ณ มหาวิทยาลัย คณะมนุษยศาสตร์
"ระวังตัวนะดิน อย่าไปอยู่ใกล้พวกที่ดูท่าทางเกเรนะ" เจ๊ขอบฟ้าเขาก็ร่ำลาผมอยู่นาน อย่าใช้คำว่าร่ำลาดีกว่าโปรดใช้คำว่า สั่งกำชับผมอย่างหนักแน่นน่าจะเป็นรอบที่ล้านได้ล่ะ ตั้งแต่บ้านมาจนถึงมหาลัยนี้แหละ ผมก็ไม่รู้จะทำยังไงก็เลยนั่งมองหน้าเจ๊แกนิ่งๆ ไม่ใช่อะไรนะ อยากรู้ว่า เจ๊จะพูดจบเมื่อไรจะได้ลงสักที
"อย่ามาทำหน้ารำคาญฉันแบบนี้นะ แล้วเข้าใจที่ฉันบอกหรือป่าว"
"เข้าใจแล้ว"
"เลิกทำหน้าเบื่อหน่ายสักทีได้มั้ย"
"รู้แล้ว ผมลงได้ยัง" ผมพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยพร้อมกับหน้าที่เบื่อหน่าย ก็มันน่าเบื่อจริงๆอ่า
"เห้อออ ไปๆ แกนี่น่าเบื่อจริงๆ"
"เย้!! ผมไปแหละนะ เห้อออ สบายหูสักที" ผมทำท่าดีใจแล้วก็ต้องรีบเปิดประตูรถลเพราะว่า ไอ้ประโยคสุดท้ายมันกำลังจะทำให้ผมโดนตีหลัง ซึ่งผมยังไม่ยอมตกเป็นทาสของเจ๊แกหรอกครับ
"ไอ้ดิน แกว่าอะไรนะ"
"ป่าววววว แบร่!" ผมแลบลิ้นใส่เจ๊ขอบฟ้าก่อนที่เดินเข้าไปในตึกอย่างสบายใจ ถ้าไม่อยากโดนเทศน์อีกแปดชาติก็ต้องรีบตัดบทรีบเดินออกมา ผมเป็นผู้ชายเจ๊จะห่วงอะไรนักหนาก็ไม่รู้ แต่เจ๊เคยบอกว่า สังคมผู้ชายมันน่ากลัวกว่าผู้หญิงซะอีก เจ๊ก็เลยหวงผมนั้นแหละ บวกกับผมหน้าตาดีด้วยแหละ
"มึงมาช้าจังวะ ห๊ะ!" ไอ้ไทน์เอ่ยทักผมหลังจากที่มันมานั่งรอผมน่าจะเป็นชั่วโมงได้ล่ะ หน้าตาก็ดีขี้บ่นไปได้ผู้ชายอะไรกัน
"โถ่ววว กว่าเจ๊จะพูดจบก็ปาไปกี่นาทีล่ะ"
"พี่ขอบฟ้ามาส่งหรอ ไหนอ่ะๆๆๆ"
"เจ๊ไปแล้ว นี่! กูจะบอกอะไรให้นะ เจ๊ มี แฟน แล้ว โว้ยยยย"
"ชอบเฉยๆเองน่า ไม่ได้อยากได้สักหน่อย"
"เห้อออออ" จะบอกว่ายังไงไอ้ไทน์มันชอบเจ๊ขอบฟ้ามาก เหมือนเห็นไอดอลอะไรแบบนั้นอ่ะ ชอบไปได้ยังไงก็ไม่รู้ขี้บ่นจะตาย ผมก็เลยพยายามพูดเปาหูมันทุกวันว่า เจ๊มีแฟนแล้ว!!!! มันก็ทำหน้าตีมึนไปเรื่อยๆ บางทีผมก็เหนื่อยใจคนรอบข้างมีแต่คนไม่ปกติ แต่ก็ช่างเถอะความสุขของเพื่อนเราก็ไม่อยากขัดเท่าไร วันนี้เป็นวันรับน้องที่มหาลัย ผมสองคนเน้นว่า สองคน ผมไม่มีเพื่อนคนอื่นแล้วอ่ะนอกจากไอ้ไทน์ แต่เหมือนมันจะสนใจสาวๆที่เป็นรุ่นพี่มากกว่าผมที่ยืนอยู่ข้างมัน
"ชื่ออะไรคะ"
"หื้ม? อะไรหรอครับ"
"ชื่ออะไรเราหน่ะ" ผมโดนรั้งแขนไว้โดยพี่ผู้หญิงคนนึง ถามด้วยน้ำเสียงหวานพร้อมกับยืนยิ้มมุมปากอยู่ตรงหน้าผม
"เอ่อออ..."
"อ้อ มันชื่อไอ้แผ่นดินหน่ะครับ ส่วนมึงก็เป็นใบ้หรือไง"
"หึ แผ่นดินนะ แล้วน้องล่ะ"
"วาเลนไทน์ครับ" ผู้หญิงฉีกยิ้มกว้างให้พวกผมก่อนที่จะหันไปเขียนอะไรสักอย่าง ใช่ครับไอ้ไทน์ชื่อเต็มๆมันคือ วาเลนไทน์ แต่ชื่อมันยาวเลยตัดให้เหลือแค่ไทน์อย่างเดียว ส่วน วาเลนไทน์ เอาไว้หลอกสาวๆให้เขินเท่านั้นแหละครับ ที่ผมไม่ตอบพี่เขาเมื่อกี้...ไม่รู้สิผมไม่ค่อยกล้าคุยเท่าไร ก็เลยดูเป็นคนเงียบๆ ส่วนใหญ่ถ้ามีเหตุการณ์แบบนี้ไทน์มันจะตอบแทนผมทุกรอบเลย
"มึงไม่ตอบพี่เขาวะ พี่เขาไม่กัดมึงหรอก"
"กูไม่ชิน"
"นอกจากกูแล้วคนอื่นคงคิดว่ามึงเป็นใบ้" มันพูดอย่างติดตลกก่อนที่จะเดินนำผมไป ตอนนี้ทุกสายตาในห้องต่างหันมามองพวกผมสองคนเป็นสายตาเดียวกันราวกับว่ามีตัวประหลาดเข้ามาในห้อง ถึงจะไม่ค่อยชอบเท่าไรแต่ก็ช่างเถอะครับ
กิจกรรมรับน้องก็ผ่านไปได้ด้วยดีแหละนะแต่ว่า มันจำเป็นต้องเหนื่อยขนาดนี้เลยหรอ นึกว่าซ้อมเข้ากรมทหารและตอนนี้หน้าทุกคนดูไม่ได้สักคนแต่เหมือนผมกับไอ้ไทน์จะพิเศษกว่าคนอื่นหน่อย เดินผ่านสิบคนก็แปะหน้าพวกผมสิบคนเลย
"ไอ้เชี้ยโครตเปื้อนเลย...แต่หล่อเหมือนเดิม ไม่เป็นไร" ผมส่ายหน้าเบาๆกับความมั่นหน้ามั่นโหนกของมัน
.
.
"เห้ยยย!!! ทุกคน! เงียบ!" เสียงตะคอกของรุ่นพี่ผู้ชายคนนึง ตัวก็นิดเดียวแต่เสียงดังชะมัด บางทีก็สงสัยว่า เขากินน้ำเปล่าธรรมดาหรือกินน้ำมะนาวกันแน่ แต่ก็อย่างว่าแหละครับเสียงของพี่เขาก็ทำให้ทุกคนต้องหันไปมองอย่างปฏิเสธไม่ได้ แต่หลังจากเงียบไม่นานก็มีผู้หญิงคนนึงปรากฎขึ้นหลังพี่ว๊ากคนนั้น ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เธอดูมีออร่ามากกว่าคนอื่นที่เดินมาพร้อมกับเธอ แต่มองไปมา ทำไมมันหน้าตาคุ้นๆวะ แต่ทันทีที่เธอตวาดเย็นชาคู่นั้นมาหาผม ผมก็จำสายตานั้นได้ทันที...ผู้หญิงที่มีเรื่องกับเจ๊นี่หว่า! อย่าบอกนะบอกว่า เธอเรียนคณะนี่...บ้าจริง
"นี่คือดาวคณะของเรานะครับ พี่เอวา"
"บ้าชิบหายเลย" ผมพึมพำออกมาอย่างหงุดหงิดใจเมื่อได้ยินชัดเจนเลยว่า เธอคือ เอวาที่ทะเลาะกับเจ๊จริงๆด้วย เสียงฮือฮาดังขึ้น แต่เธอก็ยังไม่ละสายตาไปจากผมเลย ไม่ใช่สายตาที่คลั่งรักหรือพิศสวาทอะไรหรอก เหมือนเธอกำลังคิดว่าจะแกล้งผมยังไงมากกว่า รอยยิ้มมุมปากของเธอ ถ้าเป็นคนอื่นเห็นมองบอกว่า สวยมากแต่ในสายตามันดูน่าขนลุกแปลกๆ
"เอาล่ะ ต่อไปนะครับเดี๋ยวพี่จะให้น้องๆมารับซองนี้กันคนละใบนะ เพื่อหาพี่รหัสนะครับ มาๆครับ" ทันทีที่สิ้นเสียงของพี่เขาก็เหมือนทุกคนจะวิ่งกรูกันเข้าไปแย่งซองไร้สาระนั้น ผมก็เลยกะจะให้คนน้อยๆก่อนแล้วค่อยเดินไป แต่ในขณะที่ผมนั่งรออยู่ก็เหมือนมีสายตาคู่นึงจ้องมองผมอยู่จากส่วนใดส่วนนึงของห้องนี้แหละ จะใครอีกล่ะนอกจากพี่เอวาที่นั่งไขว่ห้างมองผมอยู่จากด้านหน้าจนผมทนไม่ไหวต้องลุกไปหยิบไอ้ซองนั้น
"ขึ้นต้นด้วยสระเอ ต่อด้วยอ.อ่างหลังจากนั้นใส่ว.แหวน ลงท้ายด้วยสระอา" หื้ม? เล่นบอกชื่อกันแบบนี้ก็หาง่ายสิวะ ก็เอวาไง โถ่วว...ห๊ะ! เอวา เชี้ยล่ะไง พระเจ้ายังเห็นผมเป็นลูกอยู่หรือป่าวเนี้ย ทำเหมือนไม่รักกันแล้วเลยนะ!
"กิจกรรมนี้ไม่ยื้อยืดกันไปนานนะครับ เอาให้จบภายในเวลากิจกรรมเลย ซึ่งมันก็เหลือเวลาอีกแค่ 20 นาที สู้ๆครับ" ไอ้บ้าเอ้ยย ทำไมไม่บอกวะว่า จับเวลาด้วย จิ๊! เธอคงไม่ได้สนใจเราหรอกมั้ง บางทีเธออาจจะไม่ได้เป็นเจ้าคิดเจ้าแค้นขนาดนั้นก็ได้
"พะ..พี่ใช่พี่รหัสผมหรือป่าวครับ" แววตาและท่าทางที่ดูเย็นชาของเธอนั้น มันทำให้ใจผมกระตุกวูบไปอยู่ตาตุ่มเลย บางทีผมก็กลัวอะไรเกินเหตุนะ เธออาจจะไม่ได้สนใจผมด้วยซ้ำไป
"..."
"คือผมอ่านคำใบ้แล้ว..."
"แผ่นดิน..." เธออ่านชื่อผมขึ้นแล้วก็พยักหน้าเบาๆ ไอ้รอยยิ้มนั้นเมื่อไรเธอจะเลิกยิ้มสักทีมันดูน่าขนลุกชะมัด ดูเหมือนจะผิดคาดแฮะ..เหมือนเธอจะจำผมได้และเหมือนจะสนใจผมกว่าเดิมอีก บ้าจริงไอ้ดิน!
"รบกวนเซ็นให้หน่อยได้มั้ยครับ"
"เราเคยเจอกันด้วยนิ...ใช่มั้ย"
"ไม่หรอกครับ พี่อาจจะจำผิดก็ได้ครับ"
"แน่ใจหรอ..นายเป็นน้องชายขอบฟ้าไม่ใช่หรอ"
"ช่วยเซ็นทีครับ"
"ไม่เอาหรอก คนอื่นเขาจะได้ลายเซ็นเขาก็ต้องทำนั้นนี้ นายจะมาได้ง่ายๆได้ยังไงกัน" เธอพูดด้วยท่าทีสบายๆ ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดสักหน่อย ผมคิดไว้อยู่แล้วว่าเธอต้องเป็นคนแบ่งแยกได้ว่า อันไหนเป็นอันไหน ไม่ใช่พาลมั่วไปหมด พอพี่เขาเป็นแบบนี้สบายใจจริงๆเลย
"ได้สิครับ ทำอะไรหรอครับ"
"ไปตายอ่ะ ทำให้หน่อยสิ" พี่เอวาดันลิ้นที่ข้างกระพุงแก้มอย่างไม่สนใจว่า ตัวเองพูดอะไรออกมา ผมถึงกับขมวดคิ้วเข้าหากัน โทษทีนะอะไรที่อวยไปเมื่อกี้ถอนให้หมดเลยนะครับ ไม่เอาล่ะฮะไม่ใช่แหละ!