พอผลักประตูเข้าไป ก็เห็นเขานั่งอยู่กับผู้หญิงคนหนึ่งในห้องนั้น
"ไม่เป็นไรหรอกให้เธอเข้ามา" ชายหนุ่มรีบหันไปมองดูผู้หญิงที่เพิ่งจะเปิดประตูห้อง พร้อมกับหันไปสั่งเลขาหน้าห้อง
"ใครคะพี่ภู พี่รู้จักด้วยเหรอ พี่ก็ทำตัวสนิทกับพนักงานไปทั่ว" คนที่นั่งอยู่กับภูสิษฐ์ก็คือนรินทรลูกสาวของน้าเขานั่นเอง
นรินทรเริ่มจะได้กลิ่นไม่ดีแล้ว สงสัยช่วงนี้พี่ชายของเธอจะมั่วกับพนักงาน ในแผนกแน่เลย เพราะพี่ชายของเธอก็เจ้าชู้ไม่เบา
"นรินออกไปก่อน พี่มีธุระจะคุยกับพนักงานหน่อย"
"พี่มีอะไรจะคุยกับพนักงานทำไมไม่คุยกับหัวหน้าแผนกของเธอล่ะ แล้วเธอมาจากแผนกไหน ทำไมไม่มีมารยาทแบบนี้" นรินทรต่อว่าผ่องอำไพ แล้วก็หันไปหาเลขาหน้าห้องของภูสิษฐ์
"นิสาช่วยเช็คให้ฉันด้วยนะว่าผู้หญิงคนนี้มาจากแผนกไหน แล้วก็ไล่เธอออกซะ" นรินทรหันไปพูดกับเลขาหน้าห้องของภูสิษฐ์
"ไม่ต้องหรอกเดี๋ยวพี่จัดการเอง พวกเธอออกไปได้แล้ว" แล้วชายหนุ่มเดินมาผลักให้น้องสาวออกจากห้องไปก่อนพร้อมกับปิดประตูไว้
ตอนนี้นรินทรทำหน้าแบบไม่พอใจมาก ที่พี่ชายของเธอเลือกผู้หญิงคนนั้น
"คุณโอนเงินให้ฉันผิดหรือเปล่า ฉันยืมคุณแค่ 3 ล้าน"
"ที่คุณรีบมาเพราะเรื่องแค่นี้เองน่ะเหรอ"
"มันอาจจะเป็นเรื่องแค่นี้สำหรับคุณ แต่สำหรับฉัน..จะให้หาทั้งชาติก็คงหามาคืนคุณไม่ได้หรอก"
เขาก็อยากจะบอกเธอว่าเงินจำนวนนี้เขาโอนให้เธอเฉย ๆ ไม่ต้องการเอาคืนหรอก แต่อีกใจนึงเขาก็กลัวเธอจะไม่รับมัน ในเมื่อเธอคิดแบบนั้นแล้วชายหนุ่มก็เลยจะดึงมันมาเป็นข้ออ้างที่จะได้ใกล้ชิดกับเธอแบบเมื่อคืนนี้
"เรื่องเงินค่อยคุยกันทีหลัง คุณมีธุระจะต้องรีบจัดการไม่ใช่เหรอ"
ก็ดีเหมือนกันนะเผื่อมีอะไรเพิ่มเติมจะได้เคลียร์กับกำนันให้รู้เรื่องเลย ผ่องอำไพไม่พูดอะไรต่อ เธอกำลังจะเดินออกจากห้องเขา
"ฉันลืมเลย เรื่องที่เราคุยกันค้างไว้เมื่อคืน ที่ฉันจะขอคุณอีกอย่าง ฉันอยากจะลางานเพื่อกลับไปหาพ่อที่บ้านก่อน" พอนึกได้หญิงสาวก็รีบหันกลับมาคุยกับเขาทันที
"ทำไมคุณไม่รอให้งานล็อตนี้มันเสร็จก่อนล่ะ ผมจะได้ไปด้วย แต่ช่วงนี้ผมงานยุ่งมากคงปลีกตัวไปไหนไม่ได้"
"คุณไม่ต้องไปหรอกค่ะเรื่องที่บ้านฉันจัดการเองได้ คุณทำงานของคุณไปเถอะ"
"คุณจะลางานกี่วันก็ไปคุยกับฝ่ายบุคคลได้เลย เดี๋ยวผมอนุมัติให้ ถ้าเสร็จเรื่องที่บ้านแล้วก็รีบกลับมาล่ะ พรุ่งนี้ผมจะต้องได้บินไปญี่ปุ่นอีก"
พอคุยกับเขาเสร็จ เธอก็ไปขอพบฝ่ายบุคคลต่อ
พอจบเรื่องเธอก็เดินกลับมาที่ไลน์
"เธอไปไหนมาน้ำ งานยิ่งเร่ง ๆ" กลับมาถึงไลน์มนกำลังเย็บจักรของผ่องอำไพรอ
"น้ำไปขอลางานที่ฝ่ายบุคคลมาค่ะ น้ำต้องได้กลับบ้านก่อนเพราะที่บ้านมีปัญหา"
"อะไรนะ ทำไมต้องได้รีบกลับช่วงนี้ด้วย รู้ไหมว่างานมันยุ่งขนาดไหน" มนคิดว่าฝ่ายบุคคลคงไม่อนุมัติแน่ เพราะว่าตอนนี้งานไลน์ 3 เร่งที่สุดแล้ว
แต่ก็ผิดคาดเพราะไม่นานฝ่ายบุคคลก็เดินตามหลังผ่องอำไพมา
"มนพี่หาคนมานั่งจักรนี้แทนแล้วนะ ผ่องอำไพเขาจะกลับบ้านสักอาทิตย์นึงท่านประธานก็อนุญาตแล้ว"
ทุกคนที่นั่งอยู่แถวนั้นต่างก็มองมาทำไมผ่องอำไพถึงลางานได้ง่ายดายขนาดนี้ แถมท่านประธานเป็นคนอนุมัติเองด้วย
"น้ำจะกลับวันไหนเหรอ" จากที่กำลังต่อว่าให้ผ่องอำไพ มนก็เปลี่ยนคำพูดใหม่
"กลับเย็นนี้ค่ะ"
..ตอนเย็นหลังเลิกงาน..
"น้ำกลับเองได้ค่ะ คุณไม่ต้องให้ใครไปด้วยหรอก"
เพราะภูสิษฐ์ให้เอาสุนันทาและภวัฐไปกับเธอด้วย
"ถ้างั้นก็ไม่ต้องกลับ"
"อะไรของคุณอีก" [*คนบ้าอะไรชอบใช้แต่อำนาจจนเคยชินแล้วสินะ..]
"ก็ได้ ฉันไม่หนีคุณไปไหนหรอกยังไงฉันก็ใช้หนี้คุณอยู่แล้ว" แต่ตอนนี้ผ่องอำไพกลับคิดว่าที่เขาให้คนของเขาไปด้วย เพราะกลัวเธอจะหอบเงิน 4 ล้านของเขาหนีไป
ภูสิษฐ์ ไม่ได้กลัวว่าเธอจะหนี แต่อยากจะปกป้องเธอให้มากที่สุด ถ้าเขาไปเองได้เขาก็ไปแล้ว แต่เรื่องงานก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะพนักงานเป็นพัน ๆ ก็รอเขาอยู่เหมือนกัน
ภูสิษฐ์ให้ภวัฐขับรถ ให้เธอนอนไปด้านหลังแบบสบายหน่อย
"น้ำถ้าง่วงก็นอนเลยนะ" ภวัฐหันมาพูดกับผ่องอำไพที่นั่งอยู่ทางด้านหลัง
"ไม่เป็นไรค่ะ แล้วพี่วัฐไม่ได้ไปญี่ปุ่นกับเขาเหรอคะ"
"ท่านคงเป็นห่วงน้ำมากกว่า ก็เลยไปคนเดียว"
"เขาคงกลัวน้ำหนีหนี้ล่ะสิ"
แล้วทั้งสองก็ขำที่เธอคิดว่าเขากลัวเรื่องหนีหนี้ เพราะเงินแค่นี้ท่านประธานไม่ได้คิดมากเลย กับผู้หญิงคนอื่นหมดเยอะกว่านี้อีกหลายเท่า
"พี่วัฐกว่าจะถึงหนองคาย อีกนานไหม" รถออกตัวมาได้สักระยะหนึ่งสุนันทาก็สงสัย
"จากที่พี่เคยไปนานแล้วนะ ก็สิบชั่วโมงได้"
"ถ้าพี่เหนื่อยก็บอกนะ สุจะขับเปลี่ยน"
"ไม่ต้องหรอก สุก็นอนพักซะ" ขับรถไปก็คุยกันไปเรื่อย ๆ
...สิบชั่วโมงผ่านไป... @หนองคาย
"น้ำ ๆ ถึงน้ำสวยแล้วไปไหนต่ออีก"
"บ้านน้ำอยู่หนองสองห้องค่ะ จะเป็นทางผ่านพอดีพี่ขับไปอีกแป๊บนึงก็ถึงแล้ว"
"พอดีเลยเดี๋ยวพี่แวะเติมน้ำมันแป๊บนึงนะ" พอเติมน้ำมันเสร็จก็ขับรถวิ่งไปได้สักพักก็ถึงบ้านของผ่องอำไพ
"พ่อจ๋า" ผ่องอำไพลงรถมาก็เห็นพ่อนั่งอยู่ตรงแคร่หน้าบ้าน หญิงสาวรีบวิ่งไปกอดพ่อทันที
"น้ำ" พ่อกอดลูกสาวไว้แนบอก
"แล้วน้อง ๆ ไปไหนคะพ่อ"
"ไปโรงเรียนกันหมดแล้วละ"
"พ่อกินอะไรหรือยังคะนี่ก็สายมากแล้ว"
ทั้งสามนั่งรถมาทั้งคืน กว่าจะถึงสาย ๆ ของวันต่อมา
"แล้วหนูมากับใครบ้าง" พ่อมองไปดูด้านหลังเห็นชายหญิงคู่หนึ่งยืนอยู่
ทั้งสองก็ยกมือไหว้พ่อขอผ่องอำไพ
"พี่ ๆ ที่ทำงานค่ะพ่อ ช่วงนี้เขาหยุดพักร้อนพอดี หนูก็เลยชวนมาเที่ยวบ้านเราด้วย" ผ่องอำไพจำเป็นต้องโกหกพ่อไปก่อนเพราะเธอไม่รู้ว่าจะพูดความจริงกับพ่อยังไงดี
"พักผ่อนกันตามสบายเลยนะลูก บ้านก็หลังไม่ใหญ่เท่าไหร่หรอก แต่ก็พออยู่กันได้หลายคน"
บ้านเธอเป็นบ้านปูนชั้นเดียวหลังไม่ใหญ่นัก แต่ก็มีสามห้องนอน
"พวกพี่เค้าจะไปพักรีสอร์ทค่ะ พ่อไม่ต้องห่วงเรื่องห้องพักนะ" เพราะทางเข้าบ้านของผ่องอำไพติดถนนใหญ่ และจะมีรีสอร์ทให้พัก
>>{"เป็นไงบ้าง"} ที่จริงเขาโทรมาถามหลายครั้งแล้วเพราะเป็นห่วงกลัวจะเกิดอุบัติเหตุ
{"ถึงแล้วครับ"}
"ดูท่าทางท่านจะเป็นห่วงผู้หญิงคนนี้มากเลยนะพี่"
"พี่ก็คิดแบบนั้นแหละ"
เพราะผู้หญิงของภูสิษฐ์ก็ไม่ได้มีแค่ผ่องอำไพคนเดียว แต่เขาก็ไม่เคยเทคแคร์ใครแบบนี้มาก่อน