แม่มดสาวเจ้าเสน่ห์ ตอนที่ 1
“ซินนี่ถึงเวลาแล้วที่เจ้าจะต้องเดินทางไปยังโลกมนุษย์” คำพูดของผู้เป็นยายทำให้ซินนี่งุนงง ท่านพูดเหมือนกับว่าเธอจะต้องเดินทางไปทำภารกิจอันใดที่สำคัญมาก ทั้งๆ ที่ปกติเธอก็แอบหนีเที่ยวไปยังโลกมนุษย์กับอาจารย์อูลก้าอยู่เสมอๆ
“ท่านยายหมายความว่าเช่นไร ข้าไม่เข้าใจ” ซินนี่มองผู้เป็นยายกับแม่ด้วยความสงสัย
“ซินนี่หลานรัก เจ้าเข้าสู่วัยแห่งการมีคู่แล้ว โลกเวทมนตร์ของเราถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่ง ที่จะสืบทอดเชื้อสายแม่มดของพวกเราต่อไป เจ้าต้องลงไปตามหาเนื้อคู่ของเจ้ายังโลกมนุษย์ เนื้อคู่ของเจ้าอยู่ที่นั่น เรื่องนี้ เจ้าคงรู้ดี” นาเนียร์ทอดตามองหลานสาวคนเดียวอย่างนึกชื่นชม ซินนี่ในวัยสาว สวยสดงดงามเกินแม่มดตนใด รวมถึงเป็นที่หมายปองของเหล่าบรรดาพ่อมดทั้งหลายในโลกเวทมนตร์ แต่ไม่ใช่เนื้อคู่จึงไม่สามารถฝืนครองคู่กันได้ ทำให้พ่อมดเหล่านั้นเพียงแค่แอบชื่นชม เพราะหากพ่อมดแม่มดตนใดฝืนกฎข้อนี้แล้ว ทั้งสองจะต้องถูกสาปไปชั่วชีวิต
“โลกมนุษย์เหรอเจ้าคะท่านยาย” ซินนี่ทวนคำของผู้เป็นยาย เธอแอบหนีไปยังโลกมนุษย์กับอาจารย์อูลก้าบ่อย หากครั้งนี้ต้องไปจริงๆ ก็ใจหายมิใช่น้อย เพราะไม่ใช่เป็นการหนีเที่ยวชวนตื่นเต้นเหมือนก่อน แต่เหมือนกับต้องไปทำภารกิจสำคัญ เช่นไรเสีย เธอก็ยังชอบการอยู่โลกเวทมนตร์มากกว่าอยู่ดี
ซินนี่คิดว่าตอนนี้ถึงวัยของการมีคู่แล้วจริงๆ เนื่องจากแม่มดวัยเดียวกันต่างมีคู่กันไปเกือบหมดแล้ว เธอมัวแต่เล่นซุกซนจึงไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อน สงสัยว่าคราวนี้จะจวนตัวเอามากๆ ยายกับแม่จึงได้เรียกมาคุย ซึ่งเป็นที่รู้กันในโลกเวทมนตร์ว่า หากพ่อมดแม่มดตนใดเข้าสู่วัยหนุ่มสาวก็ต้องออกตามหาเนื้อคู่ของตนกันทั้งนั้น
“ใช่ เจ้ามีเวลาสามเดือน ซินนี่หลานรักของยาย หากเจ้าไม่สามารถครองใจเนื้อคู่ของเจ้าได้ เจ้าจะถูกสาปเป็นแมวป่าตลอดชีวิต นี่คือกฎของโลกเวทมนตร์ที่เจ้าก็คงรู้ดี” คำพูดของผู้เป็นยายเหมือนจะย้ำเตือนให้เธอได้คิด เธอรู้ดี แต่ไม่คิดจะทำต่างหาก
ซินนี่ถอนใจเบาๆ เพียงแค่ได้ยินว่าจะต้องถูกสาปเป็นแมวป่าตลอดชีวิตก็รู้สึกสยองอยู่พอควร แต่แม่มดอย่างซินนี่ไม่เคยกลัวอะไรอยู่แล้ว ถ้าเธอได้เจอเขาจริง แค่ร่ายเวทมนตร์ใส่ เพียงเท่านี้ เขาก็หลงเสน่ห์เธอ ยอมสารภาพรักแต่โดยดีแล้ว
“ท่านยายล้อเล่นกับข้ารึ ทำไมเหลือเวลาแค่สามเดือนเอง” ซินนี่ถามย้ำ ไม่ค่อยมั่นใจว่าทำไมถึงเหลือเวลาน้อยเช่นนี้ แม้จะรู้ว่าผู้เป็นยายหาได้เคยล้อเล่น แต่กว่าเธอจะหาเขาเจอคงนานพอสมควร โลกมนุษย์กว้างใหญ่ไพศาล ที่สำคัญ เวทมนตร์ที่ไม่ได้เรื่องของเธอคงตามหาเขาได้ยากยิ่ง คิดแล้วต้องเจ็บใจที่ไม่ได้ตั้งใจฝึกวิชา ถ้าฝึกวิชาแก่กล้ากว่านี้คงส่องหาเขาเจอโดยง่าย
“ยายเคยล้อเล่นกับเจ้ารึซินนี่ ระยะเวลาทั้งหมดที่เจ้าต้องทำให้เขาสารภาพรักกับเจ้าคือเวลาสามเดือน” นาเนียร์ย้ำด้วยน้ำเสียงมั่นคง
“ท่านยาย โลกมนุษย์ออกกว้างใหญ่ไพศาล ข้าจะไปหาเขาเจอได้ยังไงเล่า แล้วถึงเจอก็จะรู้ได้เช่นไรเล่าว่าเขาเป็นเนื้อคู่ของข้า” ซินนี่ขมวดคิ้วยุ่งกับสิ่งที่ผู้เป็นยายบอก
“หากเจ้าเจอเขาจริงๆ เขาจะมีแสงสีเงินออกจากตัว ปรากฏให้เจ้าเห็น คนนั้นคือเนื้อคู่ของเจ้า”
“แสงสีเงินเหรอคะท่านยาย”
“ใช่ ซินนี่ลูกรัก มนุษย์ที่เป็นเนื้อคู่กับแม่มด พ่อมดจะมีแสงสีเงินปรากฏให้เห็น เพื่อบอกให้รู้ว่านั่นคือเนื้อคู่” เวเนียร์บอกลูกสาวเพื่อเป็นการสำทับ
“ท่านยายกับท่านแม่จะให้ข้าออกเดินทางวันไหนเหรอคะ” ซินนี่ถามไถ่ นึกถึงโลกมนุษย์ก็ตื่นเต้นอยู่ไม่น้อย
ปกติเธอมีอาจารย์สองคนคือ คูลโซ่กับอูลก้า อาจารย์คูลโซ่ค่อนข้างจะเถรตรง เคร่งขรึมมากทีเดียว เวลาเธอเรียนเวทมนตร์กับท่านต้องสงบเสงี่ยมมาก จนแทบกระดิกตัวไปไหนไม่ได้ หากเธอทำอะไรผิดแค่นิดเดียวจะถูกลงโทษเสมอๆ จนเธอไม่กล้าทำอันใดให้อาจารย์โกรธ ดังนั้น เธอจึงต้องเอาแบบท่านคือต้องหัดสุขุมวางตัวให้เหมาะสมเอาไว้
สำหรับอาจารย์อูลก้าซึ่งเป็นอาจารย์อีกท่าน เขาค่อนข้างตลก เป็นกันเองแล้ว แถมยังพาเธอแอบหนีไปเที่ยวยังโลกมนุษย์เป็นประจำ ถ้าท่านรู้ว่าเธอไปโลกมนุษย์ สงสัยคงจะชวนเธอไปเที่ยวจนหนำใจ ไม่ต้องแอบหนีเหมือนเช่นที่ผ่านมา
“อีกสามวันจะเป็นคืนพระจันทร์เต็มดวงพอดี เจ้าต้องออกเดินทาง แต่มีข้อแม้ว่า...” นาเนียร์เว้นวรรคเอาไว้เพื่อให้หลานสาวสนใจไถ่ถามมากกว่านี้ เพียงแค่นางเห็นแววตาก็รู้ว่าหลานสาวแสนซนกำลังคิดอะไรพิเรนทร์ตามเคย
“ข้อแม้อันใดเล่าท่านยาย” ซินนี่หลุดจากภวังค์ความคิดเรื่องเที่ยว รีบถามเอาใจผู้เป็นยายเมื่อเห็นท่านหน้างอ
“เจ้าต้องเจอเนื้อคู่ของเจ้าภายในหนึ่งเดือน ก่อนพระจันทร์จะเต็มดวงอีกครั้ง ไม่เช่นนั้นเจ้าจะถูกสาปเป็นแมวป่า แล้วถึงตอนนั้น ยายกับแม่หรือใครๆ คงช่วยเจ้าไม่ได้”
“ท่านยาย ทำไมเร็วแบบนั้น” ซินนี่อวดครวญ แค่สามเดือนว่าเร็วแล้วที่จะให้เขาบอกรัก เธอยังไม่รู้จะหาเขาเจอหรือเปล่า แต่นี่เดือนเดียว คิดแล้วกลุ้ม แต่ยังพอใจชื้นขึ้นมาบ้าง เมื่อคิดถึงอาจารย์อูลก้า ท่านเชี่ยวชาญ มีประสบการณ์เรื่องโลกมนุษย์มากทีเดียว คงพอช่วยเหลืออะไรเธอได้บ้างแหละ
ซินนี่ค้านในใจเรื่องเนื้อคู่ว่าไม่เห็นจำเป็นสักนิด ทำไมโลกเวทมนตร์ต้องมีกฎแปลกประหลาดแบบนี้ด้วยนะ จริงแล้วๆ เธอยังไม่รักใคร ไม่อยากมีคู่ด้วยซ้ำ แม้จะมีพ่อมดมาสร้างสัมพันธ์ด้วย เธอก็ไม่เคยสนใจจะสมัครรักใคร่กับผู้ใด ทั้งอาจเป็นเพราะไม่ใช่เนื้อคู่ และอาจไม่สนใจเรื่องความรักด้วยก็เป็นได้
“เป็นกฎที่เจ้าต้องดำรงเผ่าพันธุ์ของเราต่อไป” นาเนียร์ดักคออย่างรู้ทันความคิดหลานสาว ซินนี่เลือกที่จะนั่งไม่ปริปากเอ่ยอันใด “เจ้าไปเตรียมตัวเถอะซินนี่ เดี๋ยวท่านอาจารย์ทั้งสองจะมอบของวิเศษให้เจ้า เจ้ามัวแต่เที่ยวเล่น จอร์จฝึกวิชากับอาจารย์เดียวกับเจ้า เขากลับกำลังจะสำเร็จวิชาขั้นสูง ส่วนเจ้ายังไปไม่ถึงไหน”
นาเนียร์ตำหนิหลานสาวพร้อมส่ายหน้าไปมาก่อนโบกมือให้เธอไปได้ ซินนี่อยากถามผู้เป็นยายอีกหลายเรื่อง แต่เปลี่ยนใจที่เห็นผู้เป็นยายทำหน้าเคร่งเครียด
“ค่ะ ท่านยาย”
“เดี๋ยวก่อนซินนี่” เสียงของมารดาทำให้ซินนี่หันหลับมามองด้วยความสงสัย
“ท่านแม่มีอันใดบอกให้ข้ารับรู้อีกรึ”
“เจ้าต้องทำให้เนื้อคู่ของเจ้าบอกรักก่อนสามเดือนก็จริง แต่เจ้าห้ามเสพสมร่วมรักกับเขาก่อนเขาจะสารภาพรักกับเจ้า ที่สำคัญ ห้ามใช้เวทมนตร์บังคับให้เขาสารภาพรัก มิเช่นนั้นเจ้าจะกลายเป็นแมวป่าทันที แล้วจะไม่ได้กลับมาเกิดเป็นแม่มดอีก จะต้องใช้ชีวิตเป็นแมวตลอดไปชั่วกัปชั่วกัลป์”
เวเนียร์ได้สบตากับบุตรสาวจึงรีบสำทับด้วยความเป็นห่วง นางรู้นิสัยของซินนี่ดี
“ร้ายแรงขนาดนั้นเชียว” ซินนี่ทำสีหน้าสยอง การที่ผู้เป็นยายและผู้เป็นแม่บอกว่าต้องเป็นแมวป่าตลอดไป มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ สำหรับเธอจริงๆ แถมยังใช้เวทมนตร์ให้มนุษย์คนนั้นบอกรักไม่ได้อีก หากเขาไม่บอกรักเธอขึ้นมา เธอจะทำอย่างไรเล่า มิถูกสาปหรือไง
“ความจริง หากเจ้าสามารถพิชิตใจเขาได้ก็ไม่มีอะไรยาก ยายกับแม่เชื่อว่าเจ้าต้องทำได้” เป็นครั้งแรกที่ยายให้กำลังใจในตัวเธอ หญิงสาวยิ้มให้ยายกับแม่เพื่อให้คำมั่นสัญญาว่าเธอจะต้องทำให้จงได้
“ค่ะท่านยาย ท่านแม่ ข้าจะจำเอาไว้ งั้นข้าขอไปพบอาจารย์ทั้งสองก่อน”
“ไปเถอะซินนี่ ขอให้เจ้าตั้งใจฟังอาจารย์ของเจ้าให้ดี เพราะเจ้าต้องเรียนรู้อีกมาก”
ซินนี่ไปหาอาจารย์คูลโซ่ก่อนตามคำสั่งของยายและแม่ ระหว่างที่เดินทาง เธอได้ยินเสียงคุ้นหูเรียกเธอมาแต่ไกล
“ซินนี่ๆ” เสียงเรียกไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นใคร เธอจำได้ดีว่าเป็นเสียงของอูลก้า อาจารย์ที่ขี้โม้เป็นที่สุด