3 เสียตัว เสียใจ เสียชีวิต

1909 คำ
“ลูกยังไม่กลับบ้านรึไงถึงทำหน้าแบบนั้นน่ะคุณหญิง” “คะ! เอ่อ พูดอะไรกันคะเจ้าสัว ลูกน่ะ...ตื่นไปทำรายงานบ้านเพื่อนตั้งแต่เช้าแล้วค่ะ” “งั้นเหรอ ไม่ยักรู้ว่ายัยหนูจะตื่นเช้าเป็น” “งั้นเราไปทานข้าวกันนะคะ ดิฉันทำอาหารที่เจ้าสัวชอบทั้งนั้นเลย” คุณหญิงพิณพาน รีบโกหกสามีเมื่อไม่อยากให้ลูกสาวคนเล็กต้องถูกบิดาลงโทษอีก ก่อนจะรีบพา เจ้าสัวสัญชัย เข้าไปในห้องอาหารที่มีอาหารเต็มโต๊ะไปหมด “แล้วยัยพิณตอนไหนจะกลับมา ลูกไปเที่ยวนานเกินไปแล้วนะ อีกไม่นานก็จะต้องมาดูแลบริษัทแล้ว ทำไมยังเอาแต่เที่ยวเตร่อยู่แบบนั้น” เจ้าสัวสัญชัยอดที่จะถามถึง เพลงพิณ ลูกสาวคนโตที่ไม่ได้เจอมาร่วมเดือนไม่ได้ “เห็นบอกว่าอาทิตย์หน้าจะกลับมา ลูกซื้อของฝากที่คุณถูกใจมาให้ด้วยนะคะ ลูกไม่ให้บอก เห็นว่าอยากเซอร์ไพรส์” “ฮ่าฮ่าฮ่า ลูกคนนี้ มีของฝากมาให้อยู่เรื่อย” พอได้ยินแบบนั้น เจ้าสัวสัญชัยถึงกับเปลี่ยนเป็นอารมณ์ดีหัวเราะออกมาเสียงดัง จนคุณหญิงพิณพานรู้สึกโล่งใจไปด้วย เพลงพิณเป็นลูกสาวคนโตของเจ้าสัวสัญชัย เกิดมาเพียบพร้อม ทั้งรูปร่าง หน้าตา ทรัพย์สมบัติ แถมยังฉลาดรอบรู้จนคนเป็นพ่อกับแม่สุดแสนจะภูมิใจ ต่างจาก เพลงขวัญ ลูกสาวคนเล็ก ที่ถึงแม้จะเกิดมาเพียบพร้อมไม่ต่างจากพี่สาว ทั้งรูปร่างหน้าตาแทบไม่มีอะไรแตกต่างนอกจากอุปนิสัยที่ทั้งเอาแต่ใจและแสนดื้อรั้นจนคนเป็นพ่ออดที่จะทำโทษไม่ได้ ถึงจะเป็นแบบนั้นแต่ทั้งสองก็ถูกเลี้ยงมาด้วยความรักและเอาใจใส่ เมื่อมารดาอย่างคุณหญิงพิณพานทั้งใจดีและแสนจะตามใจลูกๆของเธอ “โอ๊ย! อื้อออออ” ทางด้านเพลงขวัญ เธอค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมาและพบว่าร่างกายของเธอเจ็บปวดไปหมด พอมองไปรอบๆห้องกลับพบว่ามันไม่ใช่ห้องของเธอ “ที่ไหนเนี่ย...โอ๊ย เจ็บไปหมด...” เธอพยายามลุกแต่กลับต้องล้มลงไปนอนที่เดิมเพราะกลางกายเจ็บจนทนไม่ไหว เพลงขวัญมองไปรอบๆห้องอีกครั้งซึ่งมันเหมือนกับห้องในโรงแรมก็ไม่ปาน ก่อนเธอจะมองหาโทรศัพท์และพบว่าในห้องนี้ไม่มีอะไรเลย เพลงขวัญพยายามลุกขึ้นอีกครั้งแล้วเดินไปเอาเสื้อคลุมอาบน้ำมาคลุมตัว ม่านอันมืดมิดถูกเปิดออกและเพลงขวัญก็พบแต่วิวเมืองอันสวยงามเพราะเธออยู่ในชั้นสูงสุดของตึกแห่งนี้ “อะไรกัน...หรือว่าห้องอีตานั่น...” พอคิดถึงเรื่องนั้นเธอถึงกับตาโตอย่างตกใจ ความทรงจำต่างๆเริ่มกลับมา “ตายๆๆๆ ต้องรีบออกจากที่นี่ แล้วกระเป๋าของเราหายไปไหน โอ๊ย! แล้วนี่กี่โมงแล้ว คุณพ่อต้องลงโมษอีกแน่ ฮือๆๆๆ ทำไงดีๆๆๆ” เพลงขวัญได้แต่เดินกระวนกระวายไปมาเมื่อเสื้อผ้าก็ไม่มีใส่ โทรศัพท์ก็ไม่มีใช้อีก เธอเดินไปที่ประตูห้องแล้วพยายามเปิดมันออก แต่ดูท่าจะถูกล็อคจากด้านนอก “เธอน่าจะตื่นแล้วครับ คนที่เฝ้าอยู่หน้าห้องแจ้งมาครับ” ตะวันรายงานขึ้น “อืม เฝ้าต่อไป เธอรู้เรื่องที่เราคุยกันเมื่อวาน ปล่อยไปไม่ได้เด็ดขาด” “ครับ...เราควรจัดการเธอ ก่อนที่เรื่องจะไปถึงหูคนอื่น...ผมว่า...” ตะวันถึงกับแปลกใจเมื่อเจ้านายของเขาลังเลอย่างเห็นได้ชัด “ขังเอาไว้ เดี๋ยวฉันจะตัดสินใจทีหลัง” เมฆามาเฟียร้ายผู้เลือดเย็นที่เกิดมาพร้อมกับทรัพย์สินและอำนาจอันเหลือล้นทำให้เขาไม่เคยคิดเกรงหรือกลัวอะไรเลย เมื่อไม่เคยมีใครทำอะไรเขาได้แม้แต่ปลายเล็บ เขาหยิ่งผยองและเต็มไปด้วยความมั่นใจ “นี่อะไร?” “กระเป๋าของเธอครับ” เขามองไปเห็นกองกระเป๋าและเสื้อผ้าเลยถามขึ้น ก่อนจะเดินไปหยิบมันขึ้นมาดู “เพลงขวัญเหรอ...เกิด 2543...” เมฆาอ่านข้อมูลในบัตรประชาชนของเพลงขวัญ ก่อนสองคิ้วจะขมวดเข้าหากันยุ่ง “ยัยเด็กนั่น!! บ้าชิบ!!!” และเขาก็ได้รู้ความจริงว่าเด็กสาวที่เขามีอะไรด้วยเมื่อคืนอายุเพียง 20 ปีเท่านั้น แสดงว่าเธอโกหก แล้วอีกอย่างอายุแค่นั้นเข้าไปอยู่ในผับได้ยังไงกัน “มีอะไรรึเปล่าครับ หรือว่ามีเรื่องผิดปกติ” ตะวันรีบถามเมื่อเห็นว่าเจ้านายสบถขึ้นเสียงดัง “ไม่มี...ยกเลิกประชุมเย็นนี้ ฉันจะไปหาเด็ก...ผู้หญิงคนนั้น” เมฆาเลือกที่จะปิดบัง เมื่อเธอเด็กเกินไปสำหรับการลากขึ้นเตียง แถมเธอยังเข้าผับได้อีก บางทีเพลงขวัญอาจไม่ใช่แค่เด็กสาวธรรมดาอย่างที่คิด ส่วนทางด้านเพลงขวัญที่พยายามหาทางออกจนหมดหนทางเมื่อทั้งห้องล้อมรอบไปด้วยกระจก ส่วนระเบียงก็สูงลิบลิ่วนอกจากกระโดดลงไปก็ไม่มีทางอื่นอีกแล้ว ประตูก็ถูกล็อกอีก “หรือเขาคิดจะฆ่าเราจริงๆ...ไม่นะ เขาก็ได้ในสิ่งที่ต้องการไปแล้วนี่ยังจะต้องการอะไรอีก! ไอ้คนที่เขาฆ่า เราก็ไม่รู้จักเลยสักนิด จะฆ่าใครแล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉันด้วย ฮือๆๆๆ ไม่ได้อยากรู้อยากฟังสักหน่อย ฮือๆๆๆๆ ทำยังไงดี คุณแม่ คุณพ่อช่วยเพลงด้วย ฮือๆๆๆ” พอหาทางออกไม่ได้ เพลงขวัญเลยนั่งร้องไห้เอาเสียดื้อๆ เสียตัว เสียใจยังต้องมาเสียชีวิตอีก ชีวิตที่เคยคิดว่าไม่มีใครหรืออะไรมาทำร้ายเธอได้เพราะมีบิดายิ่งใหญ่คับฟ้าแต่ตอนนี้มันไม่ใช่ เมื่อเธออยู่ในกำมือของใครก็ไม่รู้ แล้วจะถูกฆ่าตอนไหนก็ไม่รู้อีกเหมือนกัน “ร้องไห้ทำไม?” แต่อยู่ดีๆเสียงหนึ่งก็ดึงขึ้น เพลงขวัญถึงกับหยุดร้องเงยหน้ามองไปที่ต้นเสียง และเธอก็ต้องตกใจเมื่อเป็นเขา คนที่จะฆ่าเธออย่างแน่นอน “คะ...คุณ! ฮือๆๆๆ จะมาฆ่าฉันใช่ไหม ฮือๆๆๆ อย่าทำอะไรฉันเลยนะ ฮือๆๆๆ ฉันสาบานว่าจะไม่บอกใคร ฮือๆๆ อย่าทำอะไรฉันเลยนะ ฮือๆๆๆ” เธอรีบยกมือไหว้ขอชีวิต ทำเอาเมฆาต้องยิ้มร้ายออกมา เขาเดินเข้ามายืนตรงหน้าของเพลงขวัญแล้วพูดขึ้น “ความจำยังดีนี่ ขนาดอายุยังโกหก แล้วจะให้เชื่อใจอะไรได้อีก” “ฮึก...คะ...คุณรู้ ฮึก...” และเพลงขวัญก็ต้องตกใจเมื่อเขารู้แล้วว่าเธอโกหกเรื่องอายุ “เธอนี่มันจริงๆเลย อายุแค่ 20 ริอาจหนีเที่ยวเข้าผับ ไม่กลัวตำรวจจับรึไง” “ฮึก...ไม่กลัว...กลัวคุณ ฮึก...มากกว่า...” เธอตอบออกมาพร้อมเสียงสะอื้น เพลงขวัญเงยหน้ามองเขาอย่างหวาดกลัว เมื่อตลอดชีวิตที่โตมานอกจากบิดาเธอก็ไม่เคยกลัวใครมากเท่าเขามาก่อน “ถ้าฉันปล่อยเธอไป จะแน่ใจได้เหรอว่าเธอจะไม่ปากโป้ง เด็กอย่างเธอเชื่อใจอะไรได้” เมฆาบอกขึ้นพร้อมกับมองเธออย่างชั่งใจ ถึงเขาจะเลวขนาดไหนเขาก็ไม่เคยฆ่าใครโดยไม่มีเหตุผล ยิ่งเป็นเด็ก คนแก่และผู้หญิงแล้ว เขาแทบไม่เคยแตะต้อง แต่ที่พูดไปก็เพื่อข่มขู่เธอก็เพียงเท่านั้น “เชื่อใจฉันได้ ถึงฉันจะโกหกเรื่องอายุ แต่ฉันไม่เคยผิดคำสาบานเลยนะ...เชื่อฉันสิ ฉันจะเอาไปพูดเพื่ออะไร ฉันเองก็กลัวตายเหมือนกัน อีกอย่าง...ฉันก็ไม่ได้รู้จักคนที่คุณฆ่า ปล่อยฉันไปเถอะนะ...” เพลงขวัญรีบบอกพร้อมกับยกมือไหว้ เมฆามองเธออย่างนึกขำ เขาไม่เคยทำเรื่องไร้สาระแบบนี้มาก่อน แถมเมื่อคืนยังมีอะไรกับเธอจนแทบหมดเรี่ยวแรง และเขาก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าถูกใจเธอขนาดไหน เสียดายเธออายุแค่ 20 และเด็กเกินไปถ้าเขาจะเลี้ยงเธอไว้เพื่อสนองตัณหา “ฉันจะปล่อยเธอไปก็ได้ แต่อย่าคิดว่าจะปล่อยไปง่ายๆ ฉันจะให้คนคอยตามติด ถ้าเกิดเธอเอาเรื่องนั้นไปพูด ฉันจะจัดการเธอทันที ทั้งพ่อแม่พี่น้องฉันก็จะจัดการให้หมดจำเอาไว้” เมฆาขู่ขึ้นพร้อมกับทำหน้าจริงจังจนเพลงขวัญหวาดกลัว “อื้อๆๆ ฉันจะไม่พูดมันแน่นอนฉันสาบานๆๆ” “หึหึ ก็ลองพูดดูสิ...หรือว่าฉันควรตัดลิ้นของเธอดี” “อุ๊บ!” เพลงขวัญรีบเอามือปิดปาก คนช่างพูดอย่างเธอถ้าไม่มีลิ้นแล้วจะพูดได้ยังไง จากนั้นเมฆาก็ให้คนเอาเสื้อผ้าชุดใหม่และกระเป๋าของเธอเข้ามาให้ เขาสั่งให้ลูกน้องคอยตามติดและคอยสอดส่องดูว่าเพลงขวัญไปเจอและพูดกับใครบ้าง เมื่อยังไงเขาก็ให้เรื่องการตายของสตีฟหลุดออกไปไม่ได้ “หยุดอยู่ตรงนั้นเลย!” “คุณแม่!!!” เพลงขวัญที่ถูกปล่อยตัวออกมาและพึ่งกลับมาถึงบ้านถึงกับสะดุ้งกับเสียงอันเยือกเย็นของมารดา “หายไปไหนมาทั้งคืนห๊ะ!” คุณหญิงพิณพานถามขึ้นพร้อมกับเดินเข้ามาหาเมื่อเธอร้อนใจจนแทบบ้าที่ลูกสาวหายตัวไปทั้งคืนจนเกือบเย็นแบบนี้ “คุณแม่คะ เอ่อฟังเพลงอธิบายก่อนค่ะ” “อธิบายหรือแก้ตัว ห๊ะ! ยัยตัวดี แกรู้ไหมว่าแม่ต้องโกหกคุณพ่อไปกี่รอบแล้ว มานี่เลยนะ จะตีให้ตายเลย” “อ๊ายยย อย่านะคะคุณแม่ อย่าทำอะไรเพลงนะคะ!” เพลงขวัญร้องออกมาเสียงดังพร้อมกับรีบวิ่งขึ้นไปบนบ้านเพื่อหนีการลงโทษของมารดา ถึงแม้เธอจะอายุ 20 แล้ว แต่สำหรับมารดาเธอเหมือนอายุแค่ 5 ขวบเท่านั้นจริงๆ เสียงดังของสองแม่ลูกไม่ได้ทำให้พวกคนรับใช้ตกใจหรือรีบวิ่งเข้ามาห้ามเลยเมื่อเป็นเรื่องปกติของบ้านนี้แทบจะทุกวันเลยก็ว่าได้ เพราะใครๆต่างก็รู้ว่าลูกสาวคนเล็กของบ้านนี้แสบขนาดไหน ส่วนคนเป็นแม่ก็เป็นแบบนี้ทุกวันแต่ไม่เคยจะกล้าตีลูกสาวจริงๆจังๆเลยสักครั้งนี่สิ แกร็ก! ปึง!! “แฮ่กๆๆๆ ทำไมวันนี้คุณแม่ดูน่ากลัวอย่างนี้เนี่ย! แฮ่กๆๆ” เพลงขวัญรีบปิดประตูลงกลอนทันทีที่ขึ้นมาถึงห้องนอนของเธอ ก่อนจะเดินไปทิ้งตัวลงนอนบนเตียงกว้างอย่างเหนื่อยล้า ตากลมโตเบิกกว้างก่อนทุกอย่างที่ผ่านมาเพียงชั่วข้ามคืนจะไหลเข้ามาในสมองของเธอ “ทำยังไงดี...จะทำยังไงดี...บอกคุณพ่อให้ช่วยดีไหม แต่ถ้าคุณพ่อคุณแม่รู้ต้องผิดหวังเสียใจแน่ๆ ไม่น่าออกไปเลยเมื่อคืน...ทำยังไงดี...” เพลงขวัญกลับต้องมาคิดหนักอีกรอบ เมื่อการหนีเที่ยวครั้งนี้มันทำให้เธอต้องจดจำไปตลอดชีวิตอย่างแน่นอน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม