เธอพยายามสาวเท้าเดินตามให้ทันชายหนุ่มที่เดินนำเธอออกไปหลายช่วงตัวแล้ว ท่าทางเขาดูหงุดหงิดเล็กน้อยขณะเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นราวกับจะแกล้งคนตัวเล็กที่พยายามเดินตามมาข้างหลัง
“พี่กายเดินช้าๆ หน่อย เจนขาสั้นเดินตามพี่ไม่ทัน”
ชายหนุ่มยกยิ้มมุมปากกับคำพูดตัดพ้อของเธอ เขาค่อยๆ ผ่อนฝีเท้าให้ช้าลงจนสาวน้อยที่เดินตามหลังค่อยๆ เดินตามขึ้นมาทัน
“ตัวเล็กแล้วยังขาสั้นอีก” เขาบ่นพึมพำเบาๆ
เจนเม้มริมฝีปากเข้าหากันขณะเงยหน้าขึ้นมองดูใบหน้าเรียบเฉยของเขา
‘..ฉันได้ยินนะว่าพี่พูดอะไร ตัวเล็กขาสั้นอะไรกัน.. กลับไปบ้านจะเริ่มดื่มนมวันละหลายๆ ลิตรเลย ค่อยดูเถอะ.. เดี๋ยวอีกหน่อยฉันก็โตทันสาวรุ่นเดียวกับพี่แล้ว แต่ส่วนสูง160ก็ไม่ถึงกับเตี้ยไหม พอเทียบระดับความสูงของฉันก็แค่ระดับไหล่ของเขาเท่านั้น เดินด้วยกันแล้วรู้สึกเหมือนเสาไฟฟ้ากับหลักกิโลเมตรเลยอะ..’
ชายหนุ่มเดินมาหยุดที่ร้านขายน้ำในโรงอาหาร เขาไล่สายตามองดูเมนูเครื่องดื่มพลางหยิบขนมขบเคี้ยวออกมาวางเรียงไว้บนเคาน์เตอร์
“พี่ครับ คาปูชิโน่เย็นสามแก้ว โค้กสาม ..เจนเอาอะไร?”
“เอ่อ.. หนูเอาชามะนาวค่ะ” เธอพูดบอกคนขายน้ำที่หันมามองทางเธอ
“หน้าพี่ไปโดนอะไรมาคะ มีแผลตรงมุมปาก”
“ไม่มีอะไร พี่เดินชนอะไรนิดหน่อย”
เธออึ้งไปเล็กน้อยกับคำตอบของเขา ‘..พี่นึกว่าฉันงี่เง่าหรือไง เดินชนอะไรถึงกระแทกเข้าที่ปาก ดูยังไงก็เหมือนไปมีเรื่องชกต่อยกับใครมา..’
“ช่างเถอะ เจนไม่ถามก็ได้ ถามไปพี่ก็คงไม่บอกอยู่ดี” เจนพูดพลางทำหน้ามุ่ยเล็กน้อย มือเล็กเอื้อมไปหยิบแก้วชามะนาวจากมือเขา
“ขอบคุณค่ะ”
ชายหนุ่มหยิบถุงใส่เครื่องดื่มและถุงใส่ขนมเดินออกมาจากร้าน เขาชำเลืองสายตามองดูเด็กสาวที่กำลังดูดน้ำจากแก้วและหยิบขนมเข้าปากอย่างอารมณ์ดี
‘.. หึ.. เด็กน้อยจริงๆ ได้ของกินก็อารมณ์ดี ยิ้มแก้มตุ่ยเชียว..’
“ชามะนาวอร่อยไหม?”
“อืมม.. พี่กายลองชิมดูไหมคะ” เธอเอ่ยถามอย่างไม่คิดอะไรแต่ทำคนตัวโตชะงักไปเล็กน้อย กายมองรอยยิ้มน่ารักและมือเล็กที่ยื่นแก้วน้ำขึ้นมาใกล้ใบหน้าเขา เจนพยักหน้าเป็นเชิงให้เขาลองชิมน้ำจากในแก้วของเธอดู
“ไม่ดีกว่า” กายพูดออกมาพลางเร่งฝีเท้าให้เดินเร็วขึ้น
ผู้หญิงกลุ่มใหญ่ตอนบ่ายๆ เริ่มหายไปเกือบหมดแล้ว ตอนนี้เหลืออยู่ไม่กี่คนที่ยังนั่งจับกลุ่มคุยกันแถวๆ ด้านหน้าของห้องดนตรี พวกเธอชะงักเล็กน้อยเมื่อมองเห็นเด็กสาวและชายหนุ่มเดินเข้ามา สายตาแต่ละคนดูเป็นมิตรแตกต่างจากตอนเช้าลิบลับ ผู้หญิงผมยาวหน้าตาสะสวยคนหนึ่งเดินตรงเข้ามาหาเธอ
“เอ่อ..น้องเป็นน้องสาวของเจเหรอคะ หน้าตาน่ารักจัง” เธอเอ่ยทักพร้อมกับใบหน้ายิ้มแย้ม
“ใช่ค่ะ”
“อยู่คุยกับพวกพี่ๆ ก่อนไหมจ๊ะ เพื่อนพี่อยากถามเรื่องเจหน่อย นะจ๊ะแป๊บเดียวเอง”
เจนมองหน้าเธออย่างลังเล กายที่ยืนอยู่ข้างๆ รีบพูดขัดขึ้นมา
“ไว้วันหลัง”
“เอ๊ะ.. กาย เชอรี่ถามน้องอยู่นะ ยัยทิพย์อยากถามเรื่องเจน่ะ”
“ไว้วันหลังเถอะ” กายพูดพลางสะกิดแขนคนตัวเล็กข้างๆ ให้เดินตามเขา
“เอ่อ.. ได้ค่ะ” เธอพูดโพล่งออกไป
“งั้นก็ตามใจ” กายมองหน้าเธอพลางถอนหายใจออกมาเบาๆ
กายเดินตรงไปหน้าห้องดนตรีโดยมีผู้หญิงที่ชื่อเชอรี่เดินตามไปติดๆ ร่างบางแนบชิดติดกับตัวเขาอย่างสนิทสนม ริมฝีปากสีชมพูกระซิบกระซาบใกล้ใบหน้าของเขา แววตาเป็นประกายวิบวับพร้อมกับรอยยิ้มหวานๆ ที่ส่งให้เขาทำเอาคนมองรู้สึกเจ็บจี๊ดในอกขึ้นมาทันทีขณะที่ใบหน้าก็ร้อนผ่าวขึ้นมา
“คืนนี้.. รี่ไปรอกายที่ผับนะ”
“อืม”
“ไปมีเรื่องมาอีกแล้วล่ะสิ” เธอพูดพร้อมกับเอื้อมมือไปจับที่ใบหน้าของเขา
“อืม..เรื่องไร้สาระน่ะ ไปซ้อมดนตรีต่อนะ” กายดึงมือของอีกฝ่ายออกจากใบหน้าก่อนจะเปิดประตูห้องดนตรีเข้าไป
เจนยืนมองท่าทางและคำพูดของคนทั้งคู่ด้วยความรู้สึกแปลกๆ หัวใจดวงน้อยเต้นแรงระรัว เธอรู้สึกหงุดหงิดและยังรู้สึกไม่ชอบใจที่เห็นท่าทางสนิทสนมที่ผู้หญิงคนนั้นแสดงออกกับเขาด้วย เชอรี่หันกลับมามองเจนก่อนจะเดินตรงเข้ามาหาเธอ แววตาและรอยยิ้มที่ยิ้มให้ดูเป็นมิตร
“น้องเจนจ๊ะ มานั่งคุยกับพวกพี่ก่อนนะ”
“ได้ค่ะ”
เรื่องของเรื่องก็คือพี่ผู้หญิงที่ชื่อพี่ทิพย์เธอชอบพี่เจเลยถามเรื่องของพี่ชายเธอเป็นส่วนใหญ่ เจนนั่งคุยกับพวกเธอไปหยิบขนมกินไปด้วยคุยไปด้วย ในใจก็คิดว่านั่งคุยกับพวกพี่สาวก็สนุกดีแถมได้กินขนมฟรีอีก เธอลืมเรื่องที่คิดจะถามก่อนหน้านี้ไปชั่วขณะก่อนจะนึกขึ้นมาได้
“เอ่อ.. พี่เชอรี่คะ จะเสียมารยาทไหมถ้าเจนจะถามอะไรพี่หน่อยค่ะ”
“ถามมาได้เลยน้องเจน ว่ายังไงจ้ะ”
“พี่เชอรี่เป็นแฟนพี่กายเหรอคะ เอ่อ..ไม่มีอะไรนะคะ เจนแค่อยากรู้เฉยๆ ค่ะ เห็นพวกพี่ดูสนิทกัน”
เพื่อนๆ แต่ละคนอมยิ้มก่อนจะหันมามองหน้าเชอรี่เป็นตาเดียว หญิงสาวทำท่าทางอึกอักเล็กน้อย
“ประมาณนั้นแหละจ้ะ” เชอรี่พูดตอบไม่ค่อยเต็มเสียงนัก
“น้องเจนอย่าไปเชื่อที่เชอรี่พูดนะ แฟนเฟินอะไรกัน กายมันยังโสดแค่โสดไม่สนิทเท่านั้นเอง ฮ่าๆ” เข็มพูดสวนออกมาทันทีพลางชำเลืองมองหน้าเชอรี่ยิ้มๆ
“นังเข็มมม.. หยุดพูดเลยนะ ยังไงวันหน้ากายก็ไม่พ้นมือฉันอยู่ดีย่ะ” เชอรี่แผดเสียงออกมาอย่างไม่พอใจพร้อมกับมองจ้องหน้าเข็มตาเขียวปั๊ด
“ย่ะ จะคอยดูผู้หญิงที่มาติดพันกายไม่ได้มีแค่แกคนเดียวนะ สวยๆ กว่าแกก็เยอะ” เข็มเริ่มขึ้นเสียงตอกกลับบ้าง
“หึ.. แกก็ชอบกายนิแต่แกสวยไม่เท่าครึ่งฉัน เชิญแกฝันต่อไปเถอะ”
“นังเชอรี่ เดี๋ยวตบให้ซิลิโคนที่จมูกหลุดเลยนี่” เข็มพูดเสียงดังขึ้นด้วยอารมณ์โมโห
“ลองดูสิย่ะ” เชอรี่ตวาดกลับเสียงดัง
เจนนั่งเลิ่กลั่กมองดูสองสาวทะเลาะกันเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ เธอยิ้มแหยๆ ให้พี่ทิพย์ที่นั่งอยู่ข้างๆ ‘..ดูท่าแล้วไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พี่กายฮอตขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย ฉันอาศัยจังหวะนี้กลับเข้าไปในห้องซ้อมดนตรีดีกว่าไหม..’
“เอ่อ..พี่ทิพย์คะ เจนเข้าไปหาพี่เจที่ห้องก่อนนะคะ”
“จ้ะ.. ขอบคุณน้องเจนมากนะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ เจนไปก่อนนะคะ”
เจนรีบลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว ร่างบางเดินตัวปลิวหายเข้าไปในห้องดนตรีอย่างไว เธอมองดูพวกพี่ๆ ที่ยังซ้อมดนตรีกันอยู่พลางถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก สายตาเหลือบมองดูหน้าพี่กายที่หันมามองดูเธอก่อนจะที่เขาจะเบือนหน้าไปมองทางอื่น
เธอนั่งมองจ้องหน้าเขาเขม็ง ตาดูหูฟังเสียงเขาอย่างใจลอยครุ่นคิดเรื่องที่พี่ผู้หญิงพวกนั้นคุยกัน ยังโสดแค่โสดไม่สนิทนี่หมายถึงอะไร.. โสดแต่มีคนคุยอยู่หรือพี่กายมีคนที่ชอบอยู่แล้ว เฮ้ออ..ก็ไม่เห็นจะแปลกใจตรงไหนเลย ถ้าไม่มีคนคุยหรือคนที่ชอบนั่นสิแปลก สักพักใหญ่ๆ พวกเขาถึงเลิกซ้อมดนตรีกัน พี่เจเดินเข้ามาหาเธอ
“พวกพี่ซ้อมเสร็จแล้วเหรอคะ”
“ใช่.. เจนหิวข้าวไหม”
“เจนกินขนมจนอิ่มแล้ว แต่ไปแวะกินก๋วยเตี๋ยวตรงหน้าปากซอยบ้านเราดีไหมคะ ฮ่าๆ ”
“อืม.. เดี๋ยวรอพี่เก็บของก่อนนะ”
“ค่ะ”