มณีจันทร์ผลัดถิ่น (2) Drak Erotic

2490 คำ
ค่ำแล้วหากทว่าเพื่อนสาวยังไม่กลับเข้าเต็นท์ แฟนหนุ่มของภูริตาที่มีชื่อว่าหินก็เดินมาถามหาเอากับเธอ ได้ยินว่าจะชวนไปอาบน้ำพร้อมกันตามประสาคนรัก เธอเองก็ไม่ทราบด้วยว่า...ภูริตานั้นหายไปไหน... มณีจันทร์มุดร่างงามออกมาจากภายในเต็นท์พัก เธอชะเง้อคอมองหาเพื่อนสาว... “จันทร์...หวานกลับมาหรือยังครับ” เป็นหินที่เดินเข้ามาถามอีกครั้ง ดูสีหน้าเขาไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ คงเป็นเพราะเขายังตามหาแฟนสาวไม่เจอนั่นเอง... มณีจันทร์กระชับเสื้อคลุมพร้อมเดินเข้ามาหาชายหนุ่ม ... “ยังเลยค่ะ...นี่จันทร์กะจะไปแจ้งกับทางหัวหน้าคณะ ให้ช่วยประกาศตามหาหวานอยู่พอดี” “ถ้าอย่างงั้นเราไปพร้อมกันเลยดีกว่า...ผมเห็นพี่สายชลแกยืนอยู่ตรงเต็นท์ทำอาหารสด” หินเดินเข้ามาแตะลำแขนกลมกลึง จมูกเขาได้กลิ่นหอมอ่อนจากกายสาว ช่างเป็นกลิ่นที่ให้ความรู้สึกแตกต่างกับคนรัก รายนั้นเขาได้แต่กลิ่นฉุนจากน้ำหอมราคาย่อมเยา... หินอดใจไว้ไม่อยู่ เขาเผลอตัวสูดกลิ่นหอมชื่นใจเข้าไว้เสียเต็มปอด ก่อนพยักเพยิดให้มณีจันทร์เดินตามเขามาทางป่าปีกซ้าย ตรงบริเวณนั้น มีคนงานของคณะส่องสัตว์ จัดการกางเต็นท์เอาไว้ใช้สำหรับเก็บพวกของสด เอาไว้นำมาทำเป็นอาหารเลี้ยงคนในขบวน... “โอ๊ะ!...” สิ้นเสียงร้องร่างสูงกลับทรุดฮวบลงกองกับพื้น หินซูดปากแสดงสีหน้าเจ็บปวด มือทั้งสองข้างกุมข้อเท้าเอาไว้ ตอนนั้นมณีจันทร์เดินนำหน้าเขาไป หญิงสาวจึงรีบหันกลับมาดู ก่อนส่งเสียงหลงตอนเห็นคนเดินมาด้านหลังทรุดลงไปนั่งกองด้วยสีหน้าเจ็บปวด... “ว้าย!นั้นหินเป็นอะไรไปคะ...” “ไม่รู้สิครับ...ข้อเท้าผมเหมือนจะถูกสัตว์อะไรสักอย่างกัด...มันปวดๆแล้วก็เจ็บมากด้วย” หินบอกด้วยน้ำเสียงสั่น ใบหน้าขาวสะอาดดูเหยเกประกอบคำพูด ทำให้คนหัวอ่อนเชื่อคนง่ายกังวลใจหนักกว่าเดิม ไม่เอะใจสักนิด เหตุใดคนเจ็บถึงไม่ยอมคลายมือออกจากข้อเท้า มณีจันทร์เดินเร็วเข้ามาหาพร้อมยอบกายสมส่วนลงนั่ง... “ไหนคะ...ขอจันทร์ดูหน่อย...” ขณะมือนุ่มกำลังยื่นให้ความช่วยเหลือ โดยไม่คิดระวังภัย มือหยาบที่เมื่อสักครู่กำข้อเท้ากลับเปลี่ยนมาคว้าหมับเข้าที่ข้อมือเล็ก มณีจันทร์ยังไม่ทันได้ถามไถ่ ร่างบอบบางทว่าอวบอิ่มทุกสัดส่วนกลับถูกกระชากลงนอนกับพื้นโดยแรง.. หัวใจเต้นโครมคราม ทั้งโกรธ ทั้งตกใจ... “จันทร์...ยอมเป็นของผมเถอะนะ” “หิน...อย่าทำแบบนี้...ปล่อยเรา” ร่างสาวดิ้นรนขัดขืนไม่ยอมให้คนรักของเพื่อนใช้กำลังข่มเหงรังแกเอาได้ง่ายๆ คราแรกมณีจันทร์รู้สึกตกใจไม่น้อย ไม่น่าเชื่อเลยจริงๆ เขาจะกลายเป็นผู้ชายประเภทนี้ไปได้ สืบเนื่องจากตลอดระยะเวลาที่เห็นหินคบหาดูใจกับภูริตา เขาดูสุภาพ ไม่ใช่คนนิสัยเจ้าชู้ อีกทั้งยังให้เกียรติเพื่อนสาวของเธออย่างกับอะไรดี แต่ตอนนี้มันหมายความว่าอะไรกัน คงเป็นสันดานอีกด้านหนึ่งของเขาสินะ ผู้ชายคนนี้ หน้าอย่างหลังอย่างเสียจริง... “อย่าหิน...เราบอกให้ปล่อยไง...” “ไม่ปล่อย...เราอยากได้จันทร์เป็นเมียมานานแล้ว...ขืนปล่อยโอกาสทองครั้งนี้หลุดมือ เราคงโง่บรม จันทร์สวยถูกใจเรามานานแล้วนะ รู้ไหม?...” คนพูดส่งแววตาหื่นกระหาย มองปาดทั่วเรือนร่างบอบบาง มือหนาลูบโลมเรือนกายงดงามอย่างคนอดใจไว้ไม่อยู่ ผิวขาวราวน้ำนม อวบอิ่มเต็มไม้เต็มมือ จะจับลูบคลำหรือขยำลงน้ำหนักตรงส่วนไหนก็ให้ความรู้สึกดีเป็นบ้า ไม่เสียแรงเลย เขายอมตามใจภูริตาแฟนสาว ตามมาส่องสัตว์ด้วยครั้งนี้... มณีจันทร์รู้สึกขยะแขยงสัมผัสหยาบโลนของหิน แต่ก็ช่วยเหลือตัวเองได้น้อยเต็มที เธอยิ่งดิ้นเขายิ่งรัด ยิ่งขยับร่างกาย ยิ่งเสียดสีกันจนเธอรู้สึกใจคอไม่สู้ดี... “เราอยากเอากับจันทร์...” คำพูดตรงๆทำเอามณีจันทร์หวาดผวา หากถึงจะกลัวจนอยากร้องไห้มากแค่ไหน ทว่าเธอจะเสียสติปล่อยให้ตัวเองตกเป็นของผู้ชายคนนี้ไม่ได้เด็ดขาด ดังนั้นมณีจันทร์เลยหยุดดิ้น ยอมปล่อยให้มือไม้หยาบกระด้างลูบไล้อยู่บนเรือนกาย พร้อมใช้สมองขบคิดหาวิธีเอาตัวรอด “แต่สิ่งที่หินกำลังจะทำมันผิดศีลธรรม และก็ผิดต่อน้ำหวานด้วย...ถ้าหากน้ำหวานรู้เรื่องนี้เข้า คงได้เสียใจแย่ และเอ่อ...คงบอกเลิกกับหินเลยนะ และเราจะบอกเรื่องนี้กับน้ำหวาน ถ้าหินยังหน้ามืดไม่ยอมหยุดสิ่งที่ทำนี้อยู่...” มณีจันทร์พยายามใช้น้ำเย็นเข้าลูบ มือทั้งสองข้างกำเข้าหากันแน่น พยายามกลั้นใจยอมให้มือยุ่มย่ามของผู้ชายบ้าตัณหาป้วนเปี้ยนอยู่แถวกระดุมเสื้อ คิดว่ายังไงซะ สุดท้ายคนที่ได้ขึ้นชื่อว่ารักและหลงแฟนสาวมากอย่างหิน คงกลัวจะถูกบอกเลิก จนอาจเปลี่ยนใจเขาได้เอง... ทว่ามณีจันทร์กลับคิดผิด... “อย่างงั้นเหรอ...” แล้วนายหินก็หัวเราะลั่น “บอกอะไรให้ฟังนะจันทร์ เพื่อนของเธอมันสำส่อนยิ่งกว่าฉันเสียอีก” มณีจันทร์ไม่ได้แสดงสีหน้าตกใจตอนได้ยิน เธอเพียงขมวดคิ้ว ชักเริ่มเข้าใจสถานการณ์บางอย่าง ถ้าอย่างนั้นแสดงว่าที่ผ่านมา หินไม่ได้โง่พอจะไม่รู้ ไม่เห็นพฤติกรรมของแฟนสาวสินะ เพียงแค่เขาไม่พูดออกมาเท่านั้นเอง... เธอเคยลากภูริตามาเตือนเรื่องเกี่ยวกับพฤติกรรมไม่เหมาะสมหลายครั้ง ผลสุดท้ายเธอกลับถูกเพื่อนรักงอนใส่ ภูริตาโมโหจนไม่ยอมคุยกับเธอหลายวัน ครั้งล่าสุดถึงขั้นเกือบตัดเพื่อนกันเลยก็ว่าได้... “หินรู้?ตั้งแต่เมื่อไร แล้วทำไมถึงยอม...” มณีจันทร์กลืนก้อนแข็งลงคอ เหลือบแววตาสงสัยมองใบหน้าขาวสะอาด ที่ตอนนี้กลายเป็นใครอีกคนที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน “ไอ้ที่ฉันทนกินของเน่าอยู่ทุกวี่วัน ก็เพราะฉันยังไม่ได้สิ่งที่ต้องการแท้จริงอย่างไรเล่า...” “สิ่งที่หินต้องการคืออะไร?” “ก็เอากับเธออย่างไรเล่า...ถามอะไรโง่ๆ” คำตอบของหินทำเอามณีจันทร์สั่นสะท้าน หัวใจเธอเต้นโครมครามหวาดกลัว แววตาดับแสงจนดูมืดมนนั้นตอกย้ำให้เธอทำใจรอเอาไว้ล่วงหน้า หนนี้เธอคงรอดจากเงื้อมมือเขายากเสียแล้ว...เขาช่างดูน่ากลัวเหลือเกิน ประกอบกับมือหนากระชากเสื้อเชิ้ตตัวบางจนขาดติดมือเขาไป ก่อนร่างหนาจะโถมเข้าหาจูบฟัดใบหน้าเปื้อนน้ำตาอย่างคนหิวกระหาย... กรี๊ด! มณีจันทร์กรีดร้อง ส่ายหน้าหนีพัลวัน ไม่ยอมให้เขาจูบถูกริมฝีปากอิ่ม พยายามปกป้องตัวเองสุดกำลัง คราวนี้ทั้งมือทั้งเท้าเอาแต่คอยยันร่างหนาออกห่าง... “มึงนี่มันฤทธิ์เยอะนัก...ประเดี๋ยวเถอะ...ถ้าไม่ยอมให้กูเอาดีๆ เจ็บตัวขึ้นมา อย่าหาว่ากูไม่เตือน” หินขู่เสียงกร้าว ใบหน้าแดงสลับขาวดูถมึงทึง มือข้างหนึ่งของเขาง้างขึ้นสูง ทำท่าราวกับจะฟาดมันลงมาบนใบหน้าของเธอบัดเดี๋ยวนั้น... มณีจันทร์หลับตาปี๋ รอรับความเจ็บปวดโดยดุษฎี... “พลั๊ก!...โอ๊ะ!...โอ๊ย!” หากเพียงชั่ววินาที เสียงที่คิดว่าเป็นเสียงของเธอเอง แต่กลับไม่ใช่... ร่างกายเธอยังอยู่ดี มิได้ถูกสิ่งใดกระทบโดนด้วยซ้ำ... แต่เอ๊ะ! แล้วเมื่อกี้เสียงของใครกันเล่า? มณีจันทร์ลืมตาโพลง ก่อนจะอ้าปากค้าง นัยน์ตากลมโตเบิกกว้าง ก่อนตวัดขึ้นมองชายหนุ่มแปลกหน้า เขามีรูปร่างสูงใหญ่ กำยำเกินผู้ชายธรรมดา เขากำลังยืนเท้าสะเอว แยกขาทั้งสองข้างออกจากกัน ตอนนี้เขายืนอยู่ไม่ไกลจากร่างนอนสลบเหมือดอย่างหมดสภาพ... “หิน...” “ผัวของเอ็งหรือ...” คนถามส่งเสียงกร้าว เอี้ยวตัวมามองหญิงสาวสวยจับใจ อามันต์นึกเสียดาย ความสวย ขาว อวบอิ่ม มีน้ำมีนวล หน้าอกหน้าใจใหญ่โตจนอยากจุ่มหัวลงดูดให้หายมันเขี้ยว แต่ก็เสือกดันมีผัว... “เปล่าค่ะ...เขาไม่ใช่สามีของฉันหรอกค่ะ...” มณีจันทร์รีบปฏิเสธ ก่อนคว้าเสื้อเชิ้ตบนพื้นขึ้นมาสวมทับ มือไม้เย็นเฉียบสั่นเทา รีบปิดบังเนื้อหนังของตัวเองเมื่อชักรู้สึกใจคอไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัว...รู้สึกเหมือนกับว่ามีสายตาคู่หนึ่งพุ่งมองมาอย่างไม่น่าไว้วางใจ ถึงแม้เขาเพิ่งเป็นคนช่วยเธอไม่ให้ถูกข่มแหง แต่ก็ยังเป็นคนแปลกหน้าที่เธอไม่รู้จักอยู่ดี... “อ้อ...” อามันต์ลากเสียงยาว เขาเดินเข้าใกล้ร่างหมดสติด้วยแววตาพึงพอใจ แล้วใช้หลังเท้าเขี่ยดูอาการของคนหลับกลางอากาศ...เพียงแค่ถูกเขาแตะเสยคางแค่ครั้งเดียวเท่านั้น... ใจเซาะชะมัด อามันต์นึกเยาะหยัน... โทษฐานที่มันดันฉี่ไม่ดูตาม้าตาเรือ... “ขอบคุณมากนะคะ ที่ช่วยฉันเอาไว้” พอได้ปิดบังทรวงอกงามจากสายตาคู่คม มณีจันทร์ก็พลอยรู้สึกโล่งอกไปเปลาะหนึ่ง “หึ...ช่วย!ข้าไปช่วยอะไรเอ็งตอนไหนกัน?” อามันต์หันหน้าขวับมาหา หัวคิ้วดกหนาขมวดเข้าหากันมุ่น ร่างสูงราวกับยักษ์ยืนตระหง่าน สังเกตเครื่องแต่งกายของเขาไม่เหมือนกับคนธรรมดาทั่วไป มณีจันทร์หลุบเปลือกตาทันที เมื่อบังเอิญสบเจอกับดวงตาคมปราด หัวใจเธอชักเต้นโครมครามอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน... “ก็ที่เมื่อสักครู่นี้ คุณช่วยไม่ให้ฉันถูกผู้ชายคนนั้นข่มเหงอย่างไรล่ะค่ะ” “ฮ้า...เมื่อกี้มันจะข่มเหงเอ็งหรอกเหรอ ข้าก็นึกว่าเอ็งสองคนกำลังเล่นหนังสดกลางป่ากันอยู่ เห็นคนในเมืองเขาชอบทำกันนัก ใต้ต้นไม้ใหญ่ชายป่าฝั่งนู้น ก็เห็นมีอีกคู่หนึ่ง ขย่มกันมันหยดเชียว” อามันต์แสร้งทำเสียงตกใจ หากสีหน้ากับฉายถึงความรู้สึกน่าเอือมระอาเต็มที เอาจริงๆตัวเขาเองก็ไม่ได้ใคร่ไยดีนักหรอกว่าใครกำลังจะเอากับใครอยู่ เรื่องทำนองนี้เขาเองก็ทำจนชิน กลัดมันตอนไหนก็แค่ส่งสัญญาณเรียก ขี้คร้านจะมีแม่สาวใจกล้าในป่าทั่วทุกสารทิศ...เสนอตัวมาให้เขาระบายอารมณ์จนเลือกไม่หวาดไม่ไหว ปล่อยน้ำรักวันละครั้งสองครั้งยังได้... ตามจริงเมื่อกี้เขาก็ไม่ทันสังเกต สาวสวยนางนี้มิได้ยินยอมให้ไอ้หนุ่มนั่นเอา... เขาแค่กำลังโมโห ถูกฉี่ของมันกระเด็นโดน ตอนเขากำลังก้มฟังเสียงเท้าของแม่กว้างลูกอ่อน ที่ดันหนีเตลิดมาทางทิศนี้ต่างหาก พอเห็นหน้ามันเท่านั้นแหละ เขาเลยจัดการเอาคืนมันสักหน่อย โทษฐานดันมาฉี่ใส่เจ้าป่าอย่างเขาได้... คนฟังนั่งใบหน้าแดงซ่าน ผิวแก้มเปื้อนคราบน้ำตาร้อนผ่าว เลือดในกายร้อนระอุ อับอายกับคำบอกเล่าจากชายหนุ่มแต่งตัวแปลกประหลาด ดูเขาพูดเข้าสิ นั่นใช่เรื่องปกติธรรมดาเสียที่ไหน... “ยังไงฉันก็ต้องขอบคุณ คุณมากนะคะ ถึงคุณจะบอกว่าตั้งใจหรือไม่ตั้งใจช่วยฉันก็ตาม” มีลมวูบหนึ่งพัดผ่านมากระทบร่างสูงกำยำ อามันต์ไม่ทันตั้งตัว เขามัวแต่เหล่ตามองหญิงสาว ตามประสาชายหนุ่มเจ้าชู้ ชื่นชมความสวยของเจ้าหล่อน รูปร่างหน้าตารวมทั้งผิวพรรณขาวลออ ดังนั้นเจ้าแห่งป่าหนุ่มเลยไม่ทันตั้งตัว เขาเผลอสูดกลิ่นหอมราวดอกไม้ป่า เข้าไปเสียเต็มปอด ร่างหนาเย็นยะเยือกราวกับตกลงสู่ท้องทะเล ทั้งกว้างและลึก เกิดอาการชะงักงันผิวกายร้อนซู่ ลูกนัยน์ตาสีดำกลับกลายเป็นสีแดงเพลิง หากเพียงเสี้ยววินาทีจึงกลับเป็นสีดำตามเดิม เลือดลมในการไหลเวียนเดือดดาล พลุ่งพล่าน ความปรารถนาลุ่มลึกกึ่งกลางลำกาย บังเกิดขึ้นโดยไร้การควบคุม ลำเอ็นขยายขนาดพองโต หัวหยักกระทุ้งโดนอาภรณ์หนังสัตว์เสียดเสียว... อามันต์สะบัดศีรษะ รีบขจัดอาการซ่านสยิวโดยฉับพลัน เจ้าแห่งป่าหนุ่มดึงสติกลับมาให้มั่นคง เลยรู้ได้ทันที มีคนกำลังแอบเล่นงานเขาอยู่... บ้าชะมัด! นี่มันกลิ่นว่านรัญจวน ใครเผลอสูดเข้าไป เป็นต้องตกอยู่ในมนต์แห่งราคะจนกว่าจะได้ปลดปล่อยจนหนำใจ ย้อนนึกไปสมัยเขาเป็นวัยรุ่นละอ่อน เขาดันเผลอสูดเจ้าว่านอัปรีย์นี้เข้า กว่าอารมณ์เขาจะสงบ เล่นเอาแม่ทาร์ซานสาวสวยเดินขาถ่างไปเสียหลายวัน... เจ้าแห่งป่าหนุ่มได้แต่กัดกรามกรอด ทั้งโกรธทั้งโมโห อย่าให้เขารู้เชียว...ไอ้อีหน้าไหนมันบังอาจมาลอบกัด เล่นสกปรกเยี่ยงนี้กับเขา ไม่อย่างงั้นพ่อจะขย้ำหัวให้ขาดบรรลัยกันไปข้างหนึ่ง... เมื่ออารมณ์เร่าร้อนซึ่งเกิดขึ้นจากร่านรัญจวนไม่อาจยับยั้งไว้ได้ด้วยสติ อามันต์จึงได้แต่ปล่อยเลยตามเลย เขาคงทำดีที่สุดคือการมอบความสุขให้ผู้หญิงคนนี้ ยังดีที่ผู้หญิงตรงหน้า ทั้งสวยแล้วก็สาว อีกทั้งยังเป็นมนุษย์มิใช่ภูตผีหรือวิญญาณร้ายในป่า... “เอ็งพอมีเวลาสักสองสามชั่วโมงไหมล่ะ ข้ามีเรื่องบางอย่าง ต้องการให้เอ็งช่วยสักหน่อย” มณีจันทร์เงยใบหน้าสวยสบนัยน์ตาคมดุ อามันต์เลิกคิ้วเข้มหลังจากเดินมายอบตัวนั่งตรงกันข้ามกับร่างสาวขาวราวหยวกกล้วย เขาอยากเอื้อมมือลองลูบไล้เรือนกายตรงหน้า ภาพจินตนาการตอนเขากระเด้าเอวเข้าหาคงมันหยดติงเป็นแน่แท้... อามันต์ชะงักค้าง ก่อนลบภาพอนาจารนั้นทิ้ง ขืนเขาทำเช่นนั้นตอนนี้จริง ไก่ได้ตื่นก่อนปะไร อามันต์แอบกลืนน้ำลายตอนเหลือบเห็นร่องอกอวบอิ่ม ผิวเนื้อขาวลออมันโผล่ออกมา วับๆแวมๆ ให้น้ำลายเขาหยดติง... “ได้สิค่ะ...คุณต้องการให้ฉันช่วยอะไร บอกมาได้เลย ฉันเต็มใจจะช่วย ถ้าหากไม่ใช่เรื่องเหลือบ่ากว่าแรง” หญิงสาวผู้ไม่รู้ชะตากรรมตอบตกลงโดยไม่ทันคิดมาก อามันต์กระดิกนิ้วชี้สั่งให้หญิงสาวโน้มศีรษะเข้ามาใกล้ พร้อมกับกระซิบบอกบางอย่าง ก่อนเจ้าของร่างงามจะสัมผัสได้ถึงไอเย็นแบบเฉียบพลัน...
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม