ทันทีที่เดินออกมาจากห้องของท่านประธานได้เพียงสองก้าว มารียาก็ถูกเอมอรที่ดักรออยู่เรียกไปสอบถาม เพราะกลัวว่าสาวเจ้าไปทำอะไรให้ผู้เป็นนายโกรธ ก่อนที่จะได้เข้ามาทำงานหรือเปล่า
“ท่านเรียกคุยเรื่องอะไรหรือคะ”
“เอ่อ...ท่านถามถึงลูกหมาที่ท่านเกือบขับรถชนวันก่อนน่ะค่ะ เป็นลูกหมาของรียา” มารียาบอกด้วยท่าทีสบายๆ ทั้งที่หัวใจนั้นลงไปกองอยู่ที่เท้าตั้งแต่ที่เห็นเอมอรยืนรออยู่
‘ปั้นน้ำเป็นตัวเลยนะเพื่อนเรา’ อลิชาแอบยิ้มในใจอย่างขบขันกับคำโกหกของเพื่อนสาว
“อ๋อ! เอมก็นึกว่าเรื่องอะไร ตกใจหมดเลย” เอมอรบอกอย่างโล่งใจ
“รียาก็ตกใจเหมือนกันค่ะ” มารียาปรับสีหน้า แล้วส่งยิ้มหวานให้กับอีกฝ่าย ก่อนจะตีเนียนเปลี่ยนเรื่องคุย “เอ่อ...ที่ชงกาแฟอยู่ไหนคะ”
“ท่านจะเอากาแฟสินะ ทางนี้เลยจ้ะ เดี๋ยวฉันจะพาไปสอน เพราะหนูกับ อลิซจะต้องคอยชงกาแฟให้ท่านและแขกที่เข้ามาคุยงาน” เอมอรบอกก่อนจะพยักหน้าให้สองสาวเดินตามไปยังเครื่องทำกาแฟสด
“ค่ะ/ค่ะ” มารียาและอลิชาพยักหน้ารับยิ้มๆ
อลิชาดึงแขนเพื่อนสาว แล้วกระซิบบอก “เรามีเรื่องต้องคุยกัน”
“เอาไว้ตอนพักเบรกค่อยคุย” มารียากลอกตาก่อนจะกระซิบตอบ
สิบนาทีต่อมา... มารียาถือถ้วยกาแฟแก้วที่เอมอรสาธิตให้ดูใส่ถาด แล้วเดินมาหยุดที่ห้องของท่านประธาน เธอยกมืออีกข้างขึ้นเคาะที่ประตูเบาๆ
ก๊อกๆ
“ขออนุญาตค่ะ”
“เชิญ” อีเดนขานตอบด้วยสีหน้าเรียบๆ ทั้งที่แทบจะเก็บรอยยิ้มเอาไว้ไม่อยู่
“ให้วางตรงไหนคะ” มารียามองค้อนคนที่เอาแต่จ้องด้วยสายตาหื่นๆ ตั้งแต่ที่เธอเปิดประตูเดินเข้ามา
“ตรงนี้” อีเดนชี้มาที่มุมโต๊ะด้านขวามือของตัวเอง
“จะรับอะไรเพิ่มอีกไหมคะ” มารียาวางกาแฟลงแล้วถามต่อตามที่เอมอรสอนมาเมื่อครู่
“ไปทำความสะอาดที่ห้องพักของผมให้หน่อยสิ ช่วงบ่ายๆ ผมจะเข้าไปใช้ห้อง” อีเดนบอกก่อนจะยกกาแฟขึ้นมาเป่าเบาๆ
“เอ่อ...ห้องที่ว่ามันอยู่ตรงไหนคะ” มารียาถามอย่างมึนงง
“ตรงรูปวาดใหญ่ๆ นั่นไง เดี๋ยวผมกดเปิดประตูให้” อีเดนหยิบรีโมตอันเล็กขึ้นมากด พลันประตูห้องก็เลื่อนออกให้เห็นทางเข้า
“ว้าว!” มารียามองห้องลับอย่างอึ้งๆ ก่อนจะหันมามองหน้าของคนที่นั่งยิ้มอยู่อย่างรู้สึกไม่ไว้ใจ “เอ่อ...แต่ว่า...”
“แค่นี้ทำไม่ได้เหรอรียา” อีเดนยกยิ้มมุมปากขึ้นอย่างหยอกเย้า
“ทำได้ค่ะ แต่ว่าทำไมไม่เรียกแม่บ้านให้ขึ้นมาทำความสะอาดล่ะคะ” มารียาถามอย่างไม่เข้าใจ ‘นี่เรามาทำงานเป็นผู้ช่วยเลขานะ ไม่ใช่พนักงานทำความสะอาดสักหน่อย’
“แม่บ้านทุกคนไม่มีใครรู้ว่ามีห้องนี้อยู่ มีแค่คุณ ผม กิ่งกาญ แล้วก็เอมอร ถ้าหากคุณไม่อยากทำก็ช่วยไปเรียกเอมอรหรือไม่ก็กิ่งกาญให้เข้ามาทำงานแทน” อีเดนเสนอทางเลือก
“ฉันทำเองค่ะ” มารียาถอนหายใจยาวอย่างเพลียๆ ‘หึ ให้หัวหน้ามาทำแทนเนี่ยนะ’
“เยี่ยม! งั้นก็เริ่มได้เลยครับ” อีเดนยกกาแฟขึ้นมาจิบอย่างอารมณ์ดี
เธอหันไปมองรอยยิ้มของอีกฝ่ายครู่หนึ่ง ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องลับที่มีเตียงขนาดคิงไซส์และห้องน้ำในตัว อย่างรู้สึกอึ้งๆ ‘แม่เจ้า! นี่มันยิ่งกว่าห้องพักวีไอพีของโรงแรมเลยนะเนี่ย’
มารียาแกะกระดุมที่แขนเสื้อออก แล้วพับขึ้นมาจนถึงข้อศอก เตรียมจะลงมือทำความสะอาดตามที่อีกฝ่ายบอก “จะเริ่มจากตรงไหนดีล่ะ นี่ก็สะอาดเนี้ยบจนไม่รู้จะสะอาดยังไงแล้ว เฮ้อ...”
“โอ้พระเจ้า นี่คุณจะทำความสะอาดจริงๆ งั้นเหรอรียา ฮ่าๆๆ” คนที่เดิมตามมาดูหัวเราะเสียงดังอย่างเก็บไม่อยู่
“กะ...ก็คุณบอกให้ฉันทำนี่” มารียาหันไปมองคนที่ยืนซ้อนอยู่ด้านหลังอย่างตกใจ
คลิก! อีเดนกดล็อกประตูห้อง แล้วรวบเอวบางเข้ามากอดอย่างรู้สึกโหยหา แบบที่ไม่เคยโหยหาใครขนาดนี้มาก่อน
“ผมอยากให้คุณทำอย่างอื่นมากกว่า” คนเจ้าเล่ห์ยิ้มกว้างทันใด
“ปล่อยนะไอ้คนบ้า!” มารียาบอกพลางทุบที่มือหนา แต่มันกลับ ทำให้อีกฝ่ายกอดกระชับรอบเอวของเธอแน่นขึ้นยิ่งกว่าเดิม
“กล้าด่าผัวเหรอ หืม...” อีเดนถามก่อนจะก้มลงหอมที่แก้มนวลอย่างจงใจจะสูดกลิ่นหอมๆ ของสาวเจ้า
“กรี๊ดดด” มารียากรีดร้องเมื่อริมฝีปากของอีกฝ่ายทาบทับลงที่แก้มซ้ายและขวา
“ร้องดังๆ เลยจ้ะ นี่ห้องเก็บเสียง” คนเจ้าเล่ห์กระซิบบอก
“หะ...ห้องเก็บเสียง” มารียาเอ่ยทวนเสียงสั่น มองเห็นคำว่าพลาดลอยมากระแทกหน้าแต่ไกล
“ใช่ เราจะทำอะไรก็ได้ในนี้ โดยที่ไม่ต้องกลัวว่าคนที่อยู่ข้างนอกจะได้ยิน” อีเดนเอ่ยย้ำถึงสรรพคุณของห้องลับ
“ไม่นะ! ก็ไหนเราตกลงกันแล้วไงว่า...” เธอเอ่ยทวงสัญญายังไม่ทันจบก็ถูกอีกฝ่ายขัดขึ้น
“ใช่ แต่ผมอดใจไม่ได้นี่” คนหน้ามึนเริ่มซุกไซ้ที่ต้นคอระหงอย่างอดใจไม่ไหว
“อย่านะอีเดน ได้โปรด...อย่าทำแบบนี้” มารียาบอกพร้อมกับยกมือไหว้อย่างอ้อนวอน กลัวอีกฝ่ายจะทำอะไรเธอในนี้ขึ้นมาจริงๆ
“ผมชอบที่คุณเรียกเมื่อกี้จัง มันเหมือนเรากำลังย้อนกลับไปในคืนนั้นเลย” อีเดนยกยิ้มที่มุมปากนิดๆ อย่างชอบใจ
“ปล่อยนะ! มีสติหน่อยสิ นี่ที่ทำงานนะ คุณคือท่านประธาน แล้วฉันก็คืนพนักงาน!” เธอรีบเตือนสติคนหื่น ก่อนที่ทุกอย่างจะไปจบลงที่เตียง
“ผมไม่เคยคิดว่าคุณเป็นพนักงานตั้งแต่แรก คุณก็รู้”
“ถ้าคุณยังพูดไม่รู้เรื่องอยู่แบบนี้ ฉันจะลาออก”
“ดี ผมจะได้ไม่ถูกนินทาว่าเล่นจ้ำจี้กับพนักงานสาวในห้องพัก”
“งั้นก็อย่าทำสิ”
“มันต้องทำเลยต่างหาก เพราะคุณลาออกไปแล้วเมื่อกี้ไง”
“โอ๊ยยย นี่ฉันทำเวรทำกรรมอะไรไว้ถึงต้องมาเจอคนที่พูดจาไม่รู้เรื่องอย่างคุณเนี่ยฮะ”
“หึ! ผมต่างหากที่ต้องพูดคำนี้รียา ถ้าคุณคิดเหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ ซะตั้งแต่แรก เราคงไม่ต้องมายืนเถียงกันอยู่แบบนี้หรอก”
“ก็ฉันไม่ใช่ผู้หญิงคนอื่นๆ ของคุณนี่”
“ผมรู้ว่าคุณไม่ใช่...”
ติ๊ดๆ ติ๊ดๆ เสียงสายเรียกเข้าดังขึ้นขัดจังหวะ ทำให้อีเดนต้องยอมปล่อยมือจากเอวบางอย่างหงุดหงิด แล้วล้วงมือถือขึ้นมากดดูเบอร์ก่อนจะรับสายของคนสนิท
“ว่าไง”
“เอ่อ...เสี่ยอยู่ไหนครับ” ธนินถามเสียงสั่นๆ
“อยู่ในห้องพัก มีอะไร” อีเดนบอกพลางจ้องมองคนที่ขยับหนีไปอยู่อีกฝั่งของเตียงอย่างคาดโทษ
“คุณเอมฝากถามว่าท่านจะฟังสรุปการประชุมครั้งก่อนหรือยัง เธอเตรียมเอกสารพร้อมแล้วครับ” ธนินรายงานต่อ
“บอกว่าอีกสิบนาทีค่อยเข้ามา” อีเดนบอกพร้อมกับเดินเข้าไปหาสาวเจ้าที่ยืนสั่นอยู่
“เอ่อ...แล้วผู้ช่วยเลขาคนใหม่ เอ่อ...” ธนินเอ่ยสิ่งที่เลขาใหญ่กระซิบบอกให้ถามด้วยหัวใจสั่นๆ
“อยู่ในห้องกับฉันนี่แหละ ฉันให้เธอมาช่วยหาของ นายมีอะไรงั้นเหรอ” อีเดนถามพร้อมกับจ้องมองใบหน้าที่งดงามราวกับนางฟ้านางสวรรค์อย่างรู้สึกหลงใหล
“ปะ...เปล่าครับ” ธนินรีบตอบก่อนจะรีบกดวางสาย กลัวผู้เป็นนายจะโกรธที่ไปละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัว
เมื่อยี่สิบนาทีก่อน... หลังจากที่ธนินเข้าไปดูแฟ้มในห้องประชุมเขาก็ออกมาเจอเข้ากับหญิงสาวคนที่ผู้เป็นนายให้ตามหา เดินถือกาแฟผ่านหน้าเขาไป เขายืนนิ่งอยู่กับที่ จนกระทั่งเอมอรเดินมาสะกิดแซวว่ามองตามผู้ช่วยเลขาจนตาค้าง เขาถึงได้สติ!
จากนั้นเอมอรก็พาไปแนะนำให้รู้จักกับผู้ช่วยเลขาอีกคน ‘อลิชา’ เขาทักทายสาวเจ้าครู่หนึ่ง ก่อนจะขอตัวกลับเข้าไปในห้องประชุม แล้วเปิดแฟ้มอ่านประวัติของสองสาวดูอย่างละเอียด
และสิบนาทีต่อมา เอมอรก็วิ่งเข้ามาหาด้วยสีหน้าตื่นๆ พร้อมบอกว่าผู้เป็นนายหายเข้าไปในห้องพักส่วนตัวกับผู้ช่วยเลขาคนใหม่ ให้เขาช่วยแกล้งลองโทรหาท่านประธาน เพราะกลัวว่าจะมีเรื่องไม่งามเกิดขึ้นในห้องพัก
“อย่าเข้ามานะ” มารียารีบบอกเมื่อเห็นคนหื่นเก็บมือถือใส่กระเป๋าแล้วเตรียมจะเดินเข้ามาประชิดตัวเธออีกครั้ง
“วันเสาร์ไปหาผมที่คอนโดแต่เช้า โอเค้” อีเดนตีมึนเอ่ยสรุปสถานการณ์
“ฉันไม่ไป ฉันจะลาออก” มารียาบอกอย่างรู้สึกหวาดกลัว
“งั้นก็ขึ้นเตียงกันเลย ผมไม่สนใจหรอกว่าอีกสิบนาทีเอมอรจะเข้ามาเจอเราเล่นจ้ำจี้กันอยู่บนเตียงหรือเปล่า” อีเดนเข้าไปฉุดข้อมือบาง
มารียารีบสะบัดข้อมือออกทันใด “บ้า! ทำไมในหัวคุณถึงมีแต่เรื่องหื่นๆ แบบนี้ฮะ วันๆ ไม่ทำการทำงานบ้างหรือยังไง”
“ทำสิ แต่คุณทำให้ผมคิดแต่เรื่องแบบนี้รียา”
“ฉันไปทำอะไรไม่ทราบ”
“คุณยั่วยวนผมให้เกิดความต้องการ” อีเดนต่อว่าก่อนจะส่งค้อนวงใหญ่ไปให้
“ฉันเนี่ยนะยั่วยวนคุณ” มารียาตาโตกับคำกล่าวหาของอีกฝ่าย
“ใช่ คุณนี่แหละ”
“แต่ฉันถูกคุณลวนลามนะ”
“คุณล่อลวงให้ผมทำต่างหาก” อีเดนบอกพลางยกไหล่ขึ้นนิดๆ
‘พระเจ้า มันต้องบ้าขนาดไหน ถึงจะคิดได้แบบนี้เนี่ย’ มารียาพยายามข่มใจให้เย็น ขณะจ้องมองคนตัวโตที่ยืนขวางประตูห้องด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก “ฉันจะออกไป ช่วยหลีกทางให้ด้วย”
“สัญญามาก่อนสิว่าวันเสาร์จะไปหาผมแต่เช้า” อีเดนยกข้อมือขึ้นมาดูเวลา คล้ายกับจะเตือนว่าเหลืออีกไม่กี่นาทีแล้ว ที่บุคคลที่สามจะเข้ามาในห้อง
“ไม่!” มารียาตอบกลับด้วยน้ำเสียงห้วนๆ
“ถ้าคุณไม่ไป ผมจะไปหาคุณที่บ้าน” อีเดนทำสีหน้าจริงจัง
“ก็ได้ๆ ทีนี้จะให้ฉันออกไปได้หรือยัง” มารียาเอ่ยตัดรำคาญ
“เดี๋ยว เอาช็อกโกแลตนี่ออกไปแบ่งคนอื่นๆ ด้วย บอกว่าผมฝากมาให้ เขาจะได้ไม่สงสัยว่าทำไมคุณหายไปนาน” อีเดนบอกก่อนจะเดินไปที่ตู้แช่ไวน์ที่มีกล่องช็อกโกแลตวางเรียงอยู่หลายกล่อง
“ค่ะ” มารียากลอกตา พร้อมกับรับกล่องช็อกโกแลตจากอีกฝ่ายมาถือเอาไว้
“รู้อะไรไหม ผมอยากให้วันพรุ่งนี้เป็นวันเสาร์จัง” อีเดนบอกพร้อมกับจ้องมองใบหน้าจิ้มลิ้มด้วยสายตาแวววาว ขณะที่จินตนาการต่างๆ นานาวิ่งชนกันให้วุ่นอยู่ในหัว
“เหรอคะ แต่ฉันอยากให้วันเสาร์หายไปจากปฏิทินจังเลย ขอตัวก่อนนะคะ ท่านประธาน” มารียาบอกก่อนจะเดินออกไปจากห้อง ที่อีกฝ่ายเปิดประตูให้ราวกับสุภาพบุรุษยังไงยังงั้น
อีเดนมองตามก่อนจะยกยิ้มที่มุมปากขึ้นนิดๆ กับกิริยาท่าทางของสาวเจ้า ‘ตัวคุณ ผมก็ได้แล้ว หัวใจของคุณ ผมก็ต้องได้มันเช่นกันรียา!’
สองนาทีต่อมา... ทันทีที่มารียาเดินออกมาที่ด้านนอกก็เจอกับเอมอรยืนถือแฟ้มเอกสารรออยู่
“เอ่อ...ท่านประธานให้เอามาแบ่งกันทานค่ะ” มารียารีบบอก
“อ๊ะ! นี่มันช็อกโกแลตของ Jacques Torres นี่นา” เอมอรก้มลงมองกล่องที่มักจะเห็นประจำในห้องพักส่วนตัวของผู้เป็นนายที่ชอบทานช็อกโกแลตร้านนี้เป็นพิเศษ “อย่าลืมแบ่งไว้ให้เอมด้วยนะคะ”
“ได้ค่ะ” มารียายิ้มกว้างให้อีกครั้ง
“ว้าว ลาภปากอีกแล้วสิ” กิ่งกาญรีบลุกจากโต๊ะทันทีทันใด
“อะไรเหรอคะ” อลิชาที่กำลังดูแฟ้มเงยหน้าขึ้นถามอย่างสงสัย
“ช็อกโกแลต ร้านดังของ New York จ้ะ วันก่อนเห็นคุณเซนหิ้วมาฝากคุณอีเดนน่ะค่ะ กิ่งก็ลุ้นๆ อยู่ว่าจะได้ชิมหรือเปล่า คิกๆ” กิ่งกาญบอกขณะมองกล่องที่มารียาวางลงบนโต๊ะทำงานของตัวเองด้วยหัวใจสั่นๆ
“ว้าว” อลิชาจ้องมองด้วยสีหน้าตื่นเต้น
“ท่านประธานให้แบ่งกันคนละกล่องค่ะ” มารียาบอกสองสาว ก่อนจะยิ้มกว้างให้อย่างขบขัน
“กรี๊ด” กิ่งกาญกับอลิชากรีดร้องเบาๆ อย่างดีใจ ก่อนจะหยิบกล่องที่เหมือนๆ กันไปเปิดดูช็อกโกแลตชิ้นเล็กที่หน้าตาน่าทานด้วยสีหน้าเคลิบเคลิ้ม
มารียาลอบถอนใจอย่างโล่งอกเมื่อเห็นสองสาวสนใจช็อกโกแลตมากกว่าจะเอ่ยถามถึงเรื่องที่เธอหายเข้าไปในห้องของท่านประธานใหญ่นานๆ
12 : 07 น. เอมอรที่เพิ่งจะสรุปการประชุมเสร็จเดินออกจากห้องของประธานใหญ่มาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม เมื่อเห็นกิ่งกาญกับสองสาวต่างก้มหน้าก้มตาทำงานกันจนลืมเวลาพักเบรกที่เลยไปเกือบสิบนาที
“นี่เลยเที่ยงแล้วนะสาวๆ”
“จริงด้วย น้องรียา น้องอลิซ ไปทานข้าวกันค่ะ” กิ่งกาญเหลือบมองเวลานาฬิกาบนผนังก่อนจะรีบกดพักหน้าจอ
“ค่ะ/ค่ะ” สองสาวเอ่ยรับ ก่อนจะรีบเก็บของ
“เดี๋ยวพี่กิ่งจะพาไปทานมื้อเที่ยงที่ศูนย์อาหารด้านล่างค่ะ” กิ่งกาญบอกด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“อาหารที่บริษัทมีแต่เมนูอร่อยๆ จ้ะ” เอมอรบอกยิ้มๆ
“อ๊ะ แล้วท่านไม่ออกไปหาอะไรทานหรือคะ” กิ่งกาญสงสัยเพราะยังไม่เห็นเจ้านายสุดหล่อออกมาจากห้อง
“อืม ไม่รู้สิ เมื่อกี้ตอนสรุปงานเสร็จเห็นท่านมีสายเข้าพอดี เอมก็เลยรีบเดินออกมา” เอมอรบอกพร้อมกับยักไหล่ทั้งสองข้างขึ้นนิดๆ
“สงสัยสาวๆ โทรตามแน่ๆ เลยค่ะ คิกๆ” คำพูดของกิ่งกาญทำให้มารียาถึงกับชะงักไปทันใด
“ท่านไม่เคยให้เบอร์สาวๆ นะเท่าที่รู้ ส่วนใหญ่ผู้หญิงทุกคนจะติดต่อท่านผ่านทางคุณธนินเท่านั้น” เอมอรเอ่ยแก้
“ท่านหวงความเป็นส่วนตัวใช่ไหมคะ” อลิชาที่เงียบมานานถามขึ้นอย่างอยากรู้
“ก็พอสมควรนะ เพราะเอมยังไม่เคยเห็นมีสาวๆ มาตบตีกันที่บริษัทจ้ะ” เอมอรบอกด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริง
“แต่ข้างนอกนี่ดารากับนางแบบซัดกันนัวเลยค่ะขอบอก” กิ่งกาญเสริมเพราะเห็นข่าวคราวของท่านประธานใหญ่กับดารานางแบบตามหนังสือกอสซิปคนดังอยู่แทบตลอด
“ว้าว ขนาดนั้นเลยหรือคะ” อลิชาตาโต ก่อนจะเหลือบไปมองใบหน้าของเพื่อนสาวอย่างสังเกตอาการ
“แหม น้องอลิซไม่รู้อะไรซะแล้ว คุณอีเดนน่ะหล่อและรวยจนติดอันดับต้นๆ ของประเทศเลยนะ นางแบบเอย นางเอกเอย เข้าแถวมารอถวายตัวกันไม่ขาดสายเลยจ้ะ” กิ่งกาญบรรยายสรรพคุณของผู้เป็นนายต่ออย่างเมามัน เอ๊ย! อย่างออกรส
“แสดงว่าท่านไม่ชอบผูกมัดสินะคะ” อลิชาถามเผื่อใครบางคนอย่างอดไม่ได้
“ใช่จ้ะ แต่ก็ไม่แน่นะ ตอนนี้ท่านอาจจะเจอคนที่อยากจะผูกมัดแล้วก็ได้” เอมอรบอกอย่างประเมินสถานการณ์
“หัวหน้ารู้ได้ไงคะ?” กิ่งกาญหันไปถามด้วยสีหน้าตื่นเต้น
“ก็สามชั่วโมงที่เอมนั่งบรรยายงานไป ไม่รู้ว่าเข้าหูท่านไปกี่คำน่ะสิ เอาแต่มองถ้วยกาแฟ แล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างกับคนมีความรักแน่ะ!” เอมอรบอกอาการของผู้เป็นนายอย่างขำๆ ขณะที่มารียาเริ่มหน้าแดงขึ้นนิดๆ
“ไม่จริงอ่ะ” กิ่งกาญที่เกาะติดสถานการณ์มาตลอดถามอย่างไม่เชื่อหูว่าตนเองจะพลาดข่าวนี้ไปได้
“จริง” เอมอรปรายตามองก่อนจะเอ่ยย้ำอีกครั้งอย่างมั่นใจ
“แล้วใครกันคะสาวผู้โชคดีคนนั้น” กิ่งกาญรีบถามต่อ
“เธอก็ลองถามท่านดูสิ่งกิ่งกาญ คิกๆ” เอมอรเอ่ยหยอก
“แหม คุณเอมคะ กิ่งไม่กล้าหรอกค่ะ” กิ่งกาญบอกก่อนจะส่งค้อนวงใหญ่ไปให้อย่างอดไม่ได้ ‘ใครกล้าถามก็บ้าแล้ว!’
“รีบไปทานข้าวกันดีกว่าจ้ะสาวๆ” เอมอรบอกพร้อมกับกดลิฟต์ลงไปชั้นสามที่เป็นศูนย์อาหาร
“ค่ะ” มารียาเอ่ยรับก่อนจะเดินตามทุกคนเข้าไปในลิฟต์
อลิชารับรู้ถึงอาการบางอย่างที่เปลี่ยนไปของเพื่อนสาว ขณะที่คำถามมากมายเริ่มปลุกเร้าความอยากรู้ จนอยากให้ถึงเวลาเลิกงานเร็วๆ
13 : 15 น. (ชั้นผู้บริหาร)
หลังจากที่ทานอาหารกลางวันเสร็จ มารียาก็กลับขึ้นมาพร้อมกับคนอื่นๆ เตรียมตัวจะเริ่มทำงานในช่วงบ่ายต่อ
“อาหารอร่อยมากๆ เลยค่ะ” อลิชาเอ่ยชมด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“พี่บอกแล้ว” กิ่งกาญยิ้มกว้างขึ้นมาทันใดที่มีคนเห็นด้วย
“พรุ่งนี้อลิซจะลองทานราดหน้าทะเลค่ะ” คนช่างพูดบอกด้วยสีหน้ามุ่งมั่น
“คิกๆๆ เมื่อก่อนพี่ทานอาทิตย์ละสี่วันจนโดนได้ฉายาว่ากิ่งราดหน้าแน่ะ” กิ่งกาญบอกขำๆ
“คิกๆๆ” มารียาอดหัวเราะตามคำบอกเมื่อครู่ไม่ได้
“คุณเอมครับ ท่านให้เตรียมเอกสารที่ต้องใช้ทำสัญญากับทางร็อฟเวลล์ครับ” ธนินบอกเลขาใหญ่ ก่อนจะมองเลยมายังผู้ช่วยเลขาใหม่ทั้งสองคน
“ท่านจะเอาไป...”
“ท่านจะบินไปคุยงานด่วนกับคุณแดเนียลที่เชียงใหม่ตอนเย็นนี้ครับ” ธนินหันกลับไปตอบ
“ทางนู้นเลื่อนกำหนดเหรอคะ” เอมอรขมวดคิ้วถามอย่างสงสัย
“ครับ เห็นว่าทางคุณแดเนียลมีงานสรุปงบปลายปีรออยู่”
“รอไม่เกินยี่สิบนาทีค่ะ เดี๋ยวเอมปริ้นท์ให้เลย”
“ขอบคุณครับ”
“คุณธนินคะ นี่คุณมารียาผู้ช่วยเลขาใหม่ของเราค่ะ” กิ่งกาญเอ่ยแนะนำเพราะคิดว่าทั้งสองยังไม่รู้จักกัน
“สวัสดีครับ ยินดีที่ได้รู้จักอย่างเป็นทางการครับ” ธนินยิ้มบางๆ ให้
“สวัสดีค่ะคุณธนิน” มารียายกมือไหว้อีกฝ่ายอย่างอายๆ
“แล้วท่านทานข้าวหรือยังคะ” กิ่งกาญถามอย่างเพิ่งนึกขึ้นได้
“ท่านกลับไปเตรียมตัวที่คอนโดเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนแล้วครับ”
“เอ่อ... แล้วคุณธนินไปด้วยหรือเปล่าคะ” กิ่งกาญถามต่อ
“ไม่ครับ ท่านไปกับบอดี้การ์ด”
“กี่วันคะ”
“น่าจะหลายวันครับ เห็นว่ามีนัดรวมตัวสังสรรค์กับเพื่อนๆ ในกลุ่มที่ไร่สิรันยากรณ์ต่อน่ะครับ” ธนินบอกก่อนจะลอบสังเกตอาการของสาวที่ทำให้ผู้เป็นนายอยู่ไม่สุข
“ว้าว งั้นกิ่งขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ” กิ่งกาญบอกพลางเดินเข้าไปนั่งที่โต๊ะทำงานของตัวเอง
“ครับ” ธนินพยักหน้าน้อยๆ ก่อนจะเดินตรงเข้าไปด้านในห้องทำงานของผู้เป็นนายเพื่อหยิบของสำคัญ
มารียามองตามแผ่นหลังของชายที่ได้ชื่อว่าเป็นมือขวาของอีเดน ก่อนจะแอบคลี่ยิ้มออกมาอย่างสุขในหัวใจ เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายจะไม่อยู่รบกวนจิตใจเธอไปอีกหลายวัน