“ฉันไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ ต่อไปนี้ฉันจะขอเกลียดขี้หน้าผู้ชายหล่อๆ ทุกคน ยกเว้น...” เธอหยุดมองหน้าหล่อๆ ของเพื่อนแล้วยิ้มอย่างมีเลศนัย “แก”
ที่อิงลดายกเว้นเพื่อนสนิทไว้ เพราะรู้ดีว่าอีกฝ่ายไม่มีวันชายตาแลผู้หญิงเป็นอันขาด
“เออ ขอบใจนะที่ยังคิดเว้นฉันไว้สักคน” อาชวินพูดประชดแล้วกวาดสายตามองเพื่อนสนิทนิ่งๆ ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“รู้ตัวรึเปล่าน้ำอิง ว่าแกเป็นพวกเก็บกด ต้องคอยทำตัวเรียบร้อยเหมือนผ้าพับไว้ยามอยู่กับไอ้แจ๊ค ทั้งๆ ที่แกไม่ใช่คนแบบนั้นซะหน่อย หรือจะเถียง”
คนเป็นเพื่อนวิจารณ์ออกไปตรงๆ เพราะอิงลดาเป็นคนมีบุคลิกโดดเด่นทั้งรูปร่างและหน้าตา มาดมั่นเป็นสาวยุคใหม่ขณะอยู่ระหว่างการทำงาน แต่จะเปลี่ยนเป็นคนละคนทันทียามอยู่กับจักรพงษ์ จนเขาเคยเอ่ยปากว่าไปหลายครั้งเพราะความหมั่นไส้
‘ไอ้แจ๊คมันมีอิทธิพลอะไรกับแกนักหนาหือน้ำอิง! ถึงทำให้แกไม่เป็นตัวของตัวเองเวลาอยู่กับมัน ฉันไม่เข้าใจเลยจริงๆ’
คำพูดของเพื่อนทำให้อิงลดานิ่งเงียบอย่างยอมจำนน เพราะเป็นความจริงที่ไม่อาจปฏิเสธหรือโต้เถียงได้
“แกรู้ไหม ฉันอยากให้แกเป็นตัวของตัวเองแบบนี้มานานแค่ไหนแล้ว ตอนเป็นแฟนกับไอ้แจ๊คแกต้องคอยตามมันอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ให้มันเป็นคนตัดสินใจ ดีแล้วที่แกกับมันเลิกกันเสียได้ ต่อให้มันไม่ได้เป็นเกย์ก็เหอะ และคนที่ดีใจที่สุดคือพ่อกับแม่ของแก”
อาชวินร่ายคำพูดยืดยาวใส่เพื่อนเหมือนเก็บกดเอาไว้นานแล้ว
“พ่อกับแม่ฉันรู้เรื่องนี้แล้วเหรอ” อิงลดาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงตระหนกไม่แพ้สีหน้าพลางจ้องเพื่อนเขม็ง
คนเป็นเพื่อนยิ้มก่อนลอยหน้าลอยตาตอบ “ไม่เห็นแปลกตรงไหนเลยที่พ่อกับแม่ของแกจะรู้เรื่องนี้ เพราะฉันเองแหละที่เป็นคนรายงาน”
อธิก ผู้เป็นบิดาของอิงลดา ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่ง เมื่อปีก่อนย้ายไปรับตำแหน่งสูงกว่าเดิมที่จังหวัดระยอง โดยมีคุณอิงอรผู้มารดาลาออกจากงานตามไปอยู่ด้วย ทิ้งลูกสาวคนเดียวให้อยู่ในความดูแลของอินทิรา น้องสาวคนเล็กของอธิกที่อายุห่างกันยี่สิบปี ซึ่งเคยช่วยเลี้ยงดูหญิงสาวมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย
“แกนี่มันปากสว่างจริงๆ” อิงลดาต่อว่าเพื่อนเสียงเขียว ไม่อยากให้พ่อกับแม่ต้องมารับรู้เรื่องแบบนี้ เพราะอาจทำให้ไม่สบายใจขึ้นมาเปล่าๆ
“ไม่ต้องกลัวหรอกว่าพ่อกับแม่แกจะไม่สบายใจ ฉันว่าป่านนี้พวกท่านคงกำลังจุดพลุฉลองความเป็นโสดให้แกอยู่ก็เป็นได้” อาชวินพูดติดตลก แต่คงไม่เกินความจริงไปนัก เพราะตอนอิงลดาเป็นแฟนกับจักรพงษ์ ทั้งคู่เคยบ่นให้เขาฟังอยู่เสมอว่าไม่เคยชอบจักรพงษ์เลยสักนิดเดียว เพียงแต่ไม่เคยแสดงออกให้ลูกสาวรับรู้เท่านั้น
ตั้งแต่เล็กจนเติบใหญ่ อิงลดาไม่เคยสร้างความผิดหวังให้แก่บุพการี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความประพฤติ ที่เป็นเด็กดีมาโดยตลอดตั้งแต่เล็กจนโต ทั้งยังตั้งอกตั้งใจเรียนหนังสือ จบมหาวิทยาลัยของรัฐด้วยคะแนนเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง รวมทั้งเข้าทำงานในบริษัทเอเจนซี ที่รับจัดงานประชาสัมพันธ์และโพรโมตสินค้า จนปัจจุบันมีชื่อเสียงโด่งดังในวงการ
“ฉันเพิ่งรู้นะนิก ว่าพ่อกับแม่ฉันไม่เคยชอบแจ๊ค” อิงลดารำพึงรำพันออกมาเสียงแผ่วอย่างรู้สึกผิด
“เพราะแกทำตัวเป็นลูกที่ดี ไม่เคยเหลวไหลให้พ่อกับแม่ต้องมาเสียใจนี่หว่า แล้วพวกท่านจะกล้าบอกแกไหมล่ะว่าไม่ชอบแฟนของลูกสาว” คำพูดของผู้เป็นเพื่อนทำให้อิงลดาถึงกับเถียงไม่ออก
“แกบอกพ่อกับแม่ฉันด้วยรึเปล่าล่ะว่าฉันนั่งซดเบียร์จนเมามาย แถมยังร้องห่มร้องไห้อีกด้วย” อิงลดาเอ่ยประชด และแทบจะร้องกรี๊ดเมื่อได้ยินคำตอบ
“ไม่ต้องห่วงว่าฉันจะไม่บอก พ่อแกยังบอกเลยว่าถ้าอยู่ด้วยจะนั่งชนแก้วด้วยอีกต่างหาก” อาชวินบอกเพื่อนด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม ไม่ได้รู้สึกสลดไปกับท่าทางของเพื่อนเลยแม้แต่น้อย
“แหม! แกนี่มันเหลือเกินนะไอ้นิก” อิงลดากลอกตามองเพื่อนแล้วส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ ตามมาด้วยเสียงหัวเราะในเวลาต่อมา
“เอาน่า เวลานี้ฉันดีใจมากที่ได้เพื่อนตัวจริงกลับคืนมาเสียที หลังจากปล่อยให้แกจมปลักไปกับไอ้แจ๊คซะนาน”
ช่วงเวลาที่อิงลดาคบหาอยู่กับจักรพงษ์ อาชวินดูออกว่าคนรักของเพื่อนไม่ค่อยจะชอบหน้าเขาสักเท่าไร จึงไม่พยายามเอาตัวเข้าไปอยู่ใกล้ ได้แต่เฝ้าดูอยู่ห่างๆ อย่างห่วงใยและอาทร
“ตอนคบกับแจ๊คฉันเป็นแบบที่แกว่าจริงๆ หรือ”
“แกลองไปส่งกระจกดูตัวเองสิ ฉันคิดเวลานี้ว่าแกสวยขึ้นกว่าเก่าจมเลย หน้าตาสดใสดูมีความสุขมากกว่าก่อนมาก” อาชวินบอกเพื่อนด้วยน้ำเสียงจริงจัง ไร้แววล้อเล่นอย่างเคย
“ผ่านมาแค่สองวันเนี่ยนะ หน้าฉันเปลี่ยนไปได้ขนาดนั้นเชียว แกเว่อร์ไปรึเปล่า” อิงลดาเอ่ยอย่างไม่เชื่อถือนัก
“เอาละ แกจะไม่เชื่อก็ช่าง แล้วอย่าลืมล่ะพรุ่งนี้ฉันจะมารับแกไปไหว้พระเก้าวัดที่อยุธยา”
วันรุ่งขึ้นแม้ไม่ใช่วันหยุด แต่อิงลดาทำเรื่องขอพักร้อน ที่แทบจะไม่เคยลางานมาก่อนนับจากเริ่มทำงาน และอาชวินก็ได้อาสาพาเธอไปทำบุญ จิตใจจะได้ผ่อนคลาย
“อืม...แกมาเร็วหน่อยแล้วกัน จะได้ออกเดินทางแต่เช้า”
“โอเค ถ้างั้นฉันขอตัวก่อนแล้วกัน คืนนี้มีนัด” สีหน้าขณะพูดของอาชวินเต็มไปด้วยลับลมคมใน ซึ่งอิงลดาทราบดีว่านัดของอีกฝ่าย คงไม่พ้นหนุ่มหน้าใสที่มาตกบ่วงเสน่ห์เพื่อนของเธอ
“ขอบใจมากนะนิกที่แกคอยอยู่ข้างๆ ฉันเวลามีทุกข์” อิงลดาพูดกับเพื่อนด้วยความซาบซึ้ง แม้ช่วงเวลาที่ผ่านมาเธอจะไม่ค่อยมีเวลาให้เพื่อนนักก็ตาม แต่อีกฝ่ายกลับไม่เคยทอดทิ้งให้เธอเดียวดายเลยสักครั้ง
คงเป็นอย่างที่หลายคนมักชอบพูดว่า เวลามีความสุขอยู่กับแฟนแล้วมักจะลืมเพื่อน แต่เวลามีความทุกข์จากแฟน คนที่อยู่เคียงข้างก็ไม่พ้นเพื่อน