ตอนที่ 5 : คล้ายกัน
"ดูคุณอาทิตย์จะมีความสุขที่ได้คุยกับคุณเอวานะครับ" วิรุธเห็นสีหน้าเจ้านายหนุ่มตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้ก็อดที่จะแซวไม่ได้ ตั้งแต่อยู่กับเจ้านายหนุ่มมายังไม่เคยเห็นมีรอยยิ้มแบบนี้มาก่อน
"นั่นสิ...แต่อีกไม่นานกูคงมีความสุขมากกว่านี้"
อาทิตย์พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบและเป็นตัวเองเมื่ออยู่กับเลขาคนสนิทสองคน เขามักพูดอย่างเป็นกันเองกับเลขาแบบนี้เสมอ แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่นจะพูดจาสุภาพ การได้พูดคุยที่เป็นตัวเองจริงๆทำให้เขาสบายใจและอีกอย่างวิรุธอยู่กับเขามาหลายสิบปี พ่อของวิรุธก็เป็นพี่ชายแท้ๆของพ่ออาทิตย์ ทำให้อาทิตย์เรียกพ่อของวิรุธว่าลุง แต่วิรุธยังคงเว้นระยะห่างให้ดูเหมือนเจ้านายกับลูกน้อง ไม่ได้เรียกสนิทสนมเหมือนญาติ
"ผมอยากให้คุณอาทิตย์สมหวังในความสุขเร็วๆครับ ตั้งแต่คุณสุริยาและคุณจันทราเสียผมก็ไม่เคยเห็นคุณอาทิตย์มีรอยยิ้มแบบนี้อีกเลย วันนี้เป็นวันแรกที่ผมเห็นว่าคุณอาทิตย์มีความสุขจริงๆที่ออกมาจากข้างใน ไม่ใช่เติมแต่งเมื่อต้องอยู่ต่อหน้าคนอื่น"
"....." อาทิตย์นิ่งเงียบเมื่อเลขาคนสนิทพูดถึงพ่อตัวเอง ถึงจะไม่ได้แสดงอาการเศร้าหมองแต่อารมณ์ก็ตัดไปทันที
พ่อของอาทิตย์จากไปตอนที่อาทิตย์อายุ 10 ขวบจากไปในวันเกิดของเขาพอดี ทำให้วันเกิดในปีนั้นเป็นปีสุดท้ายที่เขาจะจัดมันและเป็นวันเกิดที่จำไปจนตายเพราะมีแต่คราบน้ำตาและเลือดสีแดงสดไหลนองเต็มพื้น หลังจากนั้นเพียงเดือนเดียวแม่ของเขาก็ตรอมใจและจากไป ทำให้อาทิตย์โตมาอย่างโดดเดี่ยวแต่โชคดีที่มีพ่อของวิรุธคอยดูแลจนเขาเติบใหญ่ แต่ความอบอุ่นไม่เท่ากับมีพ่อและแม่เคียงข้าง
"ผมขอโทษครับ"
"กูไม่ถือสา...อาทิตย์หน้าจองร้านอาหารไทยร้านเดิมให้กูด้วย ส่วนเอกสารสัญญากูจะจัดการเอง"
วิรุธก้มหัวรับคำสั่งของเจ้านาย แต่รู้สึกแปลกใจที่ครั้งนี้เจ้านายหนุ่มจะเป็นคนร่างสัญญาข้อตกลงเอง ปกติแล้วเวลาทำเอกสารวิรุธจะร่างสัญญาให้เสมอ เจ้านายแค่ตรวจความเรียบร้อยเท่านั้น ถึงจะมีความสงสัยแต่ก็ไม่กล้าที่จะถาม มันคือความต้องการของเจ้านายหนุ่ม
ทางด้านของเอวา
ดวงตากลมโตมองออกไปยังถนนเบื้องหน้า แต่ภาพในหัวกลับฉายแต่ใบหน้าคมคายของคนที่พึ่งจากกันไม่ถึงสิบนาที เอวาคุยงานกับผู้คนมากหน้าหลายตาเจอทั้งหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่แต่ไม่เคยมีใครมีบทบาทถึงขั้นภาพลอยอยู่ในหัวแบบนี้มาก่อน ยิ่งรอยยิ้มของเขายิ่งทำให้หญิงสาวนึกถึง ยอมรับเลยว่าอาทิตย์เป็นหนุ่มที่อ่อนน้อมและดูเป็นสุภาพบุรุษที่สุดเท่าที่เคยเจอมา
‘ทำไมฉันต้องนึกถึงเขา ฉันควรนึกถึงเรื่องงานสิ’
ครืด ครืด...
เสียงโทรศัพท์เครื่องหรูส่งเสียงดังท่ามกลางความเงียบทำให้คนที่กำลังคิดอะไรเพลินๆหลุดออกจากภวังค์ความคิดและจดจ้องกับชื่อบนหน้าจอโทรศัพท์เครื่องหรูแทน
"แม่...ตายล่ะ ลืมไปซะสนิทเลย" เอวาสบถออกมาเบาๆก่อนจะกดรับสายและหยิบแอร์พอร์ตเหน็บเข้าที่หูเพื่อขับรถได้สะดวก พึ่งนึกขึ้นได้ว่าก่อนหน้านี้ที่โทรศัพท์หล่นไปที่พื้นแม่วิเวียนโทรเข้ามา กะว่าจะโทรกลับแต่ทำนั่นทำนี่และติดคุยงานเลยลืมไปเลย
"ค่ะแม่...เอวาขอโทษค่ะพอดีติดคุยงานกับลูกค้าเลยไม่ได้โทรกลับ" เสียงหวานขานรับทันทีและขอโทษปลายสาย
(ไม่เป็นไรจ้ะ แม่แค่อยากจะโทรมาถามว่าเย็นนี้จะกลับมานอนบ้านไหมลูก) วิเวียนพูดด้วยน้ำเสียงเอ็นดูลูกสาวและอดห่วงไม่ได้ เพราะลูกสาวคนโตทำงานหนักจนแทบไม่มีเวลาพักผ่อน ต่อให้บ่นยังไงลูกสาวคนเก่งก็ไม่ยอมหยุดพัก บ้างานไม่ต่างจากสามีตัวเองในสมัยหนุ่มๆ
"วันนี้เอวาว่าจะนอนที่คอนโดค่ะ ยังเคลียร์งานไม่เสร็จเลยค่ะ ว่าจะเข้าบริษัทไปเอาเอกสารด้วยค่ะ"
(ออกไปหาลูกค้าเหรอลูก)
"ค่ะ ลูกค้าคนสำคัญค่ะต้องออกมาคุยด้วยตัวเอง เป็นโปรเจ็คใหญ่ไม่อยากให้หลุดมือ"
(งั้นเดี๋ยวแม่ให้คนเอาอาหารไปฝากไว้ให้ที่คอนโดนะ อาหารไทยของโปรดลูกสาว แล้วก็อย่าหักโหมงานมากนะเอวา หาเวลาพักผ่อนบ้าง)
"ขอบคุณนะคะคนสวยของเอวา เอวารักแม่วิเวียนและรักพ่อคาไลน์นะคะ อ่อ...ถ้าโทรหาเอลิกซ์ฝากบอกด้วยนะคะว่าเอวาคิดถึงทุกคนเลยโดยเฉพาะหลานชาย ช่วงนี้ไม่ค่อยได้คุยกับน้องเลย ไม่รู้สร้างวีรกรรมให้มาเบลล์ปวดหัวอีกหรือเปล่า" เสียงหวานพูดร่ายยาวแต่ก็อดยิ้มไม่ได้เมื่อนึกถึงความแสบของน้องชายแต่ยังถือว่าโชคดีที่มีมาเบลล์ภรรยาสุดสวยคอยปราบพยศจนอยู่หมัด
(น้องเรานะแสบเอาเรื่องตั้งแต่ไหนแต่ไร แต่ดีที่ตอนนี้กลับตัวกลับใจรู้จักทำมาหากินสร้างครอบครัว)
"เอวาเคยพูดกับแม่แล้วว่าสักวันเอลิกซ์ต้องคิดได้ เห็นไหมคะไม่ต้องบังคับเลยทุกวันนี้มุ่งมั่นทำงานหาเงินเพื่อครอบครัว"
(ก็เพราะเราใจดีกับเอลิกซ์แบบนี้ไง น้องเลยรู้ว่าพี่สาวจัดการได้ทุกอย่าง ตอนวัยรุ่นเอลิกซ์ไม่ได้เสียคนเพราะพ่อกับแม่หรอก แต่เสียคนเพราะพี่สาวคอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง ต่อให้เอวาบ่นน้องแต่แม่รู้ว่าเอวาใจดีกับน้องมาตลอด งั้นแม่ไม่กวนแล้วนะลูก ดูแลสุขภาพด้วยนะลูกสาวของแม่ แม่รักลูก)
"เอวารักแม่ค่ะ"
ริมฝีปากบางฉีกยิ้มกว้างหลังจากผู้เป็นแม่วางสายไป คนที่บอกว่าจะใช้ไม้แข็งแต่พอถูกน้ำร้อนเป็นลูกอ้อนจากเด็กแสบเอลิกซ์ก็อ่อนยวบยาบมาหลายปี
หนึ่งอาทิตย์ต่อมา...
ร้านอาหารไทย
เท้าเรียวเล็กเดินเข้าร้านอาหารไทยตามที่ทางบริษัทของอาทิตย์ได้ส่งโลเคชั่นมาให้ แต่ถึงไม่ส่งโลเคชั่นเอวาก็มาถูก ในตอนแรกที่เลขาคนสนิทบอกชื่อร้านที่จะนัดคุยงานในวันนี้ค่อนข้างแปลกใจเพราะเป็นร้านอาหารไทยที่เอวาชอบ เป็นหนึ่งในร้านโปรดของตัวเอง ไม่คิดว่าร้านนี้จะเป็นร้านโปรดของอาทิตย์เหมือนกัน
ดวงตากลมโตพยายามสอดส่องหาคนที่นัดมาวันนี้แต่ดันสะดุดสายตากับเลขาคนสนิทของอาทิตย์พอดี ทำให้ริมฝีปากบางฉีกยิ้มเมื่อพบเจอคนรู้จัก
"สวัสดีครับคุณเอวา คุณอาทิตย์รออยู่ที่โต๊ะอาหารแล้วครับ"
เอวาเดินตามเลขาคนสนิทของอาทิตย์ไปและไม่นานก็เจอกับชายหนุ่มร่างสูงที่ไม่เจอกันหนึ่งอาทิตย์เต็มหลังจากคุยงานที่บริษัทในวันนั้น แต่มีพูดคุยกันเรื่องงานผ่านโทรศัพท์บ้างเป็นครั้งคราว
"ดูเหมือนคุณเอวาจะสงสัยอะไรในตัวผมนะครับ" อาทิตย์ชิงถามก่อนในจังหวะที่หญิงสาวร่างอรชรนั่งลงฝั่งตรงข้าม
"มีหลายเรื่องให้แปลกใจเลยค่ะ" เอวาตอบแบบตรงไปตรงมา
อาทิตย์ยิ้มกว้างกับคำตอบของเธอที่ค่อนข้างตอบตามความรู้สึกตัวเอง
"ที่นี่เป็นร้านโปรดคุณอาทิตย์เหรอคะ"
"ครับ ร้านโปรดครอบครัวผมเลย ผมทานร้านนี้มาตั้งแต่เด็ก อีกอย่างอาหารไทยร้านนี้อร่อยครับ"
"ถ้าบอกว่าร้านนี้ก็เป็นร้านโปรดของครอบครัวเอวาเหมือนกันคุณอาทิตย์จะเชื่อไหมคะ"
"จริงเหรอครับ ไม่คิดว่าใจเราจะใจตรงกันขนาดนี้นะครับ มีอะไรหลายๆอย่างที่เราคล้ายกันมาก ไม่ว่าจะขนมไทยหรืออาหารไทยก็ชอบคล้ายๆกัน แต่ดูเหมือนจะเสียท่าอุตส่าห์โชว์เหนือพามาทานอาหารอร่อยอยากให้คุณเอวาประทับใจ แต่ดูเหมือนคุณเอวาจะรู้รสชาติอาหารของร้านนี้แล้ว"
"ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ ดีซะอีกได้ทานอาหารอร่อย และยังเป็นร้านที่ตัวเองชอบ ก่อนจะเข้าเรื่องอาหารวันนี้เอวาได้เตรียมเอกสารสัญญาซื้อขายมาด้วย คุณอาทิตย์จะคุยเรื่องงานก่อนหรือจะทานก่อนดีคะ"
"ผมแล้วแต่คุณเอวาเลยครับ ผมได้หมด"
"งั้นเอวาขอเคลียร์งานให้จบก่อนนะคะ จะได้ทานอาหารอร่อยอย่างสบายใจ" เสียงหวานพูดพร้อมกับรอยยิ้มบางๆส่งตรงไปยังชายหนุ่ม
อาทิตย์พยักหน้าเห็นด้วย ไม่ได้ขัดความต้องการของหญิงสาว