ไปเถิด แล้วข้าจะรอข่าวจากเจ้าจะน้องรัก..

1066 คำ
แทบไม่น่าเชื่อว่าแผนการของกวงฟั่นแลดูจะง่ายดายราบรื่นไปเสียทุกอย่างตั้งแต่ลอบออกจากสำนักจนขบวนเดินทางสู่แคว้นเสียนซึ่งอยู่ไม่ไกลจากแคว้นฉู่นัก ก็ใครเล่าจะหารู้ว่าภายใต้การปกครองของเหยาไท่นั้น จะมีแนวทางการปกครองของกวงฟั่นอันเสมือนคลื่นใต้น้ำเคลื่อนตัวเข้าครอบคลุมศิษย์สำนักให้เข้าสวามิภักดิ์อยู่ จึงไม่แปลกหากศิษย์สำนักจะอำนวยความสะดวกให้กวงฟั่นโดยดุษณี หรืออักนัยหนึ่ง อาจเป็นเพราะศิษย์สำนักบางส่วนอาจนึกถึงเกียรติยศศักดิ์ศรีของสำนักกระมัง จึงยอมแสร้งไม่รู้ไม่เห็น ปล่อยให้กวงฟั่นทำตามประสงค์ และเพียงเวลาแค่ค่อนคืน การเดินทางก็ใกล้สิ้นสุดลง กวงฟั่นออกคำสั่งให้ศิษย์สำนักที่ติดตามชะงักบังเ**ยนเมื่อถึงหลังโขดหินใหญ่ พลางมองไปยังด้านหน้าซึ่งเห็นเงาของบานทวารแคว้นเสียนท่ามกลางความมืดรางๆ ก่อนบอกให้ขบวนเดินทางรู้ว่าบัดนี้พวกเขาได้มาอยู่ใกล้แคว้นเสียนเพียงหนึ่งช่วงลมหายใจแล้ว “ห่างออกไปอีกไม่กี่ลี้ก็จะถึงที่หมาย พวกเราคงเข้าใกล้ไปใกล้นี้ไม่ได้ ไม่เช่นนั้นพวกสำนักปักษามรกตคงได้ทำแผนเราพังแน่ คงต้องปล่อยให้เจ้าไปต่อเองแล้วล่ะกวงจิน” สิ้นเสียง ดวงตากลมโตก็มองตามไปยังเงาดำทะมึนของบานทวารแคว้น เขาแทบไม่อยากเชื่อเลยว่าแคว้นฉู่และแคว้นเสียนจะอยู่ใกล้กันเพียงเอื้อมแค่นี้ “ท่านพี่จะให้ข้าเดินดุ่มๆ เข้าไปในแคว้นเสียนเช่นนั้นเลยหรือ” เด็กหนุ่มอ้าปากถามพี่ชายโดยที่สายตายังไม่ละจากภาพตรงหน้า นึกไม่ออกเลยว่าหากไปถึงยังหน้าบานทวารแคว้นแล้วเกิดเวรยามถามไถ่ว่าเป็นใครมาจากไหนจะโต้ตอบเช่นไรดี แต่เหมือนกวงฟั่นจะตอบโจทย์นั้นให้เรียบร้อยโดยไม่ต้องเอ่ยปากถาม “ใช่ เข้าไปเลย หากถูกไต่ถาม ก็บอกไปว่าเจ้าเป็นบุตรสาวผู้นำขบวนคาราวานสินค้า แล้วถูกโจรปล้นเอาระหว่างทาง มีเพียงเจ้าที่รอดเลยหนีระหกระเหินมาถึงที่นี่เท่านั้นก็พอ” “โจรปล้นกลางทางหรือ... ผู้ใดจะเชื่อกันเล่า ดูข้าแต่งกายเสียก่อน ประหนึ่งคุณหนูสกุลใหญ่ก็ไม่ปาน แลดูเหมือนไปปล้นเขามาเองเสียมากกว่า” คนตัวเล็กทำหน้ายู่ ไม่ฉุกใจสักนิดว่าที่กวงฟั่นพูดเช่นนี้เพราะเขาได้ตระเตรียมแผนสำหรับการนี้มาไว้เรียบร้อยแล้ว ก่อนหัวเราะร่วนกับเหล่าศิษย์สำนักคนอื่นๆ เมื่อนึกถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า พานให้กวงจินจำต้องขมวดคิ้วย่น ไม่พอใจเท่าไหร่นักที่จู่ๆ ก็ถูกหัวเราะใส่โดยที่ตนไม่รู้เรื่องรู้ราวเช่นนี้ “ข้าถามแค่นี้ มีเรื่องอย่างไรให้น่าขำมากนักหรือ” “เจ้าอย่าได้เป็นห่วงไปเลย ข้ามีวิธีจัดการก็แล้วกัน เฮ้ยพวกเจ้า...พร้อมกันหรือยักัน เฮ้ย! พวกเจ้า!” ว่าพลางยิ้มพราย เด็กหนุ่มรู้สึกชังรอยยิ้มผู้เป็นพี่เสียเหลือเกิน เพราะรู้ว่าเมื่อรอยยิ้มเช่นนี้โผล่ให้เห็นทีไร ย่อมเกิดเรื่องไม่ดีกับเขาทุกที และก็เป็นดังที่คิด เมื่อจู่ๆ ศิษย์สำนักต่างพร้อมใจกระโดดลงจากหลังม้า ย่างสามขุมเรียงหน้าเข้ามายังเขาจนเสียวสันหลังวาบ “จะ...จะทำอย่างไรน่ะท่านพี่...” “ก็ทำให้เจ้าแลดูประหนึ่งถูกปล้นมาน่ะสิ จัดการได้...” สิ้นเสียง ก็ไม่เปิดโอกาสให้กวงจินร้องปราม ต่างคนต่างพากันชักกระบี่ออกฉวัดเฉวียนผ่านอาภรณ์เนื้อดีจนขาดวิ่น เด็กหนุ่มตกใจไม่เป็นอันทำอะไรก็ถูกกระชากลงจากหลังม้าร่วงสู่พื้น พลันฝุ่นทรายก็กลบทั่วใบหน้าและลำตัวอย่างจงใจ มือเล็กพยายามปัดป้องด้วยยังตั้งสติไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตน กระทั่งเสียงแหบห้าวจากคนต้นเรื่องดังขึ้น ทุกอย่างรอบตัวจึงได้หยุดลงราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น “เอาล่ะ พอได้แล้ว เท่านี้ก็คงดูสมกับเรื่องที่ข้าปั้นแต่งให้เจ้าแล้วล่ะ” ว่าพลางแสยะยิ้มกว้างกับสภาพรุ่งริ่งของน้องชายที่ปรากฏให้เห็นเพียงกะพริบตา ถึงตอนนี้กวงจินก็ปะติดปะต่อเรื่องได้ทั้งหมดว่าเกิดอะไรขึ้น พลันนึกโกรธพี่ชายทันใดที่ใช้วิธีนี้รังสรรค์ให้เขาดูสมบทบาทกับบุตรีผู้นำขบวนคาราวานสินค้าที่โดนปล้นโดยไม่บอกกล่าวล่วงหน้า ตวาดแหวใส่กวงฟั่นทันใด “สมบ้าสมบออย่างไรเล่า! จะทำการใด ไยไม่บอกให้ข้ารู้ก่อนล่วงหน้ากันฮะ! พวกเจ้าก็เหมือนกัน รุมทึ้งข้ากันสนุกมือเลยนะ สะใจพวกเจ้าแล้วสิ!” ไม่เพียงแต่พี่ชาย เขายังหันไปตะคอกใส่เหล่าศิษย์สำนักที่พากันหัวเราะคิกคักอยู่ไม่ห่างอีกด้วย มีเพียงแต่กวงฟั่นที่กลั้นหัวเราะกับสภาพของกวงจินได้ ก่อนผลักไสให้คนตัวเล็กปีนขึ้นหลังม้า เตรียมพร้อมดำเนินตามแผนการที่วางไว้ “เพื่อความแนบเนียนก็ต้องมีเสียสละกันบ้างน่า อย่ามัวพูดมากอยู่เลย รีบไปเสีย แล้วจำไว้อย่างหนึ่งว่าหากมีข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับสำนักปักษามรกตล่ะก็ ให้รีบรายงานข้าทันทีเข้าใจไหม ข้าจะให้คนของเราแฝงกายเข้าไปในแคว้นนั้นเพื่อทำหน้าที่รับส่งจดหมาย เพียงเจ้าหาทางเข้ามาในตลาดให้ได้ เท่านี้ก็ไม่ต้องเป็นห่วง...” คนตัวเล็กได้แต่กัดฟันกรอด พยุงร่างไร้ร่องรอยคุณชายในตอนแรกขึ้นหลังม้า ตวัดหางตามายังชายหนุ่มต้นแผนการ แล้วกระแทกเสียงใส่อย่างถือดี “หากท่านพี่ไม่มีอย่างไรจะสั่งการต่อแล้ว ข้าคงต้องขอตัวทำตามหน้าที่ประเดี๋ยวนี้” “ไปเถิด แล้วข้าจะรอข่าวจากเจ้าจะน้องรัก...” ใจหมั่นไส้อยากจะกระโดดถีบกวงฟั่นสักที ทว่าก็ได้แต่ข่มใจไว้ สะบัดสายบังเ**ยนควบม้าให้ออกเดิน มุ่งหน้าไปยังจุดหมายทันที
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม