ตอนที่ 12
“จะเป็นไรมั้ยคะ ถ้าจิจะชวนคุณพักห้องนี้แทนจิ แล้วเดี๋ยวจิจะขับรถกลับเอง”
“คาดว่าคุณคงต้องรอนานเลยนะครับ เพราะว่าตอนนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเคลียร์น้ำท่วมออกได้เลย”
“หว้า!!...แย่จังเลยนะคะ”
“ผมว่าคุณจิโทรบอกสามีของคุณก่อนก็ได้นะครับ เดี๋ยวเขาจะเป็นห่วงเอาได้”
“ค่ะ” หญิงสาวดูมีสีหน้าเศร้าทันทีที่เขาเอ่ยถึงสามีของเธอ เตชินเก็บความสงสัยใจเอาไว้ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะต้องเอ่ยถาม เขาพอจะรู้เรื่องราวความสัมพันธ์ของเธอกับสามีมาบ้างจากข่าววงใน
“มีอะไรหรือเปล่าครับ”
“ปะเปล่าค่ะ” อาการอึกอักของเธอทำให้เขาเริ่มอยากถามถึงความสัมพันธ์ระหว่างเธอและสามีขึ้นมา
“คุณจิขับรถอะไรมาเหรอครับ”
“รถเก๋งค่ะ”
“โอ่ว์!!!...ถ้างั้นอย่าเสี่ยงกลับเลยครับ รถคุณจิอาจจะดับกลางคันเอาได้..ถ้าเสี่ยงขับลุยน้ำ”
“คุณเตชินทานอะไรมาหรือยังค่ะ เพื่อว่าเราจะได้สั่งอาหารขึ้นมาทานบนนี้กัน” จิรัชยาเสนอ อย่างน้อยก็ถือเป็นการเลี้ยงอาหารเพื่อตอบแทนที่เขาเซ็นต์สัญญาร่วมธุรกิจกับเธอ
“เป็นความคิดที่ดีครับ ผมก็กำลังหิวพอดีเลย งั้นรบกวนคุณจิสั่งเผื่อผมด้วยนะครับ”
“อ๋อได้ค่ะ ว่าแต่..คุณเตชินชอบอาหารประเภทไหนคะ”
“ขอเป็นสเต๊ก กับไวน์ดีกว่าครับ”
“โอเค คิดเหมือนกันเลย งั้นรอสักครู่นะคะ เดี๋ยวจิสั่งให้”
“ขอบคุณครับ” หญิงสาวส่งยิ้มให้ชายหนุ่มก่อนจะหันไปยกหูโทรศัพท์ภายในห้องสั่งอาหารของโรงแรม
“จิ..สั่งอาหารเรียบร้อยแล้วนะคะ รอสักพักเดี๋ยวคงมาส่งให้ที่ห้อง” หญิงสาวหันมาบอกกับเขา แต่เธอก็รู้สึกถึงความร้อนที่ลามสู่ใบหน้า เมื่อเห็นเขากำลังจะถอดเสื้อ
“โทษทีครับ พอดีว่าผมลุยฝนมาแล้วเสื้อมันเปียก”
“ตายจริง!! คุณมีเสื้อมาเปลี่ยนมั้ยคะ” ด้วยไฟที่ไม่สว่างมากนักทำให้เธอไม่ทันสังเกตว่าเสื้อของเขาเปียกชุ่มไปด้วยน้ำฝน
“มีอยู่ที่รถประมาณสองสามตัวครับ งั้นเดี๋ยวผมมานะครับ” เตชินรีบบอกก่อนจะเดินออกห้องไป เขาแวะยืมร่มขอพนักงานโรงแรมเพื่อเดินไปเอาเสื้อผ้าที่รถ เขาพอมีติดมาอยู่บ้างหลายชุดอยู่เหมือนกัน ตอนแรกเขากะจะแวะซื้อ แต่ด้วยความเร่งรีบจึงทำให้เขาลืม
ระหว่างรอจิรัชยาก็นั่งคิดอย่างลังเลใจ เธอไม่กล้ากลับออกไปด้วยเห็นสายฝนที่ตกอย่างหนักอยู่บริเวณด้านนอก ฟ้าร้องเป็นระยะก็ยังมีอยู่ตลอดเธอเป็นคนกลัวเสียงฟ้าร้องเป็นอย่างมาก แต่จะให้เธอนอนกับชายแปลกหน้าสองต่อสองเนี่ยนะ!! ใครจะไปกล้ากันเล่า ดีไม่ดีเกิดเขาหน้ามืดขึ้นมาเธอจะทำอย่างไร
พอกลับขึ้นมาที่ห้องได้เตชินก็รีบเอ่ยถามจิรัชยาทันที เพราะเขาก็เกรงใจหากว่าเธอยังกลับไม่ได้และเขาต้องขอค้างคืนในห้องนี้กับเธอ
“เอ่อ!!...คุณจิตัดสินใจจะกลับ หรือว่าค้างที่นี่..ดีครับ” เสียงทุ้มของชายหนุ่มถามขึ้นอย่างเกรงใจ
“ฝนตกแบบนี้จิคงไม่กล้าขับรถออกไปหรอกค่ะ อีกอย่างจิขับรถไม่เก่ง แล้วไหนจะมีน้ำท่วมถนนอีก จิตัดสินใจพักที่นี่ค่ะและยอมให้คุณพักด้วย” หญิงสาวแสดงความีน้ำใจด้วยน้ำเสียงเรียบแต่หนักแน่น ใบหน้าคลายความกังวลลงไปเล็กน้อย
“เรื่องความปลอดภัยรับรองได้ ผมให้คุณจินอนบนเตียง ส่วนผมจะนอนที่โซฟาเองครับ”
ไม่นานนักคนส่งอาหารของโรงแรมก็มาเคาะห้องของพวกเขา
“เราทานอาหารกันก่อนเถอะครับ” เขาบอกเธอ เมื่อเห็นอีกฝ่ายยังยืนนิ่งไม่ยอมขยับตัว เขาจึงเคลื่อนตัวเข้าไปใกล้ ๆ ยื่นมือโบกไปมาอยู่ตรงหน้าของหญิงสาว แต่ยังไม่ทันไรจะได้แตะเนื้อต้องตัวของเธอ หญิงสาวก็ขยับถอยห่างออกทันที ท่าทางที่เขาเดินเข้ามาประชิดตัวทำให้เหมือนมีพลังขุมหนึ่งจะเข้ามาคุกคามเธอ จนจิรัชยาตกใจ
“คุณจะทำอะไรคะ” คำถามดังออกมาอย่างอัตโนมัติ โดยสมองไม่ทันได้คิดประมวลผล
“ก็ผมชวนคุณจิทานข้าวตั้งนานแล้ว คุณก็ไม่ตอบ แถมยังยืนนิ่ง ผมก็นึกว่าคุณเป็นอะไร” รูปร่างใหญ่โตที่มองดูบึกบึนทำให้เธอนึกไปถึงเสือ และคืนนี้เธอก็กลัวถูกเสืออย่างเขาขย้ำ
“โทษทีค่ะ พอดีจิกำลังคิดอะไรเพลิน ๆ” สีหน้าที่ถึงแม้จะมึนตึงไปบ้างแต่ก็ยังดูสวยน่ารัก
เปรี้ยง!!!!
แสงสีขาวที่สว่างวาบไปทั่วห้อง ทำให้หญิงสาวกรีดร้องพร้อมกับวิ่งไปซบอกของเขา ชายหนุ่มอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา เขายกฝ่ามือซ้ายขึ้นมาวางในระดับศีรษะของหญิงสาวและลูบเบา ๆ เพื่อให้เธอคลายตกใจ
“ปล่อยเถอะค่ะ จิโตแล้ว ไม่ใช่เด็กๆ ไม่ต้องมีคนมาลูบหัวให้ก็ได้” เสียงหวานบอกเขาเมื่ออีกฝ่ายเริ่มได้สติ
“แน่ใจนะครับ....ว่าคุณโตแล้ว”
“ก็เมื่อกี้จิตกใจนี่คะ” หญิงสาวตวัดสายตาค้อนให้เขาวงใหญ่ก่อนที่เธอจะเดินตามเขาไปที่โต๊ะอาหาร และพยายามระงับความกลัวและความตะขิดตะขวงใจที่ต้องมาอยู่ร่วมห้องกับชายแปลกหน้า สภาพห้องที่กว้างขวางและสีของเครื่องนอนให้ความรู้สึกว่าน่าอยู่เลยทีเดียว หลังจากทานอาหารเสร็จ เขาก็จิบไวน์พร้อมกับเธอต่อ และการนั่งดื่มไวน์กับชายแปลกหน้าภายในห้องสองต่อสองนั้นไม่ใช่ความคิดที่ดีเลย เธอจึงไม่กล้าจะดื่มมากมายเท่าไหร่