ทางคอนโดหรูได้โทรเรียกราชันมาดูภาพกล้องวงจรปิดหลังจากที่เขาขอดูภาพย้อนหลังวันเกิดเหตุ ในเวลา 20:00 นาที ได้จับภาพของหญิงสาวคนหนึ่งที่เดินเข้ามาในคอนโดและวิ่งออกจากคอนโดอย่างรีบร้อน และหญิงสาวคนนั้นคือโยษิตา...
มันเป็นอย่างที่เขาคิดไว้จริงๆว่าเธอคือ 'ฆาตกร'
" วันนั้นกล้องวงจรปิดที่ชั้น 10 เกิดเสียกระทันหัน ทางคอนโดเลยหาภาพจากวันนั้นให้คุณราชันไม่ได้ครับ "
" ไม่เป็นไร แค่นี้ผมก็พอจะรู้แล้วครับ ขอบคุณมากที่ช่วยเหลือผม "
" ว่าแต่.. มีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ? หรือว่าเรื่องคดีของคุณริตา.. "
" ไม่มีอะไรหรอกครับ คดีริตาถูกปิดลงแล้ว ผมขอตัวก่อนนะครับ ผมมีธุระที่ต้องไปสะสาง "
" ครับๆ "
ราชันรีบขับรถไปหาภาสกรทันทีที่รู้ความจริง เขานั้นคับแค้นใจเป็นอย่างมากที่ผู้หญิงตัวเล็กอย่างโยษิตาจะทำเรื่องเลวทรามเช่นนี้ ซ้ำเธอยังเป็นเพื่อนของริตาแท้ๆแต่กลับฆ่าเพื่อนตัวเองได้ลงคอ
" ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร ฉันก็ไม่เอาเธอไว้แน่ โยษิตา! " ราชันสบถออกมาด้วยความเคียดแค้น
ด้านแก้วเก้ากับพราวพิราที่ยังคงยืนมองร่างอันบอบบางของโยษิตาอยู่เกือบชั่วโมง แก้วเก้ามองเพื่อนสาวด้วยความห่วงใย ถึงจะมีเรื่องผิดใจกันบ้าง แต่ยังไงขนมผิงก็คือเพื่อนของเธออยู่ดี
แก๊ก...
ไม่นานหมอที่ดูแลเคสของโยษิตาก็เข้ามา มันทำให้แก้วเก้ากับพราวพิรารีบหันไปดูทันที ทั้งสองยกยิ้มอย่างสำรวมมองหมอและพยาบาลที่มาพร้อมกับผลการตรวจของโยษิตา
" สวัสดีครับคุณแก้วเก้าคุณพราวพิรา มากันนานหรือยังครับ? "
" ก็สักพักแล้วแหละค่ะ เป็นห่วงยัยผิง "
" อาการเธอเป็นยังไงบ้างคะ " พราวเอ่ยถามเสียงเรียบ ใบหน้าของเธอเย็นชา ราวกับเธอไม่มีความรู้สึกอะไร
" โชคดีมากเลยนะครับที่เธอรอดมาได้อย่างกับปาฏิหาริย์ ปกติผมไม่เคยเจอคนไข้คนไหนที่โดนรถชนจนแหลกขนาดนั้นแล้วรอดมาได้ เอ่อ.. ขอโทษครับ ผมแค่.. "
" ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ที่คุณหมอพูดมันก็ถูกค่ะ ปาฏิหาริย์จริงๆ " พราวพูดพร้อมกับหันมองหน้าเพื่อนของตนด้วยความแววตานิ่งๆ
" แล้วญาติของคุณโยษิตา.. "
" ยัยผิงไม่มีญาติหรอกค่ะ แต่ถ้าทางโรงพยาบาลต้องการให้ช่วยอะไรก็บอกแก้วได้นะคะ แก้วจะรับเป็นญาติคนไข้ของยัยผิงเอง "แก้วเก้าพูดก่อนจะยิ้มน้อยๆให้หมอ
" ใจดีจังเลยนะครับ คุณโยษิตาโชคดีจริงๆที่มีคุณแก้วเป็นเพื่อน " หมอหนุ่มเอ่ยชมหญิงสาวตรงหน้าอย่างชื่นชม เเก้วเก้าเป็นผู้หญิงหน้าตาสะสวยแล้วยังมีจิตใจแสนดีอีก
" ค่ะ โชคดีมากจริงๆ " เธอยิ้มออกมาอ่อนๆให้กับหมอเล็กน้อย
" ถ้าคุณรับเป็นญาติของคุณโยษิตาแล้ว คุณก็ควรได้รู้ผลการตรวจร่างกายของเธอนะครับ "
" นั้นสิคะ ยัยผิงเป็นอะไรมากไหม? " เธอรีบถามด้วยความหยั่งรู้อย่างใจจดใจจ่อ
" สมองของเธอได้รับการกระทบกระเทือนอย่างหนัก อาจเป็นเพราะไปชนกับต้นไม้ด้วยสมองของเธอเลยทำงานผิดปกติไป "
" หมายความว่ายังไงคะ? "
" คุณโยษิตาอาจจะความจำเสื่อมครับ "
" ความจำเสื่อม? " แก้วเก้ากระพริบตาถี่เล็กน้อยแล้วมองหน้าขนมผิงก่อนจะครุ่นคิดในใจ
" เธอจะสูญเสียความทรงจำบางอย่างไป แต่ถ้าโชคร้ายก็อาจจะทั้งหมด มันก็ต้องรอให้เธอฟื้นขึ้นมาก่อนเราจะถึงประเมินอาการต่อได้ "
" แล้ว.. มันจะพอมีทางให้เธอกลับมาจำทุกอย่างได้หรือเปล่าคะ? "
" ขึ้นอยู่กับเวลาและสิ่งแวดล้อมข้างๆครับ ถ้าเราใส่ใจและพยายามพาเธอไปที่ที่คุ้นเคย เธอก็อาจจะจำได้ "
" อ๋อ.. งั้นเหรอคะ " แก้วเก้าได้เซ็นรับเป็นญาติของเธอแล้ว
" ยังไงผมขอตัวก่อนนะครับ "
" ค่ะคุณหมอ ขอบคุณมากนะคะที่ช่วยชีวิตเพื่อนของแก้วไว้ "
" ไม่เป็นไรครับ มันเป็นหน้าที่ของหมอ " ชายรูปหล่อในฐานะหมอยิ้มกรุ่มให้กับแก้วเก้าก่อนจะเดินออกจากห้องพักฟื้นไป
เมื่อภายในห้องนั้นมีเพียงแกวเก้าพราวพิราและขนมผิง พราวพิราก็เดินเข้าไปใกล้ร่างที่นอนแน่นิ่งก่อนจะก้มหน้ามองหน้าเพื่อนตัวเอง
" ชีวิตแกนี่ไม่มีอะไรดีสักอย่างเลยเนอะ ยัยผิง! "พราวพิราพูดขึ้น พร้อมกับมองหน้าขนมผิงด้วยความสะใจ
"ทำไมถึงพูดแบบนั้นล่ะ!พราว ยังไงก็เพื่อนกัน ถึงผิงจะเคยมีเรื่องผิดใจกัน พราวก็เลิกแล้วต่อกันเถอะ! "
"หึ!" พราวพิราแค่นหัวเราะในลำคออย่างเย้ยหยัน ก่อนจะเบือนหน้าไปทางอื่น
ด้านราชันที่มาหาภาสกร เขาได้เล่าและนำภาพจากกล้องวงจรปิดมาให้ภาสกรดู ภาสกรนั้นเขาเชื่อครึ่งและไม่เชื่อครึ่ง มันมีน้ำหนักทั้งสองความคิด แต่เขาก็ไม่ได้แย้งเพื่อนว่าโยษิตาไม่ได้เป็นฆาตกร
" กูว่า.. หาหลักฐานให้มากกว่านี้อีกดีกว่าไหมวะไอ้ชัน "
" จะต้องหาอะไรอีก แค่นี้มันบ่งชี้ชัดแล้วว่าผู้หญิงคนนี้คือฆาตกรที่ฆ่าริตา! "
" แต่ทางตำรวจก็ตรวจสอบแล้วนะเว้ยว่าริตาไม่ได้ถูกทำร้ายร่างกายอะไรเลย "
" แต่เธอกินยาฆ่าตัวตาย และกูไม่เชื่อว่าริตาจะกินยานั้นด้วยตัวเอง กูเชื่อว่าเธอต้องวางยาริตาแน่ๆ! "
" แล้วมันมีเหตุผลอะไรวะที่เธอจะฆ่าริตา " ราชันถอนหายใจออกแล้วกลืนน้ำลายลงคอก่อนจะตอบเพื่อนด้วยเสียงแผ่วเบา
" กูก็ยังไม่รู้ " นั้นเป็นเพราะเขาหาเหตุผลไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเขาจะเลิกคิดว่าเธอไม่ได้เป็นคนฆ่า
" กูโทรไปเช็คกับทางโรงพยาบาลแล้ว อาการของผิงแย่มาก เธออาจจะความจำเสื่อมด้วย "
" ความจำเสื่อมหรอวะ? "
" อืม.. สมองเธอได้รับการกระทบกระเทือนหนัก และอีกอย่างเธอไม่มีญาติที่ไหนเลย "
" 'หึ' ผู้หญิงอย่างนั้นคงไม่มีใครเขาจะอยากนับญาติด้วยหรอก ขนาดกูไม่รู้จักมาก่อนกูยังเกลียด! "
" แล้ว.. มึงจะเอายังไงต่อ แจ้งตำรวจเลยไหม "
" ไม่ กูจะไม่ยอมให้กฏหมายทำให้เธอต้องอับอายหรอก เพราะแค่อับอายมันคงไม่พอ ดีแล้วแหละที่เธอไม่มีญาติ กูจะได้ทำอะไรง่ายขึ้น! "
" มึงจะทำอะไรเขาวะ "
" กูก็จะทำให้เธอตายไง ตายทั้งเป็นจากน้ำมือของกู! "
ภาสกรเขาไม่โต้ตอบอะไรนอกจากมองหน้าเพื่อนนิ่งๆ ต่อให้เขาจะเชื่อครึ่งว่าขนมผิงเป็นคนฆ่าแต่อีกใจเขาก็ไม่ปักใจเชื่อกับหลักฐานแค่น้อยนิด ภาสกรหันไปมองภาพจากกล้องวงจรปิดที่ราชันนำมา เขาสังเกตุดูสีหน้าของขนมผิงอย่างละเอียดอ่อน และแน่นอนว่าเขาอยากจะหาหลักฐานมากกว่านี้ ไม่ใช่แค่ภาพเพียงภาพเดียว..
( จบบทที่ 3 )