บทที่ 5 ปฏิบัติการแปลงโฉมดารินให้กลายเป็นสาวมั่น
วันรุ่งขึ้น
~กริ้ง กริ้ง~
เสียงกดกริ่งที่ประตูหน้าบ้านดังประมาณสองครั้ง พร้อมกับชายรูปร่างกำยำแต่ใจเป็นหญิงจำนวน 2 คน พร้อมทั้งลูกน้องผู้หญิงอีกจำนวน 6 คน ยืนอยู่ทางด้านหลัง
“เจ้ ผู้ว่าจ้างของเราให้มาแปลงโฉมให้ใครเนี่ย ยกโขยงมาทั้งร้านขนาดนี้ เขาจ้างเรามาแต่งหน้าให้กี่คนกัน”
เสียงของเจนลูกน้องคนสนิทของเจ้หยาด กระซิบกระซาบถาม เพราะผู้จ้างงานให้เงินมาเยอะพอสมควร เงินก้อนที่ได้วันนี้เทียบเท่ากับการทำงานมาทั้งเดือนของเธอเลยด้วยซ้ำ
“จุ๊ ๆ เดี๋ยวฉันเล่าให้ฟังจ้ะพวกหล่อน เจ้เล่าให้ฟังแล้วเหยียบให้มิดเลยนะ ความลับของตระกูลคนรวยเขา ขืนปากพล่อย พูดไปเรื่อยอย่างอีลูลู่ ระวังตายไม่มีศพนะเธอ”
เจ้หยาด สาวประเภทสองร่างกายกำยำ เป็นเจ้าของร้านแต่งหน้าชื่อดังในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง กระซิบกระซาบกับลูกน้อง พร้อมกับปรายตามองลูลู่ เพื่อนซี้คนสนิทซึ่งเป็นหุ้นส่วนร้านแต่งหน้าเช่นกัน
“อ้าว อีเจ้นี่มึงว่าฉันปากหมาเหรอยะ !!! แหม ๆ ๆ ว่าลูลู่เนี่ย อีเจ้ก็น่าจะตายไม่มีศพเหมือนกันนั่นแหละ”
ลูลู่ จีบปากจีบคอตอบ พร้อมกับเบะปากมองบน ใช้มือหนา ๆ ตบไปที่บ่าเพื่อนซี้เบา ๆ
“อ้าวอีลูลู่!!!”
“ว่าไงล่ะ อีเจ้!!”
เสียงของสาวร่างใหญ่ทั้งสองเริ่มขึ้นเสียงใส่กันไปมา ทำให้ลูกน้องที่มาด้วยถอนหายใจด้วยความเบื่อหน่าย ภาพที่เห็นมันเป็นเรื่องปกติที่เห็นจนชินตา เจ้หยาดและลูลู่จะพูดแบบนี้ใส่กันทุกวัน จะว่าไปแล้วที่เป็นเพื่อนซี้ที่สนิทกัน คงจะเป็นเรื่องปากนี่แหละ
“เจ้ ๆ ทั้งสองคะ หยุดกัดกันค่ะ ดูนั่นมีคนมาเปิดประตูรั้วแล้วค่ะ”
เสียงของเจนลูกน้องคนสวยพูดพร้อมกับใช้ปากชี้ไปทางแม่บ้านคนหนึ่ง กำลังเดินมาเปิดประตูให้
“สวัสดีค่ะ รบกวนแนะนำตัวก่อนจะเข้าไปด้วยนะคะ หรือถ้ามีใบเชิญจากคุณหญิงก็แสดงออกมาได้ค่ะ”
เสียงของแม่บ้านอายุประมาณ 40 ปี พูดเสียงเรียบ แต่ก็ส่งยิ้มให้เหล่าเจ้หยาด
“โห เจ้ลูลู่ ขนาดแม่บ้านยังดูเป็นผู้ดีเลยอ่ะ”
เจนกระซิบกระซาบลูลู่ที่ยืนอยู่ด้านหลังเจ้หยาดอีกที
“ชู่ววว เงียบ ๆ นังเจน รอฟังเจ้หยาดก่อน มาทำงาน
เงียบ ๆ เข้าไว้ อย่าเสียมารยาท”
“ค่ะเจ้”
เจนตอบเสียงหงอย เพราะเธอไม่เคยเห็นเจ้ลูลู่ซีเรียสเรื่องงานมาก่อน
“สวัสดีค่ะ ฉันเจ้หยาดค่ะ มาจากร้านวายแอนด์แอล
เมคอัพค่ะ พอดีว่าเมื่อคืนเจ้ได้รับการติดต่อจากคุณทิพย์ไปให้มาแต่งหน้าให้คนที่นี่ ตามที่อยู่นี้ เจ้เลยมาตามที่อยู่ค่ะ ไม่ทราบว่าเจ้มาถูกหรือเปล่าคะ ถ้าไม่ถูกก็ขออภัยค่ะ แหะ ๆ”
“ถูกต้องค่ะ ตามดิฉันมาได้เลยค่ะ คุณหญิงรออยู่ด้านใน”
“อ๋อ ค่ะ ๆ เด็ก ๆ ตามเจ้มาค่ะ”
เจ้หยาดตอบรับแม่บ้าน ก่อนจะหันไปเรียกลูกน้องให้เดินตามมาเข้าไปในบ้านของตระกูลไพศาลด้วย
“ค่ะเจ้!!”
เสียงลูกน้องเจ้หยาดตอบรับกันอย่างพร้อมเพรียง
ไม่นานเจ้หยาด เจ้ลูลู่ และลูกน้อง ก็ได้เดินเข้ามายังภายบ้าน และเดินเข้ามาในห้องรับแขกของบ้านตระกูลไพศาล
สายตาของเจ้รูปร่างกำยำ กวาดมองไปรอบ ๆ พบว่าผู้ที่ติดต่อไปคือคุณทิพย์ซึ่งยืนอยู่ด้านหลังโซฟา ในชุดสูทกระโปรงสีดำเข้ม ส่วนคนที่นั่งไขว่ห้าง มือหนึ่งยกถ้วยชาอยู่ขึ้นมาจิบ ใบหน้าดูมีอายุบ้างแล้ว แต่ยังคงมีความสง่าดูเป็นผู้ดีอยู่
เจ้หยาดเองก็คลับคล้ายคลับคาเคยเห็นในสื่อออนไลน์และหนังสือพิมพ์อยู่บ้างว่านี่คือคุณหญิงลดาไม่ผิดแน่ ไม่รอช้าเจ้หยาดจึงเข้ามากล่าวทักทายทันที
“คุณทิพย์สวัสดีค่ะ แล้วก็สวัสดีค่ะคุณหญิงลดาค่ะ แหม ตัวจริงยังสาวและสวยอยู่เลยนะคะเนี่ย”
เจ้กล่าวทักทายอย่างรู้งาน จนทำให้สีหน้าที่เรียบนิ่งของลดานั้น เผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อย
“อ๋อ แล้วก็สวัสดีคุณหนูทั้งสองด้วยค่ะ คุณหนูไอริน กับไอด้าใช่ไหมคะ สวยเหมือนคุณแม่เลยค่ะ”
“หือ เธอเองก็เห็นเป็นไอด้าหรือ”
คุณหญิงลดาที่เงียบอยู่เอ่ยปากถามเจ้หยาด ก่อนจะวางถ้วยชาลงบนโต๊ะ จากนั่นผายมือให้เจ้หยาดมานั่งโซฟาอีกฝั่งหนึ่ง
“ค่ะ ก็นี่คุณหนูไอด้าไม่ใช่หรือคะ แต่ต่างจากที่เคยเห็นในสื่อนิดหน่อยค่ะ เอ๋ ดูไปดูมาก็ต่างค่ะ ตัวจริงขี้อายหรือเปล่าคะเนี่ย แหะ ๆ”
เจ้หยาดพูดจีบปากจีบคอ เพราะคุณหนูที่นั่งก้มหน้านิ่งคนนั้นต่างจากไอด้าที่เป็นสาวมั่น แต่งหน้าจัดจ้านออกสื่ออยู่หลายขุม
“ก่อนจะรับงานทิพย์ยังไม่พูดรายละเอียดกับร้านแต่งหน้าใช่ไหม”
ลดาหันไปถามทิพย์ซึ่งเธอเป็นเลขาคนสนิทของไอด้าลูกสาวคนโตของตระกูลไพศาล
“ยังค่ะ คุณหญิงแต่ทิพย?เกริ่นไปคร่าว ๆ แล้วค่ะ ว่ารับงานครั้งนี้ที่ร้านห้ามแพร่งพรายให้คนนอกรู้”
ทิพย์ตอบ
“ถ้าอย่างนั้นฉันจะเริ่มคุยเรื่องงานกับเธอนะ เจ้หยาด
ใช่ไหม”
“ค่ะ ฉันหยาดค่ะ ส่วนนี่ลูลู่หุ้นส่วนที่ร้านของหยาดค่ะคุณหญิง อีกอย่างเป็นเพื่อนซี้กันค่ะ และเด็ก ๆ อีก 6 คน ลูกน้องหยาดเอง ไว้ใจได้ค่ะ มั่นใจว่าเรื่องที่สำคัญแบบนี้จะไม่เล็ดลอดออกไปค่ะ”
เจ้หยาดยืนยัน เพราะทำงานร่วมกันนับ 10 ปี เธอรู้ดีว่าแต่ละคนนิสัยเป็นอย่างไร
“ก็ดี ฉันหวังว่าเรื่องนี้จะรู้กันแค่นี้ หากมันแพร่งพรายออกไปล่ะก็ พวกเธอทั้งหมดนี่ เตรียมตัวตกงานได้เลย และฉันเองก็ให้ค่าจ้างของเธอสูงลิ่ว หวังว่าฉันจะไม่ผิดหวังนะ”
“รับประกันเลยค่ะคุณหญิง”
“อืม งั้นฉันจะแนะนำใหม่ นี่ไอรินลูกสาวคนกลางของฉัน ส่วนนี้ดารินฝาแฝดของไอด้า”
“ว่าอย่างไรนะคะ คือหยาดไม่ได้ฟังผิดไปใช่ไหมคะ ว่าคนที่นั่งอยู่ตรงนี้ไม่ใช่คุณไอด้า แต่เป็นฝาแฝดของคุณไอด้า”
เจ้หยาดกับลูลู่และลูกน้องทั้ง 6 ต่างอ้าปากค้าง เพราะเธอเองได้ยินมาว่าตระกูลไพศาลสกุลรัตน์มีลูกสาวเพียงสองคนชื่อว่า ไอริน กับไอด้า ทั้งสองเป็นฝาแฝดที่หน้าตาไม่เหมือนกัน ทว่าตอนนี้กลับมีฝาแฝดที่มีใบหน้าเหมือนไอด้าราวกับแกะโผล่มาอีกคน ช่างเป็นเรื่องที่ช็อคของวงการคนรวยเสียจริง
“หน้าฉันเหมือนคนพูดเล่นงั้นหรือ”
คุณหญิงตระกูลดังทวนถาม ทำให้เจ้หยาดถึงกับหน้าถอดสี ก่อนรีบจะปรับให้เป็นปกติ
“ไม่ค่ะ หยาดไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น คือเท่าที่หยาดรู้มา คุณหญิงมีลูกเพียงสองคนค่ะ หยาดจึงเผลอทำท่าทางตกอกตกใจไปหน่อยค่ะ แหะ ๆ”
“เรื่องนี้ฉันอยากให้พวกเธอปิดเป็นความลับ ห้ามแพร่งพรายให้ใครรู้อย่างเด็ดขาด ที่ฉันจ้างพวกเธอมาและทำสัญญากับพวกเธอระยะยาว นั่นเป็นเพราะว่าจะให้พวกเธอช่วยแปลงโฉมดารินให้เหมือนกับไอด้าลูกสาวคนโตให้ฉันหน่อย”
“คะ?/คะ?”
เจ้หยาดกับลูลู่พูดพร้อมกับทำหน้าที่งงงวย
“รายละเอียดที่ลึกมากกว่านี้ฉันจะบอกไม่ได้ เอาเป็นว่าทำตามหน้าที่ที่ฉันจ้างพวกเธอมาก็แล้วกัน ส่วนทำยังไงให้ดารินเหมือนไอด้า ก็ให้ทิพย์เลขาคนสนิทของไอด้าเป็นคนแนะนำก็แล้วกัน”
“รับทราบค่ะคุณหญิง วางใจเจ้หยาดคนนี้ได้เลย”
ถึงแม้ว่าเจ้หยาดจะสงสัยว่าคุณหนูไอด้าตัวจริงไปอยู่ที่ไหน แต่เธอก็ไม่ได้ถามต่อ เรื่องที่นายจ้างไม่บอกให้รู้ เจ้หยาดเองก็ไม่ซักไซร้
รู้เรื่องเท่าที่เขาอยากให้รู้จะปลอดภัยต่อชีวิตของเธอกับลูกน้องมากกว่า เพราะฉะนั้นแล้ว ทำตามหน้าที่ ที่ได้รับจะดีที่สุด
“ดี ฝากด้วยนะทิพย์ แล้วก็เธอ อย่าทำให้ฉันผิดหวังล่ะ”
คุณหญิงลดาหันไปพูดกับทิพย์เลขาคนสนิทของไอด้า ก่อนจะหันมากำชับกึ่งออกคำสั่งกับลูกสาวที่เอาแต่นั่งก้มหน้าก้มตาไม่พูดไม่จาอยู่
“รับทราบค่ะ คุณหญิง”
ทิพวรรณตอบ ก่อนจะโค้งศีรษะเล็กน้อย
“ไอรินจ้ะ แม่ว่าเราไปช็อปปิ้งกันดีกว่า ได้ยินมาว่าวันนี้มีกระเป๋าใหม่ออกมาด้วย ไปดูกันเถอะจ้ะ”
คุณหญิงลดาพูดกับลูกสาวคนกลางเสียงนิ่มนวลซึ่งต่างจากพูดกับดารินที่น้ำเสียงจะดูห่างเหินราวกับไม่ใช่แม่ลูกกันจริง ๆ นั่นทำให้เจ้หยาดค่อนข้างจะแปลกใจกับความซับซ้อนของครอบครัวนี้