bc

ลิขิตรักในเพลิงทราย

book_age18+
465
ติดตาม
1.9K
อ่าน
เย่อหยิ่ง
กล้าที่จะรักและเกลียด
แม่บ้าน/สาวใช้
สุขนาฏกรรม
ชายจีบหญิง
โลกความเป็นจริง
จากศัตรูกลายเป็นคู่รัก
like
intro-logo
คำนิยม

อารยา นักกายภาพบำบัดที่เกลียดคำว่า หมอนวด จับใจ

เดินทางมาไกลในดินแดนทะเลทรายเพื่อทำงานที่ตนเองถนัด

ราเฟย์ รัชทายาทหนุ่มร่างสูงสง่าที่มองโลกในแง่ร้าย เขามองอารยาเป็นผู้หญิงหิวเงิน

ความเข้าใจผิดตั้งแต่พบหน้ากันครั้งแรก กลับทำให้ใกล้ชิดอย่างไม่รู้ตัว

“มองเรา...แค่ตอนนี้...มีแค่เราสองคนไม่มีชนชั้นวรรณะใด มีแค่เราสองคน”

ชายหนุ่มมอบจุมพิตดื่มด่ำที่ค่อยๆ กลายเป็นความร้อนแรงทุกขณะ

มือไม้ของเขาเลื่อนปลดเปลื้องเสื้อผ้าของหญิงสาวอย่างรวดเร็ว

แต่ก็ยังช้าในความรู้สึกของเขา

แม้ว่าจะเคยเห็นและสัมผัสร่างกายนี้มาก่อนแล้ว

แต่ครั้งกลับให้ความรู้สึกที่แปลกใหม่สำหรับเขา

“เราปรารถนาเจ้า...อารยา”

‘ฉันรักคุณ...ราเฟย์’

chap-preview
อ่านตัวอย่างฟรี
บทที่ 1 อยากได้เงินเพิ่มก็บอกตรงๆ
ทั้งที่ยืนอยู่ในอาคารขาเข้าของสนามบิน อารยากลับรู้สึกได้กลิ่นลมทะเลทราย หญิงสาวหันซ้ายแลขวาไม่มองหาคนที่จะมารับเธอแต่ดวงตาสีดำดุจนิลกลับมองหาที่มาของกลิ่น นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เดินทางมาต่างประเทศและเป็นครั้งแรกที่มาเยือนดินแดนที่ห้อมล้อมไปด้วยทะเลทราย แต่เธอแปลกใจที่ตัวเองมั่นใจว่าสิ่งที่สัมผัสได้คือสายลมแห่งทะเลทรายทั้งที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน เธอเดินวนไปมาเหมือนเด็กหลงทางแล้วร่างบางก็ต้องสะดุ้งเมื่อแขนเล็กถูกจับเบาๆ อารยาหันไปทันทีเธอจ้องมองชายร่างสูงใหญ่ในชุดดำทั้งชุดอายุราวสามสิบห้าปี แม้ริมฝีปากจะกระตุกยิ้มน้อยๆ แต่เธอก็รู้สึกว่าใบหน้าที่เต็มไปด้วยหนวดเครารุงรัง หญิงสาวถึงกับผงะถอยหลังแต่มือใหญ่ยังคงจับแขนเอาไว้  แม้เขาจะออกแรงไม่มากแต่เธอก็รู้สึกได้ว่าน้ำหนักมือเขามากพอดู             “คุณอารยาใช่ไหมครับ” เขาเอ่ยถามเป็นภาษาอังกฤษ แล้วหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งที่เขาพับเก็บไว้ในกระเป๋าเสื้อออกมายื่นให้เธอดู  อารยารับมาดูอย่างหวาดๆ กระดาษแผ่นนี้นอกจากจะมีรูปถ่ายของเธอแล้วยังมีรายละเอียดเกี่ยวกับตัวเธอและตำแหน่งหน้าที่ที่ทำให้เธอต้องเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมาถึงที่นี่ “ผมชื่อกีวอน ท่านคาร์ดัลให้ผมมารับคุณอารยาครับ” “สวัสดีค่ะ” อารยายกมือไหว้แบบไทยๆ ทำให้อีกฝ่ายทำหน้างงๆ “ขอโทษที่แสดงกิริยาไม่สุภาพออกไป ดิฉันตกใจค่ะ”  เธอตอบเขาเป็นภาษาอังกฤษ แล้วยิ้มอย่างโล่งอก อีกฝ่ายจึงพยักหน้ารับและช่วยเธอถือกระเป๋าเดินทางไปที่รถลีมูซีนที่จอดคอยอยู่ หญิงสาวนั่งชิดกระจกรถพยายามองสองข้างทางของเมืองบาฮาเนีย ทั้งตื่นเต้นที่ได้นั่งรถหรู และยังได้เห็นบ้านเมืองที่แตกต่างไปจากบ้านเกิด “จะเปิดกระจกก็ได้นะครับ” กีวอนพูดออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่ความจริงเขากลั้นหัวเราะ ไม่คิดว่าเธอจะแสดงสีหน้าและตื่นเต้นออกมาชัดขนาดนี้ “ได้หรือคะ” อารยายิ้มกว้าง กีวอนกดปุ่มอัตโนมัติกระจกเลื่อนลงจนสุดปล่อยให้สายลมพัดเข้ามาปะทะใบหน้าสวยหวานของหญิงสาว             “นี่เป็นเมืองหลวงของบาฮาเนียชื่อ เอล บาฮา” กีวอนอธิบาย  “ผู้หญิงแห่งทะเลทรายจะต้องมีผ้าคลุมหน้า ตั้งแต่บาฮาเนียนเปิดประเทศทำธุรกิจกับต่างชาติมากขึ้น เราก็ไม่ค่อยเคร่งครัดนัก แต่ถ้าเป็นไปได้คุณอารยาก็ควรจะมีผ้าคลุมหน้าของตัวเอง” “ค่ะดิฉันเข้าใจ” อารยาตอบทั้งที่สายตายังมองไปที่สองข้างทางที่รถแล่นผ่าน “ไม่เห็นทะเลทรายเลย เอ่อ...คือดิฉันอ่านในคู่มือว่าบาฮาเนียเป็นเมืองที่อยู่กลางทะเล”             กีวอนหัวเราะเปิดเผย แต่ก็ยังไม่ทิ้งมาดเข้มของตัวเอง  “ทะเลทรายอยู่ห่างจากเมืองหลวงไปประมาณ ร้อยยี่สิบเจ็ดกิโลเมตร คุณอารยาไม่ต้องห่วงยังไงคุณต้องได้เห็นทะเลทรายแน่ๆ หรือบางทีคุณอาจจะไม่อยากนึกถึงมันเลยก็ได้”             “เป็นเมืองที่ดูสงบและเรียบง่ายจังเลยนะคะ”                 “แค่ช่วงนี้เท่านั้นแหละครับ”  กีวอนเริ่มรู้สึกว่าตัวเองพูดมากกว่าปกติ  “คุณอาจต้องใช้เวลาปรับตัวหน่อยกว่าจะรับความเป็นเมืองแห่งทะเลทรายนี้ได้”             ‘จะปรับตัวได้หรือไม่ได้ ยังไงฉันก็ต้องอยู่ที่นี้สองปี หรือไม่ก็หาเงินสองล้านไปคืนคุณคาร์ดัล’             อารยาแอบถอนหายใจเบา ๆ เธอมาทำงานใช้หนี้เงินสองล้านที่จ่ายเป็นค่ารักษาพยาบาลแม่บุญธรรมของเธอ หญิงสาวทำงานเป็นนักกายภาพบำบัดที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง แต่เธอเคยเรียนการนวดแผนไทยจับเส้นคลายจุด เธอเชื่อว่าภูมิปัญญาชาวบ้านเหล่านี้จะนำมาประยุกต์ใช้กับงานที่เธอทำอยู่ได้ แต่มันกลายเป็นว่าโรงพยาบาลที่เธอทำงานอยู่ไม่ยอมรับความคิดของเธอ และยิ่งรู้ว่าเธอไปบีบนวดจับเส้นให้ชาวบ้านที่ยากจนในวันหยุดของเธอ อารยาไม่เห็นเป็นเรื่องน่าอายตรงไหน และยิ่งไม่เห็นว่ามันทำลายภาพพจน์ของโรงพยาบาลได้อย่างไร เธอกลับโดนบีบบังคับแทบทุกทางจนเธอต้องเป็นฝ่ายยื่นใบลาออก จนต้องระเห็จมาทำงานที่อนามัยเล็กๆของชุมชนที่เธออยู่ จากเงินเดือนหลักหมื่นเหลือหลักพัน แต่เพราะมีรายได้จากการนวดแผนโบราณที่เธอได้เรียนรู้มานั้นแหละที่เพิ่มรายได้ให้เธออีกทางหนึ่ง แต่อะไรก็ไม่ทำให้เธอลำบากใจเท่ากับที่ถูกเรียกว่า ‘หมอนวด’ แม้ว่าหญิงสาวจะไม่ใช่คนชอบดูถูกดูแคลนคนอื่น แต่เธอก็ไม่ชอบใจที่บางครั้ง คนบางคนก็มีความคิดต่ำ ๆ ว่าเธอใช้ร่างกายเข้าแลกเงิน             ‘ถ้าฉันสวยจริง ๆ คงไปเป็นดารานางแบบแล้วละ’             อารยานึกขำความคิดของตัวเอง เธอย้อนไปถึงเหตุการณ์เมื่อสามเดือนก่อน เธอเข้ากรุงเทพในเย็นวันศุกร์และพักกับเพื่อนไม่ไกลจากที่ทำงานนัก เพื่อนของเธอเปิดร้านสปาและมีบริการนวดแผนโบราณ อารยาจะทำงานพิเศษที่นี่อาทิตย์ละสองวัน        บ่ายวันเสาร์วันนั้น ชายวัยกลางคนท่าทางภูมิฐานพูดภาษาอังกฤษแต่สำเนียงแปร่งหูเหมือนชาวอาหรับ ไม่มีพนักงานกล้าตอนรับนัก ไม่ใช่แค่ภาษาอังกฤษไม่คล่องแต่เพราะชายคนนี้มีบอดี้การ์ดมาร่างใหญ่เหมือนยักษ์วัดแจ้งมายืนคุ้มกันถึงหกคน             “ยาจ๋าช่วยไปดูหน่อยซิ” เปรมวดี หรือ แป๋ม เพื่อนสนิทของเธอเข้ามาขอร้อง             “ไม่เป็นไร ยาไปเอง” อารยายิ้มรับไม่รู้สึกหวาดกลัวอะไรอาจเพราะเคยชินกับลูกค้าวีไอพีที่เคยมารักษาตัวที่โรงพยาบาล             อารยาในชุดไทยมิดชิดเดินเข้าไปห้องพิเศษ แอบกลั้นหัวเราะที่เห็นบอดี้การ์ดหกคนยืนคุ้มกันเจ้านายที่นอนคว่ำอยู่บนที่นอนเตี้ยๆ ห้องนี้เป็นห้องที่เปิดโล่งมองเห็นน้ำตกจำลองใกล้ๆ และต้นไม้สีเขียวขจีที่ถูกจัดให้เป็นสวยย่อมน่ารัก             “ขออนุญาตนะคะ”      อารยายกมือไหว้ก่อนที่จะลงมือกดจุดตามที่ร่ำเรียนมา  กล้ามเนื้อที่ไม่เคยถูกบีบนวดหรือกล้ามเนื้อที่มีความเครียดสะสมสูงจะแข็งและเกร็งมากทำมือเล็กต้องออกแรงมากกว่าปกติ  ขณะที่ไล่นิ้วมือไปตามแผ่นหลัง เธอก็เห็นรอยแผลเป็นหลายแห่ง   เธอไม่ได้รู้สึกหวาดหลัวหรือขยะแขยงแผลเหล่านั้น แต่บรรจงคลึงเพื่อผ่อนคลายและกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น “สงสารฉันหรือไง” “เอ๊ะ!” อารยาสะดุ้งกับคำถาม “ท่านว่าอะไรนะคะ”  “สำเนียงอังกฤษเธอดีเหมือนกันนี่” “เอ่อ...ขอบคุณคะ”            อารยาไม่ค่อยชอบคุยกับลูกค้านัก เปรมวดีบอกว่าเขาลูกค้าต้องการนวดคลายเครียดหนึ่งชั่วโมง แต่เธอดูว่า...อาการเครียดสะสมของเขาน่าจะสองชั่วโมงเป็นอย่างน้อย แต่ถ้าจะให้ดีต้องใช้เท้าเหยียบด้วย แต่ก็นั้นแหละ! ขนาดว่าคนไทยด้วยกันเอง บางทีก็ถือเรื่องใช้เท้านวดแทนมือโดยเฉพาะผู้ชาย “ถ้ามีเวลาท่านน่าจะนวดต่ออีกสักชั่วโมงนะคะ โดยเฉพาะที่ฝ่าเท้า” อารยาแจ้งให้ลูกค้าทราบ “หึ หึ ถ้าอยากได้เงินเพิ่มก็บอกตรงๆ ก็ได้ ไม่ต้องทำมาเป็นพูดดีหรอก” อารยาฉุนกึก นี่ไม่ใช่ครั้งที่ถูกลูกค้าพูดจาแบบนี้ เธอถอนหายใจหนักๆ ระบายความหงุดหงิดในใจ  “ดิฉันต้องขออภัยแค่พูดไปตามอาการของท่าน แผลที่โดนกระสุนนั่น ดูท่าจะถูกละเลยไม่ใส่ใจจึงเป็นแผลเป็นเป็นก้อนนูนอย่างนั้น แล้วไตของท่านก็ทำงานหนักมาก ไม่ว่าจะเป็นการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอร์ และท่านยังมีความเครียดสะสมทำให้เป็นโรคกระเพาะเรื้อรัง ท่านยิ่งสมควรจะต้องดูแลสุขภาพมากกว่านี้” มือเรียวเล็กของอารยากดจุดตรงกลางฝ่าเท้าเพื่อทำการเปิดลมให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น ทำให้คนถูกนวดถึงกับเผลอครางออกมาเบาๆ “แค่นวดเท่านั้นทำไมถึงรู้สึกดีจริง” “ร่างกายของคนเราบ่งบอกความเจ็บปวดได้ค่ะ การนวดแผนโบราณเป็นการบำบัดรักษาชนิดหนึ่ง คนไทยใช้วิธีควบคู่ไปกับการกินยามานานหลายร้อยปีแล้วค่ะ การกินยาอย่างเดียวไม่ได้ช่วยรักษาโรคได้เสมอไป” “เธอพูดเหมือนเป็นหมอ” “ฉันเคยทำงานในโรงพยาบาล ก็เลยติดพูดจาประสาหมอไปหน่อยค่ะ” หญิงสาวยิ้มน้อยๆ เธอเองก็รู้สึกว่าเขาผ่อนคลายเพราะไว้ใจเธอมาก “เธอทำอะไรในโรงพยาบาลหรือ?” “เป็นนักกายภาพบำบัดค่ะ แต่อย่าถามนะคะว่าทำไมตอนนี้มาทำงานแบบนี้  เรื่องมันยาวค่ะ คุณอาจจะต้องเพิ่มอีกสองชั่วโมงก็ได้” เธอหัวเราะออกมาเบาๆ “วันนี้ฉันไม่สะดวกแต่อีกสองวันฉันจะมาหาเธออีก” “ฉันมาทำงานเฉพาะเสาร์กับอาทิตย์ วันธรรมดาฉันต้องอยู่ที่อนามัย แต่พนักงานคนอื่นนวดกดจุดให้ท่านก็ได้นะคะ” “แต่ฉันว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะมีความรู้เท่ากับเธอ” น้ำเสียงราบเรียบจนฟังคล้ายจะเป็นคำสั่ง  อารยาจำได้ขึ้นใจเป็นอย่างดี หลังจากเสร็จงานเธอไม่ได้สนใจลูกค้าคนนี้นัก เธอยังทำงานเป็นปกติเหมือนเดิม จนเปรมวดีโทรศัพท์มาหาเธอว่าลูกค้าอาหรับคนนั้นต้องการเรียกเธอไปบริการโดยเฉพาะ “ก็ฉันต้องทำงานที่อนามัยไปไม่ได้หรอกยัยแป๋ม” “แกเห็นแก่ความเป็นเพื่อนของเราไม่ได้เหรอ นี่ลูกค้าวีไอพีเชียวนะ เค้ายอมทุ่มไม่อั้น แกอาจจะได้ทิปมากกว่าเงินเดือนที่อนามัยแกอีกนะยะ” “ยิ่งพูดแบบนี้ฉันก็ยิ่งไม่อยากไป แกก็รู้ว่าฉันไม่ได้อยากไปทำงานที่สปาแกนักหรอก ถ้าฉันไม่จำเป็นต้องใช้เงิน ฉันก็ไม่ยอมเสียงานที่ฉันรักไปหรอกยะ”    อารยาวางหูโทรศัพท์ลงโดยไม่สนใจว่าเพื่อนรักจะพูดอะไรต่อ ใช่...เธอต้องเงิน เงินก้อนใหญ่เสียด้วยเพราะแม่บุญธรรมของเธอป่วยเป็นมะเร็ง แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ถูกสั่งสอนจนขึ้นใจว่าให้รักศักดิ์ศรีไม่น้อยไปกว่าชีวิตตัวเอง อารยาคิดว่าเปรมวดีคงโกรธเธอถึงขนาดตัดชื่อเธอออกจากบัญชีของความเป็นเพื่อน แต่ปรากฏว่า อีกสามวันหลังจากนั้น เปรมวดีก็มาปรากฏตัวต่อหน้าเธอถึงที่อนามัย และข้างๆกันนั้นมีชายชาวอาหรับคนนั้นยืนอยู่ใกล้ๆ แม้ว่าใบหน้าจะเต็มไปด้วยหนวดเครารุงรังแต่เธอก็พอจะมองออกว่าเขากำลังยิ้มให้เธอ “งานที่นี่น่าสนุกแบบนี้นี่เอง คุณถึงไม่ยอมเข้าไปกรุงเทพ” เขาชวนคุยด้วยภาษาอังกฤษ คนรอบข้างเธอต่างงุนงงและแตกตื่น แต่มันยิ่งตอกย้ำความคิดในแง่ร้ายของคนบางคนว่าเธอหมอนวดประเภทเอาตัวนาบ “สงสัยเราจะคุยกันยาว เชิญที่ห้องพักดิฉันเถอะค่ะ”            อารายเดินนำไปที่ห้องพักของเธอซึ่งอยู่ที่ปีกขวาของอนามัย จะเรียกห้องพักก็ไม่ถูกนักเพราะมีแค่โต๊ะกับเก้าอี้ นอกนั้นก็เป็นตู้เก็บเอกสารและหนังสือต่างๆที่เธอต้องใช้เป็นประจำ แต่มันก็ทำให้คนที่เข้ามารู้ได้ในทันทีว่าเธอเป็นคนสมถะเพียงใด “แกอย่าโกรธฉันนะ  เค้าขอร้องให้ฉันพามา” เปรมวดีกระซิบบอกเพื่อนเบาๆ “แน่ใจว่าเค้าขอร้อง ไม่ใช่ขู่บังคับ” “บ้าสิ ถ้าขู่จริงฉันไปหาตำรวจไม่ดีกว่าเหรอไม่มาหาแกแบบนี้หรอก” ดูเหมือนชายอาหรับจะไม่เข้าใจภาษาไทยที่สองสาวกระซิบกระซาบกัน เขานั่งนิ่งๆ แต่สายตามองไปรอบๆ เหมือนถูกใจที่ได้เห็นสภาพที่พักเธอเป็นแบบนี้ “ขออนุญาตแนะนำตัวก่อน ผมชื่อ คาร์ดัล ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าผมประทับใจการบริการของคุณอารยาเป็นอย่างยิ่ง   คุณมีความรู้และความสามารถในวิชาชีพของคุณอย่างท่องแท้ และจากที่ผมสืบประวัติของคุณมา คุณมีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่ ‘ท่าน’ ต้องการ ผมในฐานะตัวแทนของ ‘ท่าน’ มีความสนใจจะเชิญคุณอารยาไปทำงานเป็นพยาบาลพิเศษให้ ‘ท่าน’ ที่เมือง เอล บาฮา ประเทศบาฮาเนีย ” เปรมวดีอ้าปากค้าง แต่อารยายังคงสงบนิ่งแม้ว่าจะประหลาดใจกับสิ่งที่ได้ยินก็ตามที คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันอย่างครุ่นคิด  เธอแทบไม่เคยได้ยินชื่อประเทศอะไรที่เขาเอ่ยมาเลยสักนิด “คุณสืบประวัติดิฉัน” อารยาทำเสียงสูงไม่ค่อยพอใจนัก  “ดิฉันไม่เข้าใจที่คุณพูดเท่าไหร่นัก แล้ว ‘ท่าน’ ของคุณเป็นใครกันค่ะ” “ท่านเป็นนายเหนือหัวของผม ตอนนี้ ‘ท่าน’ ป่วยเกี่ยวกับหมอนกระดูก ผมเคยได้ยินมาว่าการนวดแผนโบราณอย่างถูกวิธีจะสามารถบำบัดอาการเจ็บปวดจากโรคนี้ได้โดยไม่ต้องผ่าตัด และถ้าข้อมูลที่ผมได้รับมาไม่ผิดพลาดคุณเองก็พยายามจะเสนอทฤษฎีนี้แก่โรงพยาบาลที่คุณทำงานอยู่  แต่ถูกปฎิเสธจนคุณต้องมาทำงานที่อนามัยแห่งนี้  แต่ที่ต้องไปทำงานที่สปาของคุณเปรมวดีเพราะต้องการนำเงินมารักษาแม่บุญธรรมใช่มั๊ยครับ” ดวงตากลมโตของอารยาเบิกโตอย่างตกใจ  ไม่คิดว่าเขาจะรู้ข้อมูลเกี่ยวกับเธอได้มากขนาดนี้ในระยะเวลาแค่ไม่กี่วัน “ผมมีค่าตอบแทนให้อย่างงามหากคุณอารายายอมไปดูแล ‘ท่าน’ ให้ผม ค่าตอบแทนที่คุณจะได้รับมันมากพอที่จะรักษาแม่บุญธรรมของคุณได้สบายๆ เลยทีเดียว  ผมสามารถมอบเงินสดให้คุณได้ในทันทีที่คุณตกลงใจไปทำงานกับผมที่บาฮาเนีย” ทั้งเปรมวดีและอารยามองหน้ากันอย่างงุนงง ค่าแรงที่มากพอสำหรับเป็นค่ารักษาให้แม่บุญธรรมได้นั้น  มันช่างมากจนน่าตกใจเสียจริง อารยาลังเล ระหว่างคำสอนที่ว่า ‘ต้องรักศักดิ์ศรีไม่น้อยกว่าชีวิตตัวเอง’ กับ ‘ตอบแทนบุญคุณผู้มีพระคุณ’ อย่างไหนจะสำคัญกว่ากัน.    

editor-pick
Dreame - ขวัญใจบรรณาธิการ

bc

สะใภ้ขัดดอก

read
39.8K
bc

เมื่อฉันแอบรักซุปตาร์นายเอกซีรีส์วาย

read
13.7K
bc

สวาทรักใต้เพลิงแค้น

read
14.7K
bc

เล่ห์รักนายหัว

read
6.9K
bc

Relazione เจ้าหัวใจสายใยรัก

read
4.2K
bc

ลุ้นรักสลับใจ

read
1K
bc

หวงรักเมียเด็ก

read
1K

สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook