ชายหนุ่มตวาดลั่น แล้วก็ต้องยกมือขึ้นลูบหน้าของตัวเองเมื่อความง่วงนอนแล่นเข้ามาจับไปทั่วทุกเซลส์ประสาท แต่กระนั้นเขาก็ยังขืนตัวเอาไว้สุดกำลัง
“ถ้าไม่บอก... ฉันจะจับเธอโยนออกไปนอกห้องเดี๋ยวนี้ และในสภาพนี้ด้วย...”
นาริกามองตามสายตาของเดนนิส แล้วก็ได้พบว่าตัวเองนั่งเปลือยเปล่าให้เขามองอยู่นานหลายนาที สีแดงผุดขึ้นทดแทนสีขาวๆ บนพวงแก้มทั้งสองข้างทันที พอๆ กับที่มือบางดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดบังร่างกายเอาไว้อย่างลนลานนั่นแหละ กลีบปากอิ่มที่บวมช้ำเพราะถูกจูบป่าเถื่อนสั่นระริก
“แองเจลล่า โรเจอริโอ...”
ไม่รู้ว่าคำตอบของหล่อนมันน่าขัน หรือว่าเขาเป็นคนเส้นตื้นกันแน่ เพราะพอหล่อนยืนยันว่าตัวเองคือแองเจลล่า โรเจอริโอออกไปเท่านั้น พ่อหนุ่มหล่อที่หน้าตาแดงก่ำด้วยอารมณ์เจ็บแค้นหรืออาจจะพ่วงด้วยแรงราคะเล็กน้อยก็หัวเราะลั่นห้องซะงั้น
แต่แปลกนะ... ทำไมดวงตาของเขาไม่หัวเราะตามปากเลยล่ะ นัยน์ตาสีฟ้าลึกล้ำของเดนนิสกำลังแปลงร่างเป็นมีดโกนคมๆ ที่ทั้งกรีดทั้งจ้วงลงบนผิวหัวใจของหล่อนอย่างเหี้ยมโหด
“บัดซบ! คิดว่าฉันโง่จนมองไม่ออกหรือไง”
เจ้าของคำพูดเลื่อนสายตาคมกริบลงไปจ้องมองเนินสาวของหล่อนนิ่ง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาสบตากับหล่อนซ้ำอีกครั้ง และคราวนี้กองไฟในดวงตาคมแทบจะเผาหล่อนให้แหลกเป็นจุล
“ไม่มีทางเป็นไปได้หรอกนะที่เส้นผมกับขน... ของเธอจะเป็นคนละสีกัน... เธอพลาดแล้วล่ะแม่สาวนิรนาม”
“ฉัน... คือว่าฉัน...”
นาริกาหน้าซีดเผือดขณะก้มมองเจ้าเนินสาวอวบอูมที่หว่างขาของตัวเอง ใช่สินะ... มันจะเป็นคนละสีกันได้ยังไง หล่อนพลาดเองนั่นแหละ
“ไม่ว่าคุณจะเกลียดฉันแค่ไหน...”
น้ำตาไหลพรากออกมาขณะมองคนตัวโตที่ตอนนี้กำลังถูกฤทธิ์ของยานอนหลับที่วาเลนป้ายเอาไว้ที่ยอดถันของหล่อนด้วยความละอายใจ เมื่อเห็นอาการของเขาทรุดลงเรื่อยๆ ตาคมใกล้จะปิดอยู่แล้ว หล่อนเห็นเขาสะบัดศีรษะหลายครั้งติดต่อกัน
หล่อนผิด หล่อนเลว แต่หล่อนไม่มีทางเลือก
“แต่ฉันไม่เคยคิดทำร้ายคุณ... ฉันขอโทษ... ฉัน...”
แม้สติใกล้จะปลิดปลิวแล้วแต่เดนนิสที่ตอนนี้กำลังจะล้มแหล่มิล้มแหล่ลงบนเตียงอีกครั้งก็ยังสามารถเค้นคำว่าเกลียดออกจากมาจากปากของตัวเองได้สำเร็จ และนั่นก็แสดงให้นาริกาเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่า ตอนนี้ความรู้สึกที่เดนนิสมีต่อหล่อนนั้นมันเลวร้ายแค่ไหน
“ฉันเกลียดเธอ...”
และนี่คือคำพูดสุดท้าย ก่อนที่เดนนิส โอซิลจะล้มคว่ำลงกับเตียง เขาหลับใหลเพราะฤทธิ์ยานอนหลับที่วาเลนป้ายเอาไว้กับหัวนมของหล่อน ความจริงชายหนุ่มอาจจะไม่หลับไปแบบนี้ หากเขาไม่เลีย ไม่ดูด และดื่มด่ำกับมันมากอย่างที่พึ่งทำลงไป
นาริกามองร่างไร้สติของเดนนิสทั้งน้ำตา จากนั้นก็ขยับจัดร่างใหญ่ให้ขึ้นมานอนบนเตียงในท่าที่สบายที่สุดเท่าที่หล่อนจะสามารถทำได้ มือบางดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมร่างหนาของเขาเอาไว้แค่หน้าอก จากนั้นจึงลงไปซ่อนตัวเองลงในเสื้อผ้าชุดเดิม
“ฉันขอโทษ... เดนนิส...”
เมื่อตัวเองอยู่ในชุดสุภาพเรียบร้อยแล้ว หญิงสาวก็หยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองขึ้นมากดโทรหาวาเลนที่กำลังรอฟังข่าวจากหล่อนอยู่ด้วยความไม่สบายใจเลย
“เรียบร้อยแล้วค่ะ... ฉันกลับได้แล้วใช่ไหม” แล้วก็ต้องอ้าปากค้างเมื่อคู่สนทนาที่ปลายสายตอบกลับมาว่าให้หล่อนอยู่ที่นี่จนถึงเช้า
“แต่ว่า... แค่นี้เราก็น่าจะพอได้แล้ว เดนนิสไม่มีทางไปวุ่นวายกับคุณแองจี้ได้อีกแล้ว...”
พยายามคัดค้าน พยายามจะเปลี่ยนแปลงทุกอย่างเสียใหม่ แต่วาเลนคนที่ได้รับคำสั่งจากมาร์คอสโดยตรงไม่ยอมผ่อนปรนใดๆ เลย
“แผนการยังคงเหมือนเดิมทุกอย่าง การแต่งงานจะต้องเกิดขึ้น เพื่อให้แน่ใจว่านายเดนนิส โอซิลจะไม่ไปวุ่นวายกับคุณแองจี้ตัวจริงได้อีก อย่าคิดจะทรยศเชียวนะ ดื่มยาขวดสีฟ้าซะแล้วกลับขึ้นไปนอนบนเตียง พรุ่งนี้ทุกอย่างจะเรียบร้อย”
วาเลนพูดมาตามสายด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ขณะที่คนฟังอย่างนาริกาหมดทางที่จะโต้แย้ง ได้แต่กำโทรศัพท์มือถือไว้ในมือแน่นจนมันแทบแหลก
ในเมื่อบุญคุณมันค้ำคออยู่แบบนี้... หล่อนก็คงต้องก้มหน้าทำตามคำสั่งต่อไป แม้ว่าตัวเองจะไม่เต็มใจที่จะกระทำมันเลยก็ตาม
ไม่มีทางเลือกอีกแล้ว...
น้ำตาหยุดสุดท้ายไหลผ่านพวงแก้มออกมา หญิงสาวยกมือขึ้นปาดมันทิ้งไป ก่อนจะหมุนตัวเดินตรงไปหยุดที่โต๊ะเครื่องแป้งที่มีกระเป๋าถือราคาแพงของหล่อนวางอยู่ นาริกาเปิดกระเป๋าสุดหรูใบนั้นออก ขวดยาเล็กๆ สีฟ้าอยู่ภายในนั่น มือสั่นทีเดียวเวลาที่หยิบมันขึ้นมา
มันเป็นยานอนหลับ...
หล่อนรู้ดี เพราะยาที่วาเลนนำมาป้ายที่หัวนมของหล่อนทั้งสองข้างก็มาจากขวดสีฟ้าแบบเดียวกันนี้แหละ วาเลนคงต้องการให้หล่อนหลับไปเคียงข้างกับเดนนิสใช่ไหม
มันเป็นความคิดที่ดีเชียวแหละ ยานอนหลับขวดนี้คงจะช่วยเยียวยาให้หล่อนคลายความละอายใจ ความเจ็บปวดจากสายตาชิงชังที่เดนนิสใช้มองหล่อนเมื่อห้านาทีที่แล้วลงได้บ้าง
ร่างอรชรที่ดูบอบบางน่าทะนุถนอมขยับมาที่ขอบเตียง จ้องมองคนตัวโตที่ตอนนี้หลับใหลด้วยฤทธิ์ของสารเคมีด้วยความสำนึกผิด
“ริก้าขอโทษ...”
แม้จะรู้ดีว่าต่อให้พูดคำนี้เป็นล้านๆ คำ เดนนิสก็ไม่มีทางให้อภัยในสิ่งที่หล่อนได้กระทำลงไปแน่ แต่หล่อนก็ยังอยากจะพูด ยังอยากจะบอกให้เขารู้ว่าหล่อนไม่ได้ตั้งใจ หล่อนไม่มีทางเลือก และที่สำคัญที่สุด...
หล่อนรักเขา... รักตั้งแต่สบตากับเขาในรูปถ่ายครั้งแรก และยิ่งถลำลึกมากขึ้นอีกหลายเท่าตัวเมื่อได้สบตากันในโลกของความจริง
“ริก้าขอโทษ... เดนนิส...ขอโทษ”
หญิงสาวคร่ำครวญเจือสะอื้น ตัดสินใจยกขวดยาสีฟ้าขึ้นเทลงคอจนหมด เหวี่ยงมันทิ้งลงบนพรมหนาอย่างไม่ใยดี จากนั้นก็ตัดสินใจก้าวขึ้นไปสอดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มผืนเดียวกับคนตัวโตบนเตียง มือบางวาดตวัดรอบลำตัวแข็งแกร่งของเดนนิสเอาไว้แน่น จูบแผ่วเบาที่ต้นแขนทรงพลัง
หล่อนจะทำแบบนี้ได้ก็ต่อเมื่อเขาไร้สติเท่านั้น หล่อนรู้ดี...
“ริก้ารักคุณนะคะ เดนนิส...”
และเพียงไม่กี่นาทีต่อมานาริกาก็หลับใหลเคียงข้างกับเดนนิส โอซิลไปบนเตียงอย่างง่ายดาย เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อจากนี้