จุ๊บ!
“!!!!”
คาร์เทียร์ยืนเบิกโพลงด้วยความตกใจเมื่อริมฝีปากของตัวเองสัมผัสลงกับปากของว่าที่สามีอย่างไม่ได้ตั้งใจ วินาทีนั้นเหมือนโลกทั้งใบกำลังหยุดหมุนลงชั่วขณะ พอได้สติแล้วก็รีบผละออกจากอีกฝ่ายทันที
เมื่อครู่เธอไม่ได้ตั้งใจให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น มันเป็นอุบัติเหตุ ไอร้อนเริ่มแผดเผาไปทั่วใบหน้าจนสัมผัสได้ หัวใจเต้นรัวราวกับจะหลุดออกมาจากขั้วรอมร่อ
นั่นมัน… ครั้งแรกของเธอ
“ขะ…ขอโทษค่ะ ทะ…เทียร์ไม่ได้ตั้งใจ” บอกคิระเสียงสั่น เหตุการณ์นั้นทำให้เธอทำตัวไม่ถูก
สวิตช์ถูกสลับเปลี่ยนกลับเป็นคุณหนูมาเฟียคนเดิม และสรรพนามที่ใช้เรียกแทนตัวเองว่า ‘ฉัน’ ก็ถูกเปลี่ยนเป็นเรียกแทนชื่อของตัวเอง
“ก็แค่ปากชนปากกันทำไมต้องทำหน้าตกใจขนาดนั้น” คิระพูดขึ้นมาเสียงเรียบ
ในขณะที่เธอกำลังทำตัวไม่ถูก เขากลับทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่แปลกใจที่คิระจะนิ่งขนาดนั้นผิดกับเธอ เพราะเขาคงจูบกับผู้หญิงมาเยอะจนนับครั้งไม่ถ้วน แค่ปากชนปากกับเธอถือว่าเล็กน้อย
“หรือว่าไม่เคยทำมาก่อน?”
“กะ…ก็มีต้องตกใจบ้างสิคะ” เธอตอบกลับอย่างตะกุกตะกัก ปากชนปากเพียงแค่ครั้งเดียวทำเธอเสียอาการไปเลย
เกิดมาอายุยี่สิบสองปียังไม่เคยทำแบบนี้กับผู้ชายคนไหนมาก่อน ถามว่าเคยอยากลองไหม? แน่นอนอยากลองอยู่แล้ว แต่เธอไม่ใช่คนประเภทที่ใครก็ได้
“หึ เด็กจริงๆ”
“ว่าใครเด็กคะ”
“เธอ”
“บรรลุนิติภาวะแล้วไม่นับว่าเด็ก”
“ยังดูเหมือนเด็กอยู่ดี”
ตอนแรกก็เสียอาการเพราะปากชนปากกับคิระ แต่พอเขาบอกว่าเธอเด็กเท่านั้นแหละ โกรธจนควันออกหูทันที ว่าอะไรก็ได้แต่อย่ามาว่าเธอเป็นเด็กเชียวนะ!
งานนี้คาร์เทียร์ไม่ยอมอย่างเด็ดขาด!
“เป็นยังไงบ้างคะ… ว้าวว พอใส่ชุดแต่งงานแล้วมายืนอยู่ด้วยกันดูเหมาะสมกันมากเลยค่ะ” เจ้าของร้านชุดแต่งงานเดินเข้ามาในห้องลองชุด
พอเห็นคิระและคาร์เทียร์ในชุดแต่งงานยืนอยู่ด้วยกัน ออร่าความสวยหล่อแผ่ซ่านออกมาจนอดชมไม่ได้
เหมาะสมเหมือนกิ่งทองกับใบหยกมากจริงๆ
“อยากลองสวมชุดไหนเพิ่มอีกไหมคะ”
“เทียร์ไม่แล้วค่ะ ชอบชุดนี้”
“คุณคิระล่ะคะ”
“ไม่แล้วเหมือนกันครับ”
“ได้เลยค่ะ ถ้าทั้งสองคนอยากปรับแก้ตรงไหนแจ้งกุลได้เลยนะคะ”
“ชุดสวยมากเลยค่ะคุณกุล แทบไม่มีอะไรต้องปรับแก้เลย” เธอบอก ‘กุล’ ที่เป็นเจ้าของร้าน ถึงเธอไม่ได้อยากแต่งงานกับคิระ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าชุดแต่งงานที่คุณกุลออกแบบมันสวยสะกดตามาก
คู่รักที่แต่งงานส่วนใหญ่ชอบมาใช้บริการที่นี่ บางคนถึงขั้นสั่งตัดขึ้นมาโดยเฉพาะ
“กุลดีใจที่คุณคาร์เทียร์ชอบนะคะ ชุดนี้กุลเป็นคนตัดเย็บเองกับมือ เห็นคุณคาร์เทียร์ชอบกุลก็ดีใจค่ะ งั้นกุลขอตัวไปจัดการเรื่องชุดให้ก่อน เชิญทั้งสองคนตามสบายเลยนะคะ”
“ค่ะ”
พอกุลเดินออกไป คาร์เทียร์จึงหันหน้ากลับไปมองคิระเพื่่อเอาเรื่องก่อนหน้านี้ที่อีกฝ่ายว่าตน ‘เด็ก’
“ฉันไม่เด็กแล้วรู้เอาไว้ซะด้วย”
“ไม่แทนตัวเองว่าเทียร์แล้วเหรอ”
“ยกเว้นคุณคนเดียว”
“งั้นเหรอ” ริมฝีปากหยักได้รูปเหยียดไปด้านข้างเล็กน้อย เริ่มเดินเข้าไปหาเธอ ขณะที่นัยน์ตาดำมืดลงดูน่ากลัวจนคาร์เทียร์ถึงกับหน้าถอดสี
“จะ…จะทำอะไร” ปากถามเสียงสั่นในขณะที่เท้าทั้งสองกำลังถอยออกห่างจากคิระ
เขาจะทำอะไรเธอ แววตาร้ายกาจนั้นคืออะไร ไม่เหมือนคนเย็นชาก่อนหน้านี้เลยสักนิด ทำเอาเธอทำอะไรไม่ถูก มิหนำซ้ำยังหวาดระแวงคิระอีกด้วย
มัวแต่ถอยหนีคิระจนลืมสนิทว่ากระโปรงตัวยาวหลอมเท้า ทำให้สะดุดชายกระโปรงตัวเองอีกครั้ง…
“ว๊าย!”
หมับ!
คิระคว้าเอวบางเอาไว้ในตอนที่คาร์เทียร์หงายหลังเพราะสะดุดชายกระโปรงของตัวเอง ร่างบางกระแทกใส่ว่าที่สามีเต็มแรง
เธอตกใจอีกครั้ง และความแนบชิดนี้ทำให้ได้กลิ่นตัวที่หอมสะอาดจากเขส เจือด้วยน้ำหอมอ่อนๆไม่มีกลิ่นแอลกอฮอล์ผสมเหมือนคืนนั้น และแน่นอนว่ากลิ่นตัวที่หอมสะอาดของเขาทำหัวใจเธอเต้นแรงขึ้นมาอีกครั้ง
ไม่แปลกใจถ้าผู้หญิงจะหลงเขากันเยอะ…
“ปะ…ปล่อยฉันได้รึยัง”
“จะบอกอะไรให้อย่างนึง เห็นฉันไม่อะไรด้วยอย่าคิดว่าอยากทำอะไรตามใจก็ได้ อย่าลืมว่าฉัน…อายุมากกว่าเธอ”
“…”
“ฉันอายุมากกว่าหกปี เพราะฉะนั้นคงไม่ต้องบอกว่าเธอควรวางตัวยังไงเวลาอยู่กับฉัน”
ที่ผ่านมาคิระเฉยชาใส่เธอมาโดยตลอด พอเขาเข้าสู่โหมดจริงจังดูน่ากลัวไม่ต่างจากพี่ชายของเธอเลย และดูน่ากลัวมากกว่าด้วย
“ไม่ และฉันจะทำเหมือนเดิม ถ้าคุณไม่พอใจก็แค่ไปยกเลิกงานแต่ง ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่ฉันเลย” เธอทำใจดีสู้เสือสู้คิระกลับ
“งั้นฉันคงต้องกำราบเด็กดื้ออย่างเธอเอง”
เธอขนลุกซู่ตามประโยคนั้น คิระไม่คิดล้มเลิกที่จะแต่งงานกับเธอจริงๆสินะ แต่ก็อย่างว่า การแต่งงานกับเธอคือ ‘หน้าที่’ ที่เขาไม่อาจหลีกเลี่ยง
“บอกแล้วไงว่าฉันไม่ใช่เด็ก! แล้วคุณเมื่อไหร่จะปล่อยฉันสักที”
“ฉันยังไม่ทันได้สั่งสอนเด็กที่ชอบปีนเกลียวผู้ใหญ่อย่างเธอเลย”
เขาจะสั่งสอนเธอด้วยวิธีไหน… จับตีตูดเหรอ? หรือใช้ไม้เรียวฟาดขาให้ลาย ยังไม่ทันรู้ว่าเขาจะใช้วิธีไหนสั่งสอนแต่ก็กลัวไปก่อนแล้ว
“ลองทำดูสิ ฉันจะฟ้องพ่อแม่ของคุณ” เธอเอาแม่เขามาขู่ ยังไม่รู้จักครอบครัวคิระหรอกเพราะยังไม่เจอกัน แต่ได้ยินว่าเร็วๆจะมีการนัดเจอกันของครอบครัวเขาและเธอ
ถ้าคิระทำอะไรเธอ เธอจะเอาเรื่องนี้ไปฟ้องพ่อแม่ของเขาคอยดูสิ!
“คิดว่าเอาพ่อแม่ฉันมาขู่แล้วจะกลัวเหรอ?”
“ก็ลองดูสิ”
“หึ ตามสบาย ฉันไม่กลัว ขอแค่ได้สั่งสอนเด็กขี้ปีนเกลียวอย่างเธอก็พอใจฉันแล้ว”
“คุณ… อื้อ!!” เธอเบิกตาโพลงด้วยความตกใจอีกครั้งกับการกระทำอุกอาจของคิระ
เขาจูบเธอ…
ริมฝีปากหยักได้รูปมอบประสบการณ์รสจูบที่หญิงสาวไม่เคยจูบกับใครมาก่อนให้อย่างช่ำชอง คาร์เทียร์ทำอะไรไม่ถูก จูบนี้มันทำให้สมองของเธอขาวโพลน สติสตังเลือนไปหายชั่วคราว
มือหนารั้งเอวบางเข้ามาใกล้อีกนิดจนหน้าท้องแบนราบแนบชิดเข้ากับหัวเข็มขัด เธออยากปฏิเสธจูบนี้จากเขาเหลือเกิน แต่มันก็ยากที่จะทำอย่างนั้น
จังหวะฟันแหลมคมกัดเข้ากลีบปาก กระแสความเจ็บแปลบวิ่งปราดเล่นงานจนเธอส่งเสียงในลำคอและสะบัดใบหน้าออกอัตโนมัติ แต่คิระก็จับและกดท้ายทอยเธอเอาไว้มั่น กัดกลีบปากอีกครั้งราวกับนี่คือวิธีการสั่งสอนที่เธอไปปีนเกลียวเขาจนได้กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้ง
“จำเอาไว้ว่าอย่ามาปีนเกลียวฉัน” เขาถอนจูบออกแล้วบอกคาร์เทียร์ ริมฝีปากสีระเรื่อมีเลือดไหลซึมสองจุดเพราะเขาตั้งใจสั่งสอนเธอ
“…” สมองเธอเออเร้อไปแล้ว คำพูดคิระเข้าหูขวาทะลุออกหูซ้าย เธอยังคงยืนนิ่งอึ้งกับการกระทำอุกอาจเมื่อครู่ของเขา
จูบแรกของเธอโดนขโมยไปแล้ว
และถูกขโมยไปโดย…ตาแก่คิระ!