“มีอะไร...”
พูดยังไม่ทันจบ ร่างบางก็รีบถลาเข้ามาในรถด้วยอาการตื่นกลัว ชายหนุ่มจึงเหลือบมองไปอีกฝั่งเห็นว่ามีผู้ชายสามสี่คนวิ่งตามเธอมาด้วยเขาจึงหันไปปิดประตูรถแล้วออกคำสั่งให้ ณภัทรขับออกไปทันที
“เกือบไปแล้ว” เพลงขวัญถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ พอเห็นว่าตัวเองรอดมาได้อย่างหวุดหวิดจึงรีบหันมากระพุ่มมือไหว้คนที่ช่วยเธอไว้ “ขอบคุณมากนะคะ คุณ...อ้าว...นี่คุณเองเหรอคะ”
รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าเธออีกครั้งเมื่อเห็นว่าคนที่ช่วยเธอไว้เป็นราเมศร์ ผู้ชายที่เจอกันในงานเลี้ยงตอนหัวค่ำ
“เธอนั่นเอง เกิดอะไรขึ้นล่ะ ทำไมถึงวิ่งมาแบบนั้น”
“คือหนู...มาเที่ยวน่ะค่ะ แล้วคนพวกนั้นก็อาสาไปส่ง แต่หนูไม่...ไว้ใจ” เพลงขวัญพยายามอธิบายด้วยน้ำเสียงกระเส่า รู้สึกว่าตอนนี้เหมือนกำลังมีบางอย่างเกิดขึ้นกับร่างกายของเธอ
“มาคนเดียวเหรอ”
“เอ่อ...ค่ะ” เธอจำเป็นต้องโกหกออกไป เพราะตอนนี้เป็นที่รู้กันว่าเธอมาฝรั่งเศสกับภูริตแค่สองคนเท่านั้น
“ใจกล้าดีเหมือนกันนะเนี่ย”
“ถึงยังไง...ก็ต้องขอบคุณคุณราเมศร์มาก...นะคะ...ที่...อา...” พูดยังไม่ทันจบ เธอก็ต้องหยุดชะงักเพื่อขยับขาเรียวทั้งสองข้างเข้าหากันเหมือนกำลังต่อต้านกับอะไรบางอย่าง "อื้อ..."
“เป็นอะไรหรือเปล่า” ฝ่ามือใหญ่วางลงบนไหล่เล็ก เพียงแค่สัมผัสบางเบาก็ทำให้หัวใจดวงน้อยเต้นโครมครามจนแทบควบคุมตัวเองไม่อยู่
“ปละ...เปล่าค่ะ คุณ...คุณราเมศร์ ช่วยพาหนูไปส่งที่...โรงแรมหน่อยได้ไหมคะ”
“ได้สิ ได้อยู่แล้ว”
เมื่อได้ยินเขารับปาก ร่างบางก็ทิ้งตัวนอนพิงกับเบาะรถ ท่าทางที่ดูผิดแปลกไปจากเดิมทำให้ราเมศร์นึกแปลกใจขึ้นมาทันที
“ยัยนี่ต้องโดนมอมยามาแน่ ๆ ”
“เอายังไงดีครับ” ณภัทรหันมาถามในขณะที่กำลังขับรถมุ่งหน้าไปตามถนนใหญ่ยามราตรี
“กลับไปที่โรงแรมนั่นแหละ...โอ๊ะ!” ชายหนุ่มร้องเสียงหลงเมื่ออยู่ ๆ ฝ่ามือเล็กก็ตวัดวางลงบนส่วนกลางของร่างกายเข้าเต็ม ๆ พร้อมกับเสียงหวานหยาดเยิ้มทำให้อารมณ์ที่เขากำลังข่มไว้แตกพล่านออกมาอย่างห้ามไว้ไม่อยู่
“คุณเมศร์คะ...ช่วยหนูหน่อยได้ไหมคะ”
“อย่ามาเล่นแบบนี้ ฉันไม่ใช่สุภาพบุรุษอย่างที่เธอคิดหรอกนะ”
“พูดอะไรอย่างนั้นคะ คุณน่ะสุภาพบุรุษมากเลยรู้ไหม...ถ้าไม่อย่างนั้น คุณคงไม่ช่วยหนูขึ้นรถมาหรอก” หญิงสาวซุกใบหน้ากับอกกว้าง ตาสองข้างหลับพริ้มแต่ก็ยังหยอดคำหวานไม่เลิก “ตัวคุณหอมจังเลยค่ะ...อา...”
“พอได้แล้ว อย่าเล่นแบบนี้” ราเมศร์ผลักร่างบางออกจนแผ่นหลังเล็กชนกับประตูรถแล้วรีบกระชับถอดเนกไท ปลดกระดุมเสื้อของตัวเองออกเพื่อระบายความร้อนรุ่มที่สุมอยู่ในอก
“ร้อนเหมือนกันเหรอคะ ให้หนูช่วยไหม” คราวนี้ไม่พูดเปล่า เพลงขวัญกลับขยับมาใกล้ พยายามซุกใบหน้าลงบนซอกคอเขาครั้งแล้วครั้งเล่าเหมือนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
“อา...บ้าจริง ยัยนี่กำลังทำให้ฉันเป็นบ้า”
“ผมว่าเธอดูสนใจคุณเมศร์ตั้งแต่ในงานเลี้ยงแล้วนะครับ” ณภัทรเสนอ เขาไม่แม้แต่จะหันมองกระจกหลังเลยด้วยซ้ำ
“นี่อย่าบอกนะว่าลงทุนตามมาด้วยน่ะ”
“หนูเองก็ร้อนเหมือนกัน คุณช่วยหนูด้วยสิคะ ดูสิเหงื่อไหลจนเปียกไปหมดแล้วเนี่ย” มือเรียวเลื่อนขึ้นปาดเช็ดหยาดเหงื่อตามเนื้อตัวออกก่อนจะกระชากเดรสสายเดี่ยวลงจนเห็นบราเล็กที่เกาะกุมสองเต้างามไว้ “ช่วยหน่อยนะคะ หนู...สัญญาว่าหนู...จะเป็นเด็กดี”
ริมฝีปากบางยิ้มหวานพลางจับฝ่ามือใหญ่ขึ้นมาวางทับลงบนสองเต้านุ่มนิ่มไว้จนราเมศร์อุทานลั่น
“เห้ย...”
“เอาไงดีครับ” ณภัทรเอ่ยถามอีกครั้ง
“กลับโรงแรมให้เร็วที่สุด ฉันเองก็ไม่ไหวแล้วเหมือนกัน” เขาก้มมองร่างเล็กที่กำลังซุกหน้าอยู่ในอ้อมกอด ความรู้สึกบางอย่างกำลังบอกว่าเขาต้องการร่างกายนี้ ตอนนี้เดี๋ยวนี้เลย
“จะดีเหรอครับ เธอเป็นลูกสาวของคุณภูริตนะ”
“ฉันรู้น่า รีบกลับไปส่งยัยนี่ที่โรงแรมเถอะ” ราเมศร์ตะคอกกลับเพราะฤทธิ์ยาที่พิมพ์พลอยใส่มาในแก้ว เขาจึงมีความต้องการไม่ต่างกับเพลงขวัญในตอนนี้เลยสักนิด
รถหรูแล่นเข้ามาจอดในลานจอดรถของโรงแรมที่ถูกจัดไว้ให้ ราเมศร์พยายามข่มอารมณ์ไว้ให้ลึกที่สุดก่อนที่เขากับณภัทรจะพาเพลงขวัญไปส่งถึงหน้าห้อง
“นี่ห้องของเธอ เข้าไปซะ”
พอพูดจบเขาก็กลับไปห้องของตัวเอง ส่วนณภัทรก็แยกไปอีกห้องซึ่งอยู่ชั้นเดียวกับเพลงขวัญ
“หืม ยังไม่ได้หยิบคีย์การ์ดมาเลยนี่นา” คนตัวเล็กบ่นพึมพำรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวจนแทบจะควบคุมตัวเองไม่อยู่
ดวงตาหนักอึ้งมองตามณภัทรไปจนเห็นว่าเขาหายเข้าไปในห้องแล้ว เธอจึงหันไปอีกทางเห็นว่าราเมศร์กำลังจะขึ้นลิฟต์กลับห้องชั้นบน เธอจึงรีบวิ่งตามไปด้วย
“คุณ...หนูขอไปด้วยสิ”
“ไปไหน” ชายหนุ่มชะงักเมื่อเห็นอีกฝ่ายเข้ามาในลิฟต์หยุดยืนเคียงข้างเขา
“ก็ไปกับคุณไง คุณเองก็ร้อนไม่ใช่เหรอ ให้หนูไปช่วยคุณดับร้อนนะคะ” เสียงหวานออดอ้อน “หนูสัญญาน้า...ว่าหนูจะยอมคุณทุกอย่าง จะเป็นเด็กดีไม่ดื้อไม่ซน...”
“เธอพูดเองนะ”
ราเมศร์กระตุกยิ้มมุมปากก่อนที่เขาจะหิ้วหญิงสาวขึ้นไปยังห้องพักของตัวเองที่ชั้นเจ็ดเพราะอารมณ์ที่กำลังพลุ่งพล่านของคนทั้งคู่ แต่พอมาถึงห้องราเมศร์ก็เพิ่งจะรู้ตัวว่าเขาลืมหยิบคีย์การ์ดขึ้นมาด้วย
“คุณเมศร์ครับ คีย์การ์ดห้องของคุณครับ” เสียงณภัทรดังขึ้นพร้อมกับเจ้าตัวที่มาได้ทันเวลาพอดี
“ขอบใจ”
“นี่คุณเพลงขวัญนี่ครับ ทำไมเธอถึงขึ้นมา...”
“ยัยนี่คงจะอยากมากน่ะ เลยตามขึ้นมาด้วย”
“งั้นเดี๋ยวผมพาเธอไปส่งเองครับ” เขาขันอาสาแต่ถูกเจ้านายไล่กลับออกไป
“ไม่ต้องเลย นายน่ะกลับไปได้แล้ว”
“แต่ว่า...”
“ใครเป็นเจ้านายกันแน่เนี่ย...หรือว่าอยากโดนไล่ออก”
คำขู่ของราเมศร์ทำให้ณภัทรจำเป็นต้องถอยออกไปก่อนที่เขาจะพาหญิงสาวเข้าไปในห้อง
ทันทีที่ประตูห้องปิดลง เพลงขวัญก็ถอดกระชากชุดเดรสที่แสนหนักอึ้งจนมันไปกองอยู่ปลายเท้าด้วยความรวดเร็ว พอเห็นร่างงามปรากฏแก่สายตา ราเมศร์ก็รีบจู่โจมเข้าหา ปลดตะขอบราออกด้วยมือข้างเดียวก่อนจะฝากฝังใบหน้าดูดดึงสองเต้างามนั้นด้วยความปรารถนาที่กำลังแล่นปราดขึ้นมา
“อา...หนูร้อนจังเลยค่ะคุณเมศร์” คนตัวเล็กครางกระเส่า มือเรียวขยุ้มเรือนผมของเขาด้วยความสาดเสียว ดวงตาคู่สวยหลับพริ้ม แอ่นอกเข้าหาเพื่อให้เขาดูดกลืนได้ถนัดยิ่งขึ้น
“ฉันเองก็ร้อนไม่ต่างจากเธอหรอกนะ” เขาถอดถอนริมฝีปากออกจากสองเต้างาม แล้วจู่โจมใส่ริมฝีปากบางของเธอ ดูดดึงลิ้นเล็กอย่างพอใจจนคนไม่ประสีประสาเผลอจูบตอบด้วยประสบการณ์ที่ยังเป็นศูนย์
วงแขนแกร่งออกแรงโอบอุ้มเธอขึ้นมาก่อนจะนำพาร่างบางไปยังที่นอนหนานุ่ม ตวัดร่างนั้นลงบนเตียงแล้วจึงจัดการกับชุดสูทที่แสนเกะกะของตัวเองออกจนท่อนบนปราศจากเสื้อผ้า
ดวงตาคมกริบจ้องมองเรือนร่างงามที่กำลังนอนบิดกายเร่าด้วยไฟที่กำลังสุมทรวง เขาค่อย ๆ คลานเข่าขึ้นไปบนเตียงแล้วจัดการชั้นในชิ้นสุดท้ายออกจากกายสาว จนเพลงขวัญเหลือเพียงแค่ร่างเปล่าเปลือย
“เร็วหน่อยได้ไหมคะ ฉันทนไม่ไหวแล้ว”
“เธอคงจะอยากมานานแล้วสินะ” ชายหนุ่มกระตุกยิ้มมุมปาก เขาโน้มกายลงคร่อมร่างขาวนวลไว้ ฝ่ามือใหญ่ลูบไล้ไปตามหน้าท้องแบนราบก่อนจะเลื่อนลงไปยังกลีบดอกไม้กลางกาย ใช้นิ้วเกลี่ยตุ่มไตสีหวานจนเพลงขวัญร้องครางกระเส่า
“อ๊าย...คุณเมศร์ขา อื้อ....”
เอวบางขยับเข้าหาฝ่ามือใหญ่ที่กำลังรุกล้ำเข้ามา นิ้วเรียวแหวกกลีบดอกไม้งาม อาศัยหยาดน้ำที่ชุ่มฉ่ำส่งมันดำดิ่งลงไปอย่างชำนิชำนาญ รับรู้ได้ถึงความคับแน่นทันทีที่ส่งนิ้วเรียวเข้าไปสำรวจในช่องทางคับแคบ
“เหมือนเธอจะยังไม่เคยนะ” ราเมศร์ชะงักกึกเมื่อสัมผัสได้ว่านิ้วเรียวที่กำลังรุกล้ำเข้าไปมันกำลังโอบตวัดนิ้วเรียวแน่น เขาจึงถอดถอนมันออกมาแต่เพลงขวัญกลับจับข้อมือเรียวไว้แล้วออดอ้อนขอร้องให้เขาทำต่อ
“จะเคยหรือไม่เคยมันสำคัญด้วยเหรอคะ ช่วยหนูหน่อยเถอะนะ หนูต้องการคุณ...”
“เธอแน่ใจนะว่าเธอจะไม่เสียใจทีหลัง” เขาถามย้ำอีกครั้ง พยายามประคองสติไว้ให้ได้มากที่สุด
“ฉันว่า ถ้าคุณไม่ทำ คุณต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายเสียใจทีหลัง”
“ได้...ในเมื่อต้องการแบบนี้ ฉันจะไม่ปรานีแล้วนะ” พูดจบเขาก็รีบจัดการกับกางเกงของตัวเอง สลัดมันจนหลุดพ้นจากเรียวขา ในขณะที่เพลงขวัญได้แต่นอนหลับตาพริ้ม เฝ้ารอให้เขาเข้ามาเติมเต็มอย่างใจจดใจจ่อ “ทำความคุ้นเคยกับมันก่อนสิ”
เสียงชายหนุ่มกระซิบบอกข้างแก้มเนียนใส ทำให้คนที่กำลังเลื่อนลอยลืมตาขึ้นมองด้วยความไม่เข้าใจ ราเมศร์จึงเป็นฝ่ายนำพามือน้อย ๆ ของเธอไปวางไว้ที่ลำกายแกร่ง
“อา...มันน่ากลัวจังเลยค่ะ” ทันทีที่สัมผัสได้ถึงความใหญ่โตและเส้นเลือดที่ปูดโปนนั้น เพลงขวัญก็ถึงกลับหน้าแดงก่ำ ถึงแม้ว่าเธอยังไม่เคยแต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไร้เดียงสาจนไม่รู้ว่าต้องทำยังไง “แบบนี้ หนูจะตายไหมคะ”
“ไม่มีใครตายกับเรื่องแบบนี้หรอกนะ อ้าปากสิ เดี๋ยวฉันจะสอนให้” นิ้วเรียวลูบไล้ไปตามริมฝีปากบาง เป็นเพราะอารมณ์ปรารถนากำลังแล่นปราด หญิงสาวจึงยินยอมทำตามที่เขาสั่ง ด้วยการดูดกลืนความใหญ่โตนั้นก่อนที่เขาจะส่งมันพรวดเข้ามาจนเธอสำลักหน้าดำหน้าแดง
“แค่ก ๆ ๆ ”
“ใจเย็นแม่สาวน้อย” ชายหนุ่มขยุ้มเรือนผมที่ยาวถึงกลางหลังไว้แล้วกระแทกส่งตัวตนเข้าไปในโพรงปากเล็กอีกครั้ง แต่คนไร้ประสบการณ์กลับทำอะไรไม่ถูกนอกจากอ้าปากค้างอยู่แบบนั้น เขาจึงต้องเป็นฝ่ายออกคำสั่งกับเธอแทน “เลียสิ...”
“คะ!? ” เธอเงยหน้ามองเขาด้วยความไม่เข้าใจ เพียงแค่สัมผัสมันด้วยปาก เธอก็รู้สึกได้ทันทีว่าตรงส่วนนั้นของตัวเองมันปวดตรึงพร้อมกับหยาดน้ำหวานที่ไหลล้นทะลักเพราะความต้องการถึงขีดสุด แต่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาจึงไม่ตอกย้ำมันเข้ามาสักที
“เลียสิ...”
“เอ่อ...” ถึงจะทำไม่เป็นแต่เธอก็ยอมตวัดปลายลิ้นลงบนปลายหยักนั้น เพียงแค่ความอ่อนนุ่มกระทบกับส่วนที่ไวต่อความรู้สึก ราเมศร์ก็ครางออกมาทันทีด้วยความสาดเสียว
“อา...ซี้ด...อย่างนั้นแหละ ดีมาก...เด็กดี”
ถ้อยคำชื่นชมของเขายิ่งสร้างความหฤหรรษ์ให้กับเพลงขวัญ หญิงสาวคลี่ยิ้มอย่างพอใจแล้วจึงเริ่มดูดกลืนมันเข้าปากสลับกับการเล้าโลมกับปลายลิ้นเล็ก
“ไม่ไหวแล้ว...ถ้าช้ากว่านี้ฉันต้องอกแตกตายแน่ ๆ ” ว่าแล้วเขาก็ถอดถอนความใหญ่โตออกจากริมฝีปาก กระชากร่างเล็กลงบนเตียงกว้าง จับเรียวขาแยกออกจากกันจนเห็นดอกไม้ที่กำลังแย้มเหมือนกำลังรอให้เขาเติมเต็ม ถึงแม้จะมองไม่ชัดเพราะไม่ได้สวมแว่นแต่เขาก็ปฏิเสธไม่ลงเลยจริง ๆ ว่าเรือนร่างนี้มันงดงามมากขนาดไหน “สวยจริง ๆ แม่สาวน้อย”
เขากล่าวชื่นชมอีกครั้ง เห็นความงดงามปรากฏอยู่ตรงหน้าก็อดไม่ได้ที่จะงามงับดูดกลืนมันเพื่อลิ้มลองเป็นคนแรก
ริมฝีปากและปลายจมูกฝังอยู่บนกลีบดอกไม้งาม ตวัดปลายลิ้นดูดกลืนตุ่มไตสีชมพูระเรื่อจนหยาดน้ำหวานไหลริน ถึงตอนนั้นวินาทีที่เพลงขวัญเฝ้ารอคอยก็มาถึงเมื่อราเมศร์นำพาความใหญ่โตเข้ามาจดจ่ออยู่ตรงส่วนนั้นของเธอ
เขาใช้เวลาให้ทั้งสองทำความคุ้นเคยด้วยการถูไถไปตามร่องชื้นครู่หนึ่งแล้วจึงสอดสวนมันเข้าไปในร่างงามจนเพลงขวัญผวาวาบ รับรู้ถึงความเจ็บปวดที่แล่นปราดขึ้นมาทันที