หมดความอดทน…8/1

1286 คำ
“ทำไมเป็นแบบนี้ล่ะ เปียทำของน้องรึเปล่า” วงแขนที่โอบกอดลูกน้อยไว้สั่นเกร็ง ดวงตาหันไปจ้องมองหน้าหลานสาวด้วยสีหน้าที่ไม่ได้แสดงความโกรธเกรี้ยว เปียเม้มริมฝีปากแน่น มือเล็กทั้งสองข้างบีบกันแน่นพร้อมกับมองหาคนช่วย แล้วคนที่จะช่วยได้ก็ส่งเรียกขึ้นมา “อะไรมี่ อย่ามาว่าลูกฉันนะ เปียยังไม่ได้ทำอะไรของของลูกแกเลย” “ถ้าเปียไม่ได้ทำ ใครจะทำล่ะพี่ปลา ดูสิ ทำไมเละเทะแบบนี้” มนต์มีนาเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ มันจุกในอก ผิดกับลูกพี่ลูกน้องซึ่งเป็นมารดาของหลานสาว “ของมันตั้งไม่ดีก็หล่นลงมาได้จะไปโทษใคร แกอย่ามาโทษว่าลูกฉันทำนะ ลูกฉันเป็นเด็กดี แกต่างหากที่ละเลยไม่ใส่ใจ ทำให้เปียน้อยใจแบบนี้” มนต์มีนามองหน้าพี่สาวด้วยความอิดหนาระอาใจ “พี่ปลา ที่ผ่านมามี่ก็ดูแลเปียตลอดนะ ไม่เคยละเลยสักครั้งพี่ก็เห็น” “นี่ จะพูดให้มันได้อะไรขึ้นมามี่ เปียมันเพิ่งจะสี่ขวบเองนะ จะไปรู้เรื่องอะไร” “ฉันขอพูดตรงๆ เลยนะ ก็เพราะเปียนี่แหละ พี่ปลาถึงยังได้อยู่ในบ้านหลังนี้” “นังมี่ แกกล้าพูดแบบนี้กับฉันเหรอ” “ทำไมฉันจะไม่กล้าพูด ถ้ายังจะเอาเปรียบกันไม่เลิก ไล่แน่ จะเอาตำรวจมาไล่ด้วย” “แกจะมาไล่ฉันได้ยังไงนังมี่ ในเมื่อที่ดินตรงนี้เป็นของแม่ฉันเหมือนกัน พ่อแกต่างหากที่มาสร้างบ้านในที่ดินปู่ย่าแล้วก็เอาชื่อตัวเองเป็นเจ้าของ” “ฉันว่าพี่ก็รู้นะว่าเรื่องจริงมันเป็นยังไง ฉันไม่พูดไม่ใช่ว่าไม่รู้ แม่ฉันเล่าให้ฟังทั้งหมด แต่ที่ไม่ทำอะไรเพราะเห็นว่าเป็นญาติคนเดียวของพ่อ ปู่ย่ายกที่ดินผืนนี้ให้พ่อฉันเพราะป้าปรียาย้ายออกไปตั้งแต่แต่งงานกับพ่อพี่แล้วและไม่เคยกลับมาดูปู่ย่าเลย มีแต่แวะมาขอเงินอยู่เรื่อย ๆ ปู่กับย่าไม่คิดว่าพี่สาวจะกลับมาแย่งของน้องชายเพราะเงินที่ให้ไปก็ไม่น้อยแล้วแถมยังบอกชัดเจนทุกครั้งที่ป้ามาขอเงินว่าที่ดินผืนนี้ยกให้พ่อฉัน ท่านเลยไม่ได้รีบที่จะทำนิติกรรมให้ถูกต้องก่อนที่จะเสียไล่ ๆ กัน” มนต์มีนาพูดยาวต่อเนื่องเพราะความอดทนมันถึงขีดสุด เรื่องอื่นยังพอทน แต่เรื่องที่มาทำกับลูกเธอ และยังสอนลูกตัวเองแบบผิด ๆ เธอจะไม่ทนอีกต่อไป “ที่ผ่านมาฉันไม่อยากฟ้องร้องให้เรื่องยุ่งยาก ที่สำคัญบ้านหลังนี้เป็นชื่อฉัน ถ้าพี่ยังไม่เลิกสอนเปียแบบผิด ๆ และยังเอาเปรียบกันอยู่แบบนี้ ก็เชิญออกไปอยู่ที่อื่น อีกอย่างจะพาคนอื่นเข้ามาอยู่ในบ้านก็ควรบอกกันก่อนนะ” “คนอื่นอะไรนั่นมันผัวฉัน ฉันจะพาเข้ามามันก็เป็นสิทธิ์ของฉัน แกต่างหากที่กลับมาอยู่ที่นี่ทำไม ออกไปอยู่กับผู้ชายได้ตั้งสามสี่ปีทำไมไม่หาผัวใหม่ล่ะ อ๋อ หรือว่ามีลูกติดเลยหายากหน่อย ฉันบอกแล้วให้เอามันออกแต่แรกก็ไม่เอาออก” ปิยะนุชพูดออกมาด้วยอารมณ์เดือดดาล “ถ้าพี่ยังพูดจาแบบนี้ ฉันจะโทร. เรียกตำรวจเดี๋ยวนี้ ฉันเป็นเจ้าของบ้าน ฉันมีสิทธิ์” มนต์มีนาล้วงโทรศัพท์ออกจากกระเป๋ากางเกงที่สวมอยู่ “เรื่องที่ดินถ้าฟ้องกันจริง ๆ พี่คงจะรู้ว่าผลจะเป็นยังไง ที่ฉันดูแลเปียอย่างดีเพราะเห็นว่าเป็นเด็ก และเป็นหลาน อย่ามาพูดถึงลูกฉันแบบนี้ และถ้ายังทำตัวแบบนี้ก็เชิญออกไปจากบ้านนี้ได้เลย ฉันจะอยู่กับลูกสองคนที่นี่” “ถ้าฉันไม่ไป” “ถ้าไม่ไปฉันก็จะตั้งทนายฟ้องเรื่องที่ดิน แล้วจะขายบ้านให้มันจบ ๆ ไป พี่ก็ไปหาที่อยู่ใหม่ ส่วนเปียก็ให้พ่อรับไปเลี้ยงดูน่าจะมีความสุขกว่าอยู่กับพี่นะ” ปิยะนุชจ้องตามนต์มีนาด้วยความโกรธ ดูท่ามนต์มีนาจะเอาจริง ก่อนจะสะบัดหน้าเปลี่ยนเรื่องไปพูดกับลูกสาวแทน “วุ้ย พูดมากเสียอารมณ์ ไปตามป๊ามากินข้าวไปลูก” “ค่ะแม่” ร่างเล็กจ้องมองหน้าน้าสาวด้วยแววตาที่ไม่เหมือนเด็กว่านอนสอนง่ายอย่างเมื่อก่อน เปียรับคำมารดาแล้ววิ่งออกไป เหลือแต่มนต์มีนาที่ต้องจัดเก็บข้าวของเครื่องใช้ของลูกให้เป็นระเบียบเรียบร้อยใหม่ หญิงสาววางร่างจ้ำม่ำให้นั่งลงเก้าอี้ล็อกตัวเด็กอ่อน หยิบของเล่นมาวางไว้ตรงหน้าลูกให้มือน้อย ๆ หัดใช้กล้ามเนื้อหยิบจับสิ่งของ มีเสียงอ้อแอ้ ๆ คุยเป็นเพื่อนเธอก็หันกลับไปหยอกล้อพูดคุยกับลูก บ้างก็ยื่นหน้าเข้าไปหอมแก้มนุ่ม ๆ อย่างอดใจไม่อยู่เลยสักครั้ง นี่คงเป็นสิ่งเดียวที่เธอนึกขอบคุณผู้ชายคนนั้น ที่มันทำให้เธอได้เจอกับผู้ชายอีกคนที่เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของชีวิต ที่กรอบประตูมีร่างของเด็กหญิงสี่ขวบยืนแอบอยู่ กำลังจ้องมองมนต์มีนากับลูก เมื่อหญิงสาวเอื้อมมือไปหยิบของทางนั้นก็สบตากับหลานสาว “เปีย ทำไมไม่กินข้าวกับแม่ล่ะคะ หนูมายืนทำอะไรตรงนี้” มนต์มียังคงพูดจาดีกับหลานสาวเสมอ แต่แกยังยืนนิ่งไม่ยอมพูดหลบสายตาของเธอ เสียงอ่อนโยนจึงเอ่ยเรียกอีกครั้ง “มาหาน้ามา” คราวนี้เปียจึงยอมเดินก้มหาเข้ามาหา มือเรียวนุ่มสัมผัสตัวหลานสาวอย่างอ่อนโยนดึงแกเข้ามานั่งตัก มือข้างหนึ่งลูบศีรษะอย่างปลอบประโลม เมื่อครู่เธอได้ยินเสียงของปิยะนุชตวาดลูกสาวดังมาจากข้างนอก เธอไม่รู้เหมือนกันว่าเรื่องอะไร แต่ปิยะนุชก็เป็นแบบนี้ “กินข้าวรึยัง” เด็กหญิงส่ายหน้า ทำให้มนต์มีนาระบายลมหายใจอ่อน ในใจหนักอึ้ง “ไม่เป็นไร เดี๋ยวน้าเก็บของน้องเสร็จเราค่อยไปกินพร้อมกันนะ” เปียไม่ตอบ แต่สีหน้าดูเศร้าหมองอย่างเห็นได้ชัด มนต์มีนาจึงเอ่ยกับแกอีก “ได้ยินที่น้าพูดมั้ยคะ เปียจะกินข้าวพร้อมกับน้ามี่มั้ย ตอบน้าหน่อย” หลานสาวเงยหน้ามอง หญิงสาวส่งยิ้มให้เป็นการบอกว่าเมื่ออยู่ใกล้เธอแกจะไม่ได้รับการตวาดรุนแรงแบบนั้น มนต์มีนาพยักหน้าพร้อมรอยยิ้มให้แกอีกครั้ง คราวนี้เด็กหญิงจึงตอบออกมา “กินค่ะ” “โอเค เดี๋ยวรอให้แม่ปลากับป๊าของเปียกินอิ่มก่อน เราค่อยไปกินนะ” “ค่ะ” เมื่อคุยกับหลานรู้เรื่องมนต์มีนาก็เก็บของต่อจนเสร็จ ก่อนจะพาทั้งลูกและหลานสาวเดินกลับไปที่โต๊ะอาหาร ตามที่คิดไว้ไม่ผิด อาหารบางอย่างที่อร่อยหมดเกลี้ยง เหลือไว้แค่บางอย่างและก็เหลือเพียงครึ่งเดียวแต่ก็ยังพออิ่มสำหรับตัวเธอและเด็กน้อยคนหนึ่ง ^ ^ ^ ***บีบมือค่า ใกล้จะผ่านจุดนี้ไปแล้ว ถ้าเจอพ่อมันเดย์จะขนาดไหน อุ๊ย ! อย่าลืมคอมเมนต์ และกดติดตามนะค้า จะไม่พลาดทุกการอัปเดท
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม