“นวลรักแม่กับพ่อมากนะคะ”
วันนามองใบหน้านวลของบุตรสาวคนเล็กน้ำตาซึม หล่อนยกมือขึ้นลูบศีรษะทุยสวยของลูกสาวด้วยความเอ็นดู “แม่ก็รักนวลมากจ้ะ”
นวลลออนิสัยแตกต่างจากทิพย์เกสรมากนัก ลูกสาวคนเล็กของหล่อนเป็นเด็กที่มองโลกในแง่บวกเสมอ และยินดีที่จะเสียสละความสุขของตัวเองเพื่อคนในครอบครัวเสมอ เป็นคนที่อ่อนแอภายนอก แต่ภายในเข้มแข็งไม่น้อย ตรงกันข้ามกับทิพย์เกสร ลูกสาวคนโต ที่นิสัยเจ้ายศเจ้าอย่าง มีความมุ่งมั่นแน่วแน่ ตัดสินใจอะไรแล้วจะต้องทำให้ถึงที่สุด และยึดตัวเองเป็นจุดศูนย์กลางของโลก ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองได้ในสิ่งที่ต้องการ
“แม่พูดแบบนี้ นวลก็น้ำตาแตกน่ะสิจ๊ะ ไม่เอาแล้ว นวลไปอาบน้ำดีกว่า”
นวลลออยกมือขึ้นป้ายน้ำตา ก่อนจะลุกขึ้นยืน และระบายยิ้มกว้างให้มารดา
“เดี๋ยวนวลรีบมานะจ๊ะแม่”
วันนาพยักหน้ารับน้อยๆ มองร่างอรชรของนวลลออที่เดินออกไปจากห้องรับแขกด้วยสายตาห่วงใย
“ติดแม่แบบนี้ เมื่อไหร่จะมีแฟนสักทีล่ะนวลเอ๊ย”
คนเป็นแม่ส่ายหน้าน้อยๆ อมยิ้ม และกำลังเลื่อนสายตาจับจ้องไปที่จอโทรทัศน์อีกครั้ง แต่เสียงแหลมแสบแก้วหูของทิพย์เกสรก็ดังขึ้นเสียก่อน จนต้องยกมือขึ้นปิดหู
“พูดเบาๆ ก็ได้นี่แม่ทิพย์ เสียงดังโวยวายลั่นเชียว”
ทิพย์เกสรที่ภายนอกสวยหวานราวกับนางฟ้า แต่นิสัยแท้จริงแล้วแสนเอาแต่ใจและขี้อิจฉา กระแทกตัวลงนั่งข้างๆ มารดา ก่อนจะพูดขึ้นเสียงขุ่นคลั่ก
“แล้วนังนวลลูกรักของแม่ไปไหนเสียแล้วล่ะคะ”
“เรียกน้องให้มันดีๆ หน่อยสิ แม่เคยสอนให้พูดจาแบบนี้ที่ไหนกัน นี่ถ้าแฟนคลับของแม่ทิพย์มาได้ยินจะทำยังไง”
ทิพย์เกสรเบ้หน้ายิ้มเยาะ
“คนโง่ๆ แบบพวกมันไม่มีทางตามทิพย์ทันหรอกค่ะ ว่าแต่นังนวลมันไปไหนล่ะแม่ หรือว่ายังไม่กลับมา”
วันนาถอนหายใจแผ่วเบาอย่างอ่อนอกอ่อนใจ ทิพย์เกสรใจร้อนแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก คงเป็นเพราะสามีของหล่อนตามใจมาตลอดนั่นแหละ
“น้องกลับมาแล้ว ตอนนี้อาบน้ำอยู่”
ทิพย์เกสรได้ยินคำแม่ก็ผุดลุกขึ้น
“แล้วนั่นแม่ทิพย์จะไปไหนเสียล่ะ”
“ทิพย์จะขึ้นไปหานังนวลน่ะสิคะ”
“รออีกประเดี๋ยวก็ได้มั้ง น้องอาบน้ำไม่นานหรอก”
“ทิพย์ไม่รอหรอกค่ะ ทิพย์จะต้องขึ้นไปด่ามันให้ยับ รอนานกว่านี้ทิพย์ต้องอกแตกตายแน่ๆ”
วันนาส่ายหน้าน้อยๆ รู้สึกไม่สบายใจเลย
“น้องทำอะไรให้ไม่ถูกใจอีกล่ะ ถึงต้องไปด่าน้องน่ะ แม่ว่าทิพย์ใจเย็นๆ และตั้งสติก่อนดีกว่าไหม”
ทิพย์เกสรหันมาจ้องหน้ามารดาเขม็ง “แม่ก็เข้าข้างนังนวลมันตั้งแต่มันเกิดจนถึงตอนนี้นี่แหละ ทิพย์ทำอะไรก็ผิดไปหมด ทิพย์จะฟ้องพ่อว่าแม่ลำเอียง”
“ทิพย์...แม่รักลูกเท่ากันเสมอ แต่แม่ก็ต้องพูดในสิ่งที่มันถูกต้อง”
“ก็สิ่งที่ทิพย์ต้องการไงคะ คือสิ่งที่ถูกต้อง”
ทิพย์เกสรเสียงฉอดๆ ไม่ไว้หน้ามารดาสักนิดเดียว
“ใครหน้าไหนก็อย่ามาขัดใจทิพย์เด็ดขาด”
“แม่ทิพย์”
“ทิพย์ไม่ฟังแม่แล้วล่ะค่ะ ทิพย์จะไปจัดการนังนวลเดี๋ยวนี้แหละ”
แล้วทิพย์เกสรในชุดแฟชั่นทันสมัยก็ก้าวยาวๆ ออกไปจากห้องรับแขก วันนารีบลุกขึ้นเดินตามไปเพราะเป็นห่วงลูกสาวคนเล็ก
เสียงประตูถูกเขย่าแรงๆ พร้อมกับเสียงเรียกจิกหัวดังสนั่นขึ้น และนั่นก็ทำให้นวลลออที่กำลังนั่งแปรงผมอยู่หน้ากระจกโต๊ะเครื่องแป้งต้องเอี้ยวตัวไปมอง
“มีอะไรคะพี่ทิพย์”
“เปิดประตูให้ฉันเดี๋ยวนี้”
นวลลออถอนหายใจเบาๆ ลางสังหรณ์ร้องเตือนว่าน่าจะเกิดเรื่องขึ้นในไม่ช้านี้
หญิงสาวลุกขึ้นจากเก้าอี้ตัวกลม เดินตรงไปปลดล็อกประตูห้อง และเปิดมันออก พี่สาวของหล่อนยืนหน้าตาบิดเบี้ยวด้วยโทสะอยู่ตรงหน้าห้อง
“พี่ทิพย์มีอะไรกับนวลเหรอคะ”
“มีสิ...นี่แน่ะ”
ใบหน้าของนวลลออถูกฝ่ามือของทิพย์เกสรฟาดเข้าใส่เต็มแรงจนสะบัด
“พี่ทิพย์ตบนวลทำไมคะ”
นวลลออน้ำตาซึม ยังไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆ พี่สาวถึงได้มาทำร้ายร่างกายของตัวเอง หล่อนยกมือขึ้นลูบแก้มข้างที่ถูกตบเอาไว้ด้วยความเจ็บระบม
“นวลทำอะไรผิดเหรอคะ”
“ทิพย์...ทำน้องทำไม” วันนาที่เดินตามมารีบเข้ามาประคองร่างของนวลลออเอาไว้ มองอย่างสงสาร ก่อนจะตวัดตามองลูกสาวคนโตอย่างไม่พอใจ
“แม่เคยสั่งสอนให้ทำร้ายกันแบบนี้หรือไง”
“ก็นังนวลมันบังอาจสวมชุดเจ้าสาวของทิพย์นี่คะ”
นวลลออหน้าตาซีดเผือด รู้ทันทีเลยว่าโดมินิกคงเล่าเรื่องทุกอย่างให้คนรักฟัง หล่อนเจ็บหัวใจเหลือเกิน “ก็ทางร้านเขาแค่อยากให้ดูว่าที่แก้ไขสมบูรณ์หรือเปล่าก็เท่านั้นเองนะพี่ทิพย์”
“แกอย่ามาแก้ตัว ฉันรู้ว่าคนอย่างแกขอเขาใส่เอง แกคงต้องการจะยั่วคุณมิกใช่ไหม นังน้องสารเลว!”
คนถูกกล่าวหาส่ายหน้าดิก น้ำตาไหลอาบแก้ม “นวลไม่เคยคิดแบบนั้นนะคะพี่ทิพย์ นวล...ไม่บังอาจ...”
“อย่ามาตอแหล ฉันเห็นสายตาของแกยามที่มองคนรักของฉัน แกจ้องจะงาบเขาตลอดเวลา” ทิพย์เกสรตวาดลั่น ก่อนจะหัวเราะเยาะออกมา “แต่โชคร้ายหน่อยนะที่คุณมิกไม่เคยมองผู้หญิงไร้ราคาแบบแกเลยแม้แต่หางตา”
นวลลออซ่อนความชอกช้ำเอาไว้ในอก หล่อนเม้มปากเป็นเส้นตรง มองพี่สาวด้วยความรักและหวังดีจากใจแท้จริง “พี่ทิพย์จะเชื่อหรือไม่ก็ตาม แต่นวลไม่เคยคิดจะหักหลัง หรือแย่งอะไรของพี่ทิพย์มาเป็นของตัวเองเลย”