SENIORS 20
***************************
ฉันนั่งนิ่งๆ อยู่นานจนรู้สึกว่าตัวเองจะเป็นเหน็บชาเพราะพี่อาร์ไม่ยอมตื่นสักที ฉันก็เลยต้องปลุกเขา
นสะกิดที่แขนสองสามทีเขาก็ไม่ยอมตื่นแถมยังมีเสียงกรนเบาๆ ด้วยนะ ฉันก็เลยหัวเราะออกมา
เอาจริงๆ เลยนะฉันไม่เคยได้เห็นมุมแบบนี้ของพี่อาร์เลยเพราะเขาไม่เคยแสดงด้านนี้ให้ฉันได้เห็น
อาจจะไม่ใช่แค่ฉันหรอกที่ไม่เคยเห็นฉันว่าทุกคนก็คงไม่เคยเห็นเหมือนกัน เพราะเขาเคยบอกฉันเองว่าถ้าไม่สนิทกันเขาจะไม่ยอมให้ใครได้มารู้จักตัวตนของเขาง่ายๆ
ฉันเองก็ไม่ได้สนิทกับพี่อาร์มากขนาดนั้นหรอกเพียงแต่เวลาที่มีเรื่องงานให้ช่วยฉันก็จะมาหาเขา และบังเอิญฉันก็ปรึกษาเขาหลายต่อหลายครั้งมากเลยทำให้เราสนิทกันไง
ฉันเองก็ยังแปลกใจเลยที่จู่ๆ เขาก็มาบอกว่าอยากจริงจังกับฉัน และชอบฉันมานานแล้วแต่ไม่กล้าบอก
พอฉันไปบอกชอบเขา เขาก็เลยอยากลองจีบฉันขึ้นมาซะอย่างนั้น แล้วใครจะไปเชื่อกันล่ะว่าเขาอยากจริงจังกับฉันจริงๆ อ่ะ
“พี่อาร์คะ”
พอสะกิดแล้วไม่ตื่นฉันก็เลยต้องก้มหน้าเข้าไปเรียกข้างหูร่างสูง ฉันไม่ได้อยากปลุกเขาหรอกนะแต่ตอนนี้คือฉันปวดขามากจนขยับไม่ได้เลย
และฉันก็เป็นเหน็บชาแล้วด้วย พี่อาร์ขยับตัวนิดหน่อยแต่ก็ยังไม่ตื่นฉันก็เลยต้องเรียกเขาอีกครั้ง
“พี่อาร์ตื่นได้แล้วค่ะ”
ฉันก้มหน้าลงไปเรียกพี่อาร์ใกล้ๆ และเป็นจังหวะเดียวกับที่เขาหันหน้าเข้าหาฉันพอดีเลยทำให้ปากของฉันกับปากของเขาประกบกันเข้าพอดี และพี่อาร์ก็ลืมตาตื่นขึ้นมามองหน้าฉัน
ฉันตกใจมากรีบชักหน้ากลับมาพร้อมกับยกมือขึ้นปิดปากตัวเอง คนตรงหน้าขยี้ตาตัวเองก่อนจะลุกขึ้นนั่งเหมือนว่าเมื่อกี้เขาไม่รู้ว่าปากของตัวเองมาโดนปากฉัน
เพราะงั้นฉันก็ต้องทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเหมือนกัน ตอนนี้คือหัวใจฉันเต้นแรงมาก มันเต้นแรงจนฉันกลัวว่าอีกฝ่ายจะได้ยินเสียงหัวใจของฉันด้วย
นี่เป็นครั้งแรกเลยมั้งที่หัวใจของฉันมันเต้นแรงให้ผู้ชายอ่ะ
“มืดแล้วเหรอ?”
พี่อาร์ลุกเดินไปเปิดไฟทำให้ภายในห้องสว่างขึ้นมาทันที และฉันก็สามารถมองเห็นหน้าเขาได้อย่างชัดเจนเลยด้วย
เขาดูเหมือนไม่รู้ว่าเมื่อกี้ปากของเราโดนกันเพราะถ้าเขารู้เขาจะต้องพูดแซวฉันหรือไม่ก็ทำหน้าล้อเลียนฉันแล้ว
แต่ถึงเขาจะไม่รู้ฉันก็รู้สึกร้อนวูบวาบที่ใบหน้าไม่กล้ามองหน้าเขาเลย เลยเลือกที่จะมองไปทางอื่นจนกระทั่งพี่อาร์เดินเข้ามานั่งข้างฉันแล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้
“มะ..มองหน้าทำไมคะ?”
“เมื่อกี้ตอนหลับพี่ฝันด้วยนะ อยากรู้ป่ะว่าฝันถึงใคร?”
“ถ้าอยากบอกก็พูดมาเถอะค่ะ”
“เมื่อกี้พี่ฝันถึงเหมยด้วยนะครับ”
“เหรอคะ?”
ฉันถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อกี้ตอนที่พี่อาร์ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ฉันฉันก็นึกว่าเขาจะพูดเรื่องจูบเมื่อกี้แต่ปรากฎว่าไม่ใช่
พี่อาร์เขยิบเข้ามานั่งใกล้ฉันมากกว่าเดิมก่อนจะพูดความฝันของเขาให้ฉันฟังด้วยว่าเขาฝันถึงฉันว่าอะไร
“พี่ฝันว่าเหมยกับพี่จูบกัน”
ทันทีที่พี่อาร์พูดความฝันของเขาให้ฉันฟังฉันก็สะดุ้งตกใจ เพราะมันไม่ใช่ความฝันแต่มันคือความจริงที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อกี้นี้ด้วย
แต่ฉันก็ต้องพยายามทำตัวเหมือนไม่ได้คิดอะไร ก็ไม่รู้ว่าพี่อาร์จะสังเกตเห็นอาการที่แปลกไปของฉันเมื่อกี้หรือเปล่า
“โคตรอยากให้เป็นจริงเลยครับ”
“มันก็เป็นแค่ความฝัน”
“แต่พี่อยากให้มันเป็นความจริง เพราะพี่อยากจูบน้องเหมยอ่ะครับ”
“ไม่ต้องเอาหน้าเข้ามาใกล้ขนาดนี้ก็ได้ค่ะ”
พี่อาร์ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ฉันมากจนลมหายใจของเขาปะทะเข้าที่ปลายจมูกฉัน ฉันก็เลยลุกหนีไปยืนที่อื่นแทน
แต่พี่อาร์ก็มองฉันไม่ละสายตาไปไหนทำให้ฉันต้องเมินหน้าไปทางอื่นไม่กล้าหันไปมองเขา
บอกเลยนะว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกี้มันทำให้ฉันทำตัวไม่ถูกเวลาที่ต้องมองหน้าเขา
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่รู้เรื่องอะไรเลยก็ตาม เพราะนั่นมันคือจูบแรกของฉันเลยนะ ไม่สิ จะเรียกว่าจูบก็คงไม่ใช่เพราะมันก็แค่ปากโดนกันเท่านั้นเอง
“เหมยอยากกลับแล้วค่ะ”
“ไม่อยู่ค้างกับพี่สักคืนเหรอ สัญญาไม่ทำอะไรแค่นอนเฉยๆ”
“ไม่ค่ะเหมยอยากกลับ ถ้าพี่อาร์ไม่ไปส่งเหมยงั้นเหมยกลับเองก็ได้ค่ะ”
“โอเคครับ เดี๋ยวพี่ไปส่ง”
พี่อาร์เดินไปหยิบกุญแจรถก่อนจะเดินเข้ามาโอบไหล่ฉันเอาไว้แต่ฉันก็ถอยห่างทันทีไม่อยากเข้าใกล้เขา
พี่อาร์ไม่ได้สงสัยอะไรเพราะปกติแล้วฉันก็ไม่อยากเข้าใกล้เขาอยู่แล้วเขาก็เลยผายมือให้ฉันเดินออกจากห้องไปก่อน
พอเราเดินออกมาจากลิฟต์พี่มิหวาก็เดินเข้ามาหาเราสองคนทันที และฉันก็ได้ยินเสียงถอนหายใจของคนที่ยืนอยู่ข้างๆ ด้วย
พี่มิหวามองหน้าฉันสลับกับมองหน้าพี่อาร์ก่อนจะหันมาจ้องฉันแทนด้วยแววตาที่ดุมาก ฉันเองก็ไม่รู้ว่าทำไมเธอจะต้องทำหน้าแบบนี้ใส่ฉันด้วย
ฉันไม่เคยมีเรื่องอะไรกับเธอเลยนะและเราก็ไม่เคยพูดคุยกันมาก่อนด้วย เพราะงั้นอย่ามามองฉันด้วยสายตาแบบนี้มันเหมือนสายตาหาเรื่อง
และถ้าคิดว่าฉันกลัวแล้วล่ะก็คิดผิดแล้วล่ะ เพราะฉันมันคนไม่ยอมคนอยู่แล้ว รู้ไว้ด้วยว่าสมัยมัธยมน่ะฉันมีฉายาว่าอีเหมยขาลุยนะเว้ย แต่ที่ฉันเงียบแบบนี้เพราะเห็นว่าเธอเป็นรุ่นพี่หรอกนะ
“มาปรึกษากันถึงที่ห้องเลยเหรออาร์?”
หลังจากที่จ้องหน้าฉันอยู่นานเธอก็หันไปถามพี่อาร์ที่ยืนอยู่ข้างๆ ฉัน ฉันเองก็พอจะรู้อยู่หรอกว่าพี่อาร์ไม่ชอบให้ใครมายุ่งกับห้องของเขาหรือเข้ามายุ่งกับการใช้ชีวิตของเขา
คนที่จะทำแบบนี้ได้จะต้องเป็นคนที่เขาเต็มใจให้เข้ามาเองหรือไม่ก็จะต้องเป็นคนที่สนิทกันมากๆ เท่านั้น
พี่มิหวาก็เลยถามแบบนี้เพราะเธอเองก็คงจะรู้นิสัยของพี่อาร์ดีเหมือนกันว่าเขาไม่ชอบให้ใครมาถามเรื่องส่วนตัวหรือเข้ามาวุ่นวายกับการใช้ชีวิตประจำวันเขา
ที่ฉันรู้เพราะฉันสนิทกับเขาไงเขาก็เลยเล่าให้ฉันฟังเกี่ยวกับเขาตั้งเยอะเลย แต่ฉันก็ไม่ได้ถามเขานะเขาเล่าให้ฟังเอง
“พอดีเราลืมของไว้ก็เลยแวะมาเอา กำลังจะไปส่งน้องแล้วล่ะ”
พี่อาร์คว้ามือฉันเพื่อที่จะพาเดินออกไปแต่ก็ถูกพี่มิหวาขวางทางเอาไว้ก่อน พี่อาร์ก็เลยหยุดเดินแต่ก็ไม่ได้ปล่อยมือจากฉันแถมเขายังกุมมือฉันเอาไว้แน่นอีกด้วย
ฉันเองก็อยากจะดึงมือตัวเองออกนะแต่ก็ไม่กล้าไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน พี่อาร์เองก็ดูแปลกๆ เวลาที่พี่มิหวามาหาดูเขาจะรำคาญหรือไม่ก็ไม่อยากคุยด้วยไรงี้
ทั้งที่เมื่อก่อนเขาไม่เคยทำตัวแบบนี้มาก่อนเลยไม่ว่าจะกับใครก็ตาม เขาจะยืนคุยด้วยจนกว่าอีกคนจะกลับ
แต่นี่เขากลับจะเดินหนีอย่างเดียวเลยเหมือนตอนบ่ายที่เขาปิดประตูใส่หน้าพี่มิหวาไง
“งั้นเราขอติดรถไปด้วยได้มั้ย เมื่อกี้เรานั่งแท็กซี่มา”
พี่อาร์หันมามองหน้าฉัน ฉันเองก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรหรอกนะเพราะมันไม่ใช่รถของฉันและเราก็ไม่ได้เป็นอะไรกันด้วย
ไม่ต้องหันมาถามความคิดเห็นจากฉันก็ได้ พี่อาร์ทำหน้าเหมือนลำบากใจแต่ก็พยักหน้ายอมที่จะไปส่งเธอ
พอมาถึงรถพี่อาร์กำลังจะเปิดประตูรถให้ฉันนั่งหน้าแต่พี่มิหวาก็เดินเข้ามาแทรกก่อนเลยทำให้เธอได้นั่งหน้ากับพี่อาร์
ฉันก็เลยเดินมานั่งด้านหลังแทน ฉันจะนั่งตรงไหนก็ได้ฉันไม่ได้ซีเรียสอยู่แล้วขอแค่ฉันได้กลับห้องเร็วๆ ก็พอเพราะตอนนี้ฉันอยากพักผ่อนแล้วอ่ะ
“เหมยหิวข้าวหรือเปล่า?”
พี่อาร์มองฉันผ่านทางกระจกมองหลังแล้วถามขึ้น ที่จริงก็หิวอยู่หรอกเพราะฉันยังไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่บ่าย
แต่พอมีพี่มิหวามาด้วยและดูท่าว่าเธอเองจะไม่ค่อยชอบฉันที่ฉันไปไหนมาไหนกับพี่อาร์บ่อยๆ
ฉันเองก็ไม่อยากมีเรื่องก็เลยบอกว่าตัวเองไม่หิวแล้วให้เขาไปส่งฉันที่หอ ฉันถึงจะออกไปหาอะไรกินเองน่าจะดีกว่า
“ไม่หิวค่ะ”
“จะแวะซืิ้ออะไรก่อนมั้ย เดี๋ยวพี่พาแวะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ เหมยไม่หิว”
“งั้นเดี๋ยวเราไปส่งมิหวาก่อนแล้วกัน”
“อ้าว ทำไมไม่ไปส่งน้องก่อนล่ะ?”
พี่มิหวาเริ่มโวยวายเหมือนไม่พอใจที่พี่อาร์จะไปส่งเธอก่อนแล้วส่งฉันทีหลัง พี่อาร์เองก็มองฉันอยู่ตลอดเวลาแต่ฉันก็เลือกที่จะไม่มองเขาและหันไปมองทางข้างนอกหน้าต่างแทนแล้วปล่อยให้พวกเขาคุณกันเอง
“หอมิหวาอยู่ใกล้กว่าเหมยไงเราก็จะเลยส่งมิหวาก่อน”
พอพี่อาร์พูดแบบนั้นพี่มิหวาก็เงียบเพราะเธอเองก็หาข้ออ้างไม่ได้ที่จะให้พี่อาร์ไปส่งเธอทีหลัง
พอมาถึงหอพี่มิหวาเธอก็เหมือนจะไม่อยากลงทำให้พี่อาร์ถึงกลับต้องขอร้องให้เธอลงเธอถึงจะยอม
และตอนนี้ก็เหลือแค่ฉันกับพี่อาร์เท่านั้น พี่อาร์หันหน้ามามองฉันก่อนจะเรียกให้ฉันไปนั่งหน้ากับเขา
“มานั่งนี่พี่ไม่มีเพื่อนคุยด้วย”
“ทำไมไม่ไปส่งเหมยก่อนล่ะคะพี่อาร์จะได้มีเพื่อนคุยตลอดทาง”
เมื่อกี้พี่มิหวาก็บอกอยู่ว่าอยากนั่งเป็นเพื่อนพี่อาร์แต่เขาก็ไม่อยากให้เธอนั่งไปด้วยแล้วทีนี้อยากได้เพื่อนนั่งคุย
ฉันก็เลยพูดแขวะไปและมันก็ทำให้คนตรงหน้าหุบยิ้มทันที อย่างที่บอกว่าพี่อาร์มักจะชอบยิ้มอยู่ตลอดเวลา เขาจะไม่ยิ้มก็ต่อเมื่อเขาอารมณ์ไม่ดีหรือไม่พอใจอะไรบางอย่าง
“อย่ามาประชด!!!”