จากวันนั้น มนต์มีนาก็ออกมาอาศัยอยู่ที่คอนโดมิเนียมกับลูกชายสองคนโดยมีกันยาเพื่อนที่หวังดีคอยแวะเวียนมาช่วยเลี้ยงลูกเธออยู่เสมอ มนต์มีนายังเปิดไลฟ์สดขายเครื่องสำอางอยู่เป็นระยะ รายได้ไม่มากแต่ก็พอใช้จ่ายในแต่ละเดือน ซึ่งตัวเธอก็ยังเน้นแต่การขายที่ไม่มีการแต่งหน้าโชว์เช่นเดิม เหตุผลก็เพราะลูกยังกินนมจากเต้าอยู่
กันยาที่แวะมาหาหลานตามปกติเล่าให้มนต์มีนาฟังว่าพบกลุ่มเพื่อนของจวินตามผับอยู่บ่อยครั้ง และกรภพก็มักจะเข้ามาทักทายกันยาแล้วถามถึงมนต์มีนาแทบทุกครั้งที่เจอกัน แต่กันยาไม่ได้พูดอะไรให้อีกฝ่ายฟังมากนัก
กันยาเล่าต่อว่าเธอเคยถามถึงจวินด้วยเหมือนกัน ซึ่งกรภพก็ตอบโดยไม่ต้องหยุดคิดพร้อมกับหัวเราะอย่างขบขันว่า
“อ๋อ ไอ้จินน่ะเหรอ ตอนนี้มันยังอยู่เมืองนอกอยู่เลย ได้ข่าวว่ามีเมียใหม่แล้วด้วย ฮ่า ๆ”
กันยาพูดไปเรื่อยเพราะติดลม เมื่อหันกลับมามองหน้าเพื่อนสาวที่ดูซึมลงอย่างเห็นได้ชัดก็เพิ่งนึกขึ้นได้ จึงรีบขอโทษขอโพย
“เฮ้ย มี่ ฉันขอโทษนะ ไม่ได้ตั้งใจพูดถึงผู้ชายคนนั้นให้แกได้ยินอีก พอดีมันเพลินปากไปหน่อย”
มนต์มีนาที่กำลังนั่งพับและแยกเสื้อผ้าของลูกใส่ในตะกร้าผ้าเด็กส่ายหน้าเรียบ ๆ พลางตอบว่า
“ไม่เป็นไรหรอก ผู้ชายคนนั้นไม่ได้มีผลอะไรกับชีวิตฉันแล้ว ไม่ว่าแกจะเอ่ยชื่อเขาอีกกี่ครั้ง ฉันก็ไม่รู้สึกอะไร”
กันยาแย้มถามอีกด้วยความอยากรู้
“แล้วสมมตินะ ถ้าวันหนึ่งเขาขอกลับมา แค่ในฐานะพ่อของลูกก็ได้ แกจะว่ายังไง”
มนต์มีนาตอบอย่างไม่ลังเล “ไว้ให้ถึงวันนั้นก่อนแล้วค่อยคิด”
พลันคำพูดของจวินที่พูดกับเธอครั้งสุดท้ายที่พบกันก็ผุดขึ้นมาในหัว
“คุณจะจัดการยังไงก็เรื่องของคุณสิ ที่ขับรถตามมาก็เพื่อจะมาดูให้แน่ใจว่าคุณคิดจะจับผมด้วยการปล่อยตัวเองท้องรึเปล่า และคุณก็ไม่ต้องคิดหวังอะไรในตัวผมอีกแล้ว เลิกคิดไปได้เลย วิธีนี้มันโบราณมาก”
‘ใช่...เธอจะจัดการยังไงก็เรื่องของเธอ’
^
^
^
***พักตับกันอีกตอน เดี๋ยวมาเริ่มหัวร้อนกันใหม่ค่า