เมื่อรู้ว่าวันนี้ไม่ต้องไปโรงเรียนเด็กชายก็กลับมาร่าเริงเป็นปกติอีกครั้ง สองสามีภรรยานั่งมองลูกชายที่กำลังนอนคว่ำระบายสี ทั้งสองโล่งใจที่เห็นตงหมิงนั้นกลับมาร่าเริงได้เหมือนเดิม มื้อเช้าวันนี้มีผัดเต้าหู้และไก่ตุ๋น ชายหนุ่มรู้สึกเจริญอาหารมากกว่าทุกวันเขาตักข้าวถึงสองรอบก่อนจะไปทำงาน
“เดินทางปลอดภัยนะคะ”
หลังส่งสามีไปทำงานแล้ว เธอก็ลงมือทำความสะอาดบ้านก่อนจะหันมองเด็กชายที่กำลังก้มหน้าก้มตาระบายสี
“อาหมิง อย่าลืมกินข้าวนะลูก”
เด็กชายหยักหน้าก่อนจะลงมือระบายสีต่อ หญิงสาวส่ายศีรษะก่อนจะถอนหายใจยาว เธอไม่อยากบังคับอะไรเขามากมายจึงปล่อยเลยตามเลยและเดินเช้ามาในห้องนอนก่อนจะปิดประตูลง
หญิงสาวปัดกวาดเช็ดถูจนสะอาด ก่อนที่จะเปิดตู้เสื้อผ้าเพื่อนำผ้าออกมาพับ เนื่องจากว่าวันก่อนด้วยความเร่งรีบเมื่อเก็บเสื้อผ้าจากราวแล้ว เธอก็โยนใส่ตู้ทันทีโดยไม่ได้พับให้เป็นระเบียบ
ประตูถูกดึงเปิดออกก่อนที่คิ้วสวยจะขมวดแน่น ในนี้ไม่มีเสื้อผ้าสักชิ้น มีเพียงความมืดที่อยู่ตรงหน้า สายตาเพ่งมองไปยังแสงสว่างเล็กๆ ที่ปลายทางก่อนที่เธอจะค่อยๆ ก้าวขาเข้าไปด้านในอย่างระมัดระวัง
“อะไรเนี่ย”
เธอสัมผัสได้ถึงความหนาวเย็นที่กำลังไล่เลียผิว หญิงสาวคลำทางก่อนจะเดินเข้าไปอย่างช้าๆ แสงสว่างเล็กๆ เริ่มขยายใหญ่ขึ้นสิ่งที่ปรากฏตรงหน้าทำให้หญิงสาวถึงกับเบิกตากว้าง เธอไม่รอช้าผลักประตูเข้ามาด้านในสถานที่ที่คุ้นเคย
ร้านค้าขนาดใหญ่เต็มไปด้วยข้าวของมากมาย ทุกอย่างไม่เปลี่ยนไปจากเดิมเลยแม้แต่น้อย
“อี้เซิง! อี้เซิง! นายอยู่ไหน”
หญิงสาวตะโกนเรียกน้องชายก่อนจะวิ่งวนไปทั่วทั้งร้าน ด้านนอกนั้นถูกปกคลุมด้วยหมอกหนาทำให้ไม่สามารถมองเห็นท้องถนนได้ หญิงสาวพยายามที่จะเปิดประตูออกไปแต่ก็เปล่าประโยชน์ เธอถอดใจก่อนเดินกลับเข้ามาในร้าน เมื่อเปิดประตูที่จะผ่านเข้าไปในห้องเก็บของก็พบว่าที่นี่กลายเป็นเส้นทางที่เชื่อมต่อกับตู้เสื้อผ้าในห้องนอนของเธอ
หญิงสาวประหลาดใจที่จู่ๆ ก็โผล่มาในมินิมาร์ทของตัวเอง เธอหยิบช็อกโกแลตขึ้นมาหนึ่งแท่งก่อนจะฉีกพลาสติกออกและลองกินดู
“กินได้จริงเหรอ”
เธอเก็บช็อกโกแลตที่เหลือใส่กระเป๋าเสื้อ หญิงสาวคิดว่านี่เป็นเพียงความฝันไม่ก็ภาพลวงตาที่เธอนั้นสร้างขึ้นมาเอง แต่เมื่อลองแกะขนมกินก็พบว่าของเหล่านี้สามารถกินได้จริง ของใช้ต่างๆ ก็สามารถใช้งานได้จริง หญิงสาวหยิบผงซักฟอกและน้ำยาปรับผ้านุ่มอย่างละชิ้นมาถือไว้ก่อนจะเปิดประตูเดินออกมา
หญิงสาวปิดประตูตู้เสื้อผ้าลงก่อนที่เธอนั้นจะหอบตะกร้าผ้าออกมาจากห้อง เห็นลูกชายยังนอนระบายสีเล่นก็เอ่ยขึ้น
“กินข้าวได้แล้วอาหมิง”
เด็กชายรีบลุกขึ้นก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้และตักข้าวเข้าปากคำใหญ่ หญิงสาวเห็นว่าลูกชายนั้นว่านอนสอนง่ายจึงอยากให้รางวัลเขา เธอหยิบช็อกโกแลตออกมาจากกระเป๋าก่อนจะยื่นให้ตงหมิง เขาขมวดคิ้วเพราะไม่เคยเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้ามาก่อน
“ช็อกโกแลต”
เด็กชายตาโต เขาเคยเห็นเพื่อนฐานะดีกินขนมราคาแพงแบบนี้ แต่ตัวเขาไม่มีโอกาสนั้นเพราะไม่มีเงินซื้อ ตงหมิงรีบกินข้าวจนหมดจานก่อนที่เขาจะกัดช็อกโกแลตเข้าปากหนึ่งคำ
หลังได้ลิ้มลองรสชาติที่แสนอร่อยเป็นครั้งแรกเด็กชายก็กระโดดโลดเต้นอย่างมีความสุข ซูเม่ยเห็นเช่นนั้นก็อดไม่ได้ที่จะยกยิ้มออกมา เธอดีใจที่เห็นเด็กชายนั้นมีความสุขแบบนี้เป็นครั้งแรก
“มีอีกไหมครับแม่”
หญิงสาวพยักหน้าก่อนจะเอ่ยขึ้น
“ให้แม่ซักผ้าเสร็จก่อนแล้วแม่จะให้ลูกกิน แต่ลูกต้องนำถ้วยไปล้างก่อน”
เด็กชายกระตือรือร้นเป็นอย่างมาก เมื่อรู้ว่าเขานั้นจะได้รางวัลเป็นขนมหวานแสนอร่อยหากเขาเชื่อฟังผู้เป็นแม่ ซูเม่ยหอบผ้าไปซัก เธอเทผงซักหอมลงไปตีจนขึ้นฟองก่อนจะขยี้ผ้าที่มีรอยเปื้อนจนขาวสะอาด หลังจากนั้นเธอจึงแช่ผ้าทั้งหมดในน้ำยาปรับผ้านุ่มราคาแพง
กลิ่นหอมอบอวลไปทั่วทั้งบริเวณ หญิงสาวบิดผ้าจนหมาดก่อนสะบัดเพื่อให้ผ้านั้นคลายตัวออก เมื่อผ้าแห้งจะเรียบตามธรรมชาติโดยไม่ต้องรีดซ้ำ เธอปาดเหงื่อที่ผุดพลายบนใบหน้า ก่อนจะพ่นลมหายใจเพื่อไล่ความเหนื่อย
“หอมจังเลยครับแม่”
เด็กชายไม่เคยได้กลิ่นหอมแบบนี้มาก่อน เขาเดินออกมาหลังบ้านก่อนจะเอ่ยขึ้น ซูเม่ยบอกเด็กชายให้นั่งรอนอกห้องระหว่างที่เธอนั้นเข้าไปในมิติลึกลับอีกครั้ง ซึ่งตงหมิงก็เชื่อฟังเป็นอย่างดีโดยไม่ได้สงสัยหรือซักไซ้อะไร
มินิมาร์ทขนาดใหญ่แต่ทว่ากลับเงียบสงบราวกับว่าที่นี่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเธอเท่านั้น หญิงสาวหยิบไส้กรอกและเนื้อสัตว์ใส่ตะกร้า ตามด้วยเครื่องปรุงรสที่คิดว่าจำเป็น ก่อนที่เธอนั้นจะหยิบขนมหลายอย่างรวมทั้งนมจืดหลากหลายยี่ห้อ เธอสังเกตเห็นว่าตงหมิงนั้นตัวเล็กว่าเพื่อนวัยเดียวกัน จึงอยากจะให้อีกฝ่ายได้ดื่มนมเยอะๆ
อีกทั้งเด็กชายยังขาดแคลนหลายอย่าง ทั้งอุปกรณ์การเรียนและกระเป๋า หญิงสาวจึงมองหาสิ่งที่จำเป็นสำหรับลูกชายของเธอ
กระเป๋าลายการ์ตูนฮีโร่และเครื่องเขียนลายเดียวกันคือสิ่งที่เธอคิดจะนำไปฝากเด็กชายที่รออยู่อีกฝากฝั่งของมิตินี้ หลังจากได้ของที่ต้องการครบครัน ซูเม่ยก็เดินออกมาจากตู้เสื้อผ้าช้าก่อนจะปิดประตูลงเบาๆ
ขนมและอาหารมากมายวางกองอยู่บนโต๊ะ เด็กชายตื่นเต้นเพราะไม่เคยเห็นสิ่งเหล่านี้มาก่อน เขาหยิบนมขึ้นมาหนึ่งกล่องก่อนจะใช้หลอดเจาะลงไปและดื่มอย่างเอร็ดอร่อย นมจืดมีราคาแพงเกินไปสำหรับครอบครัวนี้ เมื่อตงหมิงอายุได้สามปีตงเหมาจึงตัดสินใจให้ลูกชายเลิกกินนมเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย
ในช่วงแรกเด็กชายงอแงเป็นอย่างมาก แม้ผู้เป็นพ่อจะทรมานใจเพียงใดแต่เขาก็ไม่มีทางเลือก ในบางครั้งต้องต้มน้ำข้าวให้ลูกชายกินแทนนม
“อร่อยมากครับแม่”
เขาเอ่ยพร้อมรอยยิ้มไร้เดียงสา ซูเม่ยอุ้มเด็กชายนั่งลงบนตักก่อนจะหยิบบางอย่างออกจากกระเป๋าและวางลงตรงหน้าเขา รถของเล่นขนาดเล็กสีแดงทำให้เด็กชายตื่นเต้นจนนั่งไม่ติด เขารีบคว้าสิ่งที่วางอยู่ตรงหน้าก่อนกระโดดลงไปที่พื้นและไถรถเล่นไปมาอย่างสนุกสนาน
“ชอบไหมลูก”
เด็กชายพยักหน้า ที่ผ่านมาเขามีของเล่นนับชิ้นได้ ซึ่งทุกชิ้นเป็นของเล่นที่พ่อนั้นประดิษฐ์ขึ้นมาให้ นี่จึงเป็นครั้งแรกที่เขามีของเล่นดีๆ เป็นของตัวเอง ซูเม่ยน้ำตาคลอรู้สึกสงสารเด็กชายจับใจ ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เธอนั้นรักและห่วงใยเด็กชายคนนี้ยิ่งกว่าชีวิต ราวกับว่าเขานั้นเป็นสายเลือดของเธอจริงๆ หญิงสาวลูบศีรษะเด็กชายเบาๆ
หญิงสาวเห็นว่าอีกไม่นานสามีก็จะกลับมาแล้ว เธอจึงรีบเตรียมอาหารเพราะไม่อยากให้เขาต้องรอนาน ซูเม่ยใช้กรรไกรตัดห่อพลาสติกที่บรรจุเส้นสปาเกตตี้ เมื่อน้ำเดือดเธอจึงหย่อนเส้นดิบลงไปก่อนจะใส่เกลือและน้ำมันเพื่อป้องกันไม่ให้เส้นติดกัน หญิงสาวเตรียมน้ำเย็นวางไว้ใกล้ๆ เมื่อเส้นสุกเธอจึงรีบคีบขึ้นมาก่อนจะหย่อนลงในน้ำเย็น
“ทำไมต้องใส่ในน้ำเย็นครับ”
เด็กชายเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“แม่เองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน”
เธอรู้เพียงวิธีการแต่ไม่เข้าใจว่าเคล็ดลับเหล่านี้มีประโยชน์อย่างไรจึงไม่สามารถตอบลูกชายได้ ตงหมิงเขย่งปลายเท้าชะโงกหน้าเข้าไปในกระทะ เขามองผู้เป็นแม่ที่กำลังสับกระเทียมก่อนที่เธอจะนำลงไปผัดจนส่งกลิ่นหอม
หลังจากนั้นซูเม่ยแบ่งเส้นออกมาหนึ่งถ้วยเพื่อผัดให้ลูกชายก่อน เนื่องจากว่าอาหารจานนี้มีพริก จึงกลัวว่าตงหมิงนั้นจะกินไม่ได้เนื่องจากเผ็ดจนเกินไป
กระเทียมเริ่มเหลืองแล้วหญิงสาวจึงใส่พริกแห้งลงไปตามด้วยไส้หรอกที่หั่นเป็นชิ้นเล็ก ผัดไปผัดมาจนทุกอย่างเข้ากันดี ก่อนจะใส่เส้นลงไปคลุกและปรุงรสเป็นอันเสร็จสิ้น
“พ่อมาหรือยัง”
ได้ยินเสียงดังมาจากหน้าบ้านหญิงสาวจึงบอกให้ลูกชายนั้นเดินไปดู ตงหมิงเปิดประตูให้ผู้เป็นพ่อ เนื้อตัวเขาเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ ซูเม่ยเห็นเช่นนั้นจึงบอกให้เขาไปอาบน้ำก่อน ชายหนุ่มพยักหน้าก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำ เขาขมวดคิ้วเมื่อเห็นขวดแปลกๆ ที่วางเรียงอยู่บนขอบอ่าง ชายกนุ่มหยิบขึ้นมาพลิกดูก่อนจะเปิดฝาดมกลิ่น
“อาเม่ย ฉันใช้อันนี้ได้หรือไม่”
เขาแง้มประตูก่อนจะยื่นขวดครีมอาบน้ำออกไปให้หญิงสาวดู ซูเม่ยพยักหน้าก่อนจะตักอาหารใส่จาน วันนี้มีหลายเมนู ทั้งสเต็กเนื้อหมูและสปาเกตตี้ไส้กรอก
เด็กชายหิวจนกลืนน้ำลายไปหลายครั้งแต่พ่อของเขาก็ยังไม่ออกมาจากห้องน้ำเสียที ตงหมิงทนไม่ไหว เขาเดินไปที่ห้องน้ำก่อนจะเคาะประตู
“พ่อครับ ผมหิวแล้ว”
ตงเหมารีบสวมกางเกงก่อนจะเดินออกมาพร้อมกับใช้ผ้าขยี้ผมที่เปียกชิ้นไปด้วย ซูเม่ยชะงักเล็กน้อย ใบหน้าเธอร้อนผ่าวยามที่สายตาปะทะเข้ากับกล้ามเนื้อหน้าท้องของสามี หญิงสาวเบี่ยงสายตาไปทางอื่นก่อนจะสูดลมหายใจลึกเพื่อระงับความรู้สึกร้อนรุ่มในใจ
ชายหนุ่มแปลกใจที่เห็นข้าวของแปลกๆ มากมายอยู่ภายในบ้าน เขาสงสัยว่าภรรยาไปเอาของเหล่านี้มากไหน จึงได้เอ่ยถามขึ้น
“ของพวกนี้ได้มายังไง”
เขาหวั่นใจเพราะในอดีตเธอเคยมีประวัติลักเล็กขโมยน้อย จึงกลัวว่าของเหล่านี้จะได้มาอย่างไม่สุจริต ซูเม่ยชะงักเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“มีคนใจดีมาแจกของฉันเลยออกไปรับ คุณกลับมาเหนื่อยๆ คงหิวมาก เช่นนั้นรีบกินเถอะค่ะ”
หญิงสาวพยายามบ่ายเบี่ยงก่อนจะใช้ตะเกียบม้วนเส้นและป้อนสามี เขาเห็นเธอดูมีพิรุธก็ไม่สบายใจนักกลัวว่าซูเม่ยจะกลับไปมีนิสัยแบบเดิมอีก…