ตอนที่ 4
“แม่ครับ...ผม...” ภูวเดชเริ่มลังเลเมื่อมารดายกเอางานมาอ้าง
“ไม่ต้องมาผมอะไรทั้งนั้น รีบกลับรีสอร์ตเดี๋ยวนี้!” คุณหญิงกัญญาสั่งเสียงเฉียบแล้วตัดสายทิ้งทันที
“คุณแม่ครับ คุณแม่” ภูวเดชเรียกมารดาทันทีเช่นกัน พลางยกมือเสยผมที่ยุ่งเหยิงลวกๆ
“ทำไงดีวะ” เสียงทุ้มบ่นอย่างกลัดกลุ้ม
“คุณภูมิขา เอมี่รอนานแล้วนะคะ” เอมี่อ้อนเสียงหวาน พาร่างน่าหลงใหลเข้ามายืนซ้อนหลังร่างสูงใหญ่พลางไล้ปลายนิ้วหยอกเย้าความแข็งแกร่ง
“ที่รัก อย่าทำแบบนี้เลย ผมมีธุระจริงๆ เอาไว้วันหลังผมจะมาชดเชยให้นะครับ” เขาบอกเสียงพร่าเมื่อมือเรียวสวยแสนซุกซนไม่ยอมหยุดนิ่งเสียที
“แต่ว่าตอนนี้เอมี่ต้องการคุณนะคะคุณภูมิขา” หญิงสาวออดอ้อน
“ผมรู้ครับที่รัก ผมก็ต้องการคุณเหมือนกันแต่ผมต้องไป ผมรีบจริงๆ ครับ” ภูวเดชบอกเสียงสั่นกระเส่า มือใหญ่กำแน่นอย่างอดกลั้นอยู่ข้างลำตัว ใบหน้าหล่อเหลาเหยเกราวกับเจ็บปวดนักหนา
“ก็ได้ค่ะ แต่ขอเอมี่ตอบแทนความน่ารักของคุณก่อนนะคะ” เพียงแค่พูดจบ เรียวปากสวยก็จัดการตามที่บอกทันที ทำเอาร่างสูงใหญ่ยืนเกร็งจนระเบิดเสียงครางอย่างสุดกลั้นเมื่อมองเห็นทางสวรรค์อยู่เบื้องหน้า ทว่าเรียวปากสวยกลับผละออกอย่างแกล้งๆ เขา พร้อมด้วยเสียงหัวเราะร่วนอย่างชอบใจของแม่เสือจอมยั่ว
“โอ้ว เอมี่ คุณนี่...อืม...”
“ไปเถอะค่ะคุณภูมิขา รีบไม่ใช่เหรอคะ” เอมี่บอกเสียงหวานพร้อมทั้งส่งสายตาหวานหยดเป็นการส่งท้าย เมื่อถูกทิ้งกลางคันทำเอาภูวเดชมองอย่างคาดโทษแม่เสือสาวทันที แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เมื่อคำสั่งของมารดายังก้องวนอยู่ในหัว ก่อนที่เขาจะจัดการสวมเสื้อผ้าอย่างเร่งรีบ เพราะถ้าขืนช้ากว่านี้มีหวังเขาไม่ได้กลับรีสอร์ตเป็นแน่
ทางด้านวรินญา ซึ่งนั่งรอจนความง่วงคืบคลานเข้าใส่ก่อนพาตัวเองล้มลงบนโซฟารับแขกสุดหรูภายในห้อง และค่อยๆ ปิดเปลือกตาลงช้าๆ ความเหนื่อยล้าจากการทำงานบวกกับความง่วง ทำให้หญิงสาวร่างเล็กไม่ได้ยินเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ส่วนตัว แม้แต่เสียงโทรข้าวของโทรศัพท์บนโต๊ะทำงานของภูวเดชก็ไม่ได้ทำให้หญิงสาวตื่นจากการหลับใหลได้เลย
ส่วนคุณหญิงกัญญาที่ตอนนี้เริ่มกังวลและเป็นห่วงความปลอดภัยของหญิงสาวก็เดินพล่านอย่างคนร้อนใจ ซึ่งไม่ต่างจากป้านวลเช่นกัน
“หนูวริน เป็นอะไรไปหรือเปล่าก็ไม่รู้ ไม่ยอมรับโทรศัพท์เสียที ป้านวล ฉันจะทำยังไงดี” เสียงคุณหญิงกัญญาบ่นระคนเป็นทุกข์ ทุกข์เพราะนึกห่วงหญิงสาวมากมายเหลือเกิน
“ป้าว่าหนูวรินอาจจะกำลังกลับห้องพักก็ได้ค่ะ เลยไม่ได้ยิน” ป้านวลบอก แม้ใจจะนึกหวั่นอยู่ไม่น้อยเพราะรู้ดีว่าหญิงสาวที่ตนนึกห่วงนั้นไม่มีทางกลับบ้านในตอนนี้เป็นแน่ เพราะงานที่คุณหญิงกัญญาสั่งเอาไว้ยังไม่เรียบร้อย
“ฉันว่าหนูวรินยังไม่กลับหรอกป้านวล หนูวรินนะหนูวริน น่าจะโทรมาบอกกันบ้าง โธ่! แม่คุณ ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้” คุณหญิงกัญญาบ่นพึมพำอีกครั้ง ก่อนพาตัวเองนั่งลงบนโซฟาภายในห้องรับแขกเมื่อรู้สึกเวียนศีรษะขึ้นมา เรียกหายาดมจากป้านวลโดยด่วน
“คุณหญิงขึ้นไปพักผ่อนเถอะค่ะ เดี๋ยวป้าจะรอคุณภูมิให้เองนะคะ แล้วก็จะถามเรื่องหนูวรินด้วยว่าได้เจอกันหรือเปล่า” ป้านวลบอกเมื่อได้เห็นว่าสีหน้าของคุณหญิงไม่สู้ดีนัก คุณหญิงกัญญาก็ยอมทำตามแต่โดยดีเมื่อรู้ตัวดีว่าฝืนต่อไปไม่ได้อีกแล้ว
และเมื่อส่งคุณหญิงเข้านอนแล้ว ป้านวลก็ลงมานั่งรอเจ้านายหนุ่มอย่างกระวนกระวายทันที ก่อนเผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัว
ภายในห้องทำงานสุดหรูชั้นบนสุดของตึกซึ่งแบ่งเป็นห้องทำงานขนาดใหญ่ ภูวเดชเดินโซเซเล็กน้อยเนื่องจากก่อนกลับมาที่รีสอร์ตเขาเผลอยกน้ำสีอำพันกระดกเข้าปากเพื่อดับความร้อนรุ่มในร่างกายแทบหมดขวด แต่ก็ยังดีที่เขายังพอประคองสติตัวเองและขับรถกลับมายังรีสอร์ตได้โดยปลอดภัย
สายตาคมพร่ามัวเพ่งมองร่างเล็กที่นอนนิ่งอยู่บนโซฟาด้วยความสงสัย กระโปรงตัวสวยสั้นแค่เข่าร่นขึ้นมาถึงขาอ่อนนวลเนียนล่อตาล่อใจเสือผู้หญิงอย่างภูวเดชยิ่งนัก จากที่ตั้งใจจะรีบกลับมาเอารายงาน ร่างสูงใหญ่ก็เริ่มหยุดนิ่งและหันไปจัดการล็อกประตูห้องให้เรียบร้อย
“มีเหยื่อมานอนรอถึงที่ ถ้าไม่เอาก็โง่เต็มทนแล้วไอ้ภูมิ” คนที่อารมณ์พิศวาสยังค้างคาเริ่มคิดเข้าข้างตัวเองอย่างน่าเกลียด เขาไล่สายตาคมมองตั้งแต่ปลายเท้าจนไปถึงใบหน้าเรียวสวยไร้ที่ติซึ่งถูกแต่งแต้มด้วยสีอ่อนๆ แม้จะเห็นเพียงเลือนรางแต่ก็ทำให้เขานึกสนใจหญิงสาวขึ้นมา
ริมฝีปากบางเผยอเล็กน้อยคงเป็นเพราะเจ้าตัวกำลังฝันหวานอยู่ ลมหายใจที่เข้าออกสม่ำเสมอทำให้ภูวเดชค่อยๆ ก้าวย่างเข้าไปใกล้ แล้วหยุดมองหญิงสาวเล็กน้อย ก่อนค่อยๆ ก้มตัวลงแล้วใช้ฝ่ามือร้อนๆ ลูบไล้เรียวขาแสนสวยด้วยความพิสมัย
เขาไม่รู้ว่าหญิงสาวคนนี้เป็นใครมาจากไหน แต่แค่เพียงได้เห็นว่าเธอนอนอยู่ที่นี่ ก็ทำเอาชายหนุ่มซึ่งมีอารมณ์ปรารถนาเต็มเปี่ยมบวกกับความมึนเมารวมผสม ทำให้เลือดในกายของชายหนุ่มแล่นพล่าน ถึงแม้หญิงสาวที่นอนนิ่งอยู่ตรงนี้จะไม่มีอะไรเทียบเท่ากับเอมี่คู่ขาของเขาได้เลย ทว่าเขากลับอยากครอบครองเรือนร่างนี้เหลือเกิน
เมื่อไม่ต้องคิดให้เสียเวลาอีกต่อไป ริมฝีปากอุ่นก็เริ่มจูบเม้มกลีบปากบางแผ่วเบา ระเรื่อยมาตามซอกคอระหง แล้วเขาก็พ่นลมหายใจออกมาอย่างสุดกลั้น เมื่อกลิ่นกายสาวตรงหน้าช่างเย้ายวนชวนให้ลุ่มหลงยิ่งกว่าหญิงใดที่เขาผ่านมา ซึ่งหญิงสาวเหล่านั้นล้วนแล้วแต่ต้องการรักสนุกและจ่ายเงินให้ก็จบกัน แต่สำหรับหญิงสาวคนนี้ซึ่งเขากำลังทำราวกับว่าจะขืนใจเธอยามหลับใหลก็มิปาน ซึ่งไม่ใช่นิสัยของเขาแต่อย่างใดที่จะใช้กำลังกับหญิงสาว แต่เมื่อกายสาวช่างน่าลิ้มลอง ทำให้ชายหนุ่มไม่สามารถหยุดความต้องการได้อีกต่อไป
จากที่จูบเม้มแผ่วๆ ก็เริ่มบดเบียดเคล้าคลึงอย่างเร่าร้อนและหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับร่างเล็กซึ่งเริ่มรู้สึกตัว ทว่าเธอยังไม่ยอมลืมตาขึ้นมอง ก่อนเริ่มดิ้นรนหาทางให้หลุดพ้นกับสิ่งรุกรานที่ไม่เคยพบเคยเจอมาก่อน
เมื่อหาทางดิ้นแล้วไม่หลุดพ้น วรินญาก็เริ่มส่งเสียงครางทักท้วง พร้อมกับสองมือน้อยพยายามผลักดันสิ่งนั้นออกห่าง ทว่าสิ่งนั้นกลับไม่ขยับเขยื้อนเลยแม้แต่น้อย หนำซ้ำยังรุกรานร่างกายของเธอ ทั้งมือทั้งปากพร้อมๆ กัน
เมื่อโดนรุกหนักขึ้น ดวงตาคู่สวยก็เปิดกว้างด้วยความตกใจเมื่อได้พบว่าตัวเองคล้ายกำลังจะถูกข่มขืน เรียวปากคู่สวยร้องลั่นทันที หยาดน้ำตาเริ่มรินไหลออกจากหางตาเมื่อถูกมือใหญ่กระชากชุดทำงานออกจากตัว แล้วเขาก็หันมาจัดการถลกกระโปรงตัวสวยของเธอ สายตาคมจับจ้องความงดงามของเนินดอกไม้ผ่านปราการตัวน้อยอย่างคนหื่นกระหาย
“ชะ...ช่วย...” เธอร้องออกมาได้แค่นั้น เมื่อเรียวปากสวยถูกเขาครอบครองอีกครั้ง เขาบดเบียดแทรกปลายลิ้นเข้าควานหาความหวาน และหยอกเย้ากับเรียวลิ้นเล็กของเธออย่างคนที่ช่ำชองกว่า และมันยังปิดกั้นคำร้องขอของเธอจนหมดสิ้น แต่เพียงไม่นานริมฝีปากหนาก็ผละออกเมื่อดูดดื่มจนพอใจ เขาลากไล้ปลายลิ้นอุ่นร้อนมาตามซอกคอระหง แต่แล้วก็ต้องหยุดชะงัก