ตอนที่ 5 ร่างใหม่ที่ไม่เหมือนเดิม/1

2317 คำ
แคว้นซ่ง จวนหยงหนิงโหว เปรี้ยง! เปรี้ยง! เปรี้ยง! เสียงคำรามดึงกึกก้องไปทั่วท้องฟ้าเบื้องบน พร้อมสายฟ้าฟาดสว่างวาบดั่งสายแส้กระหน่ำอยู่บนแผ่ยฟ้าลงมาอย่างไม่ขาดสาย ลมกรรโชกแรงพัดโหมกระหน่ำอย่างบ้าคลั่งผสมผสานกันเป็นที่หวาดหวั่นเสียนี่กระไร ภายในจวนใหญ่ของตระกูลเหลียง ขุนนางฝ่ายบู๊ ดำรงตำแหน่งเป็นแม่ทัพผู้กล้าของแคว้นซ่งมานานหลายชั่วอายุคน ประมุขจวนคนปัจจุบันนามว่า เหลียงอี้ไข่ อดีตแม่ทัพวัยห้าสิบเก้าปี ขุนศึกคู่บัลลังก์ที่เคยออกทำสงครามเคียงคู่กับอดีตอ๋องต้าซ่งพระองค์ก่อนมาแล้วมากมาย เหลียงอี้ไข่มีบุตรชายด้วยกันทั้งหมดห้าคน ได้แก่เหลียงซีตุงเกิดจากเซี่ยฮูหยินภรรยาเอก เจริญรอยตามบิดาในฐานะที่เป็นบุตรชายคนโตและได้รับการสืบทอดบรรดาศักดิ์ขั้นโหวเมื่อเข้ารับราชการทหาร แต่เป็นที่น่าเสียดายเพราะความอ่อนด้อยในการทำสงครามจึงทำให้สิ้นชีพในสนามรบไปอย่างน่าเสียดาย เหลียงจื่อเจี้ยน บุตรชายคนที่สองเป็นบุตรเกิดจากอนุภรรยาคนที่สอง บัณฑิตหนุ่มที่เอาดีทางด้านงานศิลป์ ชื่นชอบตำราหนังสือมากกว่าการจับอาวุธทำศึกสงครามจึงไม่ได้บรรดาศักดิ์ขั้นโหวเพราะไม่ได้เข้ารับราชการ เหลียงจงซิน บุตรชายคนที่สามเป็นบุตรเกิดจากอนุภรรยาคนที่สองเช่นกัน เอาดีทางด้านค้าขาย เจ้าของร้านขายข้าวสารและของแห้งรวมไปถึง ร้านค้ามากมายมีอิทธิพลทางการค้าครอบคลุมไปทั่วต้าซ่ง เหลียงถิงเวย บุตรชายคนที่สี่เป็นบุตรที่เกิดจากอนุภรรยาคนที่สาม และเป็นขุนนางฝ่ายบุ๋น ได้เข้ารับราชการในกรมยุติธรรมของต้าซ่งในตำแหน่งรองเจ้ากรมอาญา จึงทำให้ได้รับบรรดาศักดิ์ขั้นโหวสืบทอดต่อจากบิดาได้เช่นกัน แต่ทว่ากลับมีนิสัยที่ชอบประจบสอพลอเป็นยิ่งนัก และเหลียงอี้ฟาน บุตรชายคนสุดท้องซึ่งเกิดจากเซี่ยฮูหยินภรรยาเอกผู้ล่วงลับของเหลียงอี้ไข่ เป็นน้องชายร่วมบิดามารดาเดียวกันกับเหลียงซีตุง ซึ่งเป็นพี่ชายคนโตผู้ล่วงลับไปแล้ว คุณชายน้อยเป็นม้ามืดในสายตาของทุกคนในจวนหยงหนิงโหว ซึ่งมีลักษณะเงียบขรึม ไม่สนใจผู้ใดไม่ชอบสุงสิงกับพี่น้องแม้กระทั่งพ่อและแม่ก็ยังเย็นชา และที่น่าประหลาดนั้นก็คือคุณชายน้อยผู้นี้มีวรยุทธ์นับตั้งแต่เขาเริ่มจำความได้และมีลักษณะพิเศษที่แตกต่างไปจากพี่น้องคนอื่นๆ นั้นก็คือมีปานแดงอยู่บริเวณกลางหน้าผากลักษณะคล้ายเปลวไฟ ปานดังกล่าวทอแสงลุกวาววับเมื่อครั้งที่คุณชายน้อยถือกำเนิดและในวันนั้นผู้ที่เห็นปานแดงทอแสงออกมาจากทารกน้อยที่เพิ่งเกิดออกมานั้น ทุกชีวิตที่อยู่ภายในห้องคลอดซึ่งล้วนเป็นสตรีทั้งสิ้นต่างพากันสิ้นชีพอย่างไม่รู้สาเหตุรวมไปถึงเซี่ยฮูหยินมารดาผู้ให้กำเนิดก็สิ้นชีพในวันนั้นด้วยเช่นกัน ด้วยเหตุนี้จึงเป็นที่มาของเสียงร่ำลือว่าคุณชายน้อยเกิดมาพร้อมกับดาวแห่งความตาย ถึงแม้ว่าในวันนั้นจะมีผู้ใกล้ชิดตกตายไปตามกันหลายชีวิตก็ตามที หากแต่นับตั้งแต่เหลียงอี้ฟานลืมตาดูโลกผู้เป็นบิดาเจริญรุ่งเรืองในหน้าที่ทางราชการอย่างใหญ่หลวงได้รับความดีความชอบและเป็นที่โปรดปรานของอ๋องต้าซ่งยิ่งนัก จวบจนกระทั่งได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์ขั้นโหว ด้วยเหตุนี้คุณชายน้อยจึงเป็นที่รักของบิดาด้วยนำพาความโชคดีมาให้ แม้ว่าจะทำให้มารดาต้องตกตายทันทีที่เกิดออกมาก็ตามรวมไปถึงชีวิตของบ่าวไพร่และหมอตำแยในเวลานั้นรวมแล้วหลายชีวิตเลยทีเดียว ซึ่งการสิ้นชีพอย่างเป็นปริศนาของทุกคนในวันนั้นจนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีผู้ใดไขความกระจ่างนี้ได้ แต่หลังจากนั้นก็ไม่มีผู้ใดสิ้นชีพอย่างไร้สาเหตุและที่มาที่ไปอีกเลย ครั้นพี่ชายคนโตสิ้นชีพในสนามรบ เหลียงอี้ฟานจึงขออาสาออกรบแทนบิดาที่ชราภาพมากแล้ว และเหนือความคาดหมายคุณชายน้อยสามารถนำทัพตีแคว้นน้อยใหญ่ทางตอนกลางจนล่มสลายกลายมาเป็นแคว้นในการปกครองของต้าซ่งมาอย่างมากมาย ทำให้เหลียงอี้ฟานได้ก้าวขึ้นมาเป็นแม่ทัพใหญ่คุมกำลังทหารของต้าซ่งทั้งหมดแทนบิดาและสืบทอดบรรดาศักดิ์ขั้นโหวเช่นเดียวกัน และเนื่องจากเป็นขุนนางฝ่ายบู๊เช่นเดียวกับบิดา จวนหยงหนิงโหวนี้จึงตกเป็นของเหลียงอี้ฟานแต่เพียงผู้เดียว ส่วนพี่ชายคนอื่นๆ ที่เกิดจากอนุภรรยาต่างแยกย้ายไปมีจวนของตัวเองตามสภาพและฐานะ ในขณะเดียวกันเนื่องจากเหลียงอี้ไข่ซึ่งเป็นบิดายังมีชีวิตอยู่ บ่าวไพร่ภายในจวนจึงได้เรียกขานเหลียงอี้ฟานว่า ท่านโหวน้อย ความเก่งกล้าของเหลียงอี้ฟาน เป็นที่ใฝ่ฝันของสตรีทั่วแคว้นซ่งร่วมไปถึงต่างแคว้นต้องการจะได้เป็นทองแผ่นเดียวกัน หากตระกูลใดได้แม่ทัพผู้กล้าแห่งต้าซ่งนี้ไป แน่นอนว่าตระกูลจะต้องรุ่งเรืองและเจริญก้าวหน้าชนิดที่ว่าก้าวกระโดดเลยทีเดียว ซึ่งไม่มีผู้ใดในจวนคาดคิดว่า คุณชายน้อยของตระกูลที่วันๆ เอาแต่เก็บตัวเงียบอยู่แต่ในเรือนแทบจะไม่พูดกับผู้ใด จะมีวรยุทธ์แก่กล้าจนถึงขนาดนำทัพออกทำสงครามมาแล้วมากมาย ยึดครองแคว้นน้อยใหญ่มาให้แก่ต้าซ่งในเวลาอันรวดเร็ว ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เนื้อหอมในหมู่สตรีชั้นสูงเป็นอย่างยิ่ง จวบจนกระทั่งได้มีการตกลงระหว่างผู้ใหญ่เลือกภรรยาเอกและอนุภรรยามาให้แก่แม่ทัพผู้กล้า ทว่ากลับไม่คาดคิดเลยว่าทันทีที่พวกนางได้แต่งเข้ามาในจวนหยงหนิงโหว ภรรยาเอกที่มาจากตระกูลหานกลับสิ้นชีพลงอย่างกะทันหันขณะรอเจ้าบ่าวมาเข้าร่วมหอ นางสิ้นใจเพราะกินขนมมงคลด้วยความหิวโหยจนสำลักติดคอตายสิ้นชีพลงไปอย่างไม่มีผู้ใดคาดคิดแม้แต่น้อย ในขณะที่อนุภรรยาอีกสองนางซึ่งมาจากตระกูลเจิ้งและตระกูลกัวจะต้องแต่งเข้ามาในวันเดียวกันต่างประสบเหตุระหว่างทางอย่างไม่คาดฝัน คุณหนูจากตระกูลเจิ้งพลัดตกจากเกี้ยวเจ้าสาวคอหักตาย ส่วนคุณหนูจากตระกูลกัวที่มีวรยุทธ์คู่กายกลับธาตุไฟเข้าแทรกทำให้กระอักเลือดตายในเช้าวันที่จะขึ้นเกี้ยวเจ้าสาวมาที่จวนหยงหนิงโหว จากเหตุการณ์ดังกล่าวก่อให้เกิดเสียงโจษขานกันไปทั่วหล้า ว่าแม่ทัพใหญ่เหลียงอี้ฟาน ท่านโหวน้อยแห่งจวนหยงหนิงโหวนั้นมีดวงพิฆาตภรรยา หมอดูมากมายเปรียบเปรยแม่ทัพผู้กล้านี้ว่าเป็นดาวแห่งความตายเพราะทันทีที่เกิดมาเซี่ยฮูหยินและคนรอบข้างก็สิ้นชีพทันที ทว่าเหลียงอี้ไข่ ประมุขของจวนหยงหนิงโหวกลับคิดว่าเสียงร่ำลือนั้นล้วนเหลวไหลและไร้ที่มาที่ไปกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่เกิดขึ้นกับว่าที่ภรรยาของท่านโหวน้อย บุตรชายคนสุดท้องที่นำความภาคภูมิใจมาให้แก่ตระกูลเหลียง จึงได้ร้องขออ๋องต้าซ่งมอบสมรสพระราชทานให้แก่บุตรชายเพื่อทำลายความเชื่องมงายของผู้คนในแคว้นซ่ง ว่าแม่ทัพหนุ่มเป็นดาวแห่งความตายและเป็นดวงพิฆาตสตรีทุกคนที่อยู่ใกล้ชิด ด้วยเหตุนี้อ๋องต้าซ่งจึงมอบสมรสพระราชทานให้แก่เหลียงอี้ฟานเป็นครั้งที่สอง ภายหลังเหตุการณ์ดังกล่าวผ่านมาแล้วสามปีท่านโหวน้อยจึงได้สมรสใหม่อีกครั้ง จากเจ้าสาวที่ไม่เคยเห็นหน้ากันเลยสักครั้งซึ่งมาจากตระกูลขุนนางชั้นสูงฝ่ายบุ๋น บิดาดำรงตำแหน่งเป็นถึงอำมาตย์ขวาในราชสำนักต้าซ่ง มีมารดาเป็นพระขนิษฐาของอ๋องต้าซ่ง และนางเพิ่งจะมีอายุเพียงแค่สิบหกปีเท่านั้น ในขณะที่ท่านโหวน้อยมีอายุยี่สิบสามปี ทว่าเหตุการณ์ไม่คาดฝันกลับหวนคืนมาอีกครั้ง ในคืนวันแต่งงานครั้งที่สองของท่านโหวน้อย เมื่อได้ฤกษ์ส่งตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาว กลับเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น ทันทีที่เจ้าบ่าวเปิดผ้าคลุมหน้าของเจ้าสาวจนทั้งคู่ได้พานพบหน้ากันเป็นครั้งแรกในคืนแต่งงาน เจ้าสาวมีอาการหวาดกลัวเจ้าบ่าวอย่างสุดขีด จนกระทั่งนางหมดสติไปอย่างไม่รู้สาเหตุ ครั้นเมื่อรู้สึกตัวนางกลับมีสติวิปลาส จดจำตัวเองไม่ได้และหวาดกลัวท่านโหวน้อยทุกครั้งที่เห็นหน้า จึงทำให้เสียงเล่าลือที่เคยโจษขานกันในครั้งอดีตปะทุขึ้นมาอีกครั้ง แผ่ขยายวงกว้างออกไปทั่วเมืองหลวงอย่างไม่หยุดยั้ง ท่านโหวน้อยเหลียงอี้ฟานเกิดมาพร้อมกับดาวแห่งความตาย เป็นดวงกินเมียจนพวกนางต้องพบกับจุดจบอย่างน่าเวทนา สตรีน้อยใหญ่ที่เฝ้าใฝ่ฝันต้องการเป็นฮูหยินของท่านโหวหนุ่มหรือต้องการเข้ามาเป็นอนุภรรยา ต่างเปลี่ยนความคิดไปอย่างสิ้นเชิงแม้จะเสียดายในความองอาจและกล้าหาญ อีกทั้งรูปงามจนเป็นที่เลื่องลือหากพวกนางแต่งเข้าจวนแล้วต้องพบกับจุดจบเช่นนี้ ดูท่าขอยอมเป็นสาวเถืออยู่เช่นนี้แลดูจะปลอดภัยเสียยิ่งกว่า และเพราะสาเหตุนี้เองทำให้ท่านโหวน้อย เคลื่อนทัพบ่ายหน้าขึ้นเหนือเพื่อปราบปรามชนเผ่านอกด่านที่รุกล้ำเข้ามาในเขตแดนต้าซ่ง ทั้งที่เพิ่งจะแต่งงานได้ไม่ถึงหนึ่งเดือน แต่ฮูหยินของเขากลับกลายเป็นสตรีวิปลาสไปเสียแล้ว เหลียงอี้ฟานจึงไม่อยากให้สตรีใดต้องพบกับจุดจบเช่นนั้นอีก จึงทำให้ตัดสินใจไปใช้ชีวิตอยู่ในกองทัพเพื่อให้ผู้คนลดความหวาดกลัวลง คงเหลือแต่เพียงฮูหยินน้อยผู้น่าสงสาร ต้องใช้ชีวิตอยู่ภายในจวนหยงหนิงโหว ท่ามกลางบ่าวไพร่มากมายที่คอยดูแลเอาใจใส่เนื่องจากนางแต่งเข้าจวนมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งบ่าวไพร่ภายในเรือนฉิงหลันล้วนถูกส่งมาจากตระกูลซ่งเกือบทั้งหมด และถึงแม้ว่าจะมีสติวิปลาสไปแล้วก็ตาม แต่นางก็คือฮูหยิน ของจวนเพียงหนึ่งเดียวที่ยังมีชีวิตอยู่และที่สำคัญเป็นภรรยาเอกของท่านโหวคนปัจจุบันของจวนซึ่งมีเชื้อสายพระราชวงศ์ของอ๋องต้าซ่ง จึงทำให้นางได้รับการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดีไม่ถูกทอดทิ้งไร้ผู้ใดเหลียวแล เปรี้ยง! เปรี้ยง! เปรี้ยง! สายฟ้าฟาดสว่างวาบไปทั่วท้องฟ้าราวกับว่าสวรรค์เบื้องบนกำลังพิโรธ เสียงฟ้าร้องและฟ้าผ่ามาพร้อมกับสายฝนกระหน่ำลงมาอย่างรุนแรงจนแผ่นดินเบื้องล่างท้วมท้นไปด้วยสายธารา จวนหยงหนิงโหวในเวลานี้เรือนนอนน้อยใหญ่ต่างปิดประตูหน้าต่างอย่างมิดชิด บ่าวไพร่ต่างพากันหลบฝนกันจ้าละหวั่น ในขณะที่สายฝนกำลังกระหน่ำลงมาอย่างรุนแรง ร่างเล็กอรชรของหญิงสาววัยแรกรุ่นก้าวเดินออกมาจากเรือนนอนท่ามกลางความมืดมิดที่แสงเทียนไม่อาจต้านแรงลมพายุที่กำลังพัดโหมกระหน่ำอยู่ในขณะนี้ได้ ร่างงามสวมชุดนอนสีขาวตัวชุดมีเสื้อคลุมตัวยาวทาบทับกับกางเกงด้านใน ช่วงขาเรียวยาวก้าวเดินออกมาจากห้องนอนของนางอย่างช้าๆ ดวงตาเต็มไปด้วยความเลื่อนลอย ก่อนจะแหงนหน้ามองสายฝนพรำ “ฝน! ฝน! ฝนตกแล้ว! ตกอีก...ตกมาเยอะๆ เลย...ข้าชอบฝน...ชอบฝนตก”นางพูดพลางหัวเราะคิกคักเป็นการใหญ่ ร่างเล็กบอบบางเดินสะเปะสะปะ จนมาหยุดยืนกลางแจ้งบนพื้นที่ซึ่งเป็นสวนดอกไม้ที่อยู่ในเรือนของนาง ก่อนจะแหงนหน้ามองท้องฟ้าเบื้องบนที่เต็มไปด้วยสายฝนและเมฆครึ้มสีดำทะมึนปกคลุมไปทั่วบริเวณ สองมือเรียวงามน้อยๆ ยื่นออกไปรองรับน้ำฝนที่ตกลงใส่มือก่อนจะยกขึ้นดื่ม “น้ำฝนรสชาติดีจัง..คิก! คิก! คิก!”นางพูดพลางหัวเราะคิกคักเป็นการใหญ่ก่อนจะกระโดดโลดเต้นไปมาอยู่ท่ามกลางสายฝนที่กระหน่ำลงมาอย่างไม่ขาดสาย ในขณะที่ที่ท้องฟ้าเบื้องบนสายฟ้าฟาดผ่าลงมาเป็นระยะๆ แปลบ! แปลบ! แปลบ! ฟ้าแล่บสว่างวาบปรากฏออกมาเป็นระยะๆ ในขณะที่สาวน้อยร่างอรชรกำลังกระโดดโลดเต้นอยู่เช่นนั้น ยิ่งเห็นฟ้าแล่บมากเท่าไรนางยิ่งหัวเราะอย่างมีความสุข “สายฟ้าสวยจัง! สวยจังเลย..ไป! ไป..พาข้าไปสวรรค์ อยากไปสวรรค์แล้ว”นางพูดพร้อมชี้มือขึ้นท้องฟ้าราวกับว่าต้องการที่จะขึ้นไปสวรรค์เบื้องบน และทันทีที่นางชี้มือขึ้นบนท้องฟ้าซึ่งมีกำไลหยกคู่กายสวมติดตัวอยู่ตลอดเวลา เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นทันที เปรี้ยง! สายฟ้าจากเบื้องบนผ่าลงไปที่แผ่นดินเบื้องล่างบริเวณภายในจวนของหยงหนิงโหว และที่สำคัญสายฟ้าดังกล่าววิ่งแฉลบพุ่งเข้าไปที่ร่างของสาวน้อยที่กำลังชี้มือขึ้นท้องฟ้าอยู่ในขณะนั้นเข้าให้อย่างจังจนร่างของนางหยุดชะงักไปทันที ก่อนจะล้มหงายหลังลงไปนอนกับพื้นในท่ายืนที่กำลังยกมือชี้ฟ้าอยู่ในขณะนั้น ดวงตาคู่สวยเบิกค้างอยู่เช่นนั้นจับจ้องอยู่แต่แผ่นฟ้าเบื้องบน ริมฝีปากขยับขึ้นลงคล้ายพยายามจะสูดลมหายใจเข้าไปก่อนจะสงบนิ่งในเวลาต่อมา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม