กลิ่นเหม็นฉุนของบุหรี่จากคิระพลอยทำให้เธอรู้สึกแสบจมูกตามไปด้วย เสียงปืนสงบลงแล้วต้องมาสู้รบกับกลิ่นบุหรี่ที่คุณว่าที่สามีกำลังยืนสูบอยู่ข้างๆต่อ
คิระเปิดรถให้เธอนั่ง ส่วนเขายืนพิงรถอยู่ข้างๆสูบบุหรี่อย่างสบายใจ อาการแพนิคก่อนหน้านี้ของเธอหายไปแล้ว ทุกอย่างกลับสู่ภาวะปกติ มีพ่อป็นมาเฟียแต่นิสัยดันขัดกับฉายา ‘ลูกสาวมาเฟีย’
กลัวเสียงปืน ไม่ชอบการใช้ความรุนแรง และขี้สงสาร…
เป็นถึงลูกสาวมาเฟียแต่ดันมีนิสัยขัดการที่มีพ่อเป็นมาเฟีย หากเป็นคนอื่นคงใช้อำนาจที่มีในทางไม่ดี ใช้รังแกคนไม่มีทางสู้ และกดคนอื่นให้จม แต่พ่อแม่ไม่เคยสอนเธอและพี่ชายให้เป็นคนแบบนั้น
“เมื่อไหร่พี่คิระจะสูบบุหรี่เสร็จ แสบจมูก” เวลาหายใจเข้าก็พลอยเอาควันบุหรี่เข้ามาด้วย แสบจมูกชะมัด…
บุหรี่ในมือคิระถูกทิ้งลงพื้น รองเท้าราคาแพงบดขยี้จนแหลก จังหวะที่คาร์เทียร์เอ่ยขึ้นสูบบุหรี่หมดมวนพอดี
“ลุกออกมาจากรถฉันได้แล้ว”
“ชิ… ขี้หวง” เธอบ่นอุบแต่ก็ยอมลงมาจากรถให้เขา
“รอบนี้ฉันอนุโลมให้ ถ้ามีอีกรอบหน้าอย่าหวังว่าเธอจะรอด”
คาร์เทียร์คลี่ยิ้มด้วยความดีใจอย่างเปิดเผยท่ามกลางสายตาคิระที่มองดู
“พูดแล้วนะว่าอนุโลมให้”
“หรือว่าอยากทำ?” ไม่ว่าเปล่าแต่ยังก้าวเข้าไปหาคาร์เทียร์
“มะ…ไม่เอา!” เธอบอกเสียงดังฟังชัดพร้อมกับยกมือดันแผงอกคิระที่ก้าวเข้ามาใกล้ออก ใบหน้าแดงซ่านขึ้นมาเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ ไหนจะสัมผัสชวนสยิวและ… รสจูบ
“หึ นึกว่าจะแน่” เขายืนมองคาร์เทียร์ที่วิ่งหนีไปอย่างรวดเร็วพร้อมกับส่ายหน้าไปมา ก่อนจะเดินกลับเข้าไปข้างในบาร์อีกครั้งเพราะรามิลรออยู่
•••
ภาพหลอน…
เธอนอนไม่หลับทั้งคืนเพราะภาพหลอนที่คิระทำไว้เมื่อคืน ทำให้วันนี้ตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการปวดหัวเพราะนอนหลับไม่เต็มอิ่ม
“ฮืออ จะบ้าตาย” เธอนอนดิ้นแดบนเตียงนอนราวกับคนบ้า นึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนทีไรเกลียดตัวเองทุกทีที่ยอมเขาง่ายๆแบบนั้น
ถึงเขาสัมผัสเธอไม่มาก แต่นั่นคือการถูกผู้ชายสัมผัสเยอะที่สุดในชีวิตของเธอแล้ว อีกนิด… คิระจะจับนมเธออยู่แล้ว!
“รู้แบบนี้ปล่อยเขาไปขึ้นสวรรค์ชั้นเจ็ดหรือชั้นสิบกับผู้หญิงคนนั้นดีกว่า” ไม่น่าสวมบทบาทเมียหลวงจำเป็นเลยจริงๆ คนซวยคือเธอ
เย็นนี้มีนัดเจอครอบครัวคิระ เป็นการเจอครอบครัวเขาครั้งแรก แอบกังวลเล็กน้อยเพราะไม่รู้ว่าทางฝั่งนั้นเป็นอย่างไร
เธอลุกออกจากเตียงนอน จัดการเก็บเตียงนอนให้เป็นระเบียบแล้วเดินเข้าห้องน้ำเพื่อทำธุระส่วนตัวที่ทำเป็นประจำหลังจากตื่นนอน
หลังจากอาบน้ำเสร็จเธอเริ่มสั่งอาหารร้านประจำ วันนี้ไม่ได้ไปไหนจึงเลือกสวมใส่เสื้อผ้าสบายๆ กางเกงวอร์มสีเทาและเสื้อกล้ามสีขาว ผมที่ยังไม่สระถูกมัดรวบขึ้นเป็นดังโงะ
ระหว่างกำลังนั่งกินข้าวพลางเปิดซีรีส์บนไอแพดดูตามไปด้วย หากไม่ได้ดูอะไรขณะกินข้าวมันทำให้เธอกินข้าวได้ไม่อร่อย
ข้าวมื้อนี้เป็นทั้งข้าวเช้าและข้าวเที่ยง
ติ๊งต้อง~
เสียงกริ่งทำให้เธอละสายตาจากไอแพดไปมองต้นเสียง กดหยุดซีรีส์เรื่องโปรดที่กำลังดู ลุกขึ้นแล้วเดินไปส่องตาแมวเล็กๆดูว่าใครมา
คิระ…
ไม่ได้ตาฝาดไปใช่ไหม? นั่นเขา
ดูอีกรอบให้แน่ใจว่าใช่หรือเปล่า จะดูอีกกี่รอบก็คือเขา เขามาทำอะไรที่นี่ หรือเปลี่ยนใจจะให้เธอชดใช้เรื่องเมื่อคืน!
แกร๊ก
รวบรวมความกล้าเปิดประตู เธอแง้มออกเพียงเล็กน้อย โผล่แค่สายตาออกไปมองคิระ
“มีอะไรเหรอคะ?”
พรึ่บ!
เขาดันประตูออกให้กว้างพอที่ก้าวเข้าไปข้างในได้โดยไม่สนใจว่าประตูจะโดนส่วนไหนของร่างกายว่าที่ภรรยาหรือเปล่า
“แบบนี้เรียกว่าบุกรุกนะคะ!” หันไปว่าเขาด้วยน้ำเสียงและสีหน้าไม่พอใจ ขอเข้ามาดีๆก็ได้ทำไมต้องบุกรุกด้วย
คิระยื่นถุงจากแบรนด์หรูแบรนด์หนึ่งในมือให้คาร์เทียร์
“อะไรคะ?”
“แม่ฉันให้เอามาให้เธอใส่ไปเย็นนี้” เมื่อวานแม่เขาไปชอปปิง เห็นชุดนี้สวยและน่ารักจึงซื้อมาให้ว่าที่ลูกสะใภ้ใส่ไปทานอาหารเย็นนี้ด้วย
“แม่พี่คิระให้เทียร์เหรอ?”
“ใช่” วานเขาให้เอามาให้คาร์เทียร์ทั้งที่ธุระก็ไม่ใช่ คงอยากให้เขาและคาร์เทียร์กระชับความรู้สึกกันมากขึ้น ซึ่งมันไม่มีทางเป็นไปได้อย่างแน่นอน
“ฝากขอบคุณแม่พี่คิระด้วยนะคะ” เธอรับมาทั้งที่อยากปฏิเสธ ในเมื่อแม่เขาตั้งใจให้เธอใส่ไปเย็นนี้ แถมคิระยังอุตส่าห์ขับรถเอามาให้เธอคงไม่กล้าปฏิเสธ
“พี่คิระรู้จักคอนโดเทียร์ได้ยังไง” เธอสงสัยมาก
“ไม่ได้หายากขนาดนั้น”
เธอไม่ถามต่อ พูดมาขนาดนี้ก็น่าจะรู้แล้ว เรื่องนี้แค่ไม่ยากเกินไปสำหรับคนอย่างคิระ เรื่องไหนที่เขาต้องการรู้มีหรือจะไม่รู้
“งั้นหมดธุระแล้วพี่คิระก็กลับไปสิคะ”
“แม่ฉันให้รับเธอไปด้วยเย็นนี้”
“อ้อ… ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวเทียร์ขับรถไปเอง” คิระเดินไปนั่งลงโซฟาของเธออย่างถือวิสาสะ ดูทรงแล้วเขาคงไม่กลับง่ายๆ หรือไม่ก็รอไปพร้อมเธอเย็นนี้เลย
เหตุการณ์เมื่อคืนทำให้เธอระแวงที่จะอยู่ใกล้เขา
“กลัวฉัน?”
กลัวสิถามแปลกๆ เธอพูดในใจ แต่ตอบเขาอีกแบบ
“เปล่าค่ะ แค่ไม่ชอบให้คนแปลกหน้าเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในพื้นที่ส่วนตัว”
มุมปากหยักผุดรอยยิ้มเมื่อคาร์เทียร์บอกว่าตนเป็นคนแปลกหน้า ร่างสูงหยัดกายขึ้นอีกครั้ง ก้าวเข้าไปหาว่าที่ภรรยาที่เริ่มถอยกรูดออกห่าง
“พะ…พี่คิระจะทำอะไร”
“เปลี่ยนคนแปลกหน้าให้เป็นผัวเธอไง”
เธอกลืนน้ำลายลงคอดังเอือก รู้แบบนี้ไม่เปิดประตูต้อนรับดีเขาดีกว่า แบบนี้ไม่ต่างจากการเปิดประตูรับโรคจิต
หมับ!
“ว๊าย!” เธอเซถลาเข้าไปหาคิระตามแรงกระชากเมื่อครู่ แนบชิดไปกับร่างกายที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อ กลิ่นน้ำหอมประจำตัวเขาเจือด้วยบุหรี่จางๆ คือเสน่ห์ชั้นดีที่ใช้ดึงดูดเพศตรงข้าม
“ปล่อยเทียร์นะคะ” ยิ่งดิ้นเขายิ่งกอดรัดเธอแน่นมากขึ้นปานงูเหลือม พอหยุดดิ้นก็คลายกอดออกให้
จังหวะเขาโน้มใบหน้าลงมาใกล้แล้วมีเพียงลมหายใจกั้น วินาทีนั้นพลันทำหัวใจเธอเต้นแรงดั่งคนกำลังรัวกลอง
ใกล้มากเกินไปแล้ว…
ยิ่งใกล้มากความหล่อเหลาและมีเสน่ห์ของเขายิ่งแผ่ซ่านชวนหลงใหล แววตาที่เคยเย็นชาตอนนี้เต็มไปด้วยความร้ายกาจ แน่นอนมันทำให้คนมองอย่างเธอ… เผลอใจสั่น
“ใกล้กันขนาดนี้ ยังเป็นคนแปลกหน้าอยู่ไหม”
“มะ…ไม่แล้ว พะ…พี่คิระปล่อยเทียร์สักที” เขายอมปล่อยเธอแต่โดยดี พอเป็นอิสระเธอก็รีบเผ่นหนีไปอย่างรวดเร็ว เก็บไอแพด ข้าวที่ยังกินไม่หมด และของที่แม่คิระให้มาไปด้วย
ไม่รอให้ตาแก่มาเฟียเจ้าเล่ห์คิระทำแบบนั้นอีกแน่!
คิระมองตามคาร์เทียร์ เป็นอีกครั้งที่เขาส่ายหน้าไปมากับท่าทางชวนตลกของเธอ
คาร์เทียร์เป็นผู้หญิงคนแรกที่เขาอดทนด้วยนานขนาดนี้
หากเป็นคนอื่นคงเสร็จเขาไปนานแล้ว…