9

1213 คำ
“ภรรยาหมอหล่อคนดังหนึ่งในผู้บริหารบริษัทร่วมทุนระดับประเทศ กำลังเที่ยวทะเลฉ่ำอยู่เลยจ้า เอ…แล้วนั่น ไม่รู้ว่าไปกับใครนะ ไม่เห็นเหมือนคุณหมอ สามีสุดหล่อเลยนี่นา” เสียงอ่านโพสต์หนึ่งในข่าวประจำวันของสื่อสังคมมีเดียดังกรอกอยู่ที่ข้างหูของปริญญ์ แต่ไม่ได้ทำให้เขาเสียสมาธิแต่อย่างใด ปริญญ์ยังคงสั่งงานกับเลขาอยู่เป็นระยะ เวลาล่วงผ่านไปร่วมสี่สิบนาทีได้ จนเลขาออกจากห้องแล้ว ถึงได้เห็นปริญญ์ลุกจากเก้าอี้ของเขา เทวัญเองที่คาบข่าวนั้นมาฟ้อง ตะโกนถามเสียงดังคับห้องทันที “ไปไหนครับบอส” “พรุ่งนี้วันหยุด กูจะไปไหนก็ได้เปล่าวะ” ปริญญ์บอกเทวัญที่แวะมาขอยืมเงินเขา แต่เขายังไม่อนุมัติจ่ายให้มันไป เลี่ยงไปยังรถส่วนตัวของเขาแทน “ตกลงมึงจะเอายังไงกับหลักฐานที่กูหามาให้ จะฟ้องหย่าเลยไหม กูจะได้ให้น้องทนายเขาช่วย” ปริญญ์ตวัดตามองเทวัญด้วยอาการไม่พอใจทันทีที่ได้ยินคำว่า ‘หย่า’ “ไม่ต้อง ถ้าจะหย่า กูจัดการเองได้” “มึงพูดแบบนี้เหมือนคนไม่อยากหย่าเลยนะเว๊ยปิน” เทวัญถามเสียงฉุน เพราะรู้จักปริญญ์มาตั้งแต่เด็ก เรียนอนุบาลวัดมาด้วยกัน โตมาด้วยกัน เพิ่งจะแยกกันตอนที่ปริญญ์สอบติดแพทย์ แต่ตนไปทำงานที่บาร์โฮสแล้วจับสาวม่ายได้เงินมาก้อนใหญ่มาทำธุรกิจ แต่ก็เหมือนไม่รอด แต่ได้ปริญญ์คอยช่วยเหลืออยู่ตลอด “มึงคิดดูนะปิน มึงหาเงินมาเท่าไร เมียมึงก็มาขอตอดเอาไปตลอด ไม่เอาไปปรนเปรอไอ้หมอสายเกานั่น แม่งก็เอาไปถลุงที่คลินิกของยัยหมอปีกุนจนหมด แบบนี้มึงจะให้เขาเกาะมึงกินไปจนวันตายเลยหรือไง อย่าลืมนะเว้ยเฮ้ยว่าเขาทำอะไรไว้กับมึงบ้าง” “หยุดพูดได้แล้ว กูรู้หมดแล้ว” “รู้แล้ว แต่มึงก็ยังเอาเงินไปปรนเปรอให้ดาใช้อยู่ตลอด ๆ นี่มึงยังรักดาอยู่อีกหรือวะ เขาหลอกใช้มึง ให้จ่ายค่ายา จ่ายค่าหมอให้แม่เขาตอนนั้น แล้วก็เฉดหัวมึงทิ้ง มึงยังตามไปง้อให้เขากลับมารักมึงอีก มาแต่งงานกับมึงอีก แบบนี้ไม่ใช่โง่ธรรมดาแล้วนะเว้ย เขาเรียกว่า โง๊ โง่” ปริญญ์ไม่พูดตอบโต้อะไรออกไปแม้แต่คำเดียว ใบหน้าตึงเครียดอย่างเห็นได้ชัดเมื่อถูกเพื่อนรักตอกย้ำความเจ็บปวดให้รับรู้อีกครั้ง เขาเดินเลี่ยงไปที่รถ แต่แล้วเอแคลร์ที่อดทนรอคอยอยู่เป็นนานสองนานตรงโซนต้อนรับก็วิ่งพรวดตรงเข้ามาหา พร้อมร้องเรียกเขาไปด้วย “พี่ปิน” ปริญญ์หยุดเดิน แต่ไม่ได้หันไปมองที่หญิงสาว เอแคลร์ตามเข้ามายืนกอดแขนของเขาไว้แน่น แหงนหน้าขึ้นถาม “จะไปไหนคะ” “เรื่องของพี่” ได้ยินคำตอบแล้วหญิงสาวแทบหลุดอาการ อยากทำตัวเอาแต่ใจ แต่นึกได้ว่าปริญญ์ไม่ชอบ ได้แต่บอกตัวเองว่าทำใจให้สงบเอาไว้ ยิ้มในหน้า แต่ในอกในใจเดือดพล่านเลยทีเดียว “ได้ค่ะเรื่องของพี่ปินก็ได้ แต่ถ้าจะไปไหน ให้เอไปด้วยนะคะ” เอแคลร์ตามเข้าไปนั่งในรถ ชวนปริญญ์คุยตลอดทาง แต่ได้ความเงียบและใบหน้าที่ตึงจนเหมือนหนังกลอง ถูกขึงจนน่ากลัวว่าจะขาดกลางทางเข้าจนได้ ไม่นานรถถึงได้ขับไปจอดภายในโรงแรมติดชายทะเลแห่งหนึ่ง ปริญญ์ลงจากรถทันที เขากวาดสายตามองหา จนเห็นภรรยาของเขาเดินอยู่กับเพื่อนของเธอ ตรงตามที่คนของเขาติดตามดูและรายงานอยู่ตลอดเป็นระยะ ๆ ก็ตรงปรี่เข้าไปยื้อแขน เพื่อเอากลับไปขึ้นรถ จินดาพรรณตกใจในทีแรกที่เห็นสามี แล้วมองปรามไปทางกอบกุลว่าเดี๋ยวจัดการเอง เลยปล่อยให้สามีกึ่งลากกึ่งจูงมือ ตรงที่รถของเขา และที่บนรถคันนั้น ก็มีเอแคลร์นั่งอยู่ที่ตอนหลังด้วยอีกคนจินดาพรรณเชิดคอขึ้นตรง มองท้าทายไปยังเอแคลร์และสามี เปิดปากถามเสียงหยัน “วันนี้อยากควบสองหรือไงคะคุณสามี…ไหวด้วยหรือ” เสียงถามเชิงดูถูกพร้อมด้วยสายตาสบประมาทถูกส่งไปยังปริญญ์ เขามองหมิ่นตอบกลับมาแล้วว่า “จะถามอะไรใครน่ะ ดูตัวเองก่อน ว่าถ้าเอาขึ้นมาจริง ๆ จะไหวอย่างที่ปากเก่งอยู่นี่หรือเปล่า” จินดาพรรณหันไปยังเอแคลร์ จงใจว่าทั้งชายและหญิงคู่นี้ไปพร้อมกันด้วยเลย “สกปรกดีนะ เธอยอมให้ผู้ชายแบบนี้เอาเธอได้ไง ไม่คิดจะเลือกหน่อยหรือ” ปริญญ์ไม่ทนฟัง เขาตามเข้ามานั่งเบียดเธอแล้วสั่งคนขับรถ “โต ส่งที่โรงแรมซีวิว” “ครับ” คนของเขาตอบรับเสียงเข้ม พารถตรงไปยังจุดหมายในทันที เอแคลร์ขยับตัวออกห่างจากภรรยาของปริญญ์ ถามเสียงลนปนไม่พอใจ “พี่ปินคะ นี่มันอะไรกันคะ ทำไมต้องไปที่นั่นด้วย” “เอบอกพี่เองไม่ใช่หรือว่าอยากพักที่นั่นสักครั้ง” “แต่เออยากพักกับพี่ปินสองคนนี่คะ” ปริญญ์ไม่ตอบว่าอะไร นั่งเงียบด้วยกันสามคนที่ตอนหลังของรถอยู่ร่วมสามสิบนาทีกว่าที่โต คนขับรถของปริญญ์จะพารถไปจอดตรงหน้าโรงแรมติดชายหาดที่ชื่อซีวิว “ลงไป” ปริญญ์สั่งเสียงห้วน เอแคลร์มองมาที่เธอ แล้วช้อนตามองออดอ้อนไปยังปริญญ์ “พี่ปินคะ” ปริญญ์สั่งอีกที น้ำเสียงหงุดหงิดกว่าเดิม “พี่บอกให้ลงไป” “อย่าทะเลาะกันเลย ฉันลงเองดีกว่า” จินดาพรรณบอกพร้อมกับขยับตัวจะเอื้อมมือไปเปิดประตู เพื่อลงจากรถ แต่ถูกมือของปริญญ์ดึงเอาไว้ก่อน เขาส่งสายตามองกดดันไปยังเอแคลร์ เอแคลร์เลยจำใจต้องลงจากรถ หญิงสาวหน้าสวยหวานยืนมองเข้ามาในรถ คาดหวังว่าปริญญ์จะตามลงมาด้วย แต่เขาทำเพียงเปิดกระจกแล้วกวักมือเรียกพนักงานให้เข้ามารับเอแคลร์ไปส่งยังที่พัก เอแคลร์เข้ามาเกาะข้างรถถามปริญญ์ “ทำไมไม่ลงมาด้วยกันละคะพี่ปิน” “พี่จะไปนอนที่บ้าน” ปริญญ์บอกจบ สั่งโตให้พารถตรงไปยังบ้านพักริมหาดที่เขาซื้อไว้นานแล้ว เคยมาครั้งเดียวและไม่เคยมาพักที่นี่อีกเลย จินดาพรรณใจเต้นแรงกับการกระทำของสามี แต่แล้วกลับนิ่งเงียบ ใบหน้าเฉยเมย ไม่อยากวางใจว่าเขาจะทำอะไรให้เธอต้องปวดใจอีกหรือไม่ “ลงมาสิ หรือต้องอุ้ม”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม