ได้ยินแบบนั้นภูสิษฐ์ก็ได้แค่เก็บความสงสัยไว้ อาจจะไม่ใช้น้ำก็ได้ เพราะเขาก็สั่งให้เพิ่มคนงานเข้าไลน์ 3 อีกตั้งหลายคน
หิวข้าวแล้วเมื่อไรจะเที่ยง ..ผ่องอำไพมองดูนาฬิกาหลายครั้งแล้วแต่ก็ยังไม่เที่ยงสักที เพราะเมื่อเช้าเธอรีบก็เลยไม่ได้กินอะไรมา
"ตอนเที่ยงไปกินด้วยกันนะน้ำ" พอเวลาใกล้เที่ยงศรุตก็เดินมาหาผ่องอำไพอีกที
"ไม่ไปค่ะ น้ำจะกินกับเพื่อนๆ" เธอปฏิเสธเขาโดยไม่คิดเลย
และเธอก็เริ่มจะสงสัยว่าผู้จัดการต้องมาจีบเราแน่เลย ความคิดของหญิงสาวถ้าเธอไม่สามารถทำให้พ่อกับน้องๆ สบายได้ เธอก็จะยังไม่มีใครเพราะถ้ามีผู้ชายเข้ามาในชีวิตมันก็จะยุ่งยาก
พอคิดถึงพ่อกับน้อง ๆ เธอลืมไปเลยว่าตั้งแต่กลับมาจากเกาหลียังไม่ได้ติดต่อไปหาพ่อเลย ป่านนี้ท่านคงเป็นห่วงแย่แล้ว
"ทำไมเเก ปฏิเสธผู้จัดการวะ แกนี้แน่จริงๆ เลยว่ะ นับถือ ๆ" เพื่อน ๆ ทั้งสองต่างก็ ตกใจกับสิ่งที่ผ่องอำไพพูดกับผู้จัดการไป
หลังเลิกงาน..
"จะกลับบ้านแล้วเหรอน้ำ เดี๋ยวผมไปส่ง" ศรุตยังไม่วายที่จะตามตื๊อผ่องอำไพ
"ไม่ต้องหรอกค่ะ พี่สาวจอดรถรออยู่ตรงนั้นแล้ว"
แล้วผ่องอำไพก็เดินไปขึ้นรถกับสุนันทา ศรุตมองตาม มีคอนโดหรู แถมมีรถราคาแพงมาจอดรับอีก เธอเป็นใครกันแน่ ศรุตยิ่งสงสัยเข้าไปใหญ่
"ผู้ชายคนนั้นเป็นใครทำไมหน้าคุ้น ๆ" สุนันทาถามผ่องอำไพตอนที่เธอมาขึ้นรถแล้ว
"ผู้จัดการที่ทำงานค่ะ"
"ทำไมเขาถึงคุยกับน้ำนานจัง"
"เขาถามทางค่ะ" เธอคิดว่าถ้าบอกสุนันทาไป เรื่องนี้คงจะถึงหูของเขาแน่
[คอนโด]
>>{"พ่อสบายดีไหมคะ แล้วน้อง ๆ ล่ะเป็นไงบ้าง"} พอถึงห้องผ่องอำไพก็รีบโทรหาพ่อทันที
{"อิหล่าอยู่เกาหลีเป็นจังใด มีงานมีการยัง ที่นาเฮาบักกำนันมันกะยึดไปแล้วละ มันยังสิมาเอาบ้านอีก"} (ลูกอยู่ที่เกาหลีเป็นยังไงบ้างสบายดีไหมที่นาของเรากำนันมันมายึดไปแล้วตอนนี้มันกำลังจะมายึดบ้านของเรา)
>>{"พ่อถ้าหนูมีเงินแล้วหนูจะรีบกลับไปไถ่ที่นาเราคืนนะ"} พอผ่องอำไพได้ยินแบบนั้นถึงกับน้ำตาซึม
ถึงพ่อของเธอจะทำนาไม่ได้แล้ว แต่ก็ยังให้คนเช่าพอมีข้าวกิน ตอนนี้เธอเป็นห่วงพ่อมาก ท่านก็เดินไม่ค่อยได้ ต้องใช้ไม้เท้าสี่ขาช่วยเดิน น้องคนโตก็กำลังเรียน ม.5 คนเล็ก ม.3 ต้องใช้เงินมากก็เลยได้เอาที่ทางไปจำนอง เอาเงินมารักษาพ่อด้วย
"หรือเราจะขอยืมเงินเขาดี มันเยอะขนาดนั้นใครจะให้เรายืม" พอพูดจบหญิงสาวก็มองดูนาฬิกาตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว เขายังไม่เห็นกลับมาที่คอนโดเลย ในใจของเธอคิดว่าเขาคงจะไปอยู่กับผู้หญิงที่เขาเก็บไว้อีกหลายคน
[โรงงานเย็บผ้า]
"สวัสดีวันหยุดจ้าาา" แต่ก็ต้องได้ทำโอทีอยู่ดี
"เหนื่อยอีกแล้วว.."
เพื่อน ๆ เจอหน้ากันตรงทางเข้าก็ทักทายกันหน่อย วันนี้มีแค่สองไลน์ที่ทำโอทีวันหยุด ไลน์ 3 และ 5
"น้ำแกเป็นอะไร ทำไมดูเหงา ๆ ไม่ค่อยคุยเหมือนทุกวันเลย"
"เรื่องที่บ้านนะ"
"ที่หนองคายนะเหรอ"
"อืมม"
"ที่บ้านทำไมครับน้องน้ำ" พอศรุตได้ยินก็เดินมาถาม
"เปล่าค่ะ คุณช่วยน้ำไม่ได้หรอก"
"ไม่พูดมาจะรู้ได้ไงว่าช่วยได้หรือไม่ได้"
"คุณมีเงินให้น้ำยืมสักสองล้านไหมละคะ" ความคิดของเธอสองล้านยังไม่รู้จะพอหรือเปล่า
"ถ้าจะเยอะขนาดนั้นไม่มีหรอกครับ"
"มัวแต่คุยกันแล้วงานจะเสร็จไหมวันนี้"
พอทั้งสองได้ยินเสียงที่คุ้นหูรีบหันไปดู
"ท่านประธานมาทำไมครับ วันหยุดท่านไม่เคยมานี่ครับ"
"ผมก็ไม่เคยเห็นคุณมาสักทีนะคุณศรุต" เขาหันไปพูดกับศรุตแบบไม่พอใจ
"แล้วจะมาคุยอะไรกันตรงนี้" ผ่องอำไพก้มลงไปเย็บผ้าและก็พูดคนเดียวเบา ๆ
ธรรมดาวันหยุดแบบนี้จะทำงานแบบชิลด์ ๆ แต่วันนี้ไม่ชิวแล้วทั้งประธานและผู้จัดการมายืนคุมเอง
[ คอนโด ] เย็นวันเดียวกัน
>>{"คืนนี้คุณกลับคอนโดไหมค่ะ"}
{"ทำไม"} เขาคุยโทรศัพท์กับเธอแบบไม่ค่อยพอใจเพราะเขายังนึกโมโหที่ผู้จัดการมาพูดคุยแบบสนิทสนมกับเธอ
>>{"น้ำมีอะไรอยากจะพูดค่ะ"}
{"ได้..เดี๋ยวเข้าไป"} ที่จริงเขาคิดว่าจะกลับมานอนที่บ้านสักหลาย ๆ คืน เพราะน้าเขาก็เป็นห่วง แต่พอได้ยินเธอโทรมาตามแบบนั้นชายหนุ่มถึงกับรีบออกจากบ้านไป
"ฉันไม่เห็นคุณกลับมาค้างคอนโดหลายคืนแล้ว คุณไปค้างที่ไหนมาเหรอ" พอเธอเห็นเขาเปิดประตูคอนโดเข้ามาก็เลยถามดู
"โทรตามมีเรื่องอะไรเข้าเรื่องเลยดีกว่า" เขาไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองเป็นอะไร อยู่ดี ๆ ก็นึกโมโหเธอไปด้วย
"รอคุณอารมณ์ดีก่อน ค่อยพูดกันก็ได้ค่ะ" ผ่องอำไพกลับคิดไปอีกแบบ เขาคงจะโมโหที่เธอโทรไปขัดจังหวะเขาหรือเปล่า
"ถ้าไม่พูดงั้นผมกลับนะ" เขาพูดพร้อมกับจะเดินไปที่ประตู
"เดี๋ยวก่อนค่ะ" เธอรีบเรียกเขาไว้ เพราะถ้าเขาออกไปไม่รู้วันไหนจะติดต่อเขาได้อีกที
แต่ชายหนุ่มก็ไม่ได้หันหน้ากลับมา เธอก็เลยเดินไปจับชายเสื้อของเขากระตุกเล็กน้อย
"ฉันน.. คือ.. ฉัน.."
"มีอะไร" ชายหนุ่มพูดพร้อมกับค่อย ๆ หันหน้ากลับมาแบบช้า ๆ
"ฉันอยากจะขอยืมเงินคุณสามล้าน"
"สามล้าน? จะเอาไปทำอะไร" เขาถึงกลับทวนคำพูดของเธอ
"ไถ่ที่นาคืนให้พ่อ"
"เงินสามล้านไม่ใช่น้อย ๆ เธอจะเอาอะไรมาค้ำประกัน"
"คะ?!"
"ก็เธอบอกจะยืมเงินตั้ง 3 ล้าน ใครเขาจะให้ยืมกันฟรี ๆ" ที่จริงเขาเสียไปกับผู้หญิงคนอื่นเยอะกว่านี้มาก แต่เขาแค่อยากจะแกล้งถามเธอดู
"ฉันไม่มีทรัพย์สินอะไรค้ำประกันคุณหรอก มีแค่ตัว จะเอาอะไรไปค้ำประกันได้"
"ตกลง! งั้นเอาตัวเธอค้ำแล้วกัน"
"อะไรนะคะ??" พอเขาพูดออกมาแบบนั้นผ่องอำไพถึงกับตกใจ
ชายหนุ่มเห็นหญิงสาวเหมือนจะตกใจ เขาก็โน้มใบหน้าลงมาใกล้ ๆ "เธอได้ยินไม่ผิดหรอก ก็ในเมื่อเธอบอกว่ามีแค่ตัว ก็เอาตัวของเธอค้ำประกันไว้ไง"
"คุณจะทำอะไร ถอยออกไปนะ!" เสียงของหญิงสาวเริ่มสั่น เพราะเขาก้มลงมาใกล้ริมฝีปากของเธอมาก
"ถอยก็ได้ ถ้างั้นสามล้านโมฆะ" แล้วเขาก็เริ่มถอยออกไป แบบช้า ๆ แต่สายตาก็ยังจ้องมองที่หญิงสาวเหมือนกับจะกลืนกินเธอเข้าไป
"คุณจะให้ฉันจริง ๆ ใช่ไหม"
"จริงสิ เงินแค่นั้นสำหรับผมไม่มีปัญหาอยู่แล้ว แต่วันนี้คงจะยังโอนไม่ได้ต้องรอให้ถึงพรุ่งนี้"
"ฉันอยากจะขอคุณอีกเรื่องนึง"
"ได้สิ ว่ามา"