ตอนที่ 2 ติงห้าวห้าวต้องการความเป็นธรรม!!!

3227 คำ
ดินแดนปรโลก ท่ามกลางความมืดมนที่แผ่ปกคลุมไปทั่วบริเวณ เบื้องหน้าเต็มไปด้วยผู้คนมากมายกำลังเดินไปตามเส้นทางที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตาไม่รู้ว่าจะจบลงที่ใด ผู้คนบนทางเดินดังกล่าวมีทั้งชายและหญิง เด็กและคนชรา มีฐานะตั้งแต่ฮ่องเต้ เจ้าผู้ครองแคว้น รวมไปถึงแม่ทัพนายกองและชาวบ้านสามัญชนคนธรรมดาทั่วไป ต่างมารวมตัวเดินอยู่บนเส้นทางเดียวกันเพื่อบ่ายหน้าข้ามสะพานที่ทอดยาวอยู่ตรงหน้าไปยังสถานที่มีไฟโลกันตร์พวยพุ่งออกมาอย่างไม่ขาดสาย ตามเส้นทางที่ทอดยาวจะมีศาลาคล้ายที่พักริมทางตั้งอยู่ ซึ่งมีเพียงศาลาเดียวเท่านั้นและภายในศาลาดังกล่าวปรากฏร่างสูงของติงห้าวห้าวที่มีเพียงผ้าแพรผืนบางเบาพันเอาไว้ใต้เอวอยู่เพียงแค่นั้น กำลังหลับใหลไม่ได้สติซึ่งไม่รู้ว่านอนอยู่ในสภาพเช่นนั้นมานานเท่าใดแล้ว เปลือกตาที่ปิดสนิทเริ่มเคลื่อนไหวไปมาก่อนจะเปิดขึ้นอย่างช้าๆ ท่ามกลางแสงไฟสลัวๆ เต็มไปด้วยสายหมอกขาวปกคลุมไปทั่วบริเวณ พร้อมสติเริ่มหวนกลับคืนมาและดวงตาที่กำลงปรับภาพที่อยู่ตรงหน้าให้แจ่มชัดยิ่งขึ้น ก่อนจะกลอกตาไปมาพร้อมกวาดสายตาไปทั่วบริเวณ และพบว่าเขากำลังนอนอยู่ในศาลาที่พักริมทางตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยว ครั้นมองออกปไกลปรากฏเทือกเขาสูงเสียดฟ้าดำทะมึนสูงตระหง่านราวกับว่ากำลังอยู่ใต้พิภพมากกว่าอยู่บนแผ่นดิน และนั้นทำให้ร่างสูงที่มีเพียงผ้าบางเบาพันเอาไว้ใต้เอวกันอุจาดตาลุกพรวดพราดขึ้นมาทันที “นี่ข้าอยู่ที่ไหนกันนี่! เหตุใดข้าจึงไม่อยู่ภายในเรือนนอนของข้าที่ซานเล่อเล่อ แต่กลับมาอยู่ในศาลาที่พักริมทางที่ตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยวเช่นนี้”ติงห้าวห้าวพยายามยืนครุ่นคิดทบทวนว่าเพราะเหตุใดจึงมาอยู่ในสถานที่แปลกประหลาดเช่นนี้ ทว่าไม่ว่าจะคิดอย่างไรเขาก็คิดไม่ออกเอาเสียเลย ชายหนุ่มเหลือบสายตามองตรงไปข้างหน้า ซึ่งเต็มไปด้วยผู้คนมากมายกำลังเดินตรงไปยังจุดหมายปลายทางเดียวกัน ร่างสูงของติงห้าวห้าวไม่รอช้ารีบเดินออกจากศาลาที่พักริมทางดังกล่าวเดินเข้าไปในกลุ่มฝูงชนพร้อมเอ่ยถามชายหนุ่มผู้หนึ่งอายุราวยี่สิบปลายๆ ที่กำลังเดินอยู่ภายในกลุ่มคเหล่านั้นด้วยความร้อนใจ “พี่ชายท่านนี้ล่วงรู้หรือไม่ว่า ผู้คนเหล่านี้จะพากันไปที่ไหน..พวกท่านจะไปไหนกันอย่างนั้นเหรอ”ติงห้าวห้าวถามกลับไปด้วยความอยากรู้ หากแต่คำตอบที่ได้รับกลับมาคือความเงียบงันและความเย็นชาของผู้คนเหล่านั้นที่ไม่สนใจผู้ใดแม้แต่น้อย ต่างคนต่างเดินและไม่สนใจผู้คนรอบข้างว่าจะเป็นอย่างไรแม้แต่น้อย ซึ่งชายหนุ่มไม่รู้ตัวเลยว่าเขาในขณะนี้คือดวงวิญญาณที่เพิ่งหัวใจวายตายอย่างกะทันหัน เพราะหักโหมเสพสังวาทติดต่อกันโดยไม่ยอมหยุดพักมานานหลายชั่วยามจึงทำให้ติงห้าวห้าวจบชีวิตลงในสภาพตายคาแผ่นหลังคู่ขา หาใช่ตายคาอกเสียด้วย แต่ดูท่าติงห้าวห้าวจะยังไม่รู้ตัวว่าตัวเองนั้นได้ตายไปแล้ว ดวงวิญญาณยังคงยืนงง ทั้งมึนและอึนอยูในเวลานี้ด้วยความแปลกใจเมื่อจู่ๆ ก็ฟื้นขึ้นมาและมาอยู่ในสถานที่แปลกประหลาดเช่นนี้ และกำลังยืนอยู่บนเส้นทางที่เต็มไปด้วยผู้คนมากมายจากทั่วทุกสารทิศไม่รู้ว่ามาจากแห่งหนใดบ้าง “ละ...หรือว่าข้าตกข่าวอะไรไปหรือเปล่า แคว้นจิงหยวนแตกแล้วอย่างนั้นเหรอเหตุใดจึงมีผู้คนมากมาย ทั้งชายและหญิง เด็กและคนชราต่างพากันอพยพมาเดินรวมตัวอยู่บนเส้นทางนี้ แล้วนี่จะพากันไปไหน! แต่เหตุใดข้าจะต้องอพยพในสภาพที่แทบไม่มีอะไรปกปิดเช่นนี้ด้วยเล่า” ติงห้าวห้าวบ่นพึมพำพร้อมมองผู้คนที่กำลังเดินผ่านหน้าเข้าไป ก่อนจะตัดสินใจเข้าไปถามชายวัยกลางคนผู้หนึ่งที่กำลังค่อยๆ ก้าวเดินด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความเลื่อนลอยอีกเป็นครั้งที่สอง “นี่ท่านลุง! เกิดอะไรขึ้นอย่างนั้นเหรอ ผู้คนมากมายเหล่านี้จะพากันไปไหนแล้วอพยพมาจากที่ใดกันหรือว่าแคว้นจิงหยวนถูกโจมตีจนแตก”ติงห้าวห้าวเอ่ยถามชายคนดังกล่าว ทว่าคำตอบที่ได้รับมานั้นกลับเป็นความเงียบงัน ไม่มีถ้อยคำใดๆ ตอบกลับมาแต่อย่างใด ไม่มีแม้กระทั่งหันกลับมามองชายหนุ่มรูปงามที่กำลังถามไถ่อยู่ในขณะนั้นแม้แต่น้อย ท่ามกลางความงงงันของติงห้าวห้าวที่ยังคงยืนเคว้งคว้างอย่างโดดเดี่ยวอยู่เพียงลำพังท่ามกลางผู้คนมากมายที่กำลังเดินผ่านหน้าเขาไปคนแล้วคนเล่า “นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับข้ากันแน่! เหตุใดข้าจึงมาอยู่ในสถานที่แห่งนี้! ใครจะไปไหนก็ช่างเถอะแต่ข้าจะกลับไปที่ซานเล่อเล่อ สมบัติข้าตั้งมากมายเก็บอยู่ในเรือนของข้า หากแคว้นจิงหยวนแตกจริงจะไปโดยไม่มีทรัพย์สินติดตัวได้อย่างไร อีกทั้งจะให้ข้าเดินทางด้วยสภาพไร้อาภรณ์มีเพียงผ้าพันกายผืนเดียวรอบกายอยู่เช่นนี้หรอกเหรอ ไม่เอาด้วยหรอก”ติงห้าวห้าวกล่าวพร้อมหันหลังกลับอย่างรวดเร็วเพื่อเดินสวนเส้นทางตรงกันข้ามกับที่ผู้คนมากมายกำลังเดินอยู่ในเวลานี้ ทันใดนั้นเอง ฟิ้วววว!!!! แรงมหาศาลไม่รู้มาจากแห่งหนใดดีดร่างของเขาจนกระเด็นหงายท้องลงไปนอนแอ่งแม่งอยู่กับพื้น พรึบ! พรึบ! ร่างของบุรุษจำนวนสองคน มีใบหน้าดุดันและมีดวงตาสีแดงฉาน สวมอาภรณ์สีดำทะมึนปรากฏกายขึ้นพร้อมกันทั้งสองมีพัดประจำกายด้วยกันทั้งคู่ “ดวงวิญญาณนี้ดูท่าจะยังไม่ล่วงรู้ว่าได้ละสังขารจากร่างมนุษย์ของตนมาแล้วเป็นแน่ จึงพยายามดึงดันที่จะหวนกลับคืน” บุรุษสวมอาภรณ์ดำทั้งสองหรือยมทูตจากดินแดนปรโลกนามว่าไข่ต๋าและไข่เหยา สองยมทูตฝาแฝดผู้ทำหน้าที่รับดวงวิญญาณของมนุษย์ที่ได้ถึงวาระสุดท้ายของชีวิตนำดวงวิญญาณเหล่านั้นมารอรับการพิจารณาจากเจ้าโลกันตร์เพื่อตัดสินความดีและความชั่ว ก่อนจะถูกส่งไปยังดินแดนใหม่ตามผลของการกระทำเมื่อสมัยยังมีชีวิตอยู่ พร้อมเสียงหนึ่งในยมทูตเอ่ยขึ้น “จงลุกขึ้นเดี๋ยวนี้ปิงห้าวห้าว! แล้วกลับเข้าไปเดินตามขบวนเพื่อข้ามสะพานไปเฝ้าเจ้าโลกันตร์ อย่าได้ริอ่านคิดหนีกลับแดนมนุษย์อีกเลยเพราะตอนนี้เจ้าเหลือเพียงแค่ดวงวิญญาณเท่านั้น”ยมทูตบอกกับดวงวิญญาณตรงหน้าที่กำลังพยายามลุกขึ้น ในขณะที่ติงห้าวห้าวซึ่งกำลังลุกขึ้นยืนจากพื้นในสภาพที่ทุลักทะเล ด้วยเพราะถูกแรงดีดมหาศาลไม่ให้เขาหวนคืนกลับไปยังดินแดนที่จากมาได้ ชายหนุ่มหน้าสวยได้แต่ยืนงงกับคำพูดของยมทูตทั้งสองที่บอกกับเขาเช่นนั้น “ท่านทั้งสองพูดอะไรกันข้าไม่เข้าใจ! ข้านะเหรอตายไปแล้ว...เป็นไปไม่ได้! ข้าไม่เชื่อ!”ติงห้าวห้าวเถียงกลับไปคอเป็นเอ็น “เจ้าดวงวิญญาณดื้อด้านบังอาจเถียงข้าอย่างนั้นเหรอ! เจ้านั้นตายแล้วล้วนเป็นเรื่องจริง ตอนนี้อยู่กำลังอยู่ที่แดนปรโลกซึ่งเหลือแต่เพียงดวงวิญญาณเท่านั้นยังไม่ยอมรับอีก ตัวเจ้าหมดอายุขัยลงแล้วเพราะหัวใจวายจากโรคประจำตัว อายุขัยของเจ้าสิ้นสุดลงในวัย 38 ปี!”ยมทูตนามว่าไข่เหยากล่าวพร้อมคลี่พัดที่อยู่ในมือออกมา พร้อมรายชื่อของผู้สิ้นอายุขัยปรากฏขึ้นบนพัดที่อยู่ในมือดังกล่าว “นี่อย่างไงรายชื่อของเจ้า! ปิงห้าวห้าว!!!”กล่าวพร้อมโบกสะบัดพัดในมือพร้อมชื่อดังกล่าวล่องลอยออกมาปรากฏอยู่ตรงหน้าของชายหนุ่มหน้าหวานที่กำลังยืนฟังอยู่ในขณะนั้น “นี่พวกท่านอ่านหนังสือกันไม่คล่องเหรอ ดูเอาเถิดสภาพของข้าตอนนี้เหมือนชายวัย 38 ปีใกล้ 40 อยู่มะร่อมมะร่ออย่างนั้นหรอกเหรอ! นี่จะบอกอะไรให้นะข้าเพิ่งจะมีอายุ 20 ปีเท่านั้นและที่สำคัญข้าชื่อติงห้าวห้าว! ไม่ใช่ปิงห้าวห้าว! พวกท่านสับสนอะไรกันหรือเปล่าเนี่ย”ชายงามผู้เลื่องลือโต้เถียงกลับไปอย่างไม่ลดละ ในขณะที่ยมทูตฝาแฝดไข่ต๋าและไข่เหยารีบหันกลับมามองหน้ากันทันทีเมื่อได้ยินดวงวิญญาณตรงหน้าโต้เถียงพวกเขากลับมาเช่นนั้น “ไข่เหยา! รีบตรวจสอบบัญชีรายชื่อมนุษย์เร็วเข้า! มีชื่อติงห้าวห้าวดั่งคำกล่าวอ้างหรือเปล่า”ยมทูตไข่ต๋าสั่งแฝดน้องที่ทำงานรวมกันและจะแบ่งหน้าที่รับผิดชอบอย่างเท่าเทียมพร้อมเสียงของยมทูตไข่เหยาเอ่ยขึ้น “หากข้าตรวจบัญชีรายชื่อแล้วไม่มีชื่อติงห้าวห้าวแล้วละก็ จงเตรียมตัวได้เลยเจ้าดวงวิญญาณดื้อรั้นข้าจะส่งให้ไปเกิดเป็นสุนัขห้าร้อยชาติเลยทีเดียว”กล่าวพร้อมรีบคลี่พัดที่อยู่ในมืออย่างรวดเร็ว พรึบ! รายชื่อของมนุษย์ปรากฏให้เห็นอยู่บนพัดมากมาย ก่อนจะปรากฏชื่อติงห้าวห้าว ลอยขึ้นมาอยู่ตรงหน้าพร้อมปรากฏภาพของชายหนุ่มร่างสูงเจ้าของใบหน้าหวานสวยราวกับสตรีปรากฏให้เห็นซึ่งตรงกับดวงวิญญาณที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าในเวลานี้ และที่สำคัญวันสิ้นอายุขัยของเด็กหนุ่มผู้นี้จะสิ้นสุดลงในอีกห้าสิบปีข้างหน้า นั้นก็หมายความว่าติงห้าวห้าวมีอายุยืนยาวจนถึงเจ็ดสิบปีเลยทีเดียว “แย่แล้ว!!!”ท่ามกลางอาการตื่นตะลึงของสองยมทูตฝาแฝดไข่ต๋าและไข่เหยา เมื่อล่วงรู้ว่าทั้งสองได้ทำงานผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงเข้าให้เสียแล้ว ด้วยเพราะไปนำดวงวิญญาณที่ยังไม่สิ้นอายุขัยมายังดินแดนปรโลก ในขณะที่ดวงวิญญาณที่จะต้องถูกนำกลับมาอย่างแท้จริงนั้นกลับถูกละเลย ทันใดนั้นเอง พรึบ! พรึบ! พรึบ! ดวงวิญญาณมาใหม่ปรากฏขึ้นพร้อมยมทูตสองนาย เป็นชายวัยกลางคนผู้หนึ่งซึ่งเต็มไปด้วยใบหน้าเศร้าหมองเมื่อล่วงรู้ว่าตนนั้นได้ละสังขารจากแดนมนุษย์นั้นแล้ว ยมทูตที่เพิ่งกลับมาจากนำดวงวิญญาณที่เพิ่งมาใหม่เดินตรงเข้าไปหาสองยมทูตฝาแฝดไข่ต๋าและไข่เหยาที่กำลังร้อนใจในสิ่งที่พวกเขาทำงานผิดพลาดในครั้งนี้ “ท่านทั้งสองเหตุใดจึงมายืนอยู่ตรงนี้ไม่รีบนำบัญชีรายชื่อกลับไปสำนักยมบาล ยืนรั้งรอสิ่งใดอยู่เหรอ”ยมทูตผู้มาใหม่กล่าวพร้อมหันกลับไปมองหน้าติงห้าวห้าวอยู่เพียงครู่ ก่อนจะมองดวงวิญญาณของชายวัยกลางคนที่เพิ่งนำกลับมาพร้อมเอ่ยขึ้น “จริงสิ! ข้าได้นำดวงวิญญาณนี้กลับมาให้ท่านทั้งสอง จู่ๆ รายชื่อนี้ก็ปรากฏขึ้นมาที่พัดของข้าไม่มีผู้ใดไปรับดวงวิญญาณตกค้างของชายผู้นี้ ดังนั้นจึงได้รีบไปรับแทนเพราะเห็นว่าเป็นทางผ่าน” กล่าวพร้อมส่งพัดที่อยู่ในมือให้กับยมทูตฝาแฝด ว่ารายชื่อของดวงวิญญาณที่ตกหล่นไม่ได้เดินทางไปรับมานั้นแท้จริงแล้วก็คือปิงห้าวห้าว ชายกลางคนที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้านั่นเอง “ดวงวิญญาณของปิงห้าวห้าว!”สองยมทูตคู่หูต่างกล่าวออกมาเป็นเสียงเดียวกัน และนั่นทำให้ชายหนุ่มเจ้าของใบหน้าสวยราวกับอิสตรีแสยะยิ้มออกมาทันใด “เป็นอย่างไงละ! ข้าบอกแล้วก็ไม่เชื่อว่าไม่ใช่คนที่ท่านต้องการตัว...ในเมื่อเป็นเช่นนี้พวกท่านทั้งสองต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ทำผิดพลาดครั้งนี้! ข้าต้องการกลับไปที่ร่างของข้าเดี๋ยวนี้เลย”ติงห้าวห้าวโวยวายเป็นการใหญ่ ในขณะที่ยมทูตฝาแฝดต่างพากันกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เมื่อล่วงรู้ว่าได้ทำงานผิดพลาดอย่างใหญ่หลวง ไอ้ตอนพามามันง่ายแต่ตอนพากลับไปนี่สิมันยาก เพราะเวลาในดินแดนปรโลกต่างไปจากดินแดนมนุษย์อย่างสิ้นเชิงและที่สำคัญ ติงห้าวห้าวมาอยู่ในแดนปรโลกผ่านไปหนึ่งวันแล้ว “ท่านไข่เหยา ท่านไข่ต๋า นี่อย่าบอกนะว่าท่านทั้งสองนำดวงวิญญาณมาผิดตัว!”ยมทูตผู้มาใหม่ถามกลับไปทันที สองยมทูตฝาแฝดต่างพากันพยักหน้าขึ้นลงติดต่อกันไม่ปฏิเสธแต่อย่างใด “พวกข้าสองคนสับสนชื่อดวงวิญญาณสองดวงนี้ ด้วยเพราะคล้ายคลึงกันมากชายผู้นี้นามว่าปิงห้าวห้าว แต่เด็กหนุ่มผู้นี้นามว่าติงห้าวห้าว จึงทำให้เกิดเหตุผิดพลาดขึ้น”ยมทูตไข่ต๋าซึ่งเป็นแฝดพี่อธิบายเสียงหงอย ทันทีที่เพื่อนยมทูตได้ยินเช่นนั้นต่างพากันตกใจขึ้นมาทันใด “เป็นเรื่องใหญ่เข้าให้แล้ว”เพื่อนยมทูตต่างพากันวิตกไปตามๆ กัน ในขณะที่ติงห้าวห้าวที่ยืนฟังเหล่ายมทูตสนทนากันอยู่เป็นเวลานานจนไม่สนใจเรื่องของเขาแต่อย่างใด ทำให้ชายหนุ่มร้อนใจยิ่งนัก ด้วยต้องการที่จะกลับคืนร่างของตัวเองให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ “นี่พวกท่านจะยืนคุยกันอีกนานไหม ข้ามาอยู่ที่นี่นานเท่าไรแล้วก็ไม่รู้ ป่านนี้ซานเล่อเล่อกับบรรดาสาวงามของข้าทั้งหลายไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไงกันบ้าง ช่วยเลิกคุยกันก่อนแล้วหันกลับมาสนใจข้าหน่อยจะได้ไหม พวกท่านช่วยพาข้ากลับไปเข้าร่างของตัวเองด้วยเถอะ ขืนชักช้าจะไม่ทันการเกิดข้ากลับไปไม่ทันพวกเขาเอาข้าไปฝังลงดินแล้วจะทำอย่างไง!!!”ติงห้าวห้าวโวยวาย เหล่ายมทูตต่างหันกลับมามองหน้ากันพร้อมกลอกตาไปมา สาเหตุเพราะเรื่องนี้ไม่ได้ง่ายอย่างที่ติงห้าวห้าวคาดการณ์เอาไว้ว่าจะหวนกลับคืนร่างเดิมของเขาได้อย่างที่คิด ท่ามกลางอาการฮึดฮัดของชายงามใบหน้าหวานราวอิสตรีเมื่อเหล่ายมทูตยังคงเงียบงันอยู่เช่นนั้น “นี่พวกท่านพากันเป็นอะไรไปหมด! เรื่องของข้ามันไม่สำคัญเลยเหรอ...นี่ข้ายังไม่ถึงที่ตายนะ! เป็นเพราะลุงฝาแฝดทีเดียวเชียวพาข้ามาที่นี่แล้วยังไม่รับผิดชอบอีก ข้าจะกลับบ้าน! ข้าจะกลับซานเล่อเล่อ! ข้าจะกลับซานเล่อเล่อ!!!”ติงห้าวห้าวร้องตะโกนก้องจนสุดเสียง “พวกข้าล่วงรู้แล้วเจ้าหนุ่ม! โวยวายไปก็ไร้ประโยชน์เพราะถึงอย่างไรเสียเจ้าก็ไม่สามารถกลับคืนเข้าไปที่ร่างเดิมของเจ้าได้อีกต่อไปแล้ว”ยมทูตไข่เหยาบอกกลับไป “ว่าอะไรนะ!”ชายหนุ่มอุทานออกมาจนสุดเสียงครั้นได้ยินเช่นนั้น “เหตุใดท่านลุงจึงกล่าวเช่นนี้ออกมา ข้าเพิ่งมาถึงที่นี่จะกลับไปไม่ทันได้อย่างไรกัน”ติงห้าวห้าวกล่าวด้วยความสงสัยพร้อมเสียงของยมทูตไข่ต๋าเอ่ยขึ้น “นั่นก็เป็นเพราะว่าเจ้ามาอยู่ในแดนปรโลกนี้ผ่านไปหนึ่งวันแล้วนะสิ”คำกล่าวของยมทูตไข่ต๋าเช่นนั้นยิ่งทำให้ติงห้าวห้าวรู้สึกดีใจขึ้นมาทันทีเพราะเท่ากับว่าเขายังกลับไปทันเวลา “เพียงแค่หนึ่งวันเท่านั้นจะบอกว่าไม่ทันได้อย่างไรท่านลุง แต่ถ้าขืนยังยืนมัวพูดคุยอยู่เช่นนี้จะยิ่งเสียเวลามากไปกว่าเดิมแทนที่จะรีบพาข้ากลับเข้าร่าง” คำกล่าวของติงห้าวห้าวทำให้ยมทูตฝาแฝดถอนหายใจออกมาอย่างแรงพร้อมเสียงของยมทูตไข่เหยาเอ่ยขึ้น “เป็นความผิดของพวกข้าที่นำดวงวิญญาณเจ้ามาที่ปรโลก และปล่อยเจ้าไว้ที่ศาลาพักดวงวิญญาณให้ตื่นขึ้นมาเองจนเวลาล่วงเลยผ่านมาจนถึงตอนนี้ซึ่งหากเจ้าจะกลับไปไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว ด้วยเพราะเวลาในหนึ่งวันของปรโลกเท่ากับสิบปีในดินแดนมนุษย์”สิ้นเสียงของไข่เหยา “อะไรนะ! สิบปีอย่างนั้นเหรอ!!!!”ติงห้าวห้าวอุทานด้วยความตกใจสุดขีดเมื่อล่วงรู้ระยะเวลาที่เขาจากมาเช่นนั้น ชายหนุ่มลมแทบจับเพราะเท่ากับว่าเขากลับไปร่างของเขาก็เหลือแต่เพียงโครงกระดูกที่นอนอยู่ในโลงดีๆ นั้นเอง ตุบ! ร่างสูงของชายงามหน้าหวานทรุดฮวบลงกับพื้นทันทีด้วยความรู้สึกอ่อนแรงที่ได้รับรู้เช่นนั้น “สวรรค์ช่างไม่ยุติธรรมกับข้าเลย…เหตุใดจึงลงโทษข้าเช่นนี้ ทำไมต้องทำกับข้าเช่นนี้ด้วย! ข้าจะต้องร้องเรียนขอความเป็นธรรม ติงห้าวห้าวขอร้องเรียนความเป็นธรรม! ใครก็ได้ช่วยข้าด้วยเถอะ..!”ติงห้าวห้าวร้องคร่ำครวญเป็นการใหญ่ ในขณะที่สองยมทูตที่ทำงานผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงครั้งนี้ ต่างหน้าสลดไปตามๆ กันและรู้สำนักในสิ่งที่ทำผิดพลาดลงไปพร้อมเสียงของยมทูตฝาแฝดไข่ต๋าเอ่ยขึ้น “มากับพวกข้าเถิดติงห้าวห้าว ข้าจะหาเจ้าไปเข้าเฝ้าเหงี่ยมล่ออ๋องเพื่อขอรับโทษในการทำงานผิดพลาดของข้าสองพี่น้องในครั้งนี้และเพื่อให้พระองค์ทรงตัดสินว่าควรจะให้เจ้ากลับไปอย่างไรดี ซึ่งการกลับไปของเจ้านั้นจำเป็นจะต้องให้ผู้เป็นใหญ่ในแดนปรโลกนี้เป็นผู้ตัดสินพระทัยเท่านั้น” ติงห้าวห้าวได้แต่นั่งคุกเข่าฟังด้วยความชั่งใจว่าควรจะไปดีหรือไม่ไปดี “พวกท่านจะพาไปไหนอีกก็ไม่รู้..ไว้ใจได้หรือเปล่าทำไมจะต้องเกิดเหตุการณ์เช่นนี้กับข้าด้วย อีกทั้งต้องมาอยู่ในสถานที่แห่งนี้โดยไม่เต็มใจแบบไม่รู้เรื่องรู้ราว คอยดูนะไม่ว่าอย่างไรก็ตามข้าก็จะต้องออกไปจากที่นี่ให้ได้เลย..นำทางข้าไปสิ! ชักช้าอยู่ทำไม”ชายหนุ่มหน้าสวยบ่นไม่รู้วาย สองยมทูตฝาแฝดยืนนิ่งไม่เถียงติงห้าวห้าวแต่อย่างใด ก่อนจะหันกลับไปบอกกับสหายที่นำดวงวิญญาณของปิงห้าวห้าวกลับมาแทนสองยมทูตฝาแฝด “ท่านทั้งสองก็นำดวงวิญญาณนี้ไปเข้าเฝ้าเจ้าโลกันตร์พร้อมกันกับข้าเถิด เพื่อจะได้ทรงทราบที่มาที่ไปอย่างละเอียด”เสียงของไข่เหยาเป็นผู้กล่าวกับสหาย สหายยมทูตพยักหน้าขึ้นลงแทนการตอบรับพร้อมดวงวิญญาณของติงห้าวห้าวรวมไปถึงเหล่ายมทูตเลือนหายไปจากบริเวณดังกล่าวเพื่อเดินทางไปเข้าเฝ้าเหงี่ยมล่ออ๋องผู้เป็นใหญ่ในแดนปรโลกหรือที่ชาวสวรรค์เรียกขานนั่นก็คือ เจ้าโลกันตร์
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม