ฟางชิงเยียน

1850 คำ
ห้องบรรทมที่ 2 ฟางชิงเยียน บนเตียงมังกรขนาดใหญ่ ฟางชิงเยียนในวัยสามสิบสองคลานเข่าไปบนที่นอน แขนข้างหนึ่งของนางถูกดึงกลับหลัง เส้นผมที่ยาวจรดเอวก็ถูกมือฮ่องเต้ดึงรั้งโดยแรงจนนางต้องแหงนหน้าขึ้นเพราะความเจ็บปวด “พั่บ พั่บ พั่บ” เสียงเนื้อกระทบกันดังต่อเนื่องด้วยจังหวะถี่เร็ว จนนางกำนัลที่ยืนคอยรับใช้อยู่หน้าห้องหลายคนเขินอายจนใบหน้าแดงก่ำ “อะ อ๊ะ อ๊า” ในที่สุดหลังจากควบขับเป็นเวลานาน เสียงครางเบาๆ ค่อยเล็ดลอดออกจากปากหญิงงามที่คลานอยู่ตรงหน้า “พั่บ พั่บ พั่บ” “รู้จักเสียวแล้วหรือ ข้าคิดว่าเจ้าจะทนปากแข็งได้นานกว่านี้เสียอีก” หรงชิ่งปล่อยมือให้นางชักแขนกลับไปค้ำยันร่างกายไว้ เมื่อรู้ว่านางกำลังจะทรุดลงไปบนเตียง เมื่อปล่อยแขนของนางเป็นอิสระ หรงชิ่งก็ใช้มือข้างที่ว่างเปล่าแหวกบั้นทายอวบอัดของนางออกดูจุดเชื่อมต่อยามที่เขาควงเอวเข้าออกใส่รูร่องคับแคบของนาง “พั่บ พั่บ พั่บ” “อ่า อ่า อ่า นางเพศยา ข้าเอาเจ้าทุกวันขนาดนี้เจ้าไฉนยังคับแน่นราวกับเด็กสาวร่างบอบบางเหล่านั้นอีก” ฮ่องเต้หรงชิ่งยามเคลื่อนกายควบขับก็ออกปากพร่ำเพ้อไปเรื่อยๆ นางกำนัลเล็กๆ ผู้นี้ถูกตนขับขี่มาเกือบยี่สิบปี แต่นางกลับเป็นเพียงคนเดียวที่เขาไม่อาจขับไล่ออกจากวังได้ ชิงเยียนร่างกายอวบอัดอิ่มเอิบ นางเด้งไปมาตามแรงกระแทกของบุรุษด้านหลัง ระหว่างที่ฮ่องเต้ควบขับนางพร้อมเอ่ยปากกล่าวนั่นกล่าวนี่ นางไม่เพียงไม่ตอบรับ ซ้ำสีหน้ายังเรียบเฉย แม้นางจะเสียวมาก แต่นางก็ไม่แสดงออกทางสีหน้าและวาจาแม้แต่น้อย เสียงเนื้อกระทับกันยิ่งมายิ่งเร่งเร้า นางกำนัลอายุสิบเจ็ดสิบแปดที่ยืนอยู่หน้าห้องสี่คน ต่างนึกอิจฉาสตรีที่อยู่ภายในห้อง เพียงแต่แม้พวกนางริษยา แต่ก็ไม่กล้าแสดงออกอย่างโจ่งแจ้ง วังหลังแห่งนี้ทุกผู้คนต่างทราบดี นอกจากฮ่องเต้ที่มีนิสัยโมโหร้ายแล้ว ยังมีแม่นมฟางนางข้าหลวงอาวุโส ที่อยู่ข้างกายฮ่องเต้มาตั้งแต่สมัยยังไม่มีอำนาจ นางเป็นหญิงโหดร้ายที่สุดในวังหลังแห่งนี้เอง *** เป็นเวลานานเสียงกระทบกันของเนื้อค่อยหยุดลง ชิงเยียนใช้เวลาไม่นานก็ทำความสะอาดร่างกายของฮ่องเต้จนหมดจรด ปรนนิบัติอีกฝ่ายเข้านอนแล้ว นางค่อยเดินเปลือยเปล่าออกมาห้องชั้นนอก “พวกเจ้าเข้ามา!” นางกำนัลทั้งสี่เมื่อได้ยินคำสั่งก็พากันเดินเข้ามาในห้องอย่างรู้งาน ผู้ที่เดินอยู่หน้าสุดถือถาดที่มีชามยาสีดำอยู่ภายใน ชิงเยียนไม่แม้แต่รอให้อีกฝ่ายหยุดนิ่งก็คว้าชามใบนั้นขึ้นมาดื่ม หลังจากวางชามกลับลงไปในถาด นางกางแขนให้นางกำนัลที่เหลือช่วยกันแต่งตัวให้อย่างง่ายๆ “องค์หญิงน้อยงอแงหรือไม่?” “หลับไปแล้วเจ้าคะ ก่อนพวกเราต้มยานางก็หลับไปแล้ว” นางกำนัลสาวตอบด้วยใบหน้าที่เขินอาย พวกนางยังเป็นสาวบริสุทธิ์ เมื่อมองเห็นร่องรักที่มีน้ำบางอย่างไหลลงตามหว่างขา แม้จะไม่มีประสบการณ์แต่พวกนางก็รู้ว่านั่นคืออะไร “พวกเจ้าช่วยข้าอาบน้ำก่อนค่อยกลับไปพักผ่อน วันนี้ข้ารู้สึกเพลียจริงๆ” กล่าวจบนางเดินนำหน้านางกำนัลสาวทั้งสี่ออกนอกห้องไป เนื่องจากนางเป็นหัวหน้าข้าหลวงประจำห้องบรรทม ห้องของนางจึงอยู่ไม่ไกลเท่าใด *** หลังฉากกั้น ในถังอาบน้ำขนาดใหญ่ ชิงเยียนเอนกายพิงขอบอ่างซ่องเสพกับแรงมือที่นางกำนัลสาวข้างๆ บีบนวดและขัดถูผิวกายให้กับนาง “อืมมม ออกแรงเพิ่มขึ้นอีกนิดสิเสี่ยวอวี๋” เสี่ยวอวี๋ที่นางเรียกหาออกแรงเพิ่มขึ้นตามคำขอ นางเข้าวังมาสามปี แม้จะเพิ่งเข้ามารับใช้ในตำหนักเฉียนชิงได้ไม่นาน แต่นางพบว่าฮ่องเต้ให้ความสำคัญกับนางข้าหลวงฟางผู้นี้เป็นพิเศษ นางจึงมักจะเอาอกเอาใจอีกฝ่าย หวังว่าหญิงผู้นี้จะช่วยส่งเสริมตนเองไม่มากก็น้อย “พี่ชิงเยียน ผิวท่านทั้งขาวทั้งนุ่มเช่นนี้ ฮ่องเต้ก็โปรดปรานท่านแทบทุกวัน ไฉนยังไม่เลื่อนขั้นให้อีก ท่านดูสวีเจาอี๋ ฮ่องเต้โปรดปรานนางไม่กี่ครั้งก็มอบตำแหน่งเจาอี๋ให้นาง ท่านไม่ร้อนใจบ้างหรือ” “ร้อนใจเรื่องอะไร ข้าเคยสอนเจ้าว่ายังไงจำไม่ได้แล้วหรือ วังหลังแห่งนี้ยิ่งตำแหน่งสูงยิ่งตายไว หรือเจ้าไม่อยากมีชีวิตเสพสุขไปวันๆ” ชิงเยียนใช้นิ้วมือตนเองข้างหนึ่งสอดเข้าไปในร่องรักใต้น้ำ เมื่อครู่ที่ร่วมรักกับฮ่องเต้ แม้นางจะเสร็จสมไปแล้วหลายครั้ง แต่นางยังคงรู้สึกไม่เต็มอิ่ม เสี่ยวอวี๋พอฟังว่าอีกฝ่ายไม่คิดหวังตำแหน่งอันใดก็ได้แต่ผิดหวังห่อเหี่ยว นางคิดว่าหากยุยงให้หัวหน้าหญิงผู้นี้ไปอ้อนขอตำแหน่งจากฮ่องเต้ ด้วยความโปรดปรานที่พระองค์มีต่อนาง อย่างน้อยต้องมอบศักดิ์ฐานะดีๆ ให้อีกฝ่ายแน่นอน เมื่อถึงตอนนั้นนางก็ต้องย้ายออกไปอยู่ตำหนักตนเอง พอไม่มีนางอยู่ที่นี่ซักคน ด้วยความสาวความสวยของตนยังกลัวฮ่องเต้ไม่เรียกหาอีกหรือ “เจ้าคิดว่าพอข้าไม่อยู่แล้วฮ่องเต้จะเรียกหาเจ้าไปปรนนิบัติหรือ” เสี่ยวอวี๋รู้สึกราวกับว่านางมีหูทิพย์อ่านใจตนเองได้ เมื่อนางกล่าวสิ่งที่อยู่ในความคิดนางออกมา นางต้องหลั่งเหงื่อเยียบเย็น ชั่วพริบตานางก็ทรุดตัวลงไปคุดคู้คุกเข่าอยู่กับพื้น “พี่ชิงเยียน ท่านอย่าได้กล่าวหนักเช่นนั้น ข้าไหนเลยบังอาจคิดแบบนั้นกับท่านได้” ข้างอ่างอาบน้ำมีหญิงสาวร่างบางหมอบกราบตัวสั่นอยู่ หากแต่ในอ่างหญิงอิ่มเอิบเติบโตเต็มสาวกลับรัวนิ้วขยี้ติ่งเนื้อเล็กๆ ของตนเองอยู่ใต้น้ำ นางใช้เวลาไม่นานร่างก็เกร็งกระตุก นิ้วมือนิ้วเท้างองุ้มเข้าหากันด้วยอารมณ์สุดหยั่งถึง “อืมมม เจ้าลุกขึ้นมาเถอะ” นางครางออกมาด้วยความสุขสมแต่ยังไม่ลืมสั่งคนที่หมอบอยู่ข้างๆ ให้ลุกขึ้นมา ชิงเยียนหลับตาซึมซับรสชาติสุขสมหลังจากถึงจุดสุดยอด นางเข้าวังมาเป็นนางในฝึกหัดตั้งแต่อายุสี่ขวบ พอสิบสองก็ถูกหลี่ไทเฮาส่งให้ไปจับตาดูฮ่องเต้น้อยที่ตอนนั้นถูกขังอยู่ตำหนักตะวันออก หากรวมเวลาทั้งหมดที่อยู่ในวังหลวงแห่งนี้แม้แต่ฮ่องเต้ที่เกิดภายในวังยังอาศัยอยู่ในนี้ไม่นานเท่านาง “เจ้าคิดว่าข้าอ่านพวกเจ้าไม่ออกหรือ แต่ละคนคิดอะไรมีหรือข้าจะมองไม่ออก” “พี่ชิงเยียนข้าผิดไปแล้ว ท่านอภัยให้ข้าซักครั้งเถอะ” ยิ่งได้ยินอีกฝ่ายพูดเช่นนี้ นางยิ่งไม่กล้าลุก ที่ผ่านมานางเคยเห็นหญิงผู้นี้สั่งโบยนางกำนัลจนตายมาหลายคนแล้ว “เจ้าไฉนขวัญอ่อนปานนั้น ลุกขึ้นมาก่อน ข้าไม่เพียงไม่ลงโทษเจ้า แต่ยังจะช่วยส่งเสริมให้เจ้าสมปรารถนา” ชิงเยียนก้าวออกจากอ่างอาบน้ำมายืนอยู่ตรงหน้าหญิงสาวร่างเล็กที่ยังคงคุกเข่าหมอบอยู่บนพื้น นางพยุงอีกฝ่ายให้ลุกขึ้นยืน เสี่ยวอวี๋ที่ยืนขึ้นเมื่อเทียบกับนางยังมีความสูงเพียงแค่หัวไหล่ ร่างกายที่สั่นเทาของอีกฝ่าย แม้แต่นางที่เป็นสตรีชมดูยังรู้สึกน่ารักน่าสงสารไม่น้อย “อวี๋เจิน เจ้างดงามเช่นนี้ข้าชมดูยังหวั่นไหวใจ ความจริงข้าสามารถช่วยเจ้าให้เป็นที่โปรดปรานฮ่องเต้ได้ เพียงแค่เจ้ารับปากว่าจะภักดีต่อข้าเพียงผู้เดียว เจ้าทำได้หรือไม่” นางยืนเปลือยเปล่าใช้ฝ่ามือนุ่มลูบไล้แก้มเนียนตรงหน้า อวี๋เจินเพิ่งเป็นสาวแรกแย้มรูปร่างเล็กบอบบางน่ารัก นี่เป็นพิมพ์นิยมที่บุรุษทุกคนเฝ้าฝันถึง ต่างจากนางที่สูงโปร่งร่างกายอิ่มเอิบ เนินเนื้อทุกส่วนเต่งตึงอัดแน่นไปด้วยส่วนโค้งส่วนเว้า ซึ่งแตกต่างจากค่านิยมหญิงงามในยุคนี้ นางจึงรู้สึกอิจฉาหญิงสาวเอวบางร่างน้อยอยู่บ้าง “พี่ชิงเยียน ท่านกล่าวจริงหรือ หากท่านช่วยข้าให้เป็นที่โปรดปรานฮ่องเต้ได้ ข้าสาบานจะภักดีต่อท่านเพียงผู้เดียวแน่นอน” อวี๋เจินพุ่งเข้ากอดพี่ชิงเยียน นางใช้ใบหน้าซุกเข้าไปในทรวงอกคู่งามของอีกฝ่าย เนื่องจากเนินเนื้อตรงหน้าหอมมาก นางจึงดื่มด่ำไปกับกลิ่นหอมรวยริน “พี่ชิงเยียน ท่านต้องการให้ข้าปรนนิบัติท่านมากกว่านี้หรือไม่” ในความเข้าใจของนาง การที่หญิงตรงหน้าต้องการให้นางภักดี นางคิดว่าอีกฝ่ายคงรักชอบไม้ป่าเดียวกัน อวี๋เจินไม่รังเกียจแม้แต่น้อยหากต้องขัดกระจกกับนางเพื่อให้ได้เป็นที่โปรดปรานฮ่องเต้ ความจริงเรื่องพวกนี้เหล่านางกำนัลที่อยู่ในวังหลวงหลายคนก็จับคู่ขัดกระจกให้กันและกันเป็นประจำอยู่แล้ว “เจ้า!” ชิงเยียนดันนางออกจากหน้าอก คิดไม่ถึงว่าหญิงสาวน่ารักตรงหน้าจะตีความหมายของนางเช่นนี้ ที่ผ่านมานางต้องคอยปรนเปรอราคะให้ฮ่องเต้ตลอด นางจึงไม่ได้มีรสนิยมรักชอบเรื่องพรรค์นั้น “พี่ชิงเยียน ท่านไม่อยากให้ข้าปรนนิบัติหรือ ลิ้นของข้าร้ายกาจมาก ท่านอยากลิ้มรสชาติหรือไม่” เมื่อถูกผลักออก อวี๋เจินกลัวว่าอีกฝ่ายจะรังเกียจและไม่ช่วยส่งเสริม นางจึงรีบคุกเข่าลงกลางหว่างขา แสดงฝีไม้ลายมือของตนออกมาอย่างเต็มที่ “อืมมม” นางครางออกมาอย่างเสียวซ่าน ความจริงชิงเยียนไม่ได้มีรสนิยมรักชอบไม้ป่าเดียวกัน แต่นางก็ไม่รังเกียจ ที่เด็กสาวคุกเข่า ใช้ลิ้นเลียกลีบท้อที่อวบอูมของนางอยู่ตรงหน้า “ข้าทำดีหรือไม่พี่ชิงเยียน?” “อืมมม ดีมาก” อวี๋เจินแสดงลวดลายทั้งหมดที่มี นางใช้ปลายลิ้นปาดไปมาตามรอยแยก บางครั้งก็ดุนดันติ่งเนื้อเล็กๆ งดงามของหัวหน้านางข้าหลวง นางคิดว่าหากทำให้อีกฝ่ายพึงพอใจ ด้วยความสามารถของสตรีตรงหน้า นางย่อมได้ขึ้นเตียงกับฮ่องเต้แน่นอน “อืมมม เด็กดี ข้าจะทำให้เจ้าได้ตำแหน่งสนมดีๆ เอง” ชิงเยียนยืนกางขาให้เด็กสาวที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าไล่เลีย นางเสียวเสียจนหลั่งน้ำเมือกใสๆ ออกมาให้คนที่อยู่ด้านล่างแทะเล็ม ***
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม