เขากดรับสาย ก่อนยกขึ้นปิดหูและกรอกเสียงลงไปห้วนๆ
“มีอะไร”
“แกอยู่ไหน”
นอกจากไม่ตอบคำถามแล้ว ปลายสายยังถามกลับมาด้วยน้ำเสียงตึงเครียดจนจักรธนรู้สึกสังหรณ์ใจในทางร้าย นี่หากณรงค์ฤทธิ์ดูแลเคสของเจลกาหรือคุณย่ารมัยอยู่เขาคงแทบแล่นไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้!
แต่ก็เปล่า... ณรงค์ฤทธิ์ทำงานอยู่โรงพยาบาลเอกชนของครอบครัวที่ชานเมือง ไม่ใช่เจ้าของไข้ของน้องสาวหรือคุณย่าของเขา
“ฉันถามว่าแกมีอะไร” จักรธนกรอกเสียงถามอีกครั้ง ปลายเสียงห้วนห้าวอย่างรำคาญที่ดูเหมือนเขากับเพื่อนจะคุยกันไม่รู้เรื่อง “ฉันกำลังยุ่ง ถ้าแกไม่มีธุระ...”
ไม่ทันขาดคำ ปลายสายก็ตะโกนผ่านสายโทรศัพท์มาดังลั่น
“ผู้หญิงในกระท่อมท้ายสวนนี่เป็นใคร แกคิดจะฆ่าคนหรือไงไอ้จักร!”
ร่างซีดเซียวแทบไร้สีเลือดนั้นนอนซุกอยู่ใต้ผ้าห่มนวมผืนหนา กชนิภาตัวสั่นน้อยๆ และเพ้อหาบิดาไม่หยุด จนแม่บ้านวัยกลางคนได้แต่เดินไปเดินมาอย่างร้อนใจขณะรอเจ้านายหนุ่มกับคุณหมอที่กำลังทุ่มเถียงกันอยู่ห้องข้างๆ
เช้านี้นางได้รับมอบหมายให้หาข้าวหาน้ำไปส่งผู้หญิงที่เรือนเล็กท้ายสวน ด้วยความที่รับใช้บ้านนี้มาตั้งแต่นายผู้หญิงกำลังตั้งท้องจักรธน สามสิบปีที่ผ่านมานางจึงเชื่อว่ารู้จักจักรธนดี พอๆ กับบิดามารดาของเขาที่เสียชีวิตไปด้วยอุบัติเหตุเมื่อสามปีก่อน ลออจึงรับคำสั่งโดยไม่ถามเหตุผลอะไร แม้จะตกใจที่เห็นสภาพของผู้หญิงคนนี้ที่จักรธนพามาขังไว้
กชนิภาอยู่ในสภาพไม่น่าดูนัก เธอสวมเสื้อเชิ้ตของจักรธนเพียงตัวเดียวเท่านั้น และนั่งตัวสั่นงันงกอยู่บนเตียงเก่าๆ ที่ปูฟูกแข็งๆ ลออทราบดีว่าเรือนไม้หลังนี้ขาดการดูแลและใช้งานมามากกว่าห้าปีแล้ว แต่ก่อนเป็นเรือนคนสวนเก่าแก่ผู้ชราภาพและค่อนข้างสันโดษ ไม่ชอบความวุ่นวายจอแจหรืออยู่ในที่คนพลุกพล่าน คุณรมัยผู้เป็นนายใหญ่ของบ้านจึงสั่งสร้างเรือนนี้ขึ้นมาให้ด้วยความมีน้ำใจ
แต่คนสวนคนนั้นก็แก่ตายไปแล้วในเรือนนี้ จึงไม่มีใครหาญกล้าเข้ามาแถวนี้อีกเพราะกลัวผี แม้ว่าจะไม่เคยมีใครเห็นผีคนสวนแก่ๆ อย่างที่กลัวกันไปเองเลยก็ตามที
ลออเองก็เป็นแค่แม่บ้านเก่าแก่ มีหน้าที่ทำตามคำสั่งโดยไม่ปริปากถามเท่านั้น นางไม่รู้เหมือนกันว่าผู้หญิงตัวเล็กแค่นี้ไปทำอะไรให้จักรธนโกรธเกลียดจนถูกกระทำรุนแรงถึงเพียงนั้น กชนิภาบอบบางและอ่อนแอจนลออกลัวว่าเธอจะหมดลมหายใจไปเสียก่อนจักรธนจะกลับมาถึงบ้าน แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่า งไร จึงได้แต่วางจานข้าวจานน้ำไว้ให้ แล้วล็อคประตู กลับมาทำงานในบ้านใหญ่จนถึงเวลามื้อกลางวัน ก็ถือถาดอาหารชุดใหม่กลับไปอีก
กชนิภาสะดุ้งทุกครั้งที่ได้ยินเสียงเปิดประตู เธอผวา หวาดกลัว และเอาแต่ซุกตัวอยู่มุมหัวเตียงแบบนั้น ไม่แตะข้าวสักเม็ด หรือน้ำสักอึก แม้ลออจะพยายามคุยด้วย พยายามส่งจานข้าวแก้วน้ำไปให้ แต่เธอก็เอาแต่กอดเข่าร้องไห้ จนลออได้แต่ทอดถอนใจ
กระทั่งได้เวลาอาหารเย็น ลออจึงพบว่ากชนิภานอนนิ่ง หายใจรวยรินอยู่บนพื้นบ้าน นางเห็นร่องรอยของการพยายามเปิดประตูของหญิงสาว ด้วยการใช้เก้าอี้ฟาดประตูหน้าต่าง แต่จักรธนก็ใช้แม่กุญแจล็อคไว้จากภายนอกทุกบาน ลออจับหน้าผากคนถูกขังดูพบว่ากชนิภา ตัวร้อนเป็นไฟก็ยิ่งใจเสีย
นางรีบกลับมาที่บ้านหมายจะโทรบอกให้จักรธนกลับมาจัดการเรื่องนี้ก่อนสาวน้อยคนนั้นจะขาดใจตายไปจริงๆ แต่ลออก็กลับมาเจอคุณหมอณรงค์ฤทธิ์ที่หน้าบ้านพอดี
นานๆ ครั้งณรงค์ฤทธิ์จะแวะมาที่บ้านเป็นเรื่องปกติ มาไหว้คุณย่า บางครั้งก็พาน้องสาวของเขามาหาเจลกา ซึ่งหนนี้ณรงค์ฤทธิ์คงไม่ทันรู้ว่าบ้านนี้เกิดอะไรขึ้นมากมายระหว่างที่เขาเดินทางไปดูงานที่ฮ่องกงและเพิ่งกลับมาพร้อมของฝากพะรุงพะรังแบบนี้...
อาการลุกลี้ลุกลนและรองเท้าที่เปื้อนดินโคลนนั้นทำให้คุณหมอสงสัยและคาดคั้น และลออต้องเลือกระหว่างการเก็บความลับของเจ้านายจนอาจมีคนตายคาบ้าน หรือขอให้คุณหมอที่สนิทกับจักรธนมาแต่เด็กและน่าจะไว้ใจได้ที่สุดให้ช่วยชีวิตเด็กสาวคนนั้นก่อน เรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง
ลออเลือกอย่างหลัง
ณรงค์ฤทธิ์จึงนำตัวกชนิภาขึ้นมาบนเรือนใหญ่และโทรสั่งยากับอุปกรณ์หลายอย่างมาจากโรงพยาบาล เขาบอกกับลออว่าเรื่องนี้ต้องเก็บเป็นความลับหากไม่อยากให้จักรธนมีปัญหา ซึ่งลออเองก็ทราบดีและรู้สึกโล่งใจที่สามารถไว้วางใจณรงค์ฤทธิ์ได้จริงๆ
นางตั้งใจจะโทรรายงานจักรธนหลังช่วยณรงค์ฤทธิ์เช็ดเนื้อเช็ดตัวและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้คนป่วยแล้ว แต่ณรงค์ฤทธิ์ก็ห้ามไว้
‘ให้มันโทรมาถามเอง ผมเชื่อว่าจักรมันรู้ว่ามันทำอะไรอยู่... คนแบบมันไม่น่าใจร้ายขนาดไม่อยากรู้ว่าผู้หญิงที่มันเอามาขังไว้ เป็นตายร้ายดียังไงหรอก’
แต่จักรธนก็ไม่ติดต่อกลับมา รวมถึงไม่กลับบ้าน จนณรงค์ฤทธิ์ทนไม่ไหวต้องโทรตามเสียเอง...
“เออ! ฉันจะไม่ยุ่งก็ได้ ตามใจ อยากทรมานอยากฆ่าใครตายก็ทำไปเลย นับจากวันนี้ฉันไม่มีเพื่อนเลวๆ แบบแก ไอ้จักร!”
ลออสะดุ้งโหยงเมื่อเสียงนั้นดังมาจากห้องข้างๆ ชัดเจนทุกถ้อยคำ ก่อนยินเสียงเปิดปิดประตูปึงปังและเสียงฝีเท้าหนักๆ หายไปทางบันไดวนสู่ชั้นล่าง ลออใจหายวาบ นางหวังให้ณรงค์ฤทธิ์ช่วยเกลี้ยกล่อมจักรธนให้กลับมาเป็นคนเก่าที่นิ่งขรึม ง่ายๆ ยังไงก็ได้ไม่เรื่องมาก ไม่ดุด่าหรือทำร้ายทำลายใครแบบตาต่อตา! ฟันต่อฟัน! อย่างที่จักรธนทำอยู่ทุกวันนี้ที...
แต่นางคงสิ้นหวังแล้วในตอนนี้
ประตูห้องถูกเปิดออก ลออทิ้งตัวลงนั่งกับพื้นข้างเตียง วางมือบนตัก ก้มหน้าตัวสั่น
“ออกไป”
เจ้านายหนุ่มเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยียบ และลออก็รีบลุกขึ้นเดินกึ่งวิ่งออกจากห้องมาด้วยความกลัวและโล่งใจในคราวเดียวกัน หากจักรธนจะไล่นางออกก็คงไล่ปากเปล่าไปตั้งแต่เมื่อครู่แล้ว นั่นหมายความว่านางยังมีงานทำ
ส่วนเด็กสาวคนนั้น... ลออจะถือว่ากรรมใครกรรมมันแล้วกัน
ขนาดเพื่อนสนิทที่คบกันมาตั้งยี่สิบกว่าปีแบบณรงค์ฤทธิ์ยังถูกไล่เปิงไปแบบนั้น แล้วคนรับใช้ธรรมดาๆ แบบนาง จะไปช่วยอะไรได้ นอกจากหาเรื่องให้ตัวเองตกงานตอนแก่ก็แค่นั้นเอง