บทที่ 2 แรงรักแรงเกลียด

2263 คำ
ฉันลืมตาขึ้นมาก็ต้องพบเจอแต่ความว่างเปล่าและสีพนังห้องที่ขาวโพลนดูสะอาดตา ว่าแต่ทำไมถึงปวดเนื้อปวดตัวขนาดนี้นะ อย่างกับนอนหลับผิดท่ามาทั้งคืนเลยอย่างงั้นแหละ ฉันคิดในใจก่อนที่จะเริ่มก้มลงสำรวจตัวเอง แล้วทำไมเตียงเราถึงเย็นจังเลย และเมื่อก้มลงไปดูให้เต็มตา ดวงตาคู่สวยของฉันก็เป็นอันต้องเบิกกว้างอย่างตื่นตะหนก อ่างอาบน้ำ!!! ฉันมานอนอยู่ในอ่างอาบน้ำได้ยังไง!! พรึ่บ! ฉันค่อยๆ หยัดตัวลุกขึ้นยืนและก็พบว่าห้องน้ำที่ฉันนอนมาทั้งคืนมันไม่ใช่ห้องน้ำที่คอนโดฉัน แต่ที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือ ฉันมานอนอยู่ในนี้ได้ยังไง หัวสมองค่อยๆ ประมวลผลจนมีภาพบางอย่างผุดเข้ามา เมื่อคืนนี้หลังจากที่แยกกับพี่เจโรมแล้วฉันก็มีปากเสียงกับล่ามจนนายนั่นลากตัวฉันออกมาจากผับ แล้วต่อจากนั้นเราสองคนจึงมาทะเลาะกันต่อในรถ แล้วอีตาล่ามก็พาฉันไปไหนสักที่ ถึงตอนนั้นภาพในหัวก็ดับสนิทไปเลย ฉันหลับ! ใช่ฉันเผลอหลับไปนี่นา… ปัง!! ฉันเดินพรวดพราดออกมาจากห้อง ปิดประตูเสียงดังเป็นการเตือนว่าตอนนี้ฉันกำลังหัวเสียอย่างมาก ร่างสูงที่กำลังนั่งยกดัมเบลอยู่ตรงโซฟาอวดมัดกล้ามเป็นลูกๆ ถึงกับหันมามองทางฉันทันที “กล้าดียังไงทิ้งให้ฉันไปนอนอยู่ในห้องน้ำ!” ฉันยืนกอดอกกระแทกเสียงถามคนตรงหน้าที่มีสีหน้าเรียบเฉยไม่รู้สึกรู้สาอะไรทั้งนั้น น่าหมั่นไส้! “ก็เห็นบอกร้อน เลยช่วยสงเคราะห์ให้” เขาตอบกลับมาหน้าตาเฉย นั่นยิ่งทำให้ฉันปรี๊ดแตกหนักยิ่งกว่าเดิม “นี่! นายมีความเป็นสุภาพบุรุษบ้างมั้ย ไม่เคยมีใครบอกเหรอว่าผู้หญิงเป็นเพศที่บอบบาง เพราะงั้นนายควรปฏิบัติกับฉันให้ดีมากกว่านี้” “บ่นเก่งชิบ!” “ว่าไงนะ” “ฉันก็ดีกับผู้หญิงทุกคนนะ แต่ยกเว้นเธอคนเดียว” ว่าจบล่ามก็หันไปสนใจดัมเบลในมือก่อนจะยกมันขึ้นลงโดยไม่สนใจฉันที่กำลังยืนต่อว่าเขาอยู่สักนิด เขามันนิสัยเสีย เย็นชา ปากร้าย ไม่เคยแคร์ความรู้สึกของใคร แตกต่างกับพี่ชายแบบสิ้นเชิง พี่เจโรมทั้งเป็นสุภาพบุรุษ บางครั้งก็มีมุมอ่อนโยน แถมเขายังนิสัยโตกว่าล่ามเป็นไหนๆ ฉันถึงได้ตกหลุมรักเขาตั้งแต่ครั้งแรกที่เราเจอกัน ผิดกับล่ามที่เกลียดหน้ากันตั้งแต่ที่เจอครั้งแรก “ฉันเข้าใจแล้วว่าทำไมยัยเอวาถึงชอบพี่เจโรม แทนที่จะเป็นนาย ทั้งที่นายก็ตามปกป้องดูแลเอวามาตลอด” ฉันจงใจเปรยประโยคนี้ขึ้นมาเพื่อทำให้คนฟังอย่างล่ามรู้สึกเจ็บ เหมือนที่เมื่อคืนเขาพูดถึงเรื่องพี่เจโรมให้ฉันเจ็บ!!! “พูดอะไร” และได้ผล ล่ามชะงักมือที่กำลังออกกำลังกายลงก่อนจะปลายตาคมจ้องมาทางฉันนิ่งๆ “ก็พูดความจริงไง นายมันเทียบพี่ชายไม่ติดเลยสักนิด พี่เจโรมน่ะเขาเหนือกว่านายทุกอย่าง เพื่อนนายถึงได้ชอบเขาไง” ปึง! ฉันสะดุ้งโหยงสุดตัวเพราะอยู่ดีๆ ล่ามก็ปล่อยดัมเบลลงมาที่พื้นเสียงดังลั่น แววตาดุดันเริ่มกลับมาแข็งกร้าวอีกครั้ง เป็นการบ่งบอกว่าครั้งนี้ฉันปั่นหัวเขาได้สำเร็จ “คนอย่างเธอไม่มีสิทธิ์มาเปรียบเทียบใครทั้งนั้น เพราะเธอเองก็ไม่ได้ดีไปกว่าฉันหรอกญดา!” “ไม่ใช่เลย ฉันมั่นใจว่าฉันมีดีกว่านายแน่ๆ” “งั้นเหรอ?” ร่างสูงหยัดตัวลุกขึ้นยืนเต็มสูงก่อนที่ล่ามจะสาวเท้าเดินเข้ามาประชิดตัวฉันจนฉันต้องรีบถอยหนีเขาเอง แต่ทว่ามือใหญ่กลับไวกว่า ล่ามฉกมือมาเกี่ยวเข้าที่เอวของฉันไว้พร้อมกับรั้งร่างฉันเพื่อให้เข้าไปยืนเบียดกับร่างกำยำของเขาอย่างแนบชิด พรึ่บ! “นี่!!” “อะไรล่ะ ที่เธอบอกว่ามีดี ลีลาบนเตียงงั้นดิ?” สายตาคมดุจใบมีดเริ่มมองมาที่ฉันอย่างจาบจ้วงจนน่าขุนลุก ล่ามลดสายตาลงมาหยุดอยู่ที่หน้าอกฉันอย่างแทะโลม ไม่ว่าล่ามจะใช้สายตามองมาที่จุดไหนฉันก็รู้สึกราวกับว่าเหมือนตัวเองกำลังถูกใบมีดคมๆ กรีดลงมาทุกที่ที่สายตาเขาจ้องมองมา อันตรายมากผู้ชายคนนี้ “หยุดหยาบคายกับฉันนะ ไม่งั้นฉันจะฟ้องพี่เจโรม” “ฟ้องสิ คิดว่าฉันกลัวรึไง” “ถอยไป อย่ามาแตะตัวฉัน!!!” ฉันพยายามผลักร่างหนาเพื่อให้เขาถอยออกไปให้ห่างร่างฉัน แต่ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุเพราะล่ามยิ่งกอดรัดเอวฉันให้แนบชิดกับร่างของเขามากยิ่งกว่าเดิม “หวงตัวเหรอ? ทีกับเฮียฉันไม่เห็นเธอจะหวงแบบนี้” “….” “ออกจะ‘ง่าย’ วิ่งเข้ามาเสนอตัวให้ฟรีๆ” “เหมือนเพื่อนนายน่ะเหรอ ที่แทบทวายตัวให้พี่เจโรมโดยที่เขาไม่ได้ขอ จะว่าอะไรฉันก็ช่วยว่าให้มันพ้นเพื่อนตัวเองหน่อยเหอะ” “ญดา!” ล่ามเรียกชื่อฉันด้วยน้ำเสียงลอดไรฟันอย่างโกรธจัด แต่ฉันไม่กลัว มิหนำซ้ำยังเชิ่ดหน้าขึ้นเพื่อสู้สายตากับร่างสูงแบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน “รับความจริงไม่ได้?” ฉันตั้งใจย้อนประโยคที่เขาพูดกับฉันเมื่อคืนกลับไปพร้อมกับฉีกยิ้มหวานจนล่ามควันออกหู มือที่รั้งเอวฉันอยู่เริ่มออกแรงรัดมากขึ้น และมากขึ้นจนฉันรู้สึกระบมที่ส่วนนั้นไปหมด!!! “เธอนี่แม่ง ปากดีกว่าที่ฉันคิดไว้เยอะเลย” “….” “อยากรู้เหมือนกันว่าตอนอยู่บนเตียงจะยังปากแจ๋วแบบนี้มั้ยวะ!!” “จะทำอะไร โอ้ย!” ฟึ่บ! ร่างสูงผลักฉันจนเสียหลักไปนอนอยู่ที่บนโซฟาตัวยาวและจากนั้นล่ามก็รีบตามเข้ามาขึ้นคร่อมร่างของฉันอย่างรวดเร็ว ลมหายใจฉันกระตุกเฮือกทันทีที่รู้ชะตากรรมตัวเองว่าต่อจากนี้ฉันต้องเจอกับอะไร แต่อย่าหวังว่าคนอย่างญดาจะยอม “เอาสิ ปากดีอีก” ท้าทายฉันงั้นเหรอ “ไม่อายตัวเองบ้างเหรอที่เที่ยวมาใช้กำลังกับผู้หญิงที่ไม่มีทางสู้ นายมันน่ารังเกียจ!!!” “พูดเหมือนตัวเองสูงส่งเลยนะ ทั้งที่ความจริงเธอมันก็แค่ปลิงตัวนึงที่ชอบตามมาเกาะเฮียฉัน!!” “….” “น่ารังเกียจพอกัน!” “ล่าม!!!” “ไหนๆ เธอก็อยากเสนอตัวให้เฮียฉันขนาดนี้แล้ว งั้นให้ฉันช่วยเช็คของให้ก่อนมั้ย เผื่อฉันจะได้ช่วยดูว่าข้างในมันสึกหรอไปถึงไหนต่อไหนแล้ว” “ไม่ อย่า!!!” คนด้านบนกดร่างฉันให้จมลงไปกับโซฟาจนฉันไม่สามารถลุกหนีไปไหนได้ เดิมทีก็แทบไม่มีทางหนีอยู่แล้ว ในขณะที่ล่ามเองยังคงอยู่บนตัวฉันและเขาก็กำลังใช้บางอย่างที่มันเป็นท่อนอยู่ในกางเกงมาถูที่บริเวณต้นขาฉันอย่างน่ารังเกียจสุดๆ “ตัวสั่นทำไม!! เธอกล้ามาต่อปากต่อคำกับฉันก็เก่งให้ตลอดสิญดา” “ล่าม หยุด!!!” ฉันได้แต่ร้องห้ามสลับกับผลักร่างเขาให้ออกไปด้วยแรงอันน้อยนิดที่มี ซึ่งมันก็แทบจะไร้ประโยชน์ เพราะล่ามไม่สะทกสะท้านอะไรเลย ร่างแกร่งบดเบียนกายหนาเข้ามาแนบชิดฉันยิ่งกว่าเดิม ส่วนที่ตรงนั้นก็ยังเล่นงานขาอ่อนของฉันแบบไม่มีที่ท่าว่าจะหยุด บ้าจริง! ทั้งที่เราสองคนไม่สนิทอะไรกันเลยด้วยซ้ำ เจอหน้ากันก็แค่ไม่กี่ครั้ง แต่ผู้ชายคนนี้กลับกล้ามาทำเรื่องทุเรศแบบนี้กับฉันได้ยังไง เขามันยิ่งกว่าปีศาจซะอีก!!! “ไม่หยุด!” “ฉันบอกให้หยุดเดี๋ยวนี้!! ไม่งั้นเรื่องนี้ถึงหูพี่โรมแน่” “เชิญเลย ถ้าคิดว่าเธอจะรอดไปบอกเฮียได้!” “กรี๊ดด~ ไอ้บ้า ปล่อยฉันนะ ไอ้ผู้ชายป่าเถื่อนเสื่อมทราม!!!” “ร้องอีก ร้องดังๆ” “ปล่อยฉันสิ ปล่อย!!!” ปิงป่อง ปิงป่อง! เสียงออดหน้าห้องที่ดังแทรกขึ้นมาเป็นดั่งเสียงระฆังที่ช่วยชีวิตฉันได้อย่างถูกที่ถูกเวลาพอดี! ล่ามหยุดการกระทำสุดป่าเถื่อนเพียงชั่วครู่ก่อนที่หน้าหล่อเลวจะก้มลงมาหมายจะไซ้ซอกคอฉัน ปิงป่อง ปิงป่อง! แต่แล้วเสียงออดก็ดังขึ้นมาขัดอีกครั้ง ซึ่งรอบนี้คนเจ้าอารมณ์ก็ยอมปล่อยฉันให้เป็นอิสระอย่างไม่ค่อยเต็มใจ ขายาวก้าวเดินตรงไปยังหน้าประตู ส่วนฉันจึงอาศัยจังหวะที่ล่ามไปเปิดประตูรีบหยิบกระเป๋ามาสะพายและตั้งท่าจะหนีทันทีที่บานประตูถูกเปิดออก แอด… “ฉันกดออดเรียกตั้งนาน ทำไมเพิ่งมาเปิดล่ะ” แต่แล้วเสียงหวานๆ ที่ดังมาจากทางหน้าห้องก็ทำให้ฉันเบิกตาโตพร้อมกับหันไปมองต้นเสียงที่คุ้นหูนั่น “เอวา!” “ก็ฉันไง แล้วทำไมต้องทำหน้าตกใจขนาดนั้นด้วย…อ่าว ญดา” หน้าสวยดูตกใจมากทันทีที่เหลือบมาเห็นฉันยืนอยู่ในห้องของล่าม ฉันจึงตีหน้านิ่งก่อนที่จะรีบเดินตรงไปยังหน้าประตูโดยไม่พูดอะไร “ทำไมเธอมาอยู่ที่นี่!?” “ถามเพื่อนเธอเองสิ อ้อ แล้วถ้าขืนเธอยังสั่งให้เขาตามมายุ่งวุ่นวายกับชีวิตฉันไม่เลิก เธอได้เดือดร้อนแน่ฉันขอเตือน!” “เธอพูดเรื่องอะไรน่ะ” “เตรียมตัวตอบคำถามพี่โรมไว้ได้เลย” ฉันจ้องหน้าหล่อสลับกับหน้าสวยอย่างเกลียดชังและรีบพาตัวเองออกมาจากห้องบ้าๆ นั่นด้วยดวงตาที่แดงก่ำราวกับคนจะร้องไห้ ทุกๆ การกระทำที่ล่ามทำไว้กับฉันมันยังชัดอยู่ในหัวทุกอย่าง แล้วฉันก็จะไม่ปล่อยให้เขาได้ทำร้ายฉันอยู่ฝ่ายเดียวแน่ หนามยอกต้องเอาหนามบ่ง งานนี้สองคนนั้นต้องโดนเอาคืน โดยเฉพาะล่าม!!! [บันทึกพิเศษ : ล่าม] “เกิดอะไรขึ้น ทำไมผู้หญิงคนนั้นถึงมาอยู่ในห้องนาย แล้วที่เธอพูดก่อนออกไปมันหมายความว่าไง?” เอวาถามจี้ผมเรื่องที่ยัยตัวแสบมาโผล่อยู่ในห้องของผม ผมจึงเหลือบไปมองหน้าเธอก่อนจะหลบตาเมื่อเจอสายตากดดันจากร่างบาง เรื่องทั้งหมดก็ไม่มีอะไรมากหรอก ก็แค่เมื่อคืนผมจะพายัยนั่นมาสั่งสอนนิดหน่อยเพราะเธอดันมาปากดีกับผมแต่พอขึ้นมาบนรถญดาก็ดันเผลอหลับไป ผมไม่รู้จะพาเธอไปทิ้งที่ไหน บ้านยัยนั่นก็ไม่รู้จัก ผมก็เลยต้องลำบากพาตัวญดากลับมาไว้ที่ห้อง แต่อย่าคิดว่าผมจะใจดีให้ยัยนั่นมานอนร่วมเตียงเดียวกับผม ผมเห็นเธอบ่นว่าร้อนอยากอาบน้ำ แถมยังทำท่าจะอ้วกในห้องผมอีก ผมจึงจัดการพายัยตัวเล็กแต่หุ่นเอ็กซ์นั่นไปทิ้งไว้ในอ่างอาบน้ำอย่างที่เห็น! แต่พอตื่นเช้ามาญดาก็มาพูดจากวนประสาทผมแต่เช้า แถมยังใช้ถอยคำที่มันน่าจับกดมาต่อว่าผมอีก ไอ้ผมมันก็เลือดร้อนอยู่แล้ว พอโดนญดาสะกิดต่อมเข้าผมก็เลยทนไม่ไหวเผลอใช้กำลังรังแกเธอจนยัยตัวเล็กถึงกับตัวสั่นหน้าแดงไปหมด ดูไปก็น่าสงสาร แต่ฤทธิ์เธอก็เยอะจริงๆ สมควรโดนผมสั่งสอนซะบ้าง จะได้เลิกปากดี!!! “ตอบมาสิล่าม” เสียงของเอวาเรียกให้ผมกลับมาสนใจผู้หญิงตรงหน้าอีกครั้ง ผมจึงขยับปากตอบเธอไปสั้นๆ “ไม่มีอะไร แค่สั่งสอนยัยนั่นนิดหน่อย” “สั่งสอน!! นายทำอะไรเธอ” “เอาเป็นว่าฉันยังไม่ได้ทำ เธอควรห่วงตัวเองนะเอวา จะไปห่วงยัยนั่นทำไม” “ไม่เอาน่า บอกแล้วไงว่าอย่าไปยุ่งกับเขา เขาจะทำอะไรก็ปล่อยไปเถอะ” “ไม่มีทาง ยัยนั่นตั้งใจเข้าหาเฮียทั้งที่ก็รู้ว่าอีกหน่อยเธอกับเฮียต้องหมั่นกัน ผู้หญิงแบบนั้นต้องเจอฉัน!” “ล่าม” “แล้วนี่ออกจากโรงบาลได้แล้วเหรอ เฮียล่ะไปไหน ทำไมไม่ให้เฮียมาส่ง” “เห็นเขาบอกว่าติดต่อญดาไม่ได้ พี่เจโรมก็เลย…” “รีบถ่อไปหายัยนั่น!!” ผมพูดต่อประโยคหลังจากที่เอวาพูดค้างไว้ เธอคงไม่อยากให้ผมรู้เพราะถ้าผมรู้ผมต้องไม่อยู่เฉยแน่ แต่เรื่องแค่นี้ผมดูออกอยู่แล้ว แค่ไม่เห็นเฮียมากับเอวาผมก็รู้ทันทีว่าเฮียจะไปหาใคร ญดา! “นายอย่าไปหาเรื่องใครเลยนะ ฉันไม่เป็นอะไรแล้ว” “ตาแดงขนาดนี้ยังบอกว่าไม่เป็น” ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเอวาต้องแอบร้องไห้มา ผมเป็นเพื่อนสนิทกับเธอมานานแค่นี้ผมดูออก ถ้าเอวาไม่ทำอะไร ผมจะเป็นคนทำเอง!!! ≪•◦ ❈ ◦•≫
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม