ตัดขาดกันแล้ว…7/1
1291 คำ
เวลาผ่านมาอีกสี่เดือน ตอนนี้อายุครรภ์ของหญิงสาวก็เข้าเดือนที่หกแล้ว รูปร่างเปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจนทว่าหญิงสาวก็ยังต้องรับผิดชอบเรื่องงานทุกอย่างในบ้าน รวมถึงภาระค่าใช้จ่ายแทบทั้งหมดอีกด้วย ไม่เพียงเท่านั้นเธอยังต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายของตัวหลานสาวที่คนเป็นแม่ผลักภาระมาให้ดื้อ ๆ ยิ่งอยู่นานปิยะนุชยิ่งเอาเปรียบเธอมากเท่านั้น แต่ก็ยังดีที่มนต์มีนาเองได้เอาของมีค่าที่แปลงเป็นเงินได้ไปฝากเพื่อนที่ไว้ใจได้บางส่วน มีบางส่วนที่เธอยอมขายแล้วนำเงินมาใช้จ่าย ทั้งนี้เพื่อไม่ให้ปิยะนุชสงสัยแล้วรีดไถจากเธอจนเกินเหตุ
โชคดีที่ผ่านมามนต์มีนาไม่มีอาการแพ้ท้องเลย ลูกในท้องของเธอเป็นเด็กผู้ชาย ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงครบทุกประการ ยิ่งลูกใกล้คลอดหญิงสาวก็ยิ่งกังวลเรื่องความเป็นอยู่ของลูก เธอจะทนให้ลูกอยู่ในบ้านหลังนี้กับปิยะนุชได้หรือไม่ แม้ว่าบ้านหลังนี้จะเป็นชื่อเธอตามกฎหมาย เป็นสิทธิ์โดยชอบธรรมทุกอย่างหากเธอจะไล่ปิยะนุชออกไปจากบ้านก็ย่อมทำได้ แต่เมื่อมองมาที่หลานสาวอย่างเปียที่อยู่ในวัยกำลังโตและก็ติดเธอมาก ก็ไม่อาจเอ่ยปากไล่สองแม่ลูกซึ่งเป็นญาติที่ยังเหลืออยู่ออกไปจากบ้านได้ ตอนนี้มนต์มีนาให้หลานสาวที่เข้าเรียนอนุบาลแล้วไปกับรถโรงเรียน เธอไม่สามารถขับรถไปไหนได้สะดวกอีกต่อไปทั้งยังเกรงอันตรายด้วย และแน่นอนค่าเล่าเรียนของหลานก็ตกมาเป็นภาระของเธอโดยปิยะนุชอ้างว่าเงินของเธอช่วงนี้ช็อตเพราะงานขายประกันของเธอไม่ได้ตามเป้า ขอให้มนต์มีนาออกให้ก่อนแล้วเธอจะใช้คืนให้ ซึ่งทุกครั้งที่พูดแบบนี้ มนต์มีนาไม่เคยได้เงินคืนและปิยะนุชก็ไม่เคยพูดถึง
ช่วงที่ไม่ได้ออกไปทำงานนอกบ้านแบบเต็มตัวมนต์มีนาก็หาอาชีพเสริมทำโดยการเป็นแม่ค้าออนไลน์กับเขาบ้างด้วยการเปิดช่องโซเชียลมีเดียไลฟ์ขายของ ซึ่งของที่เธอขายก็เป็นประเภทเครื่องสำอางที่เธอถนัดและใช้แต่งหน้าตอนทำงานเป็นพริตตี แต่การเป็นแม่ค้าออนไลน์นั้นก็ใช่ว่าใครทำแล้วจะรุ่งเหมือนคนที่มาสอนคนอื่นทำในคลิป อุปสรรคอย่างหนึ่งของการขายสินค้าออนไลน์ของมนต์มีนาคือ เธอขายเครื่องสำอางแบรนด์ต่าง ๆ แต่ไม่สามารถที่จะแต่งหน้าหรือใช้ครีมบำรุงผิวให้ลูกค้าเห็นในไลฟ์สดของเธอได้ เนื่องจากเธอตั้งครรภ์ คุณหมอที่เธอฝากครรภ์รวมถึงข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญอื่น ๆ ไม่แนะนำให้ผู้หญิงขณะตั้งครรภ์ใช้สิ่งของที่มีสารเคมีเพราะจะดูดซึมถึงลูก เธอจึงระมัดระวังเรื่องนี้มาก
จะจริงไม่จริงแค่ไหนนั้นมนต์มีนาก็ไม่อยากเสี่ยง เธอเพียงไลฟ์สดขาย สอนวิธีแต่งหน้า แต่การที่เธอไม่ได้แต่งหน้าให้เห็นจริงนั้นก็ทำให้ยอดขายของเธอไม่ค่อยดีนัก แต่มันก็ไม่ได้ถึงขั้นแย่ เพราะมันทำให้เธอนำเงินรายได้ตรงนี้มาใช้จ่ายในครอบครัวแทนเงินเก็บได้
มีบ่อยครั้งที่ปิยะนุชบ่นเหน็บแนมและยุให้หญิงสาวแต่งหน้าจริงจะได้ขายของได้เยอะ ๆ แต่เธอก็ไม่ทำ ทำให้ทั้งสองมีปากเสียงกันบ่อยครั้ง
“แค่แต่งหน้าจะอะไรนักหนามี่ คนท้องที่บริษัทฉันก็แต่ง ลูกในท้องไม่เห็นตาย คลอดออกมาก็สมบูรณ์ดี อย่าเรื่องมากนักเลย จะอดตายอยู่แล้ว ฟังฉันบ้างหรือเปล่า หลานก็โตขึ้นทุกวัน ค่าใช้จ่ายก็มากขึ้น นี่... อย่าหาว่าฉันทวงบุญคุณเลยนะ แม่ฉันเลี้ยงแกมาตั้งหลายปีแกก็ช่วยดูหลานทดแทนบุญคุณหน่อยก็แล้วกัน”
ปิยะนุชพูดประชดประชันทวงบุญคุณอยู่ไม่เว้นวัน ทั้ง ๆ ที่มันไม่เป็นความจริง เพราะแม่ของปิยะนุชซึ่งเป็นป้าของมนต์มีนานั้น หอบลูกสาวคือปิยะนุชเข้ามาอยู่ที่บ้านของมนต์มีนาราวกับเป็นบ้านของตัวเองหลังจากพ่อของมนต์มีนาเสียไปได้เกือบหนึ่งปี โดยอ้างว่ามีสิทธิ์เข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ในฐานะพี่สาวของพ่อและที่ดินที่ปลูกบ้านนั้นเป็นของปู่กับย่า หลังจากที่แม่เสียไปอีกคนป้าก็เบิกเงินของแม่ที่ออมไว้ให้เธอออกมาใช้จ่ายในฐานะผู้ดูแลเธอ เนื่องจากเธออายุยังไม่ถึงสิบแปดปีและใช้มันหมดไปอย่างรวดเร็วกับเรื่องของตัวเองและลูกสาว มนต์มีนาได้แค่เพียงอาศัยอยู่ในบ้าน มีข้าวกินสามมื้อ และทำงานบ้านทุกอย่างทั้ง ๆ ที่เป็นบ้านของตัวเองและเงินที่ใช้จ่ายนั่นก็เป็นเงินของมารดาที่ออมไว้ให้เธอ ด้วยความที่เป็นเด็กและป้าก็เป็นญาติผู้ใหญ่คนเดียวที่เหลืออยู่ ทำให้มนต์มีนายอมโดยไม่ปริปากใด ๆ ในขณะเดียวกันก็ต้องหาเงินพิเศษเลี้ยงดูตัวเองมาตลอด จนกระทั่งโตขึ้น หาเลี้ยงตัวเองได้ในระดับหนึ่ง และตัดสินใจย้ายออกมาอยู่กับจวิน เธอจึงไม่ได้ติดต่อกับป้าและปิยะนุชอีก
แต่ไม่ว่าปิยะนุชจะกระแนะกระแหนอะไรก็ตาม มนต์มีนาก็ไม่ยอมแต่งหน้าในไลฟ์สดอยู่ดี และไม่เคยแพนกล้องไปที่อื่นนอกจากใบหน้าของตัวเอง
เมื่อมีออร์เดอร์เข้ามามนต์มีนาก็มานั่งแพ็กของกับหลานสาว ที่ช่วยเธอบ้างแอบตัดถุงบับเบิลเล่นจนเสียหายใช้การไม่ได้บ้าง ทว่ามนต์มีนาก็ไม่เคยดุด่าหลานด้วยถ้อยคำรุนแรงสักครั้งเหมือนที่ปิยะนุชมักพูดกับลูก
ด้านกรภพเพื่อนของจวินที่เห็นหญิงสาวออกมาไลฟ์สดขายสินค้าในโซเชียลก็มีการแคปหน้าจอและส่งให้จวินซึ่งตอนนี้กำลังใช้ชีวิตอย่างอิสระสนุกสนานเต็มที่ในต่างประเทศได้ดูด้วย
“ดูเมียเก่ามึงดิ ไม่รับงานพริตตีแล้วมาเป็นแม่ค้าขายของว่ะ”
จวินซึ่งขณะนี้เริงร่ากับชีวิตใหม่ในต่างแดนแทบจะไม่เหลือเศษเสี้ยวของความทรงจำเกี่ยวกับผู้หญิงชื่อมนต์มีนาอยู่เลยถึงกับนิ่วหน้ามองดวงหน้าเรียวสวยที่มีความอวบอิ่มขึ้นเล็กน้อย ดวงตาคมจ้องมองภาพนั้นอยู่ไม่นานก็สลัดภาพจำในอดีตที่ยังเหลืออยู่เบาบางทิ้งไป คิดเพียงว่าเงินที่ให้ไปก็ไม่น้อย มนต์มีนาก็ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายต่อไปได้โดยไม่ลำบากอะไรเลยนี่ จะไปขายของเป็นงานอดิเรก หรือจะใช้เป็นช่องทางหาคนมาเลี้ยงดูตามประสาอดีตพริตตีค่าตัวแพงก็แล้วแต่ ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเขาสักหน่อย ก่อนจะพูดอย่างตัดรำคาญออกไปว่า
“มึงไม่ต้องเอาเรื่องของคนอื่นมาบอกกูแล้วไอ้กร พอแค่นี้ กูกับมี่เดินคนละทางกันแล้ว”
กรภพหัวเราะร่วน “โอเค ๆ กูก็คิดว่ามึงจะยังคิดถึงเมียเก่าอยู่ แล้วตอนนี้มึงมีเมียใหม่รึยังวะ”
จวินตอบมาทันใดอย่างปัดรำคาญ เพื่อไม่ให้เพื่อนส่งคลิปหรือเรื่องที่เกี่ยวกับมนต์มีนามาให้เขาเห็นอีกว่า “เออ มีแล้ว”
^
^
^
*** หยุมหัวได้เต็มที่ค่ะ
- ผู้เขียน
