แบบนี้นี่เองแม่คนที่มาโวยวายจะเอากงยูรอบที่แล้วนี่เองพาเขาเข้ามา
"มีอะไรอีกไหม ฉันกำลังจะดูการแสดง"
"ข้าขอนั่งด้วยคนได้ไหมขอรับคุณหนู" ซอจุนไม่ปล่อยให้โอกาสเสียเปล่ายิ่งนางชอบเขาเร็วก็จะยิ่งดี
จียองมองดูสายตานั้นก็รู้ได้ทันทีว่าชายคนนี้คิดจะเข้าหาเธอแต่ไม่รู้ว่าเพราะหวังประโยชน์อะไรเพราะเท่าที่เธออยู่ในร่างนี้มาได้สักพักเธอก็ได้รู้อย่างหนึ่งคือผู้ชายให้เมืองนี้ไม่กล้าเข้าใกล้เธอเพราะกลัวหนึ่งในสวามีของเธอสังหารเอา
"เอาสิ นั่งด้วยกันทั้งหมดเลย"
จียองหันไปส่งสัญญาณให้กงยูเป็นนัยว่าให้ทำตามที่เธอบอกก่อน และซอจุนก็รีบเข้ามานั่งใกล้จียองทันทีไม่ต้องสงสัยเลยว่าโบซอกไปนั่งไหน
"กงยูวันนี้ท่านจะไปที่ใดหรือไม่ ข้าอยากไปเดินดูร้านต่างๆ ที่เตรียมงานดอกไม้ไฟกำลังคึกคักเลยนะ"
กงยูไม่ตอบแต่หันมาสบตากับจียองเพื่อขอความเห็นว่าจะตอบนางยังไง เพราะถ้าให้เขาตอบเองก็คงจะปฏิเสธไปแล้ว
"ใช่คุณหนูด้านนอกงานกำลังคึกคักเลยขอรับ เราไปเดินเที่ยวเล่นดีไหมถือว่าให้ข้าไถ่โทษคราวที่แล้วด้วย"
ซอจุนเห็นว่าถ้าชวนกันไปหลายคนนางอาจจะไปอีกอย่างดูชายผู้นั้นหากไม่ได้คำสั่งจากนาบีคงไม่ไปกับโบซอกแน่
"เอาสิ ไปก็ไปข้าก็กำลังเบื่อ"
ทั้งสี่คนออกมาเดินดูงานไปเรื่อยๆ แม้เป็นตอนกลางวันงานก็ยังคึกคักมากอีกสองวันก็ถึงวันงานดอกไม้ไฟแล้ว
"คุณหนูถุงผ้าชิ้นนี้ดูเหมาะกับท่านมากเลยนะขอรับ ท่านชอบหรือไม่"
"กงยูเจ้าว่าข้าจะชอบมันไหม"
คำตอบของจียองทำให้ซอจุนถึงกับมองหน้าชายคนนั้นด้วยความไม่พอใจ เพราะนางเป็นแบบนี้ตั้งแต่ออกมาแล้วจะให้ดูอะไรก็ต้องถามชายคนนั้นก่อนตลอด
"คุณหนูไม่ชอบถุงผ้าลายฉูดฉาดขอรับ"
ชายผู้นี้อีกค่อยแต่จะขัดขาเขาตลอดไม่รู้ทำไม นั่นก็คุณหนูไม่ชอบนี่ก็คุณหนูไม่ต้องการ ซอจุนส่งสายตาให้โบซอกดึงตัวชายผู้นี้ออกไปทันทีเพราะเบื่อเต็มทน
"ท่านรู้ใจคุณหนูนาบีจังเลยนะ ทีกับข้าเจ้าไม่เห็นดูแลทั้งที่เวลาไม่มีนางเจ้าเป็นคนละคนแถมยังพูดจาหวานหูกับข้าอีก"
ในเมื่อแยกกันดีๆไม่ได้โบซอกคิดว่าก็ทำให้พวกเขาทะเลาะกันไปเลยง่ายดี
"ท่านพูดอะไร ข้าไม่เคยทะ...."
"แหมเจ้าไม่ต้องอายหรอกนางไม่ว่าอะไรเจ้าหรอกจริงไหมคุณหนูนาบี ถึงเจ้ากับข้าจะนอนด้วยกันแล้วยังไงนางมีสวามีสูงศักดิ์อยู่อีกตั้งสองคน ใยจะต้องมาสนใจท่านจริงไหม" โบซอกรีบพูดดักคอทันที
"ดูเหมือนว่าลูกสาวพ่อค้ายูซอกที่เพิ่งมาอยู่เมืองนี้คงจะไม่เคยได้ยินว่าห้ามยุ่งหรือเข้าใกล้ชายทุกคนที่เป็นของคุณหนูนาบีไม่เช่นนั้นก็ต้องตาย" จียองเดินเข้าไปใกล้แล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
"อย่าคิดมาขู่ข้าเลย ข้าไม่มีทางเชื่อเด็ดขาด" แม้จะหวาดกลัวแต่โบซอกก็คิดว่านางแค่ขู่เพียงเท่านั้น
"รอดูแล้วกัน ไปเถอะกงยูกลับ"
เธอไม่อยากพูดปากเปล่ารอดูเลยแล้วกันเธอจะไปฟ้องวุนซาให้มาจัดการนาง กล้าดียังไงคิดจะมาพูดให้เธอกับกงยูผิดใจกันแม้จะไม่ใช่ความจริงแต่ก็อดที่จะโมโหไม่ได้
"คุณหนูอย่าเชื่อนางเลยนะขอรับ ข้าไม่มีทางทำหรือทรยศคุณหนูเด็ดขาดให้ข้าตายก็ได้" กงยูเห็นท่าทีไม่พอใจของคุณหนูรีบพูดแก้ต่างให้ตนเองกลัวคุณหนูจะไม่พอใจ
"ไม่ได้โกรธนายหรอก โกรธยัยนั่นมากกว่า กล้าดียังไงมาใส่ร้ายเจ้าค่อยดูนางได้เห็นดีแน่ เจ้าเข้าไปในเถอะฉันจะกลับจวนก่อนเดี๋ยวแวะมาหาใหม่"
"ขอรับ"
หลังจากที่โบซอกพูดแบบนั้นไปนางและซอจุนก็ต้องกลับมานั่งเครียดกลัวว่าจะมีปัญหาทำให้อยู่ที่นี่ไม่ได้อีก
"เจ้าเป็นอะไร ข้าให้ไปดึงชายผู้นั้นออกไป ไม่ใช่ไปพูดแบบนั้น"
"แล้วจะให้ข้าทำยังไง ก็ข้าเห็นพวกนั้นแล้วขัดตาตามใจกันอยู่ได้ "
"เจ้าคงยังไม่รู้ชะตากรรมตัวเองว่าตอนนี้พวกเราหนีออกจากเมืองยังแทบไม่ได้ ทางเดียวที่ครอบครัวเราจะรอดคือผูกสัมพันธ์กับนาง"
ซอจุนพูดอย่างระอาญาติผู้พี่คนนี้ที่มีแต่ความสวยแต่กลับโง่เขลายิ่งนัก งานง่ายแค่นี้ก็ทำไม่ได้
"เออข้าผิดเองแล้วทีนี้จะทำยังไงได้"
โบซอกนั่งกลุ้มใจไม่คิดว่าคำพูดไม่ยั้งคิดของนางจะมีผลตามมา ซอจุนเองก็จนปัญญาดูก็รู้ว่าเสน่ห์ของเขาใช้กับคุณหนูคนนี้ไม่ได้
"มีคำสั่งฮ่องเต้ให้จัดการพ่อค้ายูซอกและพรรคพวกของเขาให้หมดภายในงานดอกไม้ไฟที่จะถึงนี้" ฮวานิลบอกสารที่ได้รับให้กับลูกเขยทั้งสองได้รู้
"ขอรับ ขอรับท่านเจ้าเมือง" ทั้งสองตอบรับพร้อมกัน
"พวกเจ้านี่! ไม่เรียกข้าว่าท่านพ่อเหมือนนาบีสักทีนะ ฮ่า ฮ่า" ได้ยินบรรดาลูกเขยเรียกแบบนี้ทีไรก็อดที่จะตลกไม่ได้
"ข้าคงยังไม่ชิน" ยองวอนตอบอย่างประหม่าไม่เคยชินสักที
"วุนซาาาา... ฉันมีเรื่องจะขอร้องท่านนน "
"คุณหนูอย่าวิ่งนะเจ้าคะ โอ้ยยข้าจะเป็นลม คุณหนู"
เสียงร้องเรียกตามด้วยเสียงวิ่งและเสียงห้ามปรามของฮานึลดังมาจากด้านนอกทำให้ทั้งสามต้องหยุดประชุมกันก่อน
"นี่ข้ามีลูกสาวอายุสามขวบรึไงเนี่ยพวกเจ้าดูนางวิ่งมาผมเฝ้ายุ่งไปหมด"
"ท่านพ่อท่านก็อยู่นี่เหรอ " จียองแปลกใจปกติท่านเจ้าเมืองไม่เคยมาที่นี่ตั้งแต่เธอมาเลย
"เห้ออ ข้ากลับแล้วไม่กวนพวกเจ้ายังไงก็อบรมนางให้ข้าที ไม่รู้จักโตจริงๆลูกคนนี้" เดี๋ยวนะบ่นเสร็จก็ไปดื้อๆแบบนี้เลยเหรอ
"เจ้ามีอะไรกับข้างั้นรึ" วุนซาถามอย่างเอ็นดูนางทำแบบนี้ก็น่ารักสดใสดีไม่มีอะไรต้องอบรมนางอีก
"ข้าต้องออกไปไหม" ยองวอนถามเมื่อเห็นว่านางอึกอักอาจจะอยากพูดกับวุนซาคนเดียว
"ไม่ต้องๆ อยู่ได้ๆ ฉันจะขอให้พวกท่านทั้งสองช่วยนั้นล่ะ "
"พูดมาเถอะข้ารอฟังอยู่" วุนซาถามเรื่องที่ทำให้นางร้อนใจอีกรอบ
"ฉันว่าหลานชายของพ่อค้ายูซอกอยากเข้าหาฉันเพราะหวังผลประโยชน์บางอย่าง เป็นไปได้ไหมที่พวกท่านจะไล่เขาออกไปจากเมืองนี้"
จียองไม่กล้าบอกความจริงว่าเพราะว่าที่อยากให้พวกนั้นไปเพราะโบซอกมายุ่งกับกงยูกลัวพวกเขาจะหาว่าไร้สาระ
"ได้สิ พวกข้าจะจัดการให้ไม่เกินสามวันเลยดีไหม" ยองวอนเป็นคนตอบ
"จริงเหรอ ขอบคุณนะพวกท่านทั้งสองน่ารักกับฉันที่สุดในโลกเลย"
พอเห็นเมียยิ้มอย่างดีใจมีหรือที่พวกเขาทั้งสองจะรอชาในเมื่อมันเป็นความสุขของนางต่อให้ต้องตัดใครไปอีกพวกเขาก็จะทำเพื่อให้นางมีความสุขที่สุดในชีวิต