ไอ้บ้าซามูร์แม่งขอมีอะไรกันโต้งๆ แบบหน้าตายมากด้วย
แต่แววตากลับหื่นกระหายชัดเจน จนชวนปั่นป่วนท้องน้อยไปด้วยเลยละ
หลังจากที่คนตัวเล็กกล้าๆ กลัวๆ ของใหญ่อยู่นาน กว่าจะทำใจได้ก็ถูกอ้อร้อเล้าโลมจนยอมโอนอ่อนและยอมศิโรราบให้ในท้ายที่สุด
จนบางครั้งน้ำค้างก็รู้สึกได้ว่า ซามูร์นั้นช่างเป็นคนที่น่ารักและน่ากลัวในเวลาเดียวกันเลยละ
พอเมื่อหลังที่ได้ตกลงปลงใจยอมเผลอไผลไปด้วยแล้ว คนที่ยอมคล้อยตามจนถูกขยำเคี่ยวกรำใส่ก็ได้ตกเป็นเหยื่อโดยสมบูรณ์แบบ ทำเอาร่างเล็กบอบบางได้สลบเหมือดหมดเรี่ยวแรงจนกระทั่งถึงยามสายของอีกวันกันเลยทีเดียว
"น้ำค้าง ลุกขึ้นมากินอาหารก่อนแล้วค่อยนอนต่อ"
ฝ่ามือใหญ่ลูบแผ่นหลังบางที่ถูกประดับแต่งแต้มไปด้วยการถูกตีตราจอง จนขึ้นรอยสีกุหลาบแผ่หลาทั่วทั้งบริเวณแผ่นหลังที่เคยขาวนวลเนียนมาก่อน
ซึ่งในตอนนี้คนถูกทำรักค่อนคืนจึงเอาแต่นอนคว่ำหน้าโชว์แผ่นหลังสวยแล้วเบี่ยงตัวหันหนี ไม่ยอมหือยอมอือด้วย ราวกับแสร้งเชิดและทำเมินเฉยใส่กันทั้งที่อีกคนได้พยายามส่งเสียงเรียกกันซ้ำๆ อย่างอ่อนโยนเลย
"น้ำค้าง เจ้าเป็นอะไร" ความอบอุ่นส่งผ่านออกมาทางแววตา ทว่าน้ำค้างกลับไม่ได้เห็นอย่างน่าเสียดายแทน เพราะเจ้าตัวเอาแต่บ่นงึมงำมีท่าทีงอแงออกมาปานขุ่นเคืองใจในเรื่องเมื่อคืนอยู่ยังไงยังงั้น
"น้ำค้าง กินอาหารหน่อยนะ ข้าป้อนให้เจ้าเอง" ซามูร์ยอมทิ้งตัวนอนลงด้านข้าง แล้วลูบไล้อยู่กับลาดไหล่ขาวสลับกับการแตะสัมผัสแผ่วเบาลงบนพวงแก้มใส
"ไม่อ่าว ข้าไม่กิน ข้าเจ็บระบบไปหมดทั้งตัวเลยนะ เพราะเจ้านั่นแหละ ฮึ้ย" น้ำเสียงอู้อี้สลับฮึดฮัดเสมือนกับไม่พอใจจึงได้ประท้วงเล็กๆ ทางการแสดงออกมาเช่นนี้ นั่นไม่ได้ทำให้คนที่นอนมองอยู่รู้สึกโกรธเคืองเลยสักนิด ดันเอาแต่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ราวกับคนสติไม่ดีที่ถูกงู่งี่บ่นใส่กันแล้วดันชอบใจซะงั้น
"ข้าทำเจ้าเจ็บ ข้าจะดูแลเจ้าไปชั่วชีวิตเลย น้ำค้าง" ริมฝีปากอุ่นแตะลงบนหัวไหล่มน แล้ววกกลับขึ้นไปจุ๊บลงบนหัวกลมอย่างทะนุถนอมพร้อมกับให้สัญญาใจ
"ฮึ้ย ไม่ต้องทำเป็นพูดดีเลย หลอกล่อจนข้าเจ็บระบมก้นไปหมดเนี่ย" ยิ่งน้ำค้างพูดอู้อี้ออกมาสลับกับใบหน้าแดงขึ้นระเรื่อ เมื่อซามูร์ที่เห็นได้สบเห็นก็ยิ่งเกิดความรักใคร่เอ็นดูหนักกว่าเดิมอีก
น้ำค้างสะดุ้งจนต้องผงกหัวเอี้ยวหน้าขึ้นดูในทันทีตอนที่ถูกสิ่งที่เย็นชืดแตะลงบนแก้มก้น แล้วยังถูกคว้านล้วงเข้าไปยังรูจีบสวาทที่ถูกใช้งานรองรับมาอย่างหนักแทบทั้งคืนแบบไม่บอกกล่าวกันก่อนอีกต่างหาก พอโดนจู่โจมทำให้แบบนี้แล้วมันจึงรู้สึกแสบสะท้านจนอยากจะดิ้นพล่านให้ได้เลยละ
"อ๊ะ อ้า ซามูร์ เจ้าทำอะไร อึก มันเจ็บนะ!" น้ำตาใสตีตื้นคลอเบ้าขึ้นมาทันที เมื่อถูกนิ้วยาวสากสอดเข้าไปป้ายทายาให้ ด้วยความเจ็บระบบจึงทำให้คนถูกทำน้ำตาเล็ดออกมาเองโดยอัตโนมัติ
"ข้าจะไม่ทำเจ้าเจ็บแบบนี้อีกแล้ว ข้าขอโทษ" แววตารู้สึกผิดมหันต์ที่มาจากก้นบึ้งของจิตใจ ทำให้น้ำค้างลดความเกรี้ยวโกรธลงไปได้บ้าง
"น้ำค้างทายาแล้ว เจ้ากินอาหารให้ข้าหน่อยเถอะนะ สักคำสองคำก็ได้" น้ำเสียงนุ่มทุ้มออดอ้อนแบบที่น้ำค้างไม่เคย
ได้ยินมาก่อน ก็พึ่งจะมาได้ยินในวันนี้นี่แหละทำเอาแทบไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองเลยด้วยซ้ำ
เมื่อน้ำค้างพลิกตัวจะลุกขึ้นนั่งก็ต้องถึงกับสะดุ้งโหยงจนตัวโยน จนต้องผงะแล้วปล่อยตัวล้มลงกลับไปนอนในท่าเดิมแทบจะไม่ทันเลย หยดน้ำตาใสได้ปริ่มอยู่เต็มขอบกระบอกตาจวนเจียนจะเล็ดออกมาอยู่รอมร่อจนดูน่าเห็นใจยิ่งนัก
"อู้ยยย ซี๊ด.. ไม่ไหวอ่ะ ข้าเจ็บ" ดวงตาคู่สวยได้ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาอย่างไม่ต้านทานกลั้นไว้ให้ไหวอีกต่อไป เมื่อมันเจ็บจี๊ดจนร้าวระบมไปทั่วแก้มก้นไปหมดขนาดนี้
ใบหน้าติดคิ้วขมวดเป็นห่วงคนรักตรงหน้าทำเอาซามูร์รู้สึกเครียดตามไปด้วย เหตุเกิดขึ้นจากการกระทำที่เอาแต่ได้ของตนเองล้วนๆ ที่ไม่ยอมบันยะบันยังรั้งแรงกระแทกกระทั้นของตัวเองเอาไว้บางเลย
ทั้งที่อีกคนได้ออกปากห้ามปรามบอกเตือนว่ามันสอดใส่เข้าไปได้ไม่หมดหรอกนะ แต่ด้วยความหื่นกระหายใน
ความอยากจากเบื้องล่างที่มันมีมากจนเกินไป หรืออาจจะเป็นเพราะถูกแรงโอบล้อมบีบรัดจากจีบสวาทสีหวานคับแน่นที่ดูดกลืนได้ดีราวกับว่าเจ้าตัวกำลังยั่วยวนเชื้อเชิญกันอยู่อย่างไรอย่างนั้น
จนทำให้เผลอลืมตัวแล้วต้องส่งแรงกระแทกเข้าออกสนองตามแรงตอดรัดที่แนบแน่นได้สมใจอยากไปจนได้ ซึ่งพอมานึกคิดย้อนได้ในตอนนี้ก็รู้สึกว่าน่าโมโหตัวเองยิ่งนัก เมื่อได้เห็นผลลัพธ์ตำตากับในสิ่งที่ได้กระทำกับคนตัวเล็กที่น่าเห็นใจตรงหน้าอย่างไม่น่าให้อภัยตัวเองเลยด้วยซ้ำไป
"น้ำค้าง เจ้านอนรอข้าก่อนนะ เดี๋ยวข้ากลับมา"
ซามูร์เดินกลับออกไปด้านนอกอยู่นานสองนาน จนกระทั่งคนที่ถูกสั่งให้รอได้หลับลงไปแล้วด้วยความเหนื่อยล้าไร้เรี่ยวแรงและพละกำลัง เพราะอาการร้าวระบมไปทั่วสรรพร่างแบบนี้จึงทำให้อ่อนเพลียได้อย่างง่ายดายอยู่แล้ว
มือใหญ่ถือเบาะรองนั่งทำมือซึ่งใช้ฝ้ายยัดลงไปจนมันฟูฟ่องแล้วเย็บให้เรียบร้อย มืออีกข้างถือชามปลายข้าวต้มที่
เคี่ยวสุกมาใหม่ๆ จนมีไอโขมงส่งกลิ่นหอมฉุยลอยคลุ้งติดมือเข้ามาภายในห้องพักแห่งนี้ด้วย
ดวงตาคมสบเห็นคนตัวเล็กผู้น่าสงสารได้หลับลึกลงไปอีกรอบแล้ว ซามูร์พรูลมหายใจออกมาเมื่อเห็นสภาพร่างของน้ำค้างที่เกิดจากการกระทำที่ล้วนแต่มาจากความเห็นแก่ตัวของตน จนมิอาจยับยั้งชั่งใจอดกลั้นความกระสันอยากเอาไว้ไม่ไหวของตัวเองทั้งสิ้น
ซามูร์วางชามปลายข้าวต้มลงด้านข้างและวางเบาะรองนั่งลงบนเตียงแล้วค่อยๆ คว้าตัวคนหลับเข้ามาประชิดกับตนเอง
"น้ำค้าง" น้ำเสียงอ่อนนุ่มเปล่งเรียกคนรักด้วยความเป็นห่วงอีกครั้ง
ดวงตากลมปรือปรอยเปิดเปลือกตาขึ้นมาอีกครั้งจนได้ "เจ้านั่งบนเบาะนี้ไหวมั้ย" ฝ่ามือใหญ่ตบลงบนเบาะรองนั่ง ปุ! ปุ!
น้ำค้างส่ายหน้าให้เป็นคำตอบทันที ก่อนที่จะค่อยๆ ขยับคืบคลานตัว แล้วเอาคางไปเกยไว้บนตักของซามูร์ที่เอาแต่นิ่วหน้าเป็นกังวลตามคนเจ็บระบบไปด้วย
"อ้ามมม ข้าจะนอนกินแบบนี้แหละ" น้ำค้างบอกความต้องการจบแล้วก็อ้าปากค้างไว้ พร้อมรอการป้อนอาหารให้จากแม่นกตรงหน้า
ซามูร์ลูบเส้นผมสีดำขลับแสนนุ่มมือก่อนจะยอมยกชามปลายข้าวต้มมาถือไว้แล้วได้ตักใส่ช้อนพร้อมกับเป่า ฟู่ ฟู่ คลายความร้อนให้ลดลงแล้วจึงนำมาป้อนใส่ปากให้กับคนที่นอนอ้าปากรอกินอยู่ ซึ่งน้ำค้างไม่ต่างกับได้กลายร่างเป็นลูกนกตัวน้อยๆ ไปแล้วเลย
"อะไรอะ น้ำข้าวเหรอ" น้ำเสียงเนิบนาบถามออกมา หลังจากที่ได้ลิ้มชิมรสชาติของน้ำข้าวจืดๆ ทว่ามีกลิ่นหอมอ่อนๆ จากข้าวด้วย
"อืม ปลายข้าวต้มน่ะ เจ้าอยากกินอย่างอื่นด้วยไหม ข้าจะไปหามาให้" ใบหน้าอ่อนล้าพยักหงึกหงักขึ้นลงอย่างเชื่องช้า
"ชานมไข่มุก KFC ส้มตำป้าถินและก็หมูกระทะ" คนที่เหมือนกับจะหลับแหล่มิหลับแหล่ได้ลองนึกถึงสิ่งที่อยากกินมากที่สุดในตอนนี้ แล้วก็เอาแต่พร่ำเพ้อถึงในสิ่งที่ตนอยากกินออกมา
ทว่าหลังจากที่ได้ซดน้ำปลายข้าวต้มไปได้เพียงอีกแค่สามช้อน น้ำค้างก็หลับลึกลงไปอีกครั้งแล้ว ฝ่ามือใหญ่จึงได้จัดท่าทางการนอนให้คนขี้เซาใหม่ก่อนจะผละตัวเก็บของแล้วเดินออกจากห้องไป
แต่ช่วงก่อนที่ซามูร์จะลุกออกจากเตียงของคนที่คว่ำหน้านอนหลับแบบโชว์แผ่นหลังอยู่นั้น แววตาหลงใหลได้ปลื้มไม่ลืมที่จะบรรจงเช็ดริมฝีปากนุ่มหยุ่นที่เขาแสนจะชอบนักหนาให้ด้วย จนเผลอโน้มตัวลงไปขบกัดเป็นของแถมให้อีกหลายต่อหลายครั้ง
จนตอนนี้กลายเป็นว่าริมฝีปากของน้ำค้าง นอกจากจะสีแดงแจ๋แล้วยังบวมเจ๋อไปด้วยอีก ริมฝีปากหยักจุดยิ้มแลดูถูกอกถูกใจตนยิ่งนัก ก่อนจะย้ายไปจรดลงบนหน้าผากนวลด้วยความอ้อยอิ่ง กว่าจะยอมผละตัวออกห่างจากน้ำค้างได้จริงๆ ก็เล่นเอาซามูร์นั่งเฝ้ามองคนหลับอยู่เนิ่นนานเลยทีเดียว
แต่เมื่อจำต้องยอมตัดใจให้ลุกเดินออกไปจากห้องพักแห่งนี้ เพราะซามูร์คิดว่าจะออกไปหาวัตถุดิบตามที่น้ำค้างเพ้ออยากกินออกมาเตรียมไว้ให้ได้มากที่สุดนั่นเอง
เมื่อเจ้าของบ้านพักแขกหลังนี้ได้เดินออกไปไกลจนลับสายตาแล้ว จึงไม่ได้หันกลับมามองห้องพักแขกที่ได้ปล่อยให้คนหมดเรี่ยวแรงนอนหลับพักผ่อนเอาแรงอยู่เพียงลำพัง เพราะคิดว่าไม่น่าจะมีใครกล้าจะเข้าไปยังพื้นที่บ้านพักส่วนตัวของคนอื่นหรอก
ทว่ากลับไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อได้มีผู้ที่บังอาจถือวิสาสะทำตัวเสียมารยาทแล้วได้บุกรุกเดินเข้าไปเยี่ยมหน้ากับคนขี้เซาที่
กำลังนอนหลับใหลแบบไม่รู้เรื่องอยู่ภายในห้องพักแขกแห่งนี้เสียแล้ว
"อืมม ว่าแล้วเชียว หึหึ"
☘
ซามูร์เดินออกไปรอบๆ อาณาบริเวณเพื่อไปสำรวจดูเผ่ามูนฬา แม้นจะเป็นเผ่าที่ไม่เคยคิดจะมีวันญาติดีกันแน่นอน เพราะเรื่องของความคิด วัฒนธรรม รวมไปถึงการปกครองที่แตกต่างกันอย่างลิบลับชัดเจน
แต่ในเมื่อต้องมาขออาศัยพำนักชั่วครู่ชั่วคราวเช่นนี้ ซามูร์ก็จำต้องเห็นคล้อยไปตามกฎเกณฑ์ของถิ่นฐานนั้นๆ ที่ได้กำหนดเอาไว้ตั้งแต่แรกเริ่มเดิมที
ทันทีที่ซามูร์ได้เริ่มย่างเท้าก้าวออกไปเฉียดใกล้กับบริเวณฝั่งที่มีพวกนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการอยู่ ใบหน้าเรียบนิ่งได้พาสองขายาวให้รีบเดินกลับเข้ามาทางฝั่งที่เป็นพวกชาวบ้านอาศัยอยู่แทน เพราะซามูร์รู้สึกตะขิดตะขวงใจและไม่ชอบความวุ่นวายกับบุคคลภายนอกเป็นอย่างยิ่ง
โดยเฉพาะพวกมนุษย์คนเมืองที่ชอบจ้องจะเอารัดเอาเปรียบกับพวกชนเผ่าแบบพวกเขา แถมยังชอบดูถูกดูแคลน หัวเราะเยาะเย้ยและชอบสบประมาทพวกเขาว่าเป็นชนชาวเผ่าที่โง่เขลาไม่ทันโลก ทั้งที่พวกเขาเลือกที่จะดำรงวิธีชีวิตไว้แบบธรรมชาติเรียบง่ายเองแท้ ๆ แล้วพวกมนุษย์คนเมืองจะเข้ามายุ่งวุ่นวายเองด้วยทำไมกัน
ใบหน้าเรียบเฉยได้ก้าวเท้ายาวแบบเร็วรี่ จนเดินผ่านไปถึงเขตแดนที่ติดกับลำธารทางทิศเหนือออกไปแล้ว จึงได้พบ
กับสถานที่ที่ซามูร์คิดว่าน่าจะหาวัตถุดิบตามต้องการได้ เพื่อจะได้นำติดมือกลับไปทำอาหารตามใจคนที่นอนละเมอเพ้อออกปากมาว่า อยากกินนั่นนี่ให้ได้ยินกันนั่นแหละ
// "ชานมไข่มุก KFC ส้มตำป้าถินและก็หมูกระทะ" //
ซามูร์นึกถึงประโยคที่คนเจ็บตัวเพ้อพกออกมาว่าอยากกินหลายสิ่งหลายอย่างในเวลาเดียวกันเลย ใบหน้าเรียบนิ่งจึงเริ่มขมวดคิ้วเข้าหากันทันที
ชานมไข่มุก คืออะไร?
แต่ในเมื่อมีคำว่า ชา ใบหน้านิ่งยืนขบคิดอยู่นานก่อนที่จะมุ่งเดินดุ่มๆ ออกไปทางต้นชา เพื่อจะได้เก็บใบชาแล้วนำมาต้มให้น้ำค้างได้ดื่มกินให้ส้มใจอยากเสียที
พอเมื่อนึกถึงคำว่า เคเอฟซี คิ้วเข้มยิ่งขมวดเข้าหากันแน่นจนเป็นปม เมื่อยิ่งคิดเท่าไหร่ก็ยิ่งคิดไม่ออก ใบหน้าครุ่นคิดหนักเกิดความไม่เข้าใจเลยสักนิดว่ามันคืออะไรกันแน่
แล้วไหนจะชื่อเมนูอย่างที่สามด้วยอีก มันคืออะไร ส้มตำ ..
ต้องไปเก็บผลส้มมาตำรึ?
แต่ช่วงฤดูกาลนี้มันไม่มีผลส้มด้วยน่ะสิน้ำค้าง
เจ้าคงอดกินเมนูนี้อย่างน่าเศร้าเสียแล้วละ
ใบหน้าเคร่งเครียดยับยู่คิดหนัก จึงได้ข้ามเมนูข้างต้นไปเป็นเมนูที่สี่แทน
ยิ่ง หมูกระทะ นี่มันคืออะไรอีก? ..
พอได้นึกถึงใบหน้าหลับแหล่มิหลับแหล่ละเมอออกมา ซามูร์เผลอยกยิ้มตาม แต่กลับฟังไม่เข้าใจเลยสักนิด
ร่างกำยำจึงเลือกที่จะเดินย้อนกลับมาทางชาวบ้านที่ทำฟาร์มเลี้ยงหมูกันเป็นอันดับแรก เพราะคิดว่าน้ำค้างชอบหมูย่างเป็นที่สุด คิดอะไรไม่ออกขอเป็นเมนูหมูย่างเป็นพอ หัวหน้าทีมที่เกิดอาการอยากตามใจคนที่นอนรออยากกินเมนูนี้อยู่ จึงได้เริ่มทำการเจรจาต่อรองกับชาวบ้านที่เลี้ยงหมูทันที
แต่เมื่อซามูร์ยังไม่ได้ถูกแนะนำตัวอย่างเป็นทางการจากหัวหน้าเผ่า ชาวบ้านที่อยู่ห่างไกลออกมาแบบนี้จึงรู้สึกไม่ไว้ใจคนแปลกหน้าที่ไม่เคยพบเจอกันมาก่อน แถมยังไม่มีสิ่งใดมาแลกเปลี่ยนกันด้วยอีก พวกชาวบ้านจึงได้พากันปฏิเสธการยกหมูให้แก่ชายแปลกหน้าต่างถิ่นแบบทันทีทันใดและเป็นเหมือนกันทุกบ้านเลยละ
ทำเอาซามูร์รู้สึกหงุดหงิดหัวเสียขึ้นมาเสียดื้อๆ แต่ก็ยอมล่าถอยออกมาและเลือกที่จะเดินมุ่งหน้ากลับเข้าไปในป่าลึกเพียงลำพังอีกครั้งแทน เพราะในเมื่อชาวบ้านไม่ยอมยกหมูให้กันแบบช่วยไม่ได้เช่นนี้ ใบหน้าฉุนโกรธจึงเลือกที่จะต้องหาทางดักจับหมูป่าเองซะแล้ว อาวุธประจำกายที่เป็นมีดพกเล่มสั้นได้ถูกนำกลับมาใช้ทำที่ดักจับหมูป่าเช่นเคย
เมื่อวางกับดักเสร็จเรียบร้อยแล้ว ซามูร์จึงทำการเดินสำรวจรอบๆ อาณาจักรของเผ่ามูนฬาเพื่อคร่าเวลาเล่นๆ รอจังหวะให้หมูป่าออกมาหากินแล้วตกหลุมพรางที่ได้ทำกับดักล่อไว้นั่นเสีย
เผ่ามูนฬาที่ได้ขยายอาณาเขตออกมาแล้วนั้นมันช่างดูกว้างใหญ่ยิ่งนัก เพราะหลังจากที่ไจโรได้ยึดครองแผ่นดินทางทิศตะวันตกและทิศเหนือจนสามารถผนวกรวมเข้ากันเป็นแผ่นดินใหญ่ได้ ก็ทำให้มีชนชาวเผ่าเพิ่มจำนวนขึ้นได้อย่างรวดเร็วและเยอะขึ้นกว่าในอดีตกาลมากโขเลย
ใจจริงซามูร์ก็เคยคิดว่าไจโรเป็นผู้นำเผ่าที่เก่งกาจมากนะ เพียงแต่การไล่ล่ายึดพื้นที่จากพวกชนชาวเผ่าเล็กๆ ของกลุ่มอื่นแล้วตีรวมพลมาเป็นพวกพ้องของตนเองอย่างยึดมั่นเอาตนเป็นใหญ่ นั่นมันเปรียบเสมือนกับว่าเป็นการกระทำผิดวิธีของเรื่องศีลธรรมไปสักหน่อย
เพราะเหตุตรงนี้นี่แหละที่เผ่ากรีนเคิร์กรู้สึกรับไม่ได้ ถึงได้เกิดการขัดแย้งจนเกิดข้อพิพาทกัน และในท้ายที่สุดทั้งสอง
เผ่าจึงได้ตัดขาดกันมาจนถึงทุกวันนี้นั่นเอง
แกร๊บ~
โสตประสาทการได้ยินเสียงของกิ่งไม้แห้งถูกเหยียบจนหัก จึงทำให้เกิดเสียงดังขึ้นมาทำเอาซามูร์ต้องหันขวับไปมองยังที่มาของเสียงทันทีเช่นกัน
ดวงตาคมจรดจ้องไปยังหลังต้นไม้ใหญ่ทันทีที่ได้สบเห็นเข้ากับเงาร่างทอดยาวออกมาจากการถูกแสงแดดตกกระทบใส่ สองขายาวรีบวิ่งตามแบบเร็วปรี่ตามเข้าไปตรงบริเวณป่าไผ่ขึ้นรกครึ้มทันที
ซามูร์หยุดชะงักตัวเมื่อตระหนักได้ถึงว่าตนเองนั้นคงได้ตกหลุมพรางพวกไม่หวังดีเข้าให้อีกครั้งแล้ว ทั้งที่คิดว่าพวกมันอาจจะมาสอดแนมเพียงแค่คนหรือสองคนดังเช่นทุกครั้ง
แต่ทว่าครั้งนี้ พวกมันกลับกล้าหาญที่อุกอาจมาบุกรุกถึงถิ่นฐานของเผ่ามูนฬาด้วยกันถึงเจ็ดคนเลยทีเดียว
"อ่าฮ้า~ วันนี้ข้าคงได้เด็ดหัวเจ้าแน่นอน ไอ้บัดซบซามูร์เอ่ย"
ฮิ ฮิ ฮิ