L-Casinoclub
ผลัก!
“ปล่อยกู!”
“ไหนเงินที่มึงรับปากไว้ว่าจะจ่ายกูวันนี้?” ลีคัสเอ่ยถามชายตรงหน้าที่ถูกลูกน้องตัวเองใช้เท้าเหยียบหลังอยู่เสียงเรียบ มือหนายกแก้วน้ำสีเหลืองอำพันขึ้นมาดื่มหนึ่งอึกด้วยท่าทางใจเย็น
“วันนี้ผมมีเงินนิดเดียว แล้วมันไม่พอจ่ายคุณลีคัส เลยคิดว่าถ้าเล่นอีกหน่อยแล้วได้จะเอามาจ่ายคุณลีคัสให้หมดทุกบาททุกสตางค์”
“หึ ควรเรียกว่าฉลาดหรือโง่ดี มึงแก้ปัญหาเฉพาะหน้าตรงนั้นได้ดี แล้วตอนนี้…มึงจะแก้ปัญหาตรงนี้ยังไง?”
“ขะ…ขอเวลาผมอีกสามวัน ผมจะรีบหาเงินมาใช้หนี้คุณลีคัสให้เร็วที่สุด”
“กูให้โอกาสมึงมาเยอะแล้ว มึงรู้ใช่ไหมว่าจุดจบของพวกเป็นหนี้แล้วไม่ยอมจ่าย…คืออะไร?”
ชายคนนั้นกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ก่อนจะตัดสินใจมากู้เงินลีคัสจำนวนหนึ่งไป คนรอบข้างบอกว่าให้คิดดีๆ เพราะวิธีการทวงหนี้ของลีคัสไม่มีคำว่าเจรจา มีแต่คำว่า ‘กระทืบ’ อย่างเดียว ลีคัสขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้าพ่อเงินกู้นอกระบบที่โหดที่สุด ยืมแล้วไม่ยอมจ่ายหรือว่าหนีไป ไม่มีทางที่คนอย่างลีคัสจะหาตัวไม่เจอ เมื่อจับตัวได้ลีคัสจะสั่งคนเก็บลูกหนี้ทุกคนที่ชอบเบี้ยวหนี้ และเก็บร่องรอยทุกอย่างเป็นอย่างดีจนตำรวจไม่มีทางสาวถึง
“ระ…รู้ครับ แต่ผมขอเวลาสามวันจริงๆ วันที่สามถ้าผมไม่มีเงินมาจ่าย คุณลีคัสจะทำอะไรผมก็ได้ผมยอมทุกอย่าง”
“หึ กูไม่จำเป็นต้องรอถึงสามวัน กูรู้ยังไงมึงก็ไม่มีเงินมาจ่ายกูหรอก เพราะฉะนั้น…เก็บมัน” เขาแสยะยิ้ม กระดกน้ำสีเหลืองอำพันในแก้วจนหมดแล้วลุกขึ้นตวัดเท้าเดินออกไปหลังจากบัญชาคำสั่งกับลูกน้องให้จัดการเก็บลูกหนี้
“คุณลีคัส!! ผมขอเวลาแค่สามวัน ผมสัญญาว่าจะหาเงินมาใช้หนี้คุณทุกบาททุกสตางค์! คุณลีคัส…!”
ลีคัสไม่สนใจเสียงร้องตะเบ็งของลูกหนี้ตัวเอง ทันทีที่ก้าวผ่านประตูห้องใต้ดิน เสียงนั้นก็เงียบหายเพราะห้องนั้นเป็นห้องเก็บเสียงอย่างดี ห้องที่เพิ่งเดินออกมาคือห้องเอาไว้เชือดลูกหนี้ที่ไม่ยอมจ่ายหนี้ตามนัด ไม่รู้กี่รายแล้วที่มีโอกาสได้ก้าวขาเข้าไปแต่ไม่มีโอกาสได้ก้าวขาออกมาจากห้องนั้น
ผลัก!
“ขอโทษค่ะ…” เสียงใสกล่าวขอโทษคนที่ตัวเองเพิ่งเดินชนไปหมาดๆ พอเงยหน้าขึ้นมองหน้าคนที่เดินชนก็ถึงกับชะงักลงไปชั่วขณะ เพราะคนที่เดินชนคือคนที่ตัวเองต้องไปสัมภาษณ์ในวันจันทร์ที่จะถึงนี้
คุณลีคัส…
พอรู้ว่าเป็นลีคัสก็ตกใจจนสร่างเมา เธอทำอะไรไม่ถูก เธอไม่ได้ตั้งใจจะเดินชนลีคัสแต่เพราะตัวเองกำลังเมากรึ่มจึงพลาดท่าเดินชนเขาไปเต็มๆ ดีนะไม่ได้ถือแก้วเหล้ามา ไม่อยากคิดภาพตอนถือเหล้าติดมือมาด้วยเลย
“ขอโทษอีกครั้งนะคะ”
ลีคัสไม่ตอบ สายตาคมเข้มจ้องมองคนตรงหน้านิ่งๆ อย่างรู้สึกคุ้นๆ ราวกับเคยเจอที่ไหนมาก่อน พอนึกออกริมฝีปากหยักได้รูปก็เหยียดยิ้มทันที
“เฌอปรางค์…” เขาพูดชื่อคนตรงหน้าเบาๆ ภายในค่อนข้างเสียงดังเพราะที่นี่เป็นกึ่งคลับกึ่งคาสิโนเลยทำให้เฌองปรางค์ไม่ได้ยินที่เขาพูดชื่อของเธอ
“เจ็บตรงไหนไหมคะ?”
“ไม่”
“โชคดีไป ขอโทษอีกครั้งนะคะ เมื่อกี้ไม่ได้ตั้งใจจะเดินชนคุณ”
“ไม่เป็นไร”
หมับ!
เฮือกก เธอสะดุ้งขึ้นด้วยความตกใจ อยู่ดีๆ ลีคัสก็ใช้มือตบลงไหล่ของเธอแล้วค้างไว้อย่างนั้นเนิ่นนาน เธอลอบกลืนน้ำลายเหนียวลงคออย่างยากลำบากพร้อมมองเขาอย่างกล้าๆ กลัวๆ แววตาลีคัสดูยากคาดเดา ริมฝีปากที่กำลังยิ้มอยู่ดูน่ากลัวและอันตรายมากกว่าเป็นมิตร
เธอรับรู้ถึงรังสีแห่งความน่ากลัวที่แผ่ออกมาจากตัวผู้ชายคนนี้ ยอมรับว่าสัมผัสนี้ของเขาทำให้เธอใจสั่นอยู่ไม่น้อย ไม่ได้ใจสั่นเพราะหวั่นไหว แต่ใจสั่นเพราะ…กลัวลีคัส
“คราวหน้าคราวหลังก็เดินให้มันระวังมากกว่านี้หน่อยก็แล้วกัน”
“ค่ะ…”
“มาคนเดียวเหรอ?”
“มะ…มากับเพื่อนค่ะ”
“นึกว่ามาคนเดียว ถ้ามาคนเดียว…จะชวนไปนั่งดื่มด้วยกันสักหน่อย” ประโยคหลังลีคัสยื่นใบหน้าเข้าไปกระซิบลงข้างใบหูเฌอปรางค์
หญิงสาวรู้สึกวาบหวามกับการกระทำของลีคัสไม่น้อย กลิ่นน้ำหอมเจือด้วยกลิ่นบุรุษที่เผลอสูดดมเข้ามาจากร่างกายคนตัวโตพลอยทำหัวใจดวงน้อยสั่นไหวและเต้นแรง
“หึหึ…” ลีคัสหัวเราะเบาๆ ในลำคอ ก่อนจะเดินออกไป ทันทีที่หันหลังให้เฌอปรางค์ รอยยิ้มบนใบหน้าก็เลือนหายกลายเป็นความนิ่งขรึม แววตาดูดุดันน่ากลัวพร้อมจะทำลายล้างทุกอย่าง
แม้อยากจะใช้สองมือบีบรัดคอผู้หญิงคนนั้นให้ขาดอากาศหายใจตรงนั้น แต่ก็ทำได้เพียงแค่อดทนและรอเวลาที่เหมาะสมจัดการ….