ทำไมต้องเป็นข้าด้วยเล่า! ข้าไม่เอาด้วยหรอก!

1070 คำ
ชายหนุ่มลากน้องชายไปตามระเบียงทางเดินโดยไม่ใคร่ฟังเสียงร้องสั่งให้หยุดสักนิด กระทั่งถึงหน้าห้องนอนของตนจึงหยุด ปล่อยให้กวงจินเป็นอิสระ กวงจินยู่หน้ามุ่ย ประคองข้อมือตนซึ่งแดงเถือกเป็นรอยนิ้วอย่างเบามือ แล้วก่นว่าพี่ชายอย่างลืมตัวกลัวตาย “ท่านพี่บ้าไปแล้วหรือไรถึงได้กล้าก้าวร้าวกับท่านพ่อเช่นนั้น ไม่กลัวถูกลงโทษหรือไรเล่า!” “หากกลัวแล้วข้าจะกล้าทำหรือ เจ้านี่นะ แทนที่จะเข้าข้างข้า กลับต่อว่าเสียอย่างนั้น หากข้าได้สืบทอดตำแหน่งเจ้าสำนักเมื่อใด ข้าจะบังคับให้เจ้าฝึกวรยุทธ์เสียให้เข็ดเลยคอยดู” “ก็นั่นท่านพ่อนี่นา ท่านพี่ก็ทำเกินไปจริงๆ...” กวงจินเบาเสียงลงไปทันที พอได้ยินว่าจะถูกบังคับให้ฝึกวรยุทธ์แล้ว ก็พลันขยาดขึ้นมาเสียไม่ได้ ยอมอ่อนให้กวงฟั่นซึ่งบัดนี้ก็เริ่มคลายโทสะลงแล้ว ก่อนจะเอื้อมมือไปผลักบานทวารห้อง แล้วดันหลังน้องชายให้เข้าไป “จะอย่างไรก็ช่าง ในเมื่อข้าลากเจ้ามาห้องข้าแล้ว ถือว่าเจ้าอยู่ข้างข้า เข้าไปเสีย ข้ามีเรื่องจะหารือกับเจ้า” “หารือกันข้างนอกไม่ได้หรือ ไยต้องมีลับลมคมในด้วย” เอ่ยแย้งอย่างระแวงเพราะไม่รู้ว่ากวงฟั่นมีแผนการใดอยู่ และเหมือนกับว่ากวงจินจะขัดขืนไม่ได้เลย เมื่อสองมือใหญ่ผลักเข้าเต็มแผ่นหลัง พร้อมคำสั่ง “บอกให้เข้าก็เข้าไปเถิดน่า ถามมากเซ้าซี้น่ารำคาญอยู่ได้” จนท้ายแล้วก็เข้ามาในห้องของกวงฟั่นจนได้ เด็กหนุ่มถอนหายใจพรืดแล้วพาตัวมานั่งทรุดลงบนเก้าอี้ใกล้ๆ เอ่ยถามเข้าเรื่องอย่างไม่รอช้าทันที “ท่านพี่มีเรื่องใดจะหารือก็ว่ามา อย่ามัวชักช้าให้เสียการ” ชายหนุ่มเดินตามมานั่งตรงข้ามกับน้องชาย สีหน้าผ่อนคลายที่โผล่ให้เห็นเมื่อครู่พลันมลายหายไปอีกครั้งเมื่อสีหน้าเคร่งขรึมเข้ามาแทนที่ ให้กวงจินรับรู้ได้ว่าสิ่งที่จะได้ฟังต่อไปนั้นคงหนีไม่พ้นเรื่องของสำนักปักษามรกตเป็นแน่ “เจ้าเคยได้ยินชื่อของเจ้าสำนักปักษามรกตหรือไม่ว่าเป็นผู้ใด” เป็นตามดังคาดไว้ กวงจินอดถอนหายใจกับความดื้อดึงของกวงฟั่นไม่ได้ และก็พอเข้าใจได้แล้วว่าเหตุใดกวงฟั่นจึงต้องดึงตนมายังที่รโหฐาน เช่นนี้คงเป็นเพราะมีแผนการใดในใจอยู่เป็นแน่ “เท่าที่ข้ารู้ก็เพียงแต่เจ้าสำนักคนเก่าชื่อ อวี๋ว์เจิ้งเสี้ยน เป็นบิดาของเจ้าสำนักคนใหม่ ทำไมหรือ” สีหน้าฉงนของเด็กหนุ่มทำให้กวงฟั่นตบหน้าตักตนฉาดใหญ่ สร้างความสงสัยให้คนมองอีกเป็นเท่าตัว “ข้าว่าแล้วเชียวว่าเจ้าต้องไม่รู้เป็นแน่ เจ้าจำเมื่อครั้งที่ข้าถูกท่านพ่อส่งไปร่ำเรียนที่แคว้นเสียนได้หรือไม่ ครานั้นมีสหายร่วมอาจารย์กับข้าที่ข้าเรียกว่าเจ้าลูกไก่อยู่คนหนึ่ง... เจ้าเด็กขี้โรคนั่นน่ะ” “จำได้สิ ท่านพี่ชอบแกล้งเจ้าลูกไก่จนข้าต้องไปห้ามปรามอยู่หลายต่อหลายครั้งเช่นนั้น ไยจะจำไม่ได้” ยิ่งนึกก็ยิ่งเห็นภาพชัดเจน แต่ไม่เข้าใจว่าเหตุใดจู่ๆ กวงฟั่นถึงได้ย้อนความหลังเช่นนี้ กระทั่งคนถามเหยียดมุมปากขึ้นเล็กน้อยแล้วแถลงไขออกมา “เจ้านั่นน่ะชื่อ อวี๋ว์เจิ้งเหอ เป็นบุตรชายโทนของอวี๋ว์เจิ้งเสี้ยน ซึ่งหมายความว่าเจ้าสำนักปักษามรกตนั่นก็คือเจ้าลูกไก่ขี้โรคที่โดนข้าแกล้งในตอนนั้นเช่นไรเล่า” ได้ฟัง เด็กหนุ่มก็เบิกตาโต นึกไม่ออกเลยว่าเด็กขี้โรคท่าทางขี้ขลาดในตอนนั้นจะเป็นถึงเจ้าสำนักที่ทำให้ยุทธภพต้องหวั่นเกรงได้อย่างไร “แล้วท่านพี่รู้เรื่องนี้มาจากผู้ใด ไยถึงได้มั่นใจเหลือเกินว่าเจ้าสำนักปักษามรกตคือเจ้าลูกไก่ในตอนนั้น” “ไยข้าจะไม่รู้ ข้าก็ถือว่าเป็นจอมยุทธ์ผู้หนึ่งเช่นกัน ยุทธภพนี้มันกว้างใหญ่สักแค่ไหนกันเชียว เจ้าลูกไก่กับข้าเคยเป็นสหายวัยเยาว์กันมาก่อน ย่อมมีเครือมิตรสหายส่งข่าวให้รู้อยู่แล้ว” “ในเมื่อเจ้าลูกไก่เป็นสหายกับท่านพี่ เช่นนั้นท่านพี่ก็ใช้ความเป็นสหายเจรจาให้เจ้าลูกไก่ละเว้นสำนักดอกเหมยอำพันของเราไปเสียสิ จะได้ไม่มีใครต้องเจ็บตัว” กวงฟั่นขมวดคิ้วมุ่น สบตากวงจินอย่างเคืองขุ่นก่อนกระชากเสียงใส่ “เรื่องอย่างไรเล่า ขืนข้าทำเช่นนั้นก็ไม่ต่างอย่างไรกับยอมสยบแทบเท้ามัน จะให้ข้าเจรจากับมันเช่นนั้น ให้ข้าหลั่งเลือดเสียยังจะดีกว่า” “หากไม่ใช่เช่นข้าคาดการณ์ไว้ แล้วท่านพี่จะเอ่ยถึงเจ้าลูกไก่ทำไมกัน” “ข้าแค่ให้เจ้ารู้ว่าเจ้าสำนักปักษามรกตนั้นเป็นใครก่อนที่จะเข้าแผนของข้าเท่านั้น ในเมื่อเจ้าจำมันได้ก็ดี เรื่องจะได้ง่ายขึ้นหน่อย” คราวนี้กวงฟั่นกลับยิ้มพรายให้เสียวสันหลัง กวงจินรู้ว่าแผนการของกวงฟั่นต้องไม่ใช่แผนการที่ดีแน่ และที่สำคัญคงต้องมีอะไรลากเขาไปเอี่ยวด้วยอย่างไม่มีทางเลือก และก็เป็นดังที่คิดไม่มีผิด เมื่อประโยคต่อไปหลุดออกจากริมฝีปากหนา ให้กวงจินได้ชาวาบไปทั้งตัว “ข้าต้องการให้เจ้าปลอมตัวเข้าไปใกล้ชิดเจ้าลูกไก่ สืบหาจุดอ่อนของมันมาให้ข้า จะด้วยวิธีใดก็ได้แต่ต้องไม่ให้มันจับได้ว่าเจ้าเป็นน้องชายข้าก็พอ...” “วะ...ว่าเช่นไรนะ! ทำไมต้องเป็นข้าด้วยเล่า! ข้าไม่เอาด้วยหรอก!” พอตั้งสติได้ เด็กหนุ่มก็โวยวายที่จู่ๆ ถูกมัดมือชกเสียอย่างนั้น ผุดลุกขึ้นหมายจะชิ่งหนีออกจากห้อง แต่กวงฟั่นไวกว่า เอื้อมมือคว้าบ่าเล็กได้ทันก่อนกดลงให้นั่งลงไปตามเดิม
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม