หลังจากวันนั้นวินก็เริ่มแบ่งเวลาของตัวเองให้ว่างมากขึ้น เพราะอาการของคุณอาเริ่มทรุดหนักรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลและเด็กน้อยต้องอยู่กับเขาทุกวันเพราะไม่อย่างนั้นเธอต้องนอนค้างที่โรงเรียนซึ่งถ้าเป็นเขาในตอนสิบสองขวบไร้ซึ่งสมบัติและคนคอยช่วยเหลืออย่างอาทินกร ป่านนี้คงได้ไปอยู่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไปแล้ว ความรู้สึกมันแย่ที่สุดเมื่อเราไม่เหลือใคร แต่โชคดีเมื่อตอนที่พ่อกับแม่เสียอาทินกรคอยช่วยเหลือทุกอย่าง และพาเขาไปที่บริษัทคอยจัดการปัญหาให้ทุกอย่างจนเขาอยู่ได้ถึงทุกวันนี้ และในความโชคดีของหนูนิดเขาเชื่อว่าความโชคดีที่หนูนิดมีคือเขาคนนี้ เขาจะไม่มีทางยอมให้เธอไปลำบากและอยู่กับใครที่ไว้ใจไม่ได้ เขาจะเป็นคนดูแลเธอด้วยตัวเองตลอดชีวิต เขาสัญญา
"คุณวินจะกลับแล้วเหรอคะ"
"ครับ ผมจะไปรับหนูนิดที่โรงเรียน แล้วจะพาเธอไปเยี่ยมพ่อด้วย"
"รับทราบค่ะ ไม่ต้องห่วงที่นี่นะคะถ้ามีอะไรด่วนพี่จะรีบแจ้งทันที"
"ขอบคุณนะครับพี่พิม คนที่ผมจะไม่ลืมพระคุณอีกคนก็คือพี่พิม"
เขายิ้มออกมาบางๆ พี่พิมเป็นเลขาเก่าของคุณพ่อซึ่งเธอไม่ได้ลาออกและยังคงอยู่เคียงข้างเขาและอาทินกรไม่ไปไหน
"คุณพ่อของคุณวินมีบุญคุณกับพี่มากค่ะ ถ้าไม่มีท่านพี่คงลำบากกว่านี้เยอะ"
"มีอะไรบอกผมได้นะ ผมช่วยได้รวมเรื่องเงินด้วย"
"แค่ที่ให้ก็มากมายแล้วค่ะ รีบไปเถอะค่ะหนูนิดคงร้องไห้หาพี่วินของเธอแล้ว"
พิมเอ่ยออกมาเสียงอ่อนโยน หนูนิดเป็นเด็กน่ารักมากและดูคุณวินจะรักเด็กคนนี้เป็นพิเศษ คงเพราะเป็นลูกสาวของผู้มีพระคุณ และเธอเป็นเด็กน่ารักว่านอนสอนง่ายด้วยถึงทำให้ใครๆต่างหลงรัก
"งั้นผมไปก่อนนะครับ"
เขารีบเดินออกไปทันที แต่เดินออกไปไม่ทันไรก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นซะก่อน เขารีบกดรับสายเพราะปลายสายที่โทรศัพท์เข้ามาเป็นเบอร์ของโรงพยาบาล
"สวัสดีครับ"
(คุณวินใช่มั้ยคะที่เป็นญาติของคุณทินกร)
"ใช่ครับ เกิดอะไรขึ้น..."
(อาการเขาไม่ไหวแล้วค่ะ เขาบอกตอนนี้อยากเจอคุณ รีบมาหน่อยนะคะทางเราจะยื้อเขาไม่ไหวแล้ว)
วินถึงกับช็อคออกมาอย่างพูดไม่ออก เขาวางโทรศัพท์ลงแล้วรีบวิ่งไปที่รถ เปลี่ยนเส้นทางไปโรงพยาบาลก่อนอันดับแรก
"ไปโรงพยาบาลด่วนเลย"
เขาสั่งผู้ช่วยของตัวเองให้รีบออกรถ ใช้เวลาไม่นานก็เดินทางมาถึงที่หมาย เขารีบวิ่งตรงไปยังห้อง ICU แล้วเปลี่ยนชุดเข้าไปหาอาทินกร
สภาพเขาในตอนนี้ใบหน้าซีดเซียวหายใจหอบใบหน้ามีเครื่องช่วยหายใจสวมอยู่ เขาเดินมากุมมืออาทินกรไว้อย่างสงสาร น้ำตาซึมออกมารื้นขอบตาอย่างหยุดไม่อยู่
"คุณอา"
พอเขาเห็นหน้าเจ้านายก็ใช้มือดึงเครื่องช่วยหายใจออก เขายื่นมือไปหยิบแฟ้มเอกสารมายื่นให้วินตรงหน้า เขารับมาเปิดดูก่อนจะเจอพินัยกรรมยกทุกอย่างให้ลูกสาวพร้อมเงินในบัญชีทั้งหมดที่เขามี โฉนดที่ดินบ้านที่เขาอยู่ ใบสูติบัตรของหนูนิดด้วย
"ฝากดูแลลูกสาวผมด้วย เธอไม่เหลือใครแล้ว"
เขาบีบมือวินแน่นพยายามจะพูดออกมาให้มากที่สุด ชายหนุ่มบีบมือเขากลับก่อนจะให้สัญญาลูกผู้ชายไว้
"อย่าห่วงเลยนะครับ หนูนิดจะมีความสุขที่สุดและเธอจะโตมาเป็นผู้หญิงที่เก่ง ผมจะบอกเธอเองว่าคุณพ่อของเธอเข้มแข็งมาก"
"ขอบคุณมากนะครับคุณวิน ความดีครั้งนี้จะส่งผลให้คุณมีแต่ความเจริญรุ่งเรือง ขอให้บริหารบริษัทด้วยความมีสติรอบคอบ อย่าไว้ใจใครนอกจากตัวเอง ฝากบอกหนูนิดด้วยว่าผมรักเธอมาก"
เขาไอออกมาก่อนจะกุมหน้าอกตัวเองไว้แน่น วินน้ำตาตกเรียกคุณหมอมาดูอาการ แต่ไม่ทันแล้วเพราะอาทินกรได้จากโลกใบนี้ไปแล้ว
ติ้ดดดดดดดด
"คุณอา!!!"
มือใหญ่หล่นลงบนเตียง เสียงร้องของเครื่องมือแพทย์ส่งสัญญาณเตือนว่าคนไข้ไร้ลมหายใจแล้ว เขากำแฟ้มเอกสารแน่น เขาจะต้องเข้มแข็งที่สุดเพื่อหนูนิดจะได้มีที่พึ่งต่อไป เขาจะเป็นทั้งพ่อ แม่ พี่ชาย และเพื่อนของเธอเอง
หลังจากดำเนินการเรื่องเอกสารทุกอย่างแล้ว เขาส่งตัวแทนทนายช่วยเป็นธุระให้ในเรื่องทุกอย่าง ส่วนสมบัติของหนูนิดทั้งหมดเขาให้ผู้ช่วยเอาไปฝากไว้ที่ธนาคารเป็นชื่อของหนูนิดโดยที่เธอสามารถใช้ได้เมื่อมีอายุครบสิบแปดปีบริบูรณ์
"หนูนิดพี่วินมารับแล้วค่ะ"
เด็กน้อยสะพายกระเป๋าสีชมพูใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้มหวานตลอดวัน พอเห็นหน้าพี่วินของเธอก็ยิ้มออกมาอย่างดีใจ
"พี่วินสวัสดีค่ะ"
หนูน้อยวิ่งมายืนอยู่ตรงหน้าก่อนจะยกมือไหว้ย่อตัวลงแล้วกระโดดกอดคอชายหนุ่มทันที
"สวัสดีค่ะหนูนิดคนสวย"
"วันนี้จะพาหนูนิดไปหาคุณพ่อมั้ยคะ"
เด็กน้อยเอ่ยถามเสียงใส เขาสะอึกไปเกือบจะน้ำตาไหลพราก ดีที่ยั้งสติได้ก่อนจะฝืนยิ้มออกมาบางๆ
"วันนี้ยังไม่ไปค่ะ เอาเป็นว่าพรุ่งนี้ดีกว่า วันนี้หนูอยากไปไหนพี่วินจะพาไปค่ะ"
หนูน้อยไม่เซ้าซี้ถามต่อกอดคอเขาไว้ปล่อยให้ชายหนุ่มอุ้มเธอไปขึ้นรถ ผู้ช่วยของเขามองเด็กน้อยอย่างน่าสงสาร ที่ต้องกำพร้าพ่อตั้งแต่ยังเด็กไม่รู้เรื่องราวแบบนี้
"ไปไหนดีครับ"
"หนูอยากไปไหนคะบอกพี่วินเลย"
เขาอุ้มเด็กน้อยมานั่งลงบนตัก มือหนาลูบไล้ผมเธออย่างเบามือ หนูนิดทำหน้าครุ่นคิดก่อนจะยิ้มออกมาเหมือนจะนึกขึ้นได้
"ที่บ้านหนูนิดมีเจ้าบ๊อกด้วยค่ะ ไม่ได้ไปหาเลยไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงบ้าง"
"เจ้าบ๊อกเหรอ... คืออะไรตุ๊กตาเหรอคะ หนูอยากไปเอามาไว้ที่บ้านเหรอ"
วินมองเด็กน้อยอย่างงงๆ หนูนิดสะกิดผู้ช่วยของวินที่ชื่อฟาร์
"พี่ฟาร์คะไปส่งหนูนิดที่บ้านได้มั้ยคะ"
"ได้ครับ งั้นไปเลยนะ"
ฟาร์หันไปสะกิดคนขับรถให้ขับออกไปทันที ทิ้งให้วินทำหน้างงสงสัยว่าบ๊อกคืออะไร และก็ถือบางอ้อเมื่อรถเคลื่อนที่มาจอด แล้วเด็กน้อยวิ่งไปหาน้องหมาตัวใหญ่ที่ส่ายหางดุกดิกวิ่งมาหาหนูน้อย
"บ๊อก! หนูนิดคิดถึงจังเลย"
หนูนิดวิ่งไปกอดเจ้าบ๊อกอย่างดีใจ ส่วนวินผละออกมาเล็กน้อยเพราะเขาไม่ชอบเลี้ยงสัตว์เท่าไหร่
"พี่วินคะหนูนิดพาเจ้าบ๊อกไปอยู่ที่บ้านพี่วินได้มั้ยคะ"
เขาอ้าปากค้างอย่างอึ้งสุดๆ ให้บ้านของเขาที่มีแต่ความสงบมาเลี้ยงหมาตัวนี้เนี้ยนะ ไม่มีทาง!
"เอ่อ.. คือว่า"
"พี่วินไม่ชอบเจ้าบ๊อกเหรอคะ"
เด็กน้อยบีบน้ำตามองเขาตาแป๋ว พอเห็นแบบนี้ก็ใจอ่อนยวบเลยนะสิ ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาบางๆก่อนจะเดินมาอุ้มเด็กน้อยมาไว้ในอ้อมแขนอย่างช่วยไม่ได้
"พี่ฟาร์เอาหมาตัวนี้ขึ้นรถ"
ฟาร์มองเจ้านายอย่างอึ้งสุดขีด คนที่ไม่ชอบสัตว์เลยสักอย่างจะยอมเอาหมาไปเลี้ยงเนี้ยนะ! คงมีหนูนิดคนเดียวซะล่ะมั่งที่ทำได้
"เอาจริงเหรอครับ"
"อือ ช่วยไม่ได้แหะ เดี๋ยวหนูนิดก็ร้องไห้อีก เอาไปเถอะ"
"เย่ๆ พี่วินใจดีที่สุดเลยค่ะ"
หนูนิดสวมกอดพี่วินของเธอแน่น พอเด็กน้อยกอดเขาแบบนั้นมันก็อดยิ้มออกมาไม่ได้
"นี่เป็นหนูหรอกนะพี่ถึงยอม ถ้าลองคนอื่นเอามาเลี้ยงนะ หึ! ตายกันไปข้าง"