจังไม่ยอมหยุดถามจนกว่าเพื่อนจะยอมเล่าความจริง
"ก็เรียนไปช่วยงานคุณท่านไง" บุษบาวรรณแก้ตัว
"ใช่ ไม่มีได้ไงวะปุยนุ่นของฉันพูดถูกต้องเลยหรือว่าเขาบังคับใจบุษหรือเปล่า" ชาคริตสนับสนุนความคิดของปุยนุ่นและถามบุษบาด้วยความเป็นห่วงกลัวธรรพ์จะรังแกเอา
"ให้มันน้อยๆหน่อย ปุยนุ่นของแกอะไรวะไอ้ชาคริตฉันสิเมียแก" เติ้ลพูดขัดคอชาคริตและเริ่มหาเศษหาเลยกับเพื่อนพอได้ขำๆเล่น
"ไอ้บ้าฉันขนลุก เดี๋ยวมีแตะ" ชาคริตพูดว่าเติ้ล
"เอาละๆ ฉันว่านะถ้าบุษมันบอกว่าไม่มีอะไรก็อย่าไปซักมันให้มันมากเรื่องมากความนักเลยถึงเวลามันก็เล่าเองแหละ ถามคาดคั้นมันไปคำตอบก็ไม่ได้งานก็ไม่เสร็จ" มะนาวพูดให้สติเพื่อนๆ
"บุษก็บอกอยู่ว่าไม่ได้คิดอะไรกับคุณธรรพ์ ฉันว่าเรามาทำงานต่อกันเถอะนะ" ตะวันพูดแต่ก็แอบซ่อนความกังวลใจเอาไว้ ตะวันรู้ดีว่าธรรพ์เอาจริงดูเขาห่วงบุษแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของอย่างเต็มที่ แต่เขาไม่สนหรอกยังไงเสียตราบใดที่บุษบาวรรณยังไม่ได้ตัดสินใจเลือกธรรพ์เขาก็มีสิทธิ์เช่นกัน เมื่อได้บทสรุปทุกคนก็ลงมือทำงานของตัวเองต่อ
พอบุษบาเสร็จงานธรรพ์ก็แวะมารับบุษบาวรรณ บุษบาวรรณจึงบอกธรรพ์ว่าตนจะไปให้กำลังใจมะนาวที่กำลังจะไปเดินแบบงานอีเว้นท์ที่จัดขึ้นที่ห้างดังใกล้ๆกับมหาวิทยาลัย แต่ธรรพ์กลับบอกกับมะนาวและเพื่อนๆว่าเขามีธุระด่วนต้องพาบุษบาวรรณกลับบ้านเพราะเป็นคำสั่งของเจ้าสัวและคุณหญิงมารตี
"งานเสร็จแล้วใช่ไหมบุษไปขึ้นรถสิ จะได้รีบกลับบ้าน" ธรรพ์มาถึงตึกคณะก็เห็นบุษบาวรรณและเพื่อนๆกำลังเก็บของกันอยู่
"แต่บุษบอกคุณธรรพ์แล้วนะคะว่าบุษจะไปดูมะนาวเดินแบบ แล้วจะกลับบ้านเอง" บุษบาบอกกับธรรพ์
"นั่นสิครับคุณธรรพ์ผมไปส่งบุษเองก็ได้ครับ" ตะวันพูดขึ้นบ้าง
"ไม่เป็นไรครับมันเป็นหน้าที่ของผมที่ต้องมารับบุษเขาอยู่แล้ว" ธรรพ์พูดกับตะวันเสียงเย็นแสดงอาการไม่ค่อยชอบใจนักและหันไปคุยกับบุษบาวรรณต่อ
"พี่ก็บอกกับบุษแล้วว่าจะมารับบุษ อีกอย่างแม่พี่สั่งมาให้รีบมารับบุษกลับบ้านแม่มีธุระด่วนกับบุษ โทรไปถามแม่ก็ได้นะโทรเลย" ธรรพ์บอกบุษบาและท้าให้บุษบาวรรณโทรหาคุณหญิงมารตี
"ค่ะ งั้นบุษกลับกับคุณธรรพ์ก็ได้ขอเวลาช่วยเพื่อนเก็บของก่อนนะคะ" บุษบาวรรณบอกกับอภิวัตร
"ไม่ต้องหรอกบุษรีบไปเถอะ เดี๋ยวปุยนุ่นกับเพื่อนๆช่วยกันเก็บเอง" ปุยนุ่นบอกเพื่อนเพราะไม่อยากให้ธรรพ์ต้องรอนาน
"มะนาวบุษขอโทษด้วยนะไม่ได้ไปดูเดินแบบ ไว้คราวหน้านะ"บุษบาวรรณหันไปบอกมะนาวและลาเพื่อนๆทุกคนกลับบ้านพร้อมกับอภิวัตร
"กลับก่อนนะครับทุกคน คราวหน้าผมขออนุญาตเป็นเจ้ามือเลี้ยงข้าวนะครับ" ธรรพ์พูดกับเพื่อนๆของบุษบาวรรณหน้าตายิ้มแย้มพูดเสร็จก็จูงมือพาบุษบาวรรณไปที่รถ
"ขึ้นรถได้แล้ว ให้พี่มาเฝ้าทั้งวันเลยวันนี้ต้องให้รางวัลพี่ด้วยนะ" ธรรพ์พูดกับบุษบาวรรณทำหน้าตาชอบกลใส่และเหมือนคนที่กำลังครุ่นคิดอะไรอยู่
"ไม่ได้บอกให้คุณธรรพ์มาเฝ้าสักหน่อย ไล่ให้กลับก็ไม่ยอมกลับเองนะคะ" บุษบาวรรณว่าอภิวัตรอย่างเหลืออดในความหน้าทนของเขา
"เออ!... พี่มาเฝ้าเองโอเคพี่อยากมาเฝ้าบุษเอง" ธรรพ์พูดและหันไปขับรถอย่างตั้งอกตั้งใจแต่เส้นทางที่กำลังไปไม่ใช่ทางกลับบ้าน บุษบาวรรณเลยถามธรรพ์ด้วยความตกใจ
"เอ๊ะ! คุณธรรพ์คุณจะพาบุษไปไหนคะนี่ไม่ใช่ทางกลับบ้านนะคะ" บุษบาวรรณถามสีหน้าตกใจ
"ใช่ ก็ไม่ได้พากลับบ้านแต่กำลังพาไปอยุธยา" อภิวัตรตอบบุษบาวรรณหน้าตานิ่งเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น