Area 24 : ความตายอยู่เพียงแค่ปลายจมูก

1503 คำ
น้ำค้างต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมา หลังจากที่เผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ ทั้งที่นั่งเฝ้าคนเจ็บอยู่แท้ๆ แต่เพราะน้ำค้างได้ยินเสียงครางอืออ้าออกมาไม่หยุด จนต้องลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความงัวเงียระเกิดอาการตกใจด้วยเช่นกัน ดวงตากลมที่เคยหลับสนิทได้เปิดขึ้นมาแล้ว กลับต้องนิ่งอึ้งและควานหาสติให้กลับมาเข้าร่างอีกครั้ง เมื่อได้สบเห็นคนเจ็บตรงหน้านอนซมไข้ เหงื่อกาฬผุดซึมออกมาราวกับโดนไข้พิษเล่นงานเข้าให้แล้ว ฝ่ามือเล็กเอื้อมไปแตะวัดอุณหภูมิตามผิวเนื้อของคนซมเหงื่อดูหายใจลำบาก ถึงสัมผัสได้ว่าซามูร์ตัวร้อนจี๋ ซ้ำยังมีอาการหนาวสั่น จนคนเจ็บนอนขดตัวสั่นเทิ้มครางอื้ออึ้งในลำคออย่างทรมานในความเจ็บป่วยออกมาเอง "ซามูร์..ซามูร์” แย่แล้ว น้ำค้างเกิดความลนลานไม่รู้จะทำอย่างไรดี ความตื้นตันใจปีติยินดีมั่นใจว่าตนเองนั้น ต้องสามารถดูแลและเป็นที่พึ่งพาให้กับซามูร์ในยามยากได้ ทว่าในตอนนี้ความมั่นใจนั้นกลับริบหรี่จวนจะดับสนิทอยู่รอมร่อแล้ว สองฝ่ามือของคนหวั่นวิตกยกขึ้นมาปิดใบหน้าตนเองอย่างทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหนดี ขอบดวงตาแดงก่ำ หยาดน้ำใสตีตื้นจ่อขอบตาขึ้นมาทุกครั้งเวลาที่หวาดกลัว น้ำค้างปล่อยโฮออกมายามที่ได้หันไปสบมองคนที่นอนทุรนทุราย ราวกับอาการบาดแผลที่ดูเหมือนจะดีขึ้น แต่กลับแย่ลงอย่างน่าใจหาย ริมฝีปากที่เพิ่งจะแอบขโมยจุมพิตไปเมื่อช่วงหัวค่ำ บัดนี้กลับปรากฏขึ้นสีซีดม่วงคล้ำขึ้นมาให้เห็นจนดูน่ากลัวไปหมด น้ำค้างปาดน้ำตาแห่งความขี้แยออกจากใบหน้าอย่างลวกๆ ก่อนจะขยับคลานเข้าไปหาคนที่นอนดิ้นพล่าน จากความทรมานบริเวณบาดแผล ฝ่ามือเล็กคว้าชิ้นผ้าขึ้นมาชุบน้ำที่รองมาเก็บไว้ด้วย ออกแรงบิดให้หมาดๆ นำไปเช็ดตามกรอบหน้า ลำคอของคนที่นอนดิ้นดูทุรนทุราย มีอาการตัวร้อนเพราะไข้ขึ้นสูงด้วย คนที่คิดว่าฮึกเหิมจนจิตใจเข้มแข็งแล้ว ในตอนนี้กลับใจแป้ว เหี่ยวแฟบไปจนหมดสิ้น หยาดน้ำใสหลั่งรินออกมาไม่หยุด เปล่งเสียงสะอื้นไห้ที่หลุดออกมาเป็นพักๆ ทว่ามือเรียวก็ไม่ได้หยุดพักในการพยายามทำให้คนป่วยไข้ตรงหน้าต้องกลับมาเป็นปกติให้จงได้เลย น้ำค้างร้องไห้ไปดูแลซามูร์ไปด้วย เจ้าตัวตั้งใจจะออกไปเดินหาสมุนไพรตอนรุ่งเช้า เพราะหากปล่อยเอาไว้แบบนี้ซามูร์จะต้องแย่ลงเรื่อยๆ แน่ อีกอย่างน้ำค้างกลัวว่าซามูร์จะต้องตายไปทั้งๆ แบบนี้ ซึ่งปล่อยให้เป็นแบบนั้นไม่ได้แน่ น้ำค้างไม่ยอม คนเผลอหลับจนฝุบตัวลงไปด้านข้างคนป่วยต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อรู้สึกได้ถึงการถูกแตะสัมผัสด้วยอุณหภูมิที่ร้อนเกินกว่าปกติตรงบริเวณที่หลังมือ "ซามูร์ ซามูร์" คนขี้แยในสายตาของซามูร์ เริ่มมีหยดน้ำตาออกมาพร้อมกับรอยยิ้ม เมื่อได้เห็นว่าซามูร์คนที่นอนซมดิ้นทุรนทุรายด้วยพิษไข้เมื่อคืน ได้ลืมตาตื่นขึ้นมาแล้ว น้ำค้างรีบขยับตัวเข้าไปใกล้ชิดกับคนไข้ทันที มือเรียวรีบวัดอุณหภูมิร่างกายของซามูร์โดยอัตโนมัติ แตะลงที่ หน้าผาก ลำคอ แล้วก็เคลื่อนไปจับฝ่ามือใหญ่เอาไว้ด้วยใบหน้าเปรมปรีดิ์ "น้ำค้าง.." ริมฝีปากซีดติดสีม่วง พยายามเปล่งคำพูด พร้อมกับพยายามออกแรงยกมือข้างที่ว่างขึ้นมาวางลงบนใบหน้านองน้ำตา ที่ดูพยายามฝืนยิ้มพยักหน้าให้กันอย่างดีใจอยู่ "เจ้า..เจ้าต้องเดินขึ้นทางเหนือไปเรื่อยๆ นะ เข้าใจมั้ย" น้ำค้างจ้องมองคนตรงหน้าด้วยสายตาพร่าเบลอ เพราะมันเต็มไปด้วยหยาดน้ำตา "ไม่ ข้าไม่ไป เจ้าพูดอะไร ข้าไม่เข้าใจ" เสียงสั่นสะอื้นติดดื้อแพ่งเปล่งออกมาอย่างยากลำบาก "เจ้าต้องไป เพราะข้า ข้าคงไปกับเจ้าไม่ได้แล้ว" คนตั้งใจฟังส่ายหน้าไปมาอย่างดื้อแพ่งกว่าทุกครั้ง "ไม่! ข้าฟังเจ้าไม่รู้เรื่อง ซามูร์ เจ้าต้องหายสิ เดี๋ยวข้าไปหายาให้นะ เจ้ารอก่อน น้ำ ใช่ เจ้ากินน้ำก่อนนะ แล้วนอน พักผ่อนเยอะๆ ไง เจ้าจะต้องหาย เดี๋ยวข้าจะดูแลเจ้า เช็ดตัวให้เจ้า หาอาหารมาให้เจ้าเอง" คนใจเสียพูดเร็วรัวตามที่นึกออก และพยายามเฉไฉเบี่ยงเบนประเด็นที่ซามูร์พูดสั่งออกมา ฝ่ามือใหญ่กระตุกสร้อยหนังที่มีติดตัวมาเพียงเส้นเดียว นำมันยัดใส่มือให้คนที่เอาแต่พร่ำพูดอะไรออกมามากมายเยอะแยะแต่กลับไม่รู้ความ ซ้ำยังจะชอบมาทำดื้อแพ่งใส่ไม่ยอมตั้งใจฟังกันอีก "เจ้า ใช้อันนี้ แล้วขอเดินผ่านเข้าไปในเขตของเผ่ามูนฬานะ" ซามูร์พยายามออกแรงกำฝ่ามือเล็กเอาไว้อีกที ในตอนที่น้ำค้างเอาแต่ส่ายหน้าไปมา พร้อมกับแข็งข้อจะไม่ยอมรับสร้อยเส้นที่ซามูร์ยกให้เด็ดขาด "ไม่ เจ้าพูดอะไร ซามูร์ เจ้าพูดอะไรออกมา" น้ำค้างไม่ฟังอะไรอีกต่อไปแล้ว เรียวแขนเล็กพุ่งเข้าไปกอดแน่นอยู่ที่ตัวคนไข้ที่เอาแต่ปากไม่ดี พูดสั่งอะไรออกมาตั้งมากมายยังกับคนเผด็จการ "น้ำค้าง เจ้าเชื่อข้า แล้วเจ้าจะปลอดภัย เจ้าต้องไปตามที่ข้าบอก เจ้าต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปนะ" ซามูร์พูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่าและแผ่วเบา ราวกับคนจะหมดแรงอยู่รอมร่อแล้ว เมื่อน้ำค้างเอาแต่เกาะแขนโอบกอดและปล่อยโฮใส่ซามูร์ราวกับไม่ยอมรับฟังอะไรเลย คนสั่งเสียตรงหน้าจึงต้องดึงใบหน้าที่อาบไปด้วยน้ำตาเต็มสองซีกแก้มเข้ามาสบสายตากัน เพื่อจะได้เข้าใจและยอมรับทางเลือกนี้ซะ "ข้าถูกพิษที่อาบเคลือบลูกดอกมา อีกไม่นานข้าก็จะตายแล้ว เจ้าต้องไปหาที่ปลอดภัย แล้วหาทางไปพบอาร์ล เจ้าจะได้กลับบ้านเจ้าได้นะ น้ำค้าง" "ม่ายยย ไม่ ไม่ เจ้าหยุดพูดเลย ข้าไม่ไปไหนทั้งนั้น เจ้าจะตายได้ยังไง ข้าไม่ยอม ข้าไม่อนุญาต ไหนเจ้าบอกว่าจะพาข้ากลับบ้านไง เจ้าไม่รักษาสัญญาได้ไง ซามูร์ ไม่นะ ข้าไม่ยอมให้เจ้าตาย เจ้าจะตายไม่ได้ ฮื้อออออ" กำปั้นเล็กทุบลงบนหน้าอกคนที่เอาแต่พูดพร่ำอะไรออกมาไม่หยุดปาก ประโยคที่มันตอกย้ำทำให้คนฟังต้องรู้สึกใจเสียกว่าเดิม ทว่ากำลังแรงทุบนั้นมันช่างไร้เรี่ยวแรงเสียยิ่งกว่าฝ่ามือแมวที่ชอบตะปบซะอีก เรี่ยวแรงของน้ำค้างก็เช่นกัน ใบหน้านองน้ำตาจากความอัดอั้นที่ต้องได้มารับรู้อะไรแบบนี้ "น้ำค้าง เจ้าต้องฟังข้าเป็นครั้งสุดท้ายนะ เชื่อข้า" "ม่ายยย หากเจ้าตาย ข้าก็จะตาย ตายมันไปเลยทั้งคู่ ฮื้ออออ ไอ้ซามูร์ ไอ้บ้า ไอ้โง่ งี่เง่า" น้ำค้างร้องไห้จวนเจียนจะขาดใจเมื่อทำใจไม่ได้ ซามูร์พยายามที่จะสะกดกลั้นอารมณ์ไม่ให้น้ำตาหลั่งรินออกมาตามคนที่อาละวาดออกมาอย่างโหยหวนด้วยความเสียใจจนแทบสิ้นสติ จนซามูร์ต้องดึงคนตรงหน้าเข้ามากอดเอาไว้ น้ำค้างปล่อยโฮสะอื้นไห้ออกมา ด้วยความเสียใจส่งเสียงดังแบบไม่อายกันอีกต่อไปแล้ว "เจ้าจะมาตายในที่แบบนี้ไม่ได้ เจ้าต้องได้กลับบ้านเกิดเจ้าอย่างปลอดภัยสิ" ซามูร์กล่าวเนิบนาบ ก่อนจะขยับใบหน้าเพื่อจรดประกบริมฝีปากที่เขาแสนจะชอบนักหนา ก่อนที่จะไม่มีโอกาสทำแบบนี้อีกต่อไปแล้ว "ข้าขอโทษนะน้ำค้าง ข้าขอโทษ" จุมพิษแสนแผ่วเบา ได้ผละออกก่อนจะเอ่ยคำขอโทษดุจคำอำลาสั่งเสียอย่างไรอย่างนั้น "ข้าขอให้เจ้าโชคดีนะ น้ำค้าง" รอยยิ้มที่ซามูร์ไม่เคยยิ้มให้น้ำค้างได้เห็นชัดๆ มาก่อนเลย ทว่าในตอนนี้มันมีอะไรน่ายิ้มออกมานักเหรอ น้ำค้างที่ได้สบเห็นยิ่งรู้สึกเจ็บปวดใจจนแทบทนไม่ไหว "น้ำค้าง ข้า..” รัก.. น้ำเสียงที่ขาดหายไป จึงมีเพียงแค่การขยับปากที่ไร้เสียง ก่อนที่ซามูร์จะล้มพับลงไป จนน้ำค้างใจเสียต้องกรีดร้องออกมา พลางเขย่าตัวคนที่ไร้สติเงียบนิ่งไปแล้วให้ฟื้นตื่นขึ้นมาคุยกันก่อน "ม้ายยยยยยยยยยย ซามูร์ ซามูร์..” “ซามูร์!!!"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม